ตอนที่แล้ว670 - ภูเขาซูมี่ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป673 - แผนการของตระกูลหวัง

671 - หวังสือ


1981 - หวังสือ

“ราชันย์สิบสมัยมาแล้ว!”

มีคนร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเห็นชายคนหนึ่งเดินเข้ามาจากความว่างเปล่าการเคลื่อนไหวอันทรงพลังสร้างความเลื่อมใสให้กับทุกคน

นี่เป็นวีรบุรุษที่เข้าร่วมการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของชายแดนรกร้างคนที่กล้าต่อสู้กับทายาทตระกูลจักรพรรดิจากต่างมิติ หนึ่งในความภาคภูมิใจของสวรรค์ในอดีต!

การปรากฏตัวของเขาทำให้เกิดความโกลาหลผู้คนมากมายต่างอย่างชื่นชมรัศมีความแข็งแกร่งของเขา

ในระยะไกลเฉาอวี่เซิ่งและคนอื่นๆก็หยุดเมื่อเห็นป้ายที่ปักอยู่ด้านหน้าภูเขาซูมี่

ฮ่อง! เจ้าหมาน้อยเห่าออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

“ใครเป็นคนเขียนป้ายนี้” มันจ้องมองออกไป

“อย่าก่อปัญหา” - สือฮ่าวตักเตือน

แม้จะอยู่ไกลพวกเขาก็ยังเห็นป้ายที่เขียนว่า 'สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดและสุนัขไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป'

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ดวงตาของสุนัขตัวน้อยจะเบิกกว้างด้วยความโกรธอย่างรุนแรง

“มารดามันเถอะ... ใครกล้าดูถูกผู้ยิ่งใหญ่คนนี้กัน!”

หวังต้าถูกจับต่อหน้าทุกคน ทำให้ตระกูลหวังโกรธแค้น พวกเขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนลึกลับผู้นั้น แต่พวกเขารู้ว่ามีสุนัขตัวเล็กๆที่กล้าข่มขู่แม้แต่ตระกูลอมตะ

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาพวกเขาได้ทราบมาว่าสุนัขตัวนั้นมันร่วงหล่นลงมาจากอาณาจักรความเป็นอมตะ ไม่ได้มีความแข็งแกร่งเช่นอดีต

คนของตระกูลหวังนั้นเลวทรามมาก นี่น่าจะเป็นงานของพวกเขาเพราะหวังสือเป็นหนึ่งในผู้เสนอการประชุมที่โดดเด่นนี้

สุนัขตัวน้อยโกรธจัด กัดฟันอยู่ตรงนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะสือฮ่าวรั้งไว้ มันอาจจะกรีดร้องออกมาโดยตรงและบดขยี้ทุกคนของตระกูลหวัง

“เราไปดูรอบๆก่อนเถอะ อย่าเพิ่งรีบร้อนสร้างปัญหา” สือฮ่าวพูด พยายามเอาใจมัน

เจ้าหมาน้อยครุ่นคิดเล็กน้อย รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว พวกเขาควรลองดูว่าคนเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวแบบไหนก่อน

ในตอนนี้ เด็กสาวผมสีเงินปรากฏตัวขึ้นด้วยใบหน้าท่าทางของเด็กอายุสิบสองหรือสิบสามปี ผิวพรรณของนางเหมือนหยกเนื้อดี ใบหน้าของงดงามคล้ายกับเทพธิดา

ผมยาวสีเงินห้อยลงมาที่เอวของเป็นประกายแวววับ นัยน์ตาสีทับทิมที่ใหญ่โตฉายความฉลาดออกมา

นั่นคือกระต่ายหยกจันทรานั่นเอง นางกอดกิเลนตัวน้อยไว้ในอ้อมอกพร้อมกับกระโดดเข้ามาอย่างร่าเริง

“กระต่ายน้อย!” ดวงตาของสุนัขตัวน้อยขยับไปมา ด้วยเสียงซู่ วูบวาบมันกลายเป็นกระต่ายสีขาวตัวเล็กๆเขย่าก้นของมันตามหลังกระต่ายหยกจันทราไป

“เจ้าหมานี่!” เฉาอวี่เซิ่งรู้สึกหงุดหงิดทันที สุนัขตัวน้อยตัวนี้พยายามหลอกล่อเพื่อนเก่าของเขา

“วายา! กระต่ายน้อยตัวนี้มาจากไหน? มันน่ารักมากๆ!” กระต่ายหยกจันทราโยนกิเลนที่นางถืออยู่ทิ้งทันทีจากนั้นก็หยิบ 'กระต่ายตัวน้อย' จากพื้นขึ้นมาอุ้มไว้

“สุนัขตัวน้อยคิดว่านางกำลังชื่นชมมันแต่แท้ที่จริงนางกำลังชื่นชมตัวเองต่างหาก” สือฮ่าวที่ยืนอยู่ในระยะไกลพูดไม่ออก กระต่ายหยกจันทราก็คือกระต่ายตัวหนึ่งนั่นเอง!

ในตอนแรกกิเลนตัวน้อยยังคงหลับอยู่แต่สุดท้ายมันก็ถูกโยนลงพื้นจนต้องตื่นขึ้นมา

เจ้าหมาน้อยก็รู้สึกไม่สบายเช่นกัน เพราะเมื่อมันถูกหยิบขึ้นมา มันก็ถูกบีบและลูบไปทั้งตัว และหูของมันก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว

ฮ่อง! มันเผยให้เห็นเขี้ยวของมันทันที

“ยี เจ้าเห่าก็ได้ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้”

สุนัขตัวน้อยเกือบอาเจียนเป็นเลือด ใบหน้ากลายเป็นสีแดงก่ำ มันอายุเท่าไหร่? กลับถูกคนบอกว่าน่ารัก! มันแทบจะกระโดดขึ้นและวิ่งทันที

“ฮี่ฮี่…” เฉาอวี่เซิ่งหัวเราะเยาะ

พวกเขาเริ่มปีนขึ้นด้านบนของยอดเขาซูมี่

ในระยะไกลมีร่างที่งดงาม เสื้อผ้าสีขาวบริสุทธิ์กว่าหิมะที่กำลังจิบชาอยู่ นางมีผมยาวสีดำสลวย ผิวของนางเหมือนหิมะ ดวงตาสดใสและฟันที่ขาวราวไข่มุก

นางเป็นเทพธิดาของนิกายเสริมฟ้าชิงยี่และเยว่ฉานนั่นเอง

มีคนคุ้นเคยมากมายรอบตัวพวกเขา ตัวอย่างเช่นฉวีโต้ว ราชันย์สวรรค์น้อย ทัวปาอู่หลงและคนอื่นๆ

หลังจากนั้นไม่นานสือยี่นัยน์ตาคู่ ผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและคนอื่นๆก็เข้ามาดึงดูดความสนใจอย่างมาก

“พวกเขาเป็นกำลังหลักของผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ในสงครามชายแดนรกร้าง ข้าสงสัยว่าตอนนี้พวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน!”

มีคนกำลังพูดคุยกันเบาๆรู้สึกว่าพวกนี้ควรเป็นคนรุ่นหลังที่มีอำนาจมากที่สุดของโลกปัจจุบัน

หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ มีคนจำนวนมากลุกขึ้นยืนเพื่อต้อนรับพวกเขา

“หวังสือมาแล้ว ผู้สืบทอดที่ทรงพลังที่สุดของตระกูลหวัง!”

“เก้ามังกรของตระกูลหวังยิ่งอายุน้อยยิ่งมีพลัง ใครจะคิดว่าจะมีมังกรตัวที่สิบ! เขาเป็นถึงลูกของเซียนอมตะหวัง ลือกันว่าเขาคือผู้ที่ถูกประทานพรจากเต๋าอันยิ่งใหญ่!”

ทุกคนเริ่มพูดคุยกันเองทันที หลายคนลุกขึ้นต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม

หวังสือมาถึงแล้ว เขามีรูปร่างปานกลางไม่สูงเกินไปและไม่เตี้ยเกินไป ใบหน้าของเขาบอบบางและหล่อเหลามาก

ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มหน้าสนิทสนมอย่างยิ่ง แต่ไม่มีใครกล้าคิดว่าเขาไม่เป็นอันตราย เพราะเขาเป็นมังกรร้ายที่จำศีลมาอย่างยาวนาน

ทุกคนรู้ว่าเขามีพลังเหนือใคร ร่างกายที่เปล่งประกายของเขามีพลังเทียบได้กับมังกรที่แท้จริงในระดับเดียวกัน

“ตระกูลหวังนั้นไม่ธรรมดาเลย!” ใครบางคนกล่าวพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

นับตั้งแต่ที่พวกเขาเห็นหวังสือผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงทุกคนก็รู้สึกถึงความกลัวราวกับว่าพวกเขาได้พบกับมังกรดุร้ายรูปร่างมนุษย์

ความรู้สึกของทุกคนคล้ายกับว่าพวกเขากำลังตกเป็นเป้าหมายของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์

คนธรรมดาไม่เข้าใจสิ่งนี้ พวกเขาจะรู้สึกได้ว่าหวังสือสงบและอ่อนโยน ราวกับชายหนุ่มไร้เดียงสาที่น่าคบหาจริงใจ

อย่างไรก็ตามผู้ที่มีการฝึกฝนลึกซึ้งกว่านั้นยิ่งทำให้พวกเขาตื่นตระหนกมากขึ้น

มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเขาซึ่งเมื่อปะทุแล้วจะเขย่าสวรรค์และเคลื่อนปฐพีทำให้ดวงดาวมากมายอับแสงลง

สือฮ่าวก็อยู่ที่นี่เช่นกันเขาขึ้นไปบนภูเขาซูมี่ที่แตกสลาย หวังสือคนนี้ไม่ธรรมดาเลย เป็นบุคคลที่น่าเกรงขาม

สือฮ่าวสามารถสัมผัสได้ถึงสัญลักษณ์เต๋าที่ยิ่งใหญ่ภายในร่างกายของเขา พลังอันน่าอัศจรรย์ภายในตัวเขาน่าจะมีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด เขาคือลูกรักของสวรรค์นั่นเอง

หวังสือและเซียนอมตะหวังมีใบหน้าค่อนข้างคล้ายกัน ทั้งคู่มีลักษณะที่ละเอียดอ่อน หล่อเหลามาก

ในเวลาเดียวกันก็มีพรสวรรค์ที่โดดเด่น ในยุคที่ยิ่งใหญ่นี้มีไม่กี่คนที่สามารถเปรียบเทียบเขาได้

“สหายเต๋าเกรงใจเกินไป ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทมากนัก” หวังสือยิ้ม เมื่อเขาเห็นผู้คนมากมายเดินเข้ามา เขาก็ประสานมือทักทายโดยไม่ถือตัว

ข้างหลังเขาตามมาด้วยหวังซีที่ยังคงอ่อนช้อยและงดงาม อย่างไรก็ตามในขณะที่ยืนอยู่ข้างหวังสือรัศมีความสดใสที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของนางนั้นไม่สามารถเทียบเขาได้

รูปร่างหน้าตาของนางจะยอดเยี่ยมมาก เพียงพอที่จะดึงดูดใจแม้แต่วิหคและสัตว์ป่า อย่างไรก็ตามสถานการณ์เลวร้ายลง เจตจำนงของผู้คนไม่แน่นอน ทุกคนต่างพิจารณาถึงคนที่พวกเขาสามารถพึ่งพาได้

ท่ามกลางความเป็นความตายเช่นนี้หวังสือคืออัจฉริยะที่โดดเด่นกว่านางย่อมเป็นที่น่าใกล้ชิดมากกว่า

ทันใดนั้นทุกอย่างก็นิ่งสงบ เสียงพิณขององค์หญิงก็เหยาเยว่หยุดลง แต่นกกว่าร้อยตัวก็ไม่ได้กระจัดกระจายไปไหน นกศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นยังคงเต้นรำอยู่เคียงข้างนาง

หวังสือปรบมือและกล่าวด้วยความชื่นชมว่า

“ท่วงทำนองของเซียนสวรรค์ คดเคี้ยวไปมาทำให้หัวใจเต๋าของข้าเกิดความมั่นคง ฝีมือการบรรเลงขององค์หญิงไม่ธรรมดาจริงๆ”

คนอื่นๆทุกคนเห็นด้วยในทันที โดยยกย่องทักษะพิณขององค์หญิงเหยาเยว่

“ยินดีที่ได้พบสหายเต๋าทุกท่าน” จากนั้นหวังสือก็มีรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้า ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยมารยาทขณะที่ประสานมือทักทายผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ทุกคนที่อยู่ที่นี่

เขาเป็นคนที่ลื่นไหลมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี นี่เป็นความประทับใจครั้งแรกของสือฮ่าว หวังสือแข็งแกร่งมากแม้แต่ตัวสือฮ่าวเองก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่ธรรมดา

ในขณะเดียวกันหวังสือก็กลายเป็นจุดสนใจโดยไม่ต้องสงสัย เขาดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างง่ายดาย หลายคนรีบวิ่งไปรอบๆ ตัวเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด