ตอนที่แล้วEp.291 - หัวหน้าสืบสวนฉูเทียนหัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.293 - กับดัก

Ep.292 - มีคนทรยศในหมู่พวกเรา!


1/4

Ep.292 - มีคนทรยศในหมู่พวกเรา!

ณ ทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดิน

ฮังอวี่นำสุนัข และเสี่ยวไป๋ติดตามมาด้วย

เขากวาดตามองไปยังฝูงชน “มีแค่นี้เองเหรอ?”

“แค่ 20 คนก็เหลือเฟือ” ฉูเทียนหัวกล่าว “ทุกคนในที่นี้คือชนชั้นยอด บวกกับความช่วยเหลือจากนาย เสี่ยวไป๋ และหวังเอ๋อ ฉันคิดว่ามากเกินพอแล้ว”

ฮังอวี่พบว่าในบรรดากลุ่มคน มีพี่น้องตระกูลเหลียงกับซุนเฉาเซิ่งอยู่เช่นกัน เขาหัวเราะ “เป็นพวกคุณอีกแล้ว ดูเหมือนหัวหน้ากองลั่วจะให้ความสำคัญกับพวกคุณมาก”

เหลียงตง เหลียงชิว ซุนเฉาเซิ่ง

พวกเขายิ้มแหยและไม่รู้จะตอบอย่างไร

ตัวตนที่แท้จริงของฮังอวี่คือผู้นำแห่งโลกฝ่ายวิญญาณ!

แม้แต่เถ้าแก่ใหญ่คนใหม่อย่างฉูเทียนหัว ในโลกวิญญาณยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของชายผู้นี้ แล้วต่อไปพวกเขาจะยังดื่มกินด้วยกันแบบสหายอีกได้อย่างไร? แค่เจอหน้ากันตอนนี้ก็รู้สึกกดดันจะแย่แล้ว!

ฉูเทียนหัว ลั่วหยวนเจิ้ง เหลียงตง เหลียงชิว ซุนเฉาเซิ่ง ทั้งห้าคนนี้ฮังอวี่รู้จักดี แต่สมาชิกสกายเน็ตอีกห้าคนเขาไม่รู้จัก คิดว่าคงเป็นหัวหน้าทีมจากกองพลอื่นๆ เพราะได้ยินว่าสกายเน็ตพึ่งรับสมัครยอดฝีมือหน้าใหม่

ลั่วหยวนเจิ้งแนะนำอีกสิบคน “นี่คือจูหยาง เขานำชนชั้นยอด 4 คนจากสมาคมโลกวิญญาณมาช่วย ส่วนนี่คือหวังจุนเหวิน เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของเมือง และทีมของเขาคือคนที่ให้ข้อมูลนี้แก่พวกเรา”

ฮังอวี่หันไปมอง

จูหยางเป็นคนอ้วน ตัวเล็ก มีรอยยิ้มอันอบอุ่น

แม้ภายนอกจะดูไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ แต่ชายคนนี้ไปถึงเลเวล 7 แล้วและครอบครองมรดกขั้น 1 ที่สมบูรณ์ถึง 2 มรดก

แม้สกายเน็ตกับสมาคมโลกวิญญาณจะไม่ค่อยเป็นมิตรต่อกัน

แต่มีหลายภารกิจที่พวกเขาร่วมมือกัน

จึงไม่น่าแปลกใจที่คนของสมาคมโลกวิญญาณเข้าร่วมปฏิบัติครั้งนี้

สมาคมโลกวิญญาณเป็นองค์กรที่มีโครงสร้างค่อนข้างหละหลวม

จูหยางเป็นยอดฝีมือของสมาคมโลกวิญญาณก็จริง แต่เขาก็มีขุมกำลังเป็นของตัวเองเช่นกัน ซึ่งกำลังพัฒนาไปด้วยดี เขาจึงตั้งใจเข้าร่วมภารกิจนี้ เพื่อหวังเอาแต้มบุญจำนวนมากไปพัฒนาทีมต่อ

“สวัสดี!”

