ตอนที่แล้วSN-ตอนที่ 6 ชุดสูทเฟรม!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSN-ตอนที่ 8 เพื่อน

SN-ตอนที่ 7 โกสต์


“เขาคือ เซ็ท จากตระกูล โซลาร์!”เสียงที่น่าเกรงขามของนักเรียนผู้วิวัฒได้ดังขึ้น ขณะที่พวกเขามองขึ้นไปที่ครีบหลังที่อวดดีราวกับว่านี่เป็นการเสด็จลงมาของพระเจ้า

อัลดิช ได้เฝ้าสังเกตุอย่างระวัง

ในบรรดานักเรียนผู้วิวัฒหลาย 10 คน ที่วนเวียนอยู่รอบตัวของเขา มี 6 คน ได้หมกมุ่นอยู่กับการจ้องมอง เซ็ท ด้วยความหวาดกลัว จากนั้นพวกเขาก็ล่าถอยออกไปโดยไม่หวังที่จะแยก อัลดิช ออก เพื่อรับคะแนนของเขา

สิ่งนี้หมายความสิ่งนึง : เซ็ท โซลาร์ คนนี้เป็นตัวอันตราย

ในฐานะบุคคลที่ทรงพลัง เซ็ท โซลาร์ คนนี้แข็งแกร่งกว่าผู้วิวัฒทั่วไปเป็นอย่างมาก

โดย อัลดิช ได้ประเมินอย่างรอบคอบว่าเขาสามารถทำอะไรกับ เซ็ท ได้บ้าง แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย

นามสกุล ‘โซลาร์’ เป็นชื่อที่เกือบทุกคนนั้นรู้จัก เนื่องเพราะในหมู่พวกเขามีองค์ประกอบทางพันธุกรรมที่พิเศษบางอย่าง ทำให้ ลูกหลานของตระกูลนี้ได้รับพลังความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับพลังจากพ่อแม่ของพวกเขา

ผลที่ได้คือ เหล่าฮีโร่ระดับสูง ได้ก่อตั้งตระกูลชนชั้นสูงขึ้นสิ่งนี้ก็เพื่อให้ อิทธิพล ชื่อเสียง และ อำนาจของพวกเขาได้แผ่ขยายออกไป

ตระกูล โซลาร์ เป็นหนึ่งในตระกูลชนชั้นสูง โดย หัวหน้าและสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาก็คือ โซโลมอน โซลาร์ ฮีโร่ที่มีพลังอันน่าเหลือเชื่อที่ติดอันดับ 15 จาก ซูเปอร์บอร์ด 100 อันดับแรก ซึ่งกำหนดจากฮีโร่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดทั่วทวีปอเมริกาเหนือ

ความสามารถของ โซโลมอน โซลาร์ นั้นคือ ‘ซันไลต์โอเวอร์ไดรฟ์’ ด้วยความสามารถนี้ เขาสามารถดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่ร่างกายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวเอง โดยเขาได้ใช้มันทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น รวดเร็วมากยิ่งขึ้น กระทั่ง ทนทานอย่างน่าเหลือเชื่อ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความเร็วของเขาที่สามารถบินได้ด้วยความเร็วเหนือเสียง หรือกระทั่งปล่อยลำแสงความร้อนออกมาจากดวงตาของเขา

ถ้า เซ็ท โซลาร์ ได้สืบทอดพลังของ โซโลมอน โซลาร์มาสัก 1 ใน 100 ก็คงไม่มีอะไรที่ อัลดิช จะสามารถทำอะไรเขาได้ โดยเฉพาะในตอนนี้

มีข่าวลือว่าเหล่าฮีโร่จากตระกูลโซลาร์มีจุดอ่อนเฉพาะที่ทำให้พวกเขาพิการไปได้ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ตระกูลโซลาร์ ก็ได้ว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ระดับสูงสุดและบริษัทรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตเพื่อขจัดร่องรอยของพวกมันออกจาก Globe Net

เซ็ท ได้สั่นศีรษะโดยมองไปที่นักเรียนผู้วิวัฒสองคนที่ถูก อัลดิช ทุบตี

“เป็นถึงผู้วิวัฒกลับพ่ายแพ้ให้กับ ขยะ ที่สวมใส่ชุดหุ่นกระป๋อง นี่ช่างเป็นความอัปยศโดยแท้จริง—”เซ็ท ได้เยาะเย้ย ต่อ ผู้วิวัฒทั้ง 6 ที่รายล้อม อัลดิช “กะอีแค่ขยะไร้ค่าคนนึงพวกแกทุกคนกลับไม่สามารถเอาชนะได้ ดูเหมือนว่า พวกแกทุกคนก็ไม่ต่างไปจากขยะไร้ค่าพวกนี้”

