ตอนที่แล้วEp.298 - ภัยคุกคามจากมนุษย์จิ้งจอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.300 - สิบแปดโจรแห่งเมืองหุบเขาเดียวดาย

Ep.299 - ตอบโต้ชาวโลกวิญญาณ


2/3

Ep.299 - ตอบโต้ชาวโลกวิญญาณ

ณ อาณาจักรมังกรโลกา

ในพื้นที่ที่ไม่โดดเด่นของแคว้นเดียวดาย

ภูเขาและทรายทะเลทรายแห้งแล้งครอบคลุมรัศมี 700 - 800 ไมล์

แคว้นเดียวดายมีอากาศร้อนมากในช่วงกลางวัน แม้แต่สายลมก็ยังแฝงไว้ซึ่งพลังงานแผดเผา ส่งผลให้พลังงานทางกายภาพของสิ่งมีชีวิตในที่นี่สิ้นเปลืองเร็วขึ้น และง่ายต่อการตกอยู่ในสถานะอ่อนแรง

นอกจากนี้ยังมีภัยธรรมชาติอันน่าสะพรึงกลัวที่เรียกว่า ‘พายุทะเลทรายแดง’ อันโด่งดัง หากถูกมันกลืนหายเข้าไป ส่วนใหญ่จะแหลกเป็นชิ้นๆ ตายในทันที เป็นอะไรที่อันตรายมาก

แน่นอน

แม้สภาพอากาศในแคว้นเดียวดายจะแห้งแล้งอย่างรุนแรง

แม้ว่าแคว้นเดียวดายจะเกิดภัยธรรมชาติขึ้นบ่อยครั้ง

แต่ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่และไร้ที่สิ้นสุด ทำให้มีสิ่งมีชีวิตและเผ่าพันธุ์มากมายอาศัยอยู่ หนึ่งในนั้นคือมนุษย์จิ้งจอกอันมีชื่อเสียง

มนุษย์จิ้งจอกในพื้นที่นี้มีประวัติยาวนาน

เมื่อหกร้อยปีก่อน มีมนุษย์จิ้งจอกในฐานะขุนนางใหญ่ถือกำเนิดขึ้น

ตามตำนานเล่าว่า ขุนนางใหญ่มนุษย์จิ้งจอกผู้นี้มีสมุนมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงอยู่มากถึงสองสามพันตัว เป็นกองทหารขนาดใหญ่มาก ซึ่งมากพอแล้วที่จะสยบขุนนางเล็กรอบๆ บังคับมอบส่วยเป็นบรรณาการ สะกดพวกเขาให้ไม่กล้าลุกฮือต่อต้านใดๆ

แต่น่าเสียดาย

ขุนนางใหญ่มนุษย์จิ้งจอกไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่

หลังจากการล่มสลายของผู้ครองแคว้นในเวลานั้น ขุนนางใหญ่มนุษย์จิ้งจอกเกิดความโลภในบัลลังก์ที่ว่างลง ซึ่งแน่นอน มันไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการครองบัลลังก์นี้

ตราบใดที่ขุนนางใหญ่มีพลังรบมากที่สุด

ผู้นั้นก็จะสามารถขึ้นเป็นผู้ครองแคว้นได้!

ซึ่งตราบใดที่สามารถครองแคว้นเดียวดาย เจ้าเมืองทั้งหลายจะตกอยู่ใต้อาณัติของมัน มันจะกลายเป็นราชันย์ของแผ่นดินแถบนี้ มีสิทธิ์ครอบครองทุกสิ่งในดินแดน

ซึ่งพลังรบของขุนนางใหญ่มนุษย์จิ้งจอกนั้นไม่ได้เหนือกว่าขุนนางใหญ่ตนอื่นๆ สุดท้ายถูกกำจัดระหว่างการแย่งชิง ต่อมา กองกำลังมนุษย์จิ้งจอกก็สลายตัว และกลายเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์รองในแคว้นเดียวดาย

มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงถูกกำจัดจนหมดสิ้น

ณ ขณะนี้ ในพื้นที่ทางตะวันตกของแคว้นเดียวดาย มีมอนสเตอร์หลายชนิดที่เป็นสายพันธุ์รอง และมนุษย์จิ้งจอกในวิดีโอคือลูกหลานที่เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของขุนนางใหญ่มนุษย์จิ้งจอก