จูหยางไม่เคยได้ยินชื่อฮังอวี่มาก่อน

อย่างไรก็ตาม เข้ายังคงเข้ามาทักทายอย่างอบอุ่น

ฮังอวี่รับนามบัตรของอีกฝ่ายและกวาดสายตาอ่าน “โอ้ ผู้จัดการบริษัท ‘ป้าเทียน(ครองสวรรค์)’ เป็นชื่อที่อุกอาจจริงๆ แต่ผมว่ามันดูไม่ค่อยสอดคล้องกับท่าทีเป็นมิตรของคุณเลยนะ ”

จูหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาน่า ชื่อบริษัทจำเป็นต้องดูดุดันเข้าไว้ ฉันจงใจตั้งให้มันสอดคล้องกับยุคโลกวิญญาณไง”

ส่วนหวังจุนเหวิน เขาคือชายอายุราวๆ 26 27 ปี

เป็นคนสุภาพ ดูสะอาดสะอ้าน

ให้ความรู้สึกเหมือนหมอไม่ก็ทนาย

เขาคือยอดฝีมือทางตอนเหนือของเมือง และเป็นผู้นำที่แม้อายุน้อย แต่มีความสามารถในการควบคุมกองกำลังขนาดเล็กถึงกลาง และคนทั้งสี่ที่ติดตามมาก็เป็นลูกน้องของเขา

ฮังอวี่เอ่ยถาม “เป็นคุณที่ค้นพบเบาะแส? งั้นช่วยอธิบายสถานการณ์ให้ผมฟังที”

หวังจุนเหวินเหลือบมองกลุ่มสกายเน็ตว่าจะเอายังไงดี

ฉูเทียนหัวพยักหน้าและกล่าวว่า “น้องชายฮังอวี่เป็นกำลังเสริมสำคัญของพวกเรา และครั้งนี้เขายังเป็นรองหัวหน้าทีมค้นหาของเราอีกด้วย”

จูหยาง หวังจุนเหวิน ต่างเผยสีหน้าประหลาดใจ

ชายหนุ่มที่เดินทางมาพร้อมกับหนึ่งคนหนึ่งสุนัขผู้นี้ กลับมีสถานะสูงกว่าหัวหน้ากองลั่วหยวนเจิ้งแห่งสกายเน็ต นี่เรื่องจริงหรือ?

หวังจุนเหวินกล่าวว่า “เมื่อวานก่อน ฉันกับทีมเข้าไปล่าวัตถุดิบในวงกตใต้ดินตามปกติ แต่พวกเราบังเอิญหลงเข้าไปในพื้นที่หนึ่ง ...”

เนื้อเรื่องหลักก็มีประมาณนี้ : ทีมของหวังจุนเหวินที่มีคนนับสิบได้เข้าไปในซากปรักหักพังใต้ดิน และพบกับสามคนจากโลกวิญญาณ พวกเขาถูกโจมตี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และหลบหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

หวังจุนเหวินกล่าว “หลังจากที่ออกมาได้ ฉันรีบรายงานข้อมูลแก่สกายเน็ต โดยหวังว่าสกายเน็ตจะล้างแค้นให้เหล่าพี่น้องที่ตายไปของฉัน!”

“โชคดีจริงๆที่คุณรอดมาได้” ฮังอวี่ครุ่นคิดพักหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “สามคนนั้นไม่ใช่คนโง่ เมื่อที่ซ่อนถูกเปิดเผย พวกมันจะไม่อยู่เฉยแน่นอน มีโอกาสสูงที่พวกเราอาจไม่เจอตัวพวกมัน”

ฉูเทียนหัวกล่าว “นี่คือเหตุผลที่ฉันอยากยืมตัวหวังเอ๋อ”

ฮัสกี้เอ่ยขึ้นในเวลานี้ “ฮ่ง บอสฉู ถึงเปิ่นหวังจะเป็นสุนัขที่มีความสามารถ แต่ก็ไม่ใช่สุนัขที่มีอำนาจครอบคลุมทุกอย่าง ถ้าพวกมันลบกลิ่นอายไปแล้วก็คงช่วยอะไรไม่ได้”

เมื่อเห็นว่าสุนัขพูดได้ จูหยางพลันร้องอ๋อ

ที่แท้เจ้าหมาตัวนี้คือเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียงในเจียงเฉิง!