หลังจากพูดจบ เซ็ท ก็พุ่งลงมาราวกับดาวหาง โดยความเร็วของเขานั้นเร็วมากจนสายตามนุษย์นั้นมองไม่เห็น หลังจากที่เขามาถึงที่ด้านหน้าของ อัลดิช เขาก็ได้ปลดปล่อยพลังขนาดใหญ่ออกมาจนสร้างคลื่นกระแทกส่งร่างของ อัลดิช และ ผู้วิวัฒที่อยู่ใกล้เคียงทุกคนล่าถอยออกไป

อัลดิช ได้พลิกตัวกลางอากาศในทันที เขาเผยให้เห็นความสามารถในการบังคับชุดเฟรมที่ดีของเขา แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับพลังอำนาจที่ล้นหลาม เขาก็จะไม่ยอมแพ้

อย่างไรก็ตาม นักเรียนผู้วิวัฒเหล่านี้มีการฝึกฝนที่น้อยกว่ามาก ทันทีที่พวกเขาถูกคลื่นกระแทก พวกเขาก็ล้มตัวลงและส่งเสียงคร่ำครวญออกมา

“พวกขยะ”เซ็ทได้ถ่มน้ำลายออกมาในทันที จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างนักเรียนผู้วิวัฒคนอื่น พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมาอีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้ นักเรียนอีก 2-3 คน ได้ถูกคลื่นกระแทกจนกระอักเลือดออกมา

หลังจากทำทั้งหมดนี้ เซ็ท ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้า อัลดิช ด้วยรอยยิ้มที่บ้าคลั่ง

ภายใต้กระบวนการก่อนหน้านี้ เซ็ทสามารถเอาชนะคนทั้ง 6 คน ได้ภายในเสี้ยววินาที

นี่คือพลังพิเศษ มันคือพลังพิเศษที่เหนือจินตนาการที่เขาได้รับมาตั้งแต่แรกเกิด

อัลดิช รู้สึกเกลียดชังพลังแบบนี้เป็นอย่างมาก มันเป็นสิทธิของคนที่แข็งแกร่งที่มีทุกอย่างตั้งแต่ยังเป็นทารกอย่างแท้จริง โดยสิทธิพิเศษดั่งกล่าวสามารถทำให้ผู้วิวัฒคนนั้นมีพลังอำนาจมากกว่าผู้วิวัฒคนอื่น

“หึ่ม ดูเหมือนว่าแกจะดูลำพองเป็นอย่างมากหลังจากเอาชนะ ผู้วิวัฒคนอื่นได้งั้นสินะ”เซ็ทได้กล่าวพูดอย่างเย็นชาก่อนที่จะกวัดมือไปที่ด้านหน้าของ อัลดิช “เอาล่ะ ฉันอยู่ตรงนี้ แสดงให้ฉันเห็นหน่อยว่าแกทำอะไรได้บ้าง!”

อัลดิช ได้ควบคุมแรงขับเคลื่อนที่แขนขวาของเขาและพุ่งตรงไปที่ด้านหน้าของเซ็ท

เซ็ทได้ยืนนิ่งโดยปล่อยให้หมัดนั้นโจมตีมาที่ศีรษะของเขาโดยตรง สิ่งนี้ทำให้เสียงที่ปะทะกันดังส่งเสียงกึกก้องเป็นอย่างมาก และ เมื่อ อัลดิช ถอนกำปั้นของเขากลับมา เขาก็พบว่า กำปั้นของเขาได้บิดเบี้ยวราวกับว่าพวกมันได้ชกเข้าไปที่ของแข็งบางอย่าง

เซ็ท ยิ้มให้กับ อัลดิช โดยที่ศีรษะของเขาไม่มีแม้แต่ผมเส้นเดียวที่เสียหาย

“นั่นแหล่ะ นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น ไม่ว่าแกจะพยายามมากแค่ไหน แกก็สามารถทำได้แค่นี้ ดังนั้นแกคิดว่าหลังจากที่ตัวเองพยายามฝึกฝนอย่างหนักและจะสามารถเทียบเคียงพวกเราได้งั้นหรือไม่?”เซ็ท ได้กล่าวออกมา“ระหว่างคนที่เกิดมาเป็นคนพิเศษกับคนที่เกิดมาไม่มีอะไรเลยแบบพวกแกมันมีช่องว่างขนาดใหญ่กั้นอยู่!”