ต่อมา ก็เริ่มมีบางตัวเกิดการตื่นรู้

มนุษย์จิ้งจอกแต่ละตัวที่เกิดการตื่นรู้เชื่อว่าพวกมันคือทายาทของขุนนางใหญ่มนุษย์จิ้งจอก

เย่โน่และเย่กู่เองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ดังนั้นพวกมันจึงต้องการสร้างสง่าราศีของบรรพชนขึ้นใหม่

แต่น่าเสียดายที่จำนวนมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงนั้นมีน้อยเกินไป และพลังรบของพวกมันก็อ่อนแอ แม้อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม พวกมันก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนฟ้าฝนได้ ถูกกดขี่ต่างๆนาๆ และยังคงเฝ้าอดทนรอวันที่จะขึ้นผงาดอีกครั้ง

“เจ้าพวกนี้มันอะไรกัน?”

“ข้าไม่เคยเห็นเผ่าพันธุ์แบบนี้มาก่อนเลย”

เบื้องหน้ากลุ่มมนุษย์จิ้งจอก

คือซากศพมนุษย์หลายศพนอนกองอยู่

ศพทั้งหมดเริ่มเรืองแสงทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆระเหยไป

เย่กู่ดูสับสนมาก “เย่โน่ เจ้าเคยเห็นเผ่าพันธุ์เช่นนี้ไหม?”

มนุษย์จิ้งจอกทุกตัวมีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกัน พวกมันตัวใหญ่และกำยำกว่าโคโบลด์ มีความสูงเฉลี่ยประมาณ 2 เมตร มีหัวจิ้งจอกอยู่บนคอ และใบหน้าที่ดูดุร้าย

ชาวโลกวิญญานก็มีช่วงอายุเช่นกัน

แต่โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มคำนวณอายุตอนช่วงเวลาตื่นรู้

เย่กู่อายุ 5 ปี เนื่องจากการตื่นรู้ของ ‘จิ้งจอกสังหาร’ มันเกิดมาเป็นนักรบ ตอนนี้สวมชุดเกราะหนัง มีอุปกรณ์ค่อนข้างสมบูรณ์ อาวุธคือมีดสั้นและธนูสะพายหลัง

เย่โน่อายุ 6 ปี เนื่องจากการตื่นรู้ของ ‘จิ้งจอกวอล็อค’ มันเกิดมาเป็นนักเวทย์ สวมชุดพ่อมด ในมือถือไม้เท้า แม้ถือกำเนิดมาได้ 6 ปีแล้ว แต่ตายไปยังไม่ถึง 10 ครั้ง สามารถกล่าวได้ว่ามันพอมีพรสวรรค์ในการต่อสู้อยู่บ้าง

ทั้งสองออกมาจากจากสถานที่เดียวกัน

ตอนนี้ทั้งคู่ติดอยู่ในคอขวดเลเวล 10

หลังจากเลเวล 10 ขึ้นไป ในการอัพเลเวลทุกๆครั้ง สิ่งที่ต้องการไม่ใช่แค่แต้มวิญญาณแต่ยังมีเงื่อนไขอื่นอีก ดังนั้นจากเลเวลนี้เป็นต้นไป การที่เลเวลไม่เพิ่มขึ้นเลยเป็นเวลาหลายปีจึงเป็นเรื่องปกติ

“ข้าเองก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน” เย่โน่ส่ายหัว “พวกมันเหมือนกับเอลฟ์จากทะเลทรายทางตอนใต้ แต่ก็มีความแตกต่างอยู่บ้าง ข้าไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตเช่นนี้มาก่อน บางทีพวกมันอาจมาจากดินแดนอื่น หรือแม้แต่แคว้นอื่น”

เอลฟ์ทะเลทรายเป็นเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นเดียวดาย

นี่คือหนึ่งในสายพันธุ์สาขาของเผ่าเอล์ฟ

และมนุษย์หากไม่นับหน้าตาแล้ว รูปลักษณ์อื่นๆของพวกเขาเหมือนเอลฟ์ จึงถูกเข้าใจว่าเป็นแบบนั้น

เย่กู่กล่าว “ปกติไม่น่าจะมีชาวต่างแคว้นเข้ามาในถิ่นของพวกเรา แต่ดูจากพลังรบของพวกเขาที่ช่างอ่อนแอแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาคงถูกเอารัดเอาเปรียบ โดนบีบคั้นมากเกินไป จึงยอมละทิ้งดินแดน มุ่งหน้ามายังแคว้นนี้”

เย่โน่เปิดใช้งานสกิลสอดแนม

มันเริ่มสำรวจรอบๆ “กลิ่นอายของพวกเขามาจากหุบเขาหมาป่าเดียวดาย บางทีอาจมีพรรคพวกคนอื่นๆอยู่ที่นั่น”

เย่กู่กล่าว “เอาไว้พวกเราฆ่าจ่าฝูงหมาป่าหายนะก่อน แล้วค่อยไปตามล่าเอลฟ์อ่อนแอพวกนี้!”

จากการคำนวณเวลาของเย่โน่และเย่กู่ พวกมันพบว่าถึงเวลาแล้วที่มอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นหลายตัวจะฟื้นคืนชีพ ดังนั้นจึงมายังสถานที่เล็กๆของหุบเขาหมาป่าเดียวดาย แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ นอกจากเหยื่อระดับเจ้าถิ่นแล้ว ยังมีกลุ่มต่างแดนแสนอ่อนแอ ‘หลบหนี’ มาที่นี่อีกด้วย

ฆ่า!

เมื่อเจอกันที่ต้องทำก็มีแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก

ในโลกวิญญาณ ผู้อ่อนแอมักเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่งมาโดยตลอด!

เมื่อพบชาวต่างแดนไม่ทราบที่มา อันดับแรกต้องตัดสินพลังรบของอีกฝ่าย

หากพลังรบของอีกฝ่ายอ่อนแอ พวกมันคือเหยื่อ ก็แค่ฆ่าทิ้งซะ!

แต่หากพลังรบของอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากหรือมีจำนวนมาก ที่ต้องทำก็แค่วิ่งหนี ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดี!

ตราบใดที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกันหรือกลุ่มพันธมิตร การฆ่ากันเองสามารถช่วงชิงแต้มวิญญาณและทรัพยากรได้ กฏนี้ของโลกวิญญาณไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กิจวัตรหลักในโลกวิญญาณจึงถูกกำหนดให้มีแต่เรื่องโหดร้ายและเต็มไปด้วยการฆ่า

เย่โน่ เย่กู่ มิใช่ชนพื้นเมืองที่แข็งแกร่งอะไรมากมาย

ดังนั้นพวกมันจึงไม่ดูแคลนเผ่าพันธุ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

นอกจากมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงทั้งสองตัวแล้ว ที่ติดตามมากับพวกมันยังมีสายพันธุ์รองชั้นยอดอีก 6 ตัว และทั้งหมดอยู่ในเลเวล 10

หากพรรคพวกของชาวต่างดินอ่อนแอเหมือนกับคนกลุ่มนี้ พวกมันก็จะเข้าสังหาร ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่การช่วงชิงแต้มวิญญาณเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลงด้วย สุดท้ายกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่สามารถเติบโตได้ในอนาคต ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสายตาอีก

วิ่งมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมง

สีหน้าของเย่กู่ เย่โน่แปรเปลี่ยนไปทันที

“ที่นี่มีบางอย่างไม่ถูกต้อง มีกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตอื่นปะปนอยู่!”

มนุษย์จิ้งจอกทั้งสองรู้สึกชัดเจน ว่านอกเหนือไปจากฝูงหมาป่าหายนะกลุ่มใหญ่ที่เดินผ่านไปผ่านมาที่นี่แล้ว ยังมีกลิ่นอายที่ไม่คุ้นเคยอีกหลายกลิ่นซ่อนตัวอยู่ แต่สกิลสอดแนมของมันไม่ดีเท่าหวังเอ๋อ ดังนั้นไม่สามารถแยกแยะพลังรบจากกลิ่นได้ มากสุดแต่ตรวจพบว่ามีกลิ่นแปลกปลอม

“กลิ่นอายยังสดใหม่”

“พวกมันคงยังอยู่แถวๆนี้”

ช่วงเวลาที่มนุษย์จิ้งจอกทั้งสองตระหนักว่ามีางอย่างผิดปกติ

ทันใดนั้นฝูงหมาป่าหายนะกระโจนออกมาจากทุกทิศทาง

มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงทั้งสองตะลึงงัน พวกมันไม่คาดคิดว่าจะถูกหมาป่าหายนะซุ่มโจมตี! ว่าแต่หมาป่าหายนะมีสติปัญญาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? จำได้ว่ากระทั่งจ่าฝูงของพวกมันก็ยังไม่มีเล่ห์เหลี่ยมถึงขนาดนี้!