อีกด้านหนึ่ง ลั่วหยวนเจิ้งกล่าวอย่างหนักแน่น “ไม่ว่าจะยังไง พวกเราต้องไปสำรวจดู ถึงจับพวกมันไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะรวบรวมเบาะแสะบางอย่างได้บ้าง สกายเน็ตไม่สามารถนั่งเฉย ปล่อยให้อันตรายที่ซ่อนอยู่เติบโตขึ้น”

ฮังอวี่พยักหน้า “โอเค ไปกันเถอะ”

ฉูเทียนหัว จูหยาง หวังจุนเหวิน และลูกทีมทั้งหมดรวม 20 คน มี 14 คนอยู่ในเลเวล 7 แล้ว ส่วนที่เหลือแม้อ่อนแอกว่า แต่ก็ไม่มีใครต่ำกว่าเลเวล 6

หากเพิ่มฮังอวี่ เสี่ยวไป๋ และหวังเอ๋อเข้าไป

ปฏิบัติการนี้ไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่

เพราะสุดท้ายแล้ว ฮังอวี่ ฉูเทียนหัว และเสี่ยวไป๋ต่างก็มีเลเวล 9 และหวังเอ๋อยังมีพลังรบในระดับเจ้าถิ่น นอกจากนี้ ทุกคนยังมีไพ่ตายอยู่ในมือ

และไพ่ตายที่ว่า หากจะบอกว่ามันสามารถใช้พลิกสถานการณ์ได้เลย

ก็ไม่ใช่เรื่องโอ้อวดเกินจริง

พื้นที่ในเขาวงกตใต้ดินเล็กและแคบ

แทนที่จะใช้กองทัพใหญ่ที่อาจกลายเป็นขวางมือขวางเท้ากันเอง สู้ใช้ทีมขนาดกลาง จำนวนคนไม่มากไม่น้อยแบบนี้จะดีกว่า

อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่มีข้อสงสัยในใจ

หากอธิบายให้ชัดขึ้น เขารู้สึกถึงความไม่สมเหตุสมผลเล็กน้อย

คนที่ชื่อหวังจุนเหวินอยู่แค่เลเวล 7 ส่วนลูกน้องเขาเกือบทั้งหมดอยู่ในเลเวล 6 แม้ในแง่ของเลเวล อุปกรณ์ และสกิลมรดกจะถือว่าเป็นยอดฝีมือ

แต่นั่นมันในกรณีเทียบกับคนธรรมดา

หากอยู่ต่อหน้าผู้รุกรานจากโลกวิญญาณ พวกเขาเป็นได้แค่คนอ่อนแอ

ดังนั้น มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่อีกฝ่ายจะปล่อยให้พวกหวังจุนเหวินรอดมาได้

เว้นแต่ว่าคำอธิบายของ หวังจุนเหวินจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด

แน่นอน จะตัดประเด็นที่ว่าหวังจุนเหวินมีไพ่ตายเก็บงำไว้ออกไปไม่ได้เช่นกัน

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานั้น จึงเป็นการยากที่จะสรุป

ในที่สุดฝูงชนก็มาถึงซากปรักหักพังที่ผู้รุกรานจากโลกวิญญาณทั้งสามซ่อนตัวอยู่

หวังเอ๋อ “ฮ่ง สถานที่นี้แปลกมาก เหมือนกับสุสานมนุษย์เลย”

สถานที่นี้ใหญ่โต

ใหญ่โตจนน่าตกใจ

พื้นดินเต็มไปด้วยแผ่นหินคล้ายป้ายหลุมศพ

ส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ไม่เพียงแต่สถานที่เท่านั้น แต่พื้นที่อีกหลายแห่งที่เชื่อมต่อกับสถานที่แห่งนี้ ล้วนมีโครงสร้างคล้ายคลึงกัน ราวกับมีการย้ายสุสานขนาดใหญ่มาที่นี่

ฮังอวี่เอ่ยถามว่า “นายเจออะไรไหม?”

หวังเอ๋อก้มหัวลงและทำจมูกฟุดฟิด ทันใดนั้นมันเงยหน้าขึ้นและมองไปยังทิศทางหนึ่ง “ถึงกลิ่นส่วนใหญ่จะถูกลบออกไป แต่เปิ่นหวังยังพอระบุได้ เป็นพวกมันสามคนจริงๆ!”

สุนัขขึ้นเป็นระดับเจ้าถิ่นแล้ว

ความสามารถในการตรวจสอบของมันจึงแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก

“พาพวกเราไปที่นั่นเร็ว!” ลั่วหยวนเจิ้งเผยท่าทีดีใจ “ทุกคนเตรียมพร้อมรับการต่อสู้!”

ฝูงชนเดินเข้ามาในบริเวณนี้เป็นเวลาสิบนาที

หวังเอ๋อรู้สึกได้อย่างชัดเจน

ว่าระยะทางกำลังใกล้เข้ามา

ในสกายเน็ต ยอดฝีมือที่มีสกิลสอดแนมระยะไกลกล่าวขึ้นว่า “หัวหน้าฉู หัวหน้าลั่ว ฉันเห็นแล้ว พวกมันอยู่ข้างหน้า พวกเราเจอมันจริงๆ!”