จากนั้น เซ็ท ก็กางฝ่ามือออกกระแทกเข้าใส่หน้าอกของ อัลดิช ก่อนที่เขาจะได้ทันตอบโต้เสียอีก อัลดิช รู้สึกเหมือนกับว่ามีรถบรรทุกพุ่งชนเขา มันส่งผลให้เขาถูกส่งลอยไปไกลหลาย 10 เมตร เขาได้ลื่นไถลจนโครงร่างของเขาเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก

จากนั้นไฟแดงก็กะพริบในวิสัยทัศน์ของ อัลดิช และ แผนภาพของชุดเฟรมก็ปรากฏในมุมมองการมองเห็นของเขา ดูเหมือนว่ารอยแดงขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นตรงหน้าอกและช่องท้องของชุดเฟรม ซึ่งมันได้บอกถึงความเสียหายร้ายแรง

อัลดิช ได้พยายามลุกขึ้น แต่ผลกระทบดั่งกล่าว ไม่เพียงแต่ทำให้ ชุดของเขาเสียหาย แต่เขายังได้รับบาดเจ็บจนซี่โครงบางส่วนของเขาได้แตกหัก ดังนั้นทั้งหมดที่เขาทำได้คือการคุกเข่าข้างนึงอย่างสั่นคลอน

เอเลเน่ ได้สะดุดต่อหน้าอัลดิช และ ใช้แขนข้างนึงเพื่อช่วยพยุงเขา

“ยืนไหวมั้ย?”เอเลเน่ ได้กล่าวออกมา“ฉันสามารถช่วยรั้งเขาไว้ได้สัก 2-3 วินาที และ ฉันไม่รับประกันว่าจะทำอะไรได้มากไปกว่านี้”

“โอ้ ดูเธอสิ เธอคือผู้หญิงเมื่อตอนนั้นสินะ ดูเหมือนว่าเธอจะดูมีความกล้ามากขึ้นนะ”เซ็ทได้เลียริมฝีปากของเขา

“แต่เห็นเช่นนี้ฉันก็ชอบ แน่นอนว่าฉันจะไม่ทุบตีเธอ เพราะฉันไม่อยากทำลายใบหน้านั่น แถมนี่มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว พวกแกทุกคนมันไม่ควรค่าแก่การเสียเวลาของฉัน ที่ฉันลงมือก็เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่า มดไร้ค่าก็ควรจะอยู่ในที่ของตัวเองไป เพราะพวกมดมันไร้ความสามารถยังไงล่ะ”เซ็ท ได้กล่าวพูดขณะที่เขากอดอก จากนั้นเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศ “โกสต์ จัดการพวกมันซะ ฉันจะไปบดขยี้ ผู้วิวัฒที่ดูน่าสนใจกว่านี้”

จากนั้น เซ็ท ก็บินออกไป โดยปล่อยให้ อัลดิช และ เอเลเน่ อยู่ตามลำพัง และ อดัม ยังคงหมดสติ

“โกสต์?”เอเลเน่ กล่าวพูดขณะที่เธอมองไปยังพื้นที่โดยรอบเพื่อพยายามจะมองหาว่า ‘โกสต์’ คนนี้อยู่ที่ไหน

จากเบาะแสบริบทที่ชัดเจน และ การที่อีกฝ่ายยังไม่ปรากฏตัวทำให้เขาถูกเรียกว่า ‘โกสต์’ ซึ่ง อัลดิช เชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูที่มองไม่เห็น

“ใช้ระบบสแกนพื้นที่ โดยการตรวจจับภาพความร้อน เรดาร์แบบใช้เสียง และ การสแกนแบบ AC”อัลดิช ได้กล่าวพูดขณะที่เขาไอออกมา เขาได้กัดฟันแน่น และ พยายามจะทำให้เครื่องสแกนของชุดเฟรมทำงาน แต่ดูเหมือนว่าการโจมตีของ เซ็ท จะทำให้ชุดของเขานั้นเสียหาย

“เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เอเลเน่ ได้พูดขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเคลื่อนไหวคล่องขึ้น และ คุ้นเคยกับเฟรมของเธออย่างรวดเร็ว

“ตรงนั้น!”หลังจากสแกนเสร็จ เธอก็หมุนตัว และ เตะขาออกไปที่ระดับศีรษะของศัตรูที่มีขนาดเท่ามนุษย์ซึ่งอยู่ตรงหน้าของเธอ อย่างไรก็ตาม การเตะของเธอกลับพุ่งผ่านอากาศไป

“ต้องขอโทษด้วย การโจมตีนั้นมันไม่ใช่ไม่ได้ผลกับฉัน”เสียงที่เรียบง่ายได้ดังขึ้น

อัลดิช ได้มองดูคลื่นเล็ก ๆ ที่บิดเบี้ยวในอากาศ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ขาของ ชุดเฟรมเอเลเน่ จากนั้น เหล็กเหล่านั้นก็ถูกขยำจนกลายเป็นรูขนาดเท่าแขน จนทำให้เอเลเน่ นั้นก้มหน้าลงอย่างหนัก ดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะหยุดทำงาน

จากนั้น ชายหนุ่มคนนึงก็ปรากฏตัวออกมาให้เห็น โดยเขาเป็นชายร่างผอมที่มีผิวที่ซีดเซียว ผมสีขาว และ ดวงตาสีแดงที่ดูดุร้าย “การล่องหนเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ แต่ทว่าฉันก็สามารถหลอมรวมตัวเองให้กลายเป็นสสารได้ และ เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะสามารถซ้อนทับสสารที่ฉันมีอยู่ได้”

โกสต์ได้ปรากฏตัวที่ด้านหลังชุดของเอเลเน่ และใช้แขนของเขาสัมผัสกับแผ่นเหล็กราวกับว่าเขากำลังจุ่มมันลงไปในน้ำ “ฉันเป็นฝ่ายชนะแล้ว”

แขนของ โกสต์ ค่อย ๆ เคลื่อนกลับมา และ หลังจากที่ทำเช่นนั้น เหล็กรอบ ๆ ตัวเขาก็บิดเบี้ยวและแตกออกเป็นชิ้น ๆ  สิ่งนี้ ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อชุดเฟรมของ เอเลเน่ จนทำให้ชุดของเธอหยุดทำงาน

อัลดิช ที่สังเกตุเห็น เขาได้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของ โกสต์ในทันที โดยเขาเล็งเห็นแขนของโกสต์ที่ทะลุผ่านเฟรมของเอเลเน่ แม้ว่าเขาจะทำเช่นนั้น แต่ร่างกายที่มีชีวิตของเอเลเน่ ก็ไม่ได้รับผลกระทบ ราวกับว่าสิ่งนี้ได้ทะลุผ่านร่างกายของเธอไป

สิ่งนี้หมายความว่า โกสต์ไม่สามารถใช้ความสามารถของเขาในการทำร้ายสิ่งมีชีวิตได้

“อืม นั่งสบายไม่เลว”โกสต์พูดขณะที่นั่งบนชุดสูทที่นอนคว่ำของเอเลเน่ จากนั้นเขาก็ใช้มือเริ่มลูบไล้ไปตามผิวหนังที่เปลือยเปล่าด้านหลังของเธอ เอเลเน่ ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนอนอยู่นิ่ง ๆ เพราะเฟรมของเธอได้หุ่อหุ้มร่างกายของเธอเอาไว้จนทำให้มันเปรียบเสมือนคุกเหล็กที่ไม่สามารถทำให้เธอเคลื่อนไหวอะไรได้

“หัวหน้าบอกให้ฉันละเว้นเธอ แต่ไม่ใช่กับเขา—”

โกสต์ได้ลุกออกจากหลังของเอเลเน่ และ จ้องมองไปที่ อัลดิช เขาได้ดึงเหล็กออกจากบริเวณหน้าอกของ อัลดิช พร้อมกับ กดมือลงไปบนหน้าอกของเขาที่ถูกทุบตีจาก เซ็ท “อุ๊ย มันน่าจะเจ็บนะเนี่ย ดูเหมือนว่า ซี่โครงน่าจะหัก 2-3 ซี่ ละมั้ง”

จากนั้น โกสต์ก็เพิ่มความแรงลงไป

สิ่งนี้ทำให้ อัลดิช หายใจออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่ได้ร้องหรือส่งเสียงใด ๆ ออกมา ราวกับว่าเขาเคยชินกับความเจ็บปวด และ สามารถอดทนต่อมันได้ เพราะเขารู้ว่าการแสดงออกเช่นนั้นเป็นสัญญาณของการเปิดเผยความอ่อนแอออกไปให้คนอื่นเห็น และ มันจะเป็นการเชื้อเชิญทำให้ศัตรูมอบความเจ็บปวดให้มากขึ้น

“น่าเบื่อ”โกสต์ได้กล่าวพูดออกมา เขาได้ยักไหล่หลังจากเห็นปฏิกิริยาของ อัลดิช “จะร้องออกมาสักหน่อย หรือ อ้อนวอนสักหน่อยก็ไม่ได้”

จากนั้น โกสต์ก็ผลักอัลดริช ให้นอนคว่ำลง และ ปล่อยให้เขาไร้ความสามารถต่อไป

“แล้วเจอกันใหม่นะพวกขี้แพ้คลาส F ดูเหมือนว่าชุดเฟรมพวกนั้นก็เหมาะกับพวกขี้แพ้คลาส F เช่นพวกแกดี”โกสต์ได้ส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาขณะที่เขาเดินจากไปโดยไม่มีใครมองเห็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด