ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 36 พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 38 ฆ่าไม่เลี้ยง

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 37 บุรุษที่รักษาคำพูด


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 37 บุรุษที่รักษาคำพูด

แปลโดย iPAT  

เสียงหัวเราะระเบิดขึ้นในกลุ่มโจรราวกับพวกเขาพึ่งได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามนายน้อยสามสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่ากลัวจากหลี่ฉิงซานและไม่สามารถหัวเราะ

สายธนูถูกดึงออกจนสุด

“ตาย!” หลี่ฉิงซานโจมตีทันที

เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดของเขาไม่อาจกลบเสียงสายธนูที่ถูกปล่อยออกไป ลูกธนูพุ่งเข้าหานายน้อยสามพร้อมกับความโกรธของเจ้านาย

ด้วยประกายแสงที่แลบลั่น พลังมหาศาลผลักนายน้อยสามลอยขึ้นสู่อากาศก่อนที่เขาจะร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง

พลังอำนาจของธนูแยกหินน่าพรึงกลัวมาก มันทำให้หลี่ฉิงซานสามารถปิดฉากศัตรูในครั้งเดียว ในระยะใกล้เช่นนี้มีเพียงนักสู้ชั้นสองหรือผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้นที่มีโอกาสหลบเลี่ยง เห็นได้ชัดว่านายน้อยสามไม่ใช่หนึ่งในนั้น

สรรพเสียงรอบข้างเงียบลงทันที ดวงตาของกลุ่มโจรเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น เด็กหนุ่มผู้หนึ่งฆ่านายน้อยสามผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขา!

ในเวลาเดียวกัน ชาวบ้านก็มองหลี่ฉิงซานราวกับเห็นเทพเจ้า สำหรับพวกเขา โจรเหล่านี้เป็นปีศาจที่น่าสะพรึงกลัว ขณะที่นายน้อยสามเป็นหัวหน้าของเหล่าปีศาจ

อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์จะพลิกผันแต่หลี่หลงไม่รู้สึกยินดี ตรงข้าม มันมีเพียงความหวาดกลัวเท่านั้น

“นายน้อยสาม! นายน้อยสาม!” โจรสองสามคนเริ่มเดินเข้าไปรวมตัวกันรอบๆนายน้อยสามขณะที่ฝ่ายหลังกระอักเลือดคำโตออกมาและชี้นิ้วไปที่หลี่ฉิงซานด้วยท่าทางชั่วร้าย “ฆ่ามัน!”

เขาเป็นนายน้อยสามแห่งป้อมวายุทมิฬ เขามีความสามารถบางอย่างและสามารถตอบสนองได้ทันที แม้เขาจะถูกลูกธนูยิงและล้มลงบนพื้นแต่เขายังสามารถเลี่ยงจุดสำคัญ ลูกธนูแทงเข้าที่แขนขวาของเขา มันทำลายกระดูกทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียง มือขวาของเขาพิการไปแล้วเป็นผลให้ดวงตาของเขากลายเป็นแดงด้วยความโกรธ ตอนนี้เขาต้องการกัดกินหลี่ฉิงซานทั้งเป็น

กองโจรชักดาบ หอก และง้าวออกมา ทุกคนพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงซานพร้อมกับเสียงคำรามราวกับคนบ้า

สายลมพัดมาจากด้านหลังพร้อมกับหอกที่พุ่งเข้ามาทางหลังศีรษะของหลี่ฉิงซาน อย่างไรก็ตามเขาไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ ด้วยการเอียงศีรษะเล็กน้อย เขาใช้มือคว้าหอกเล่มนั้นก่อนจะเหวี่ยงมันกลับไป หอกพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมสิบเท่า มันแจงทะลุร่างเจ้าของและตรึงร่างนั้นไว้กับประตูบ้าน

ง้าว ดาบ และหอกแทงเข้ามาอย่างพร้อมกัน

หลี่ฉิงซานจับด้ามหอกและง้าว โจรทั้งสองเสียการทรงตัวและล้มลงทันที แขนที่เหมือนเหล็กคู่หนึ่งกระแทกตามลงไปที่หน้าอกของพวกเขาเหมือนค้อน เลือดพุ่งออกมาจากปากของทั้งสองก่อนที่พวกเขาจะหมดสติไป

ด้วยการใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ดาบเล่มใหญ่พุ่งเข้าประชิดตัวหลี่ฉิงซาน มันกำลังจะแทงเข้าไปที่หน้าท้องของเขา อย่างไรก็ตามมันกลับหยุดลงอย่างกะทันหันและไม่สามารถเดินหน้าได้อีกแม้แต่นิ้วเดียว

ฝ่ามือของเด็กหนุ่มฟาดไปยังใบหูของโจรที่ถือดาบ เมื่อเขายกมือออก โจรถือดาบก็ล้มลงบนพื้นและสูญเสียสัญญาณชีวิตไปแล้วขณะที่เลือดยังไหลออกจากปาก จมูก ใบหู และดวงตาของเขาอย่างช้าๆ

หลี่ฉิงซานเดินเข้าไปหานายน้อยสามขณะที่เสียงคำรามจากรอบข้างทำให้เขารู้สึกหนวกหู เขาสะบัดเท้าและเตะง้าวจากพื้นขึ้นมาถือไว้ในมือ

โดยไม่จำเป็นต้องคิดมาก เขากวาดมันออกไป

สายลมกรรโชกแรงส่งฝุ่นควันพุ่งเข้าหากลุ่มโจร

ปลายง้าวหักและหมุนควงอยู่ในอากาศก่อนจะปักลงบนพื้น

อาวุธสองสามชิ้นถูกส่งลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและมีเสียงกรีดร้องตามมา บางคนพยายามปิดกั้นแต่พวกเขาไม่สามารถหยุดพลังทำลายล้างของพวกมัน

ฝุ่นลอยตลบอบอวลอยู่ในอากาศ โจรสี่คนทรุดตัวลงบนพื้น โจรที่ตัวเตี้ยที่สุดถูกฟันที่ใบหน้าและเสียชีวิตทันที หน้าอกของโจรอีกสามคนถูกผ่าให้เปิดออก พวกเขาคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดขณะที่เลือดไหลทะลักลงบนพื้นราวกับน้ำเสียที่ไร้ค่า

หลี่ฉิงซานชำเลืองมองง้าวที่หักและคิด ‘เป็นอาวุธที่น่ากลัวจริงๆ’ ก่อนจะโยนมันทิ้งไป อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่ามีกระดูกกี่ท่อนหรือเหล็กที่ชิ้นที่ถูกเขาทำลาย ท้ายที่สุดอาวุธธรรมดาก็ไม่สามารถอดทนต่อการใช้งานของเขา

หลี่ฉิงซานยังเดินหน้าเข้าไปหานายน้อยสามต่อไป ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์ขณะที่ดวงตาส่องประกายด้วยแสงสีแดงที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่ตระหนักถึง

เขาวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็วอยู่ภายใน เขายังไม่หายโกรธ ที่นี่มีเพียงนายน้อยสามเท่านั้นที่อาจเป็นนักสู้ชั้นสาม ดังนั้นเขาจึงต้องโจมตีอย่างรุนแรงตั้งแต่ครั้งแรกเพื่อกำจัดภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

มีคนแข็งแกร่งสองสามคนอยู่ในกลุ่มโจร แต่พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับคนเก็บโสมเท่านั้น พวกเขาฝึกศิลปะการต่อสู้มาเล็กน้อยซึ่งเพียงพอที่จะรังแกคนธรรมดา แต่แน่นอนว่ามันไม่พอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของหลี่ฉิงซาน

‘ข้า...ข้าจะตายที่นี่งั้นหรือ!?’ นายน้อยสามอดทนต่อความบาดเจ็บและพยายามคืบคลานออกไป เขามองหลี่ฉิงซานด้วยความหวาดกลัวราวกับเห็นปีศาจในร่างมนุษย์ ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมีลูกน้องอยู่ข้างกายมากเพียงใด คนเหล่านั้นก็ไม่สามารถช่วยเขาได้

“หากข้าตาย หมู่บ้านกระทิงหมอบจะถูกฝังกลบไปพร้อมกับข้า เจ้าไม่รู้ว่าพี่ชายของข้าคือผู้ใด!”

การแสดงออกของหลี่หลงกลายเป็นยิ่งน่าเกลียด เขารีบเข้าไปคว้ามือของหลี่ฉิงซานเอาไว้ “ฉิงซาน อย่าใจร้อน!”

นายน้อยสามฉวยโอกาสนี้ปีนขึ้นไปบนหลังม้า เขาคว้าบังเหียนและบังคับม้าให้ออกวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด แม้จะไม่ได้รับคำสั่งแต่โจรคนอื่นๆก็รีบตามเขาไปทันที พวกเขากระทั่งทิ้งคนเจ็บไว้ข้างหลังอย่างไม่แยแส

หลี่ฉิงซานสะบัดมือก่อนจะคว้าลำคอของหลี่หลงและยกขึ้น “เจ้าอยากตายด้วยงั้นหรือ?”

หลี่หลงพยายามดิ้นรน “จะ...เจ้าไม่สามารถฆ่านายน้อยป้อมวายุทมิฬ เจ้าเคยได้ยินเรื่องของหมู่บ้านต้นหลิวหรือไม่?”