“ยอดเยี่ยม!”

“ลงมือได้!”

“ครั้งนี้เราจะไม่ปล่อยให้พวกมันหนีไปได้อีก!”

ซุนเฉาเซิ่งและเหล่าหัวหน้าทีมจากสกายเน็ตต่างตื่นเต้น

“อย่าประมาทคู่ต่อสู้” คิ้วของฉูเทียนหัวขมวดเข้าหากันสัญชาตญาณอันเฉียบแหลมบอกเขาว่า “มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”

“ใช่”

ลั่วหยวนเจิ้งเองก็ไม่ใช่คนโง่เขลา

ปฏิบัติการค้นหานี้ราบรื่นเกินไป

ในฐานะหัวหน้ากองที่มีหน้าที่ควบคุมจัดการพลรบของสกายเน็ตนับพัน

เขาไม่สามารถปราศจากความระมัดระวังได้ ดังนั้นการที่ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น มันกลับทำให้เขาเกิดความแคลงใจ

“ทุกคนระวังตัวให้ดี!”

“อาจมีกับดัก!”

ลั่วหยวนเจิ้งเอ่ยไม่ทันขาดคำ ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นข้างหลังเขา

เมื่อสายตาของทุกคนหันไป ปรากฏว่าจู่ๆหวังจุนเหวินและคนของเขาลอบโจมตีคนอื่นๆจากด้านหลัง มีสมาชิกสกายเน็ตสองคน และชนชั้นยอดจากสมาคมโลกวิญญาณสามคนถูกทำร้ายโดยไม่ทันตั้งตัว

ฮังอวี่เฝ้าระวังเป็นเวลานานแล้ว

แสงสีเขียวสาดไสว หินคริสตัลเขียวถูกจ่ายไปกว่า 40 ก้อน หอกนายพลมนุษย์มังกรถูกนำออกมา

ตัวหอกกวาดใส่คู่ต่อสู้ ปลายหอกกรีดร่างศัตรู ส่งลูกน้องสองคนของหวังจุนเหวินลอยขึ้นอย่างอากาศทันที หยุดการปองร้ายของพวกเขา ลดการบาดเจ็บล้มตายที่อาจมากขึ้น

จูหยางกล่าวอย่างโกรธเคือง “หวังจุนเหวินนี่แกบ้าไปแล้ว!?”

หวังจุนเหวินไม่คิดว่าฮังอวี่จะตอบสนองเร็วขนาดนี้ เขารีบถอยห่างออกมา จ้องมองคนเบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นชา

ฉูเทียนหัวเหลียวมองสมาชิกที่ได้รับบาดเจ็บ

พลรบสกายเน็ตหนึ่งคนและสมาคมโลกวิญญาณสองคนเสียชีวิต

หวังจุนเหวินและคนอื่นๆไม่ได้ถูกควบคุมโดยคาถาทางจิตที่ทำให้สูญเสียจิตใจ แต่พวกเขาจงใจทำแบบนี้เอง ตั้งใจถึงขั้นใช้คัมภีร์สกิล หากไม่ใช่เพราะถูกฮังอวี่พุ่งเข้าขัดขวาง อาจมีคนเจ็บหนักมากกว่านี้

หากช้าไปอีกไม่กี่วิ

การบาดเจ็บล้มตายจะรุนแรงขึ้น

เจตนาฆ่าทอวาบในดวงตาของฉูเทียนหัว

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันไม่ได้บ้า พวกแกต่างหากที่โง่ ตอนนี้ฉันได้เป็นสมาชิกสำรองของสมาคมฤาษีลี้ลับแล้ว ถ้าจะโทษ ก็โทษที่ความคิดของพวกเราไม่ตรงกันเถอะ!” ใบหน้าขาวๆของหวังจุนเหวินเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง “การมีอยู่ของพวกแกเป็นภัยต่อสามผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นพวกแกต้องตาย!”

ฝูงชนแตกตื่นตกใจ

เจ้าหมอนี่แปรพักตร์ไปอยู่กับขุมกำลังจากโลกวิญญาณ?

มี ‘คนทรยศ’ ปรากฏขึ้นในมนุษยชาติแล้ว!

หวังจุนเหวินจงใจปล่อยเบาะแส แล้วล่อพวกเขามาที่นี่!