ตอนที่แล้วEp.296 - เขตแดนลับแห่งการทดสอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.298 - ภัยคุกคามจากมนุษย์จิ้งจอก

Ep.297 - ฝูงหมาป่าหายนะ


2/2

Ep.297 - ฝูงหมาป่าหายนะ

กระบวนการตอบรับข้อความของฮังอวี่นั้นพิเศษมาก มันเหมือนกับว่าข้อมูลของระบบหลังจากอัปเดตเกมถูกผลักเข้ามือถือโดยตรง เกรงว่ามนุษย์ทุกคนคงได้รับข้อความนี้พร้อมกันถ้วนหน้า

อะไรแบบนี้ ต่อให้เป็นทวยเทพแห่งโลกวิญญาณก็ไม่สามารถทำได้

ดังนั้น ผู้ที่ส่งข้อความจำนวนมากนี้ย่อมไม่พ้นเจ้าของเสียงอันน่าเกรงขาม

เจ้าของเสียงน่าเกรงขามคือผู้สร้างที่อยู่เหนือกฏเกณฑ์

เขาคือสิ่งที่เป็นนามธรรม ไม่มีรูปลักษณ์ ไม่สามารถสัมผัสได้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย แต่สัมผัสได้ทางใจ ในเวลานี้เขาคือสิ่งที่เกินกว่าตรรกกะของมนุษย์จะสามารถเข้าใจได้

ในตอนเริ่มเกม เจ้าของเสียงน่าเกรงขามบังคับให้พวกเขาเลือกอาชีพพรสวรรค์ได้หลังจากถูกดูดเข้ามาในโลกวิญญาณเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาสามารถเขายุ่งเกี่ยวกับโลกจริงได้แล้ว ซึ่งนี่บ่งบอกว่าโลกจริงกำลังเกิดอณูวิญญาณมากขึ้นเรื่อยๆ และอิทธิพลของเจ้าของเสียงน่าเกรงขามนับวันก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม

แม้ร่างกายและจิตวิญญาณของมนุษย์จะหลอมรวมเข้ากับโลกวิญญาณแล้วหลังจากเลือกอาชีพ

แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังไม่สามารถหลอมรวมได้ 100% นี่ก็เพื่อรักษาสมดุลจนกว่าจะมั่นคง และขณะเดียวกันก็ทำให้มนุษย์ไม่สามารถเข้าสู่โลกวิญญาณได้ทุกวัน

แต่จะเข้าได้ในทุกๆ 3 วันแทน

ทว่าปัจจุบัน

โลกวิญญาณเปิดทุกวันแล้ว!

อย่างไรก็ตาม ทุกคนจะยังสามารถอยู่ในโลกวิญญาณได้แค่คนละ 9 ชั่วโมงต่อวันเหมือนเดิม

หากเกินกว่านั้น คุณจะถูกบังคับให้ออกจากโลกฝ่ายวิญญาณ

และสามารถกลับเข้าไปได้อีกครั้งในวันถัดไป และระยะเวลาคูลดาวน์จะเป็นแบบรายวันหรือรีเฟรชที่เวลาประมาณ  5 ทุ่ม

สถานการณ์นี้ยังดีกว่าเมื่อก่อนมาก

ต่อจากนี้ไป การผจญภัยในโลกฝ่ายวิญญาณจะเป็นเหมือนกิจวัตรประจำวัน

แต่เป็นกิจวัตรที่ไม่ยาวนานเกินไป เหมือนคุณทำงาน แค่วันละ 8 - 9 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว

และนี่ยังดีกว่าการทำงานประจำซะอีก เพราะบางครั้งเมื่อคุณเหนื่อยล้า สามารถวาร์ปกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้ ปรับอารมณ์ตัวเอง เมื่อเตรียมตัวพร้อมก็กลับเข้าไปใหม่

...

ขณะที่ฮังอวี่กำลังศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ในลานบ้าน

ประกายแสงสายหนึ่งทอวาบ

ร่างสูงและผอมเพรียวก้าวออกมา

“ฮังอวี่ ฉันเห็นข้อความที่นายส่งมาแล้ว สกายเน็ตยอมสร้างค่ายกลต้องห้าม 12 แห่งให้นายจริงๆน่ะหรอ?” คำถามแรกของซูหยุนปิงหลังจากกลับมาคือ “นายทำได้ยังไงกัน? สำหรับพวกเราแล้ว นั่นมันเหมือนกับถูกลอตเตอรี่เลย!”

“เพ้ย! ถูกลอตเตอรีเกิดจากโชคช่วย แต่ที่ผมทำไม่ได้เกิดจากโชค แต่เป็นด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง มันคือรางวัลตอบแทน!”