แต่ไม่ว่ายังไง

ต้องตอบโต้ก่อน

เย่โน่เริ่มร่ายมนตร์โจมตีขั้น 2

“พวกเจ้าทั้งสี่ไปปกป้องเย่โน่!”

“ส่วนพวกเจ้าสองตัวตามข้ามา!”

เย่กู่สั่งสมุนสายพันธุ์รองทั้งหก

จากนั้น มันเปิดใช้งานสกิลล่องหน หายวับไปจากที่เดิม ตามหาตัวผู้ควบคุมที่ซ่อนอยู่ในเงามืด

แต่ในตอนนั้นเอง

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเย่โน่

ฮังเสี่ยวไป๋ปลดปล่อยฝุ่นลวงตาเข้าห่อหุ้มร่างมันโดยตรง

ในเวลาเดียวกัน หมาขนขาวดำหลายตัวกระโจนเข้าโจมตีสมุนสายพันธุ์รอง

สุนัขเหล่านี้ดูไม่ค่อยเด่นนัก แต่ที่จริงแล้วความว่องไวและพละกำลังของพวกมันสูงกว่าหมาป่าหายนะระดับสามัญมาก เรียกได้ว่าเกือบไปถึงชั้นยอดขั้นโกลด์

ด้วยการลอบโจมตีอย่างกะทันหัน ทำให้สมุนสายพันธุ์รองของมนุษย์จิ้งจอกเกิดความโกลาหล ได้รับบาดเจ็บหนัก

หวังเอ๋อเปลี่ยนร่างทันที

หลังจากเปลี่ยนร่าง

ฐานค่าคุณสมบัติของมันไม่ใช่เจ้าถิ่นที่อ่อนแออีกต่อไป

พริบตาที่ตะปบกรงเล็บ สมุนสายพันธุ์รองสามตัวถูกตบประเด็น

พลังรบของฮังเสี่ยวไป๋แม้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

แต่ปัจจุบันเธอมาถึงเลเวล 9 แล้ว ซึ่งอ่อนแอกว่าเย่โน่เพียงเล็กน้อย

ขณะที่เย่โน่กำลังร่ายมนตร์ แส้พลังจิตฟาดใส่มัน เกิดอาการมึนงงทันใด ปรากฏว่าเป็นราชินีมดหน้าคนที่ฉวยโอกาสนี้ย่องเข้ามา และด้วยความช่วยเหลือจากหวังเอ๋อและราชินีมด ทำให้เสี่ยวไป๋ที่เป็นรองสามารถสะกดมนุษย์จิ้งจอกตนนี้ลงได้

สำหรับเย่กู่

มันมีความคล่องแคล่วปราดเปรียวสูง!

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันรวดเร็วมาก!

สาเหตุที่ทีมมนุษย์ถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วครั้งก่อน ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะฝีมือของเจ้าหมอนี่

ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลตรวจจับของเทคนิคตาเหยี่ยวเวอร์ชั่นอัพเกรด ทำให้เขาสามารถมองทะลุสกิลล่องหนขั้น 1 ของเย่กู่ได้ เจ้าตัวปลดปล่อยคัมภีร์สกิลอัญเชิญฝูงหมาป่าที่เขาพึ่งได้มา เรียกหมาป่าหายนะชั้นยอดขั้นโกลด์สี่ตัวเขาล้อมศัตรูทันที จากนั้นใช้เครื่องรางอัญเชิญเรียกอัศวินอันเดธเลเวล 10 ออกมา

หมาป่าหายนะสามารถทำลายการลอบเร้น

และมอนสเตอร์อันเดธก็สามารถทำลายการพรางตัวได้เช่นกัน

เย่กู่ถูกปิดล้อมโดยชนชั้นยอดทั้งห้าทันที!

ฮังอวี่ถืออาวุธสองชิ้น วิ่งเข้าร่วมการต่อสู้

มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงมีแค่สองตัวเท่านั้น นี่น้อยกว่าที่เขาคาดไว้ พลังรบของพวกมันค่อนข้างอ่อนแอ ดังนั้นมั่นใจว่ารับมือไหว!