“หมู่บ้านต้นหลิว!” พ่อบ้านหลิวทรุดตัวลงกับพื้นและกรีดร้องออกมา

“หมู่บ้านต้นหลิวอันใด!?” หลี่ฉิงซานคลายมือออก

“หมู่บ้านต้นหลิวมีธรรมเนียมในการฝึกศิลปะการต่อสู้ ชาวบ้านทุกคนล้วนดุร้ายและกล้าหาญ พวกเขาสามารถฆ่านายน้อมของป้อมวายุทมิฬ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าป้อมวายุทมิฬก็นำคนออกมากวาดล้างหมู่บ้านต้นหลิว โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือเพศ ชาวบ้านหลายร้อยชีวิตถูกสังหาร ซากศพมากมายนอนทับกันจนกลายเป็นเนินเขา เจ้าป้อมใช้มันเป็นเครื่องเซ่นไหว้นายน้อยที่ตายไป เจ้าอยากให้เรื่องที่น่ากลัวเช่นนั้นเกิดขึ้นกับหมู่บ้านกระทิงหมอบของเรางั้นหรือ?”

“เช่นนั้นเราควรปล่อยให้พวกเขาเหยียบย่ำงั้นหรือ?” หลี่ฉิงซานคำราม

“ฉิงซาน ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า แต่เราไม่สามารถทำสิ่งใดกับเรื่องนี้”

“งั้นข้าก็จะแข็งแกร่งขึ้น!”

การแสดงออกของชาวบ้านเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้คำสัญญาที่ชั่วร้ายของนายน้อยสามที่ทิ้งไว้เบื้องหลังจากระยะไกล “เพียงรอก่อน หมู่บ้านกระทิงหมอบต้องถูกสังหารหมู่!”

บางคนถึงกับทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความตกใจ เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นอีกครั้ง ไม่มีผู้ใดมีความสุขที่สามารถขับไล่กลุ่มโจรไป

โจรที่บาดเจ็บและถูกทิ้งอยู่ที่นั่นเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “พวกเจ้าต้องตายไปพร้อมกับข้า!”

“เพียงเจ้างั้นหรือ?” หลี่ฉิงซานถาม

“อันใด!?”

หลี่ฉิงซานปล่อยหลี่หลงและเตะดาบที่อยู่ใกล้เท้าออกไปแทงทะลุลำคอของโจรคนดังกล่าวและคร่าชีวิตเขาทันที “ข้าไม่เคยกลับคำพูด!”

หลี่ฉิงซานจัดการโจรที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดก่อนจะหันหน้ากลับไปหาชาวบ้าน “จะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ข้าสัญญา!” หลังจากนั้นเขาก็เดินไปยังทิศทางที่กลุ่มโจรหลบหนีโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลังอีก

อาทิตย์ตกดิน แสงสุดท้ายหายไปจากท้องฟ้า ความมืดเข้ากลืนกินภูเขา

รอบกองไฟที่แผดเผา โจรสองคนช่วยนายน้อยสามดึงลูกธนูออก นายน้อยสามส่งเสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดและตบโจรผู้หนึ่งออกไป “อ่อนโยนกว่านี้เป็นไหม!?”

ปากของโจรคนนั้นเลือดออกแต่เขากลัวจนไม่กล้ากล่าวสิ่งใด

โจรคนอื่นๆเงียบ มันนานมากแล้วที่พวกเขาไม่เคยล้มเหลวและได้รับความอัปยศเช่นนี้ พวกเขาคุ้นเคยกับสายตาที่จ้องมองมาด้วยความหวาดกลัวและถ้อยคำเยินยอ พวกเขาเคยชินกับการรับเงินและผู้หญิงเมื่อพวกเขาต้องการ

“พวกเจ้าทำตัวให้มีชีวิตชีวาหน่อย เราจะได้แก้แค้นอย่างแน่นอน วันหนึ่งข้าจะตัดมือของเจ้าเด็กนั่น...” นายน้อยสามเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

“เราจะหั่นเขาเป็นชิ้นๆ!” กลุ่มโจรเร่งตอบรับ

“ตัดหัวเขา!” บางคนตะโกน

“ไม่ เราจะฆ่าเขาทั้งเป็น เราจะแล่เนื้อเขาออกมาทำอาหาร รสชาติของมันต้อง...” โจรที่อยากกินหลี่ฉิงซานยังพูดไม่จบเมื่อรอยเลือดปรากฏขึ้นบนลำคอของเขา จากนั้นเลือดก็พุ่งออกมาราวกับน้ำพุธรรมชาติและขัดจังหวะบทสนทนาเรื่องการทรมานหลี่ฉิงซานของพวกเขา