ฮังอวี่เล่าให้ซูหยุนปิงฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

สถานการณ์ตอนนั้นค่อนข้างอันตราย หากแวมไพร์มีเวลามากกว่านี้อีกซักหนึ่งนาที ผลลัพธ์อาจไม่จบลงแบบนี้

ที่ฮังอวี่สยบแวมไพร์ได้อย่างรวดเร็วนั้นเกิดจากความประมาทของศัตรูล้วนๆ ประกอบกับการเรียกใช้งานเครื่องรางอัญเชิญของเขา

เครื่องรางอัญเชิญน่ะเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ใครก็สามารถใช้ได้

ทุกครั้งที่ใช้งาน จำเป็นต้องรวบรวมไอวิญญาณจำนวนมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องรางที่สามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์

คุณคงไม่คิดหรอกนะว่าการอัญเชิญมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นเป็นแค่เรื่องง่ายๆ แค่การสะสมไอวิญญาณเข้าสู่เครื่องราง มอนสเตอร์ที่ล่าต้องเป็นเลเวล 10 ขึ้นไป มิฉะนั้นกระบวนการสะสมไอวิญญาณจะเป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก

ต่อให้เป็นขุมกำลังอย่างสกายเน็ต

อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาเตรียมการเป็นสิบวันถึงจะเพียงพอ

แต่ที่ฮังอวี่สามารถใช้เครื่องรางอัญเชิญได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ สาเหตุหลักๆเป็นเพราะกล่องวิญญาณของลิซ ดังนั้นใช้เวลาแค่ 2 - 3 วันก็สามารถเติมไอวิญญาณได้เต็มแล้ว

อย่างไรก็ตาม

ที่อาจารย์ซูตกใจไม่ใช่เรื่องแปลก

นั่นเพราะค่าใช้จ่ายในการติดตั้งค่ายกลสูงมาก

และการจ้างปรมาจารย์ค่ายกลจากสกายเน็ตก็แพงมากเช่นกัน

ต่อให้ขุมกำลังทั่วไปยินดีจ่ายค่าจ้าง พวกเขาก็ยังไม่สามารถเชิญปรมาจารย์ค่ายกลของสกายเน็ตได้ แต่ฮังอวี่กลับตามตัวพวกเขามาสร้างค่ายกลถึง 12 แห่งในคราเดียว ค่าใช้จ่ายถือว่าสูงเทียมฟ้า ทว่ากลับเป็นสกายเน็ตที่ต้องจ่ายเอง นอกจากนี้ เขายังได้รับ 5,000 แต้มบุญระดับ 8 ซึ่งไม่น้อยเลย

“ขนาดนายร่วมมือกับสกายเน็ต ลงสนามรบด้วยตัวเองก็ยังไม่สามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ พวกผู้รุกรานจากโลกวิญญาณไม่ง่ายเลย” ซูหยุนปิงวิเคราะห์รายละเอียด และตระหนักถึงอันตราย “แบบนี้นายมีแผนจะทำอะไรต่อไป?”

“ประตูสู่โลกวิญญาณเปิดออกแล้ว ผมคิดว่าจะเข้าไปสำรวจอาณาจักรมังกรโลกาดูซักหน่อย” ฮังอวี่กล่าวกับซูหยุนปิงว่า “งานหลักๆที่ผมต้องทุ่มเทอยู่ทางฝั่งโลกวิญญาณ ดังนั้นสถานการณ์ทางนี้ผมขอฝากให้อาจารย์ดูแลด้วย เพราะตราบใดที่ผมแข็งแกร่งมากพอ ต่อให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง ฐานที่มั่นของพวกเราก็จะมั่นคง ไม่ต้องหวั่นเกรงความท้าทายที่จะเกิดขึ้น”

ฮังอวี่สั่งให้ซูหยุนปิงจัดการเรื่องค่ายกล และสอบถามเกี่ยวกับวัสดุในการหลอมหอกคลื่นมังกรปฐพี

จากนั้นนำเสี่ยวไป๋ หวังเอ๋อเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกา

ณ อาณาจักรมังกรโลกา

ภายในถ้ำธรรมดา

หลายคนรอบตัวเข้ามาทักทาย

“สวัสดีบอสฮัง!”

“สวัสดีบอสฮัง!”

ฮังอวี่พยักหน้าตอบพวกเขาอย่างสุภาพ

เมื่อหวังเอ๋อถูกปล่อยออกมา มันมองไปรอบๆ “ฮ่ง เจ้านาย ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนเลย!”

“ตอนนี้มีไม่คนไม่มากนักที่มาถึงอาณาจักรมังกรโลกา และครั้งนี้โลกวิญญาณเปิดขึ้นอย่างกะทันหัน เลยไม่แปลกที่คนอื่นๆจะไม่เข้ามาทันที” ฮังอวี่พูดกับหวังเอ๋อ “พวกเราเริ่มงานกันเลยเถอะ ไม่ต้องรอคนอื่นแล้ว”

หนึ่งในนั้นเอ่ยถาม “บอสฮัง พวกเราต้องทำยังไงต่อไป พวกเราไม่คุ้นทางในอาณาจักรมังกรโลกา”

ฮังอวี่แนะนำ “ช่วงนี้ขอให้พวกคุณเน้นสำรวจสภาพแวดล้อมและทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศเป็นหลัก อาณาจักรมังกรโลกานั้นแตกต่างจากป่าแห่งการเริ่มต้น สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นอย่าผลีผลาม”

“จากการตรวจสอบ มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆแถวนี้จะมีเลเวลโดยเฉลี่ยที่ระดับ 10 ต่อให้เป็นแค่ระดับสามัญก็ห้ามประมาท ให้ไปล่าพวกมันแบบเป็นทีม แยกทีมกันออกไป ระหว่างนั้นรีบทำความคุ้นเคยแล้วกลับมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน รอจนแน่ใจพวกเราค่อยออกจากบริเวณนี้”

ฝูงชนพยักหน้า

เพราะในความเห็นของพวกเขา

สิ่งที่ฮังอวี่พูดนั้นถูกต้องทุกอย่าง

ฮังอวี่พาเสี่ยวไป๋ หวังเอ๋อออกจากถ้ำ ขณะนี้อีกไม่นานจะถึงเวลารุ่งสางในโลกวิญญาณ ด้านนอกเป็นภูเขาดูแห้งแล้ง มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาแทบปราศจากสิ่งมีชีวิตใดๆ

หวังเอ๋อดมกลิ่นและพูดว่า “ฮ่ง เจ้านาย ทางนั้น! เปิ่นหวังได้กลิ่นมอนสเตอร์”

ฮังอวี่ปลดปล่อยเทคนิคตาเหยี่ยว

แล้วเขาก็พบกลุ่มมอนสเตอร์

มอนสเตอร์พวกนี้มีขนสีเทาอมเหลืองคล้ายกับสภาพแวดล้อม ดังนั้นหากไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็น พวกมันคือหมาป่าตัวใหญ่ที่ดูดุร้าย อย่างน้อยก็ใหญ่โตกว่าหมาป่าในโลกจริงถึงสามเท่า วิ่งได้ว่องไว พวกมันรวดเร็วมาก และปกติมักอยู่เป็นฝูง

เป็นหมาป่าหายนะ!

มอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 8!

นี่น่าจะเป็นมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในหุบเขาหมาป่าเดียวดาย

ในเมื่อเป็นแค่มอนสเตอร์เลเวล 8 ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่จะล่าพวกมัน

ฮังอวี่ใช้ความคิดเล็กน้อย เขายังไม่เร่งรีบออกล่า แต่ตระเตรียมการไว้ก่อน

เขาว่าจะปล่อยสุนัขออกไป และให้ควบคุมพวกมัน ค่อยๆรวบรวมฝูงหมาป่า เพราะเชื่อว่าแบบนี้จะมีประโยชน์ที่สุด

และด้วยสกิลแยกร่างของหวังเอ๋อ

มันสามารถใช้ร่างแยกควบคุมหมาป่าฝูงอื่นๆได้

ด้วยวิธีนี้ ไม่เท่ากับว่าเป็นการสร้างกองทัพหมาป่าหายนะในเวลาสั้นๆหรอกหรือ?

หากฮังอวี่สามารถสั่งการฝูงหมาป่าหายนะ และมีจำนวนมากเป็นสิบๆตัว เขาก็จะสามารถออกล่า BOSS ในบริเวณใกล้เคียงได้ นี่เท่ากับเป็นการลับมีดจนคม แล้วฟันศัตรูให้ตายในทีเดียว!

เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาไม่ลังเลอีกต่อไป สั่งการสุนัขให้เริ่มลงมือทันที

มอนสเตอร์ป่าค่อนข้างอยู่แบบกระจัดกระจาย

เจ้าพวกนี้เดินเตร่ไปทั่ว

บางครั้งก็อยู่กันเป็นกลุ่มเดียว ไม่ก็สองกลุ่ม

หากค้นหาสุ่มสี่สุ่มห้า เกรงว่าทั้งวันคงจับพวกมันได้ไม่เท่าไหร่

โชคดีที่หวังเอ๋อมีจมูกที่ดี บวกกับเทคนิคตาเหยี่ยวของฮังอวี่ การพิชิตหมาป่าหายนะฝูงแรกจึงเป็นไปด้วยดี และไม่ช้าพวกเขาก็พบฝูงที่สองและสาม ...

ไม่นาน

ก็สามารถรวบรวมฝูงหมาป่าหายนะได้หลายสิบตัว

ขนาดทีมของฮังอวี่เติบโตอย่างรวดเร็ว พวกหมาหมาป่าหายนะต่อแถวเป็นขบวน ราวกับกองทัพสัตว์อสูรที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี