ตอนที่แล้วSWO ตอนที่ 61 หยิ่งผยอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSWO ตอนที่ 63 นี่คือสิ่งที่ข้าหวัง

SWO ตอนที่ 62 โกลาหล!


เมื่อเผชิญกับการเยาะเย้ยดูถูกจากฟางอวี่ และอัจฉริยะหยานจิงคนอื่น นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมเมืองฉูที่เข้าร่วมการฝึกทุกคนต่างจ้องไปที่พวกเขาด้วยความโกรธขณะกำหมัดแน่น พวกเขาดูราวกับสามารถพุ่งเข้าไปแลกชีวิตกับอัจฉริยะหยานจิงได้ตลอดเวลา

ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเมื่อฟางอวี่ และพวกเยาะเย้ยดูถูกพวกเขา ท้ายที่สุด อีกฝ่ายก็มีกำลังมากพอที่จะทำเช่นนั้น แต่ตอนนี้ฟางอวี่ และพวกกลับดูถูกอัจฉริยะไร้เปรียบของพวกเขา

สิ่งนี้ได้ข้ามเส้นที่พวกเขาขีดไว้ ส่งผลให้พวกเขาระเบิดอารมณ์ทันที

ต้องรู้ว่าพวกเขาทุกคนเคารพบูชาอัจฉริยะที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงเรียนจากก้นบึ้งของหัวใจ ในระดับหนึ่ง ความเคารพของพวกเขาที่มีต่ออัจฉริยะไร้เปรียบนั้นเหนือกว่าความเคารพต่ออาจารย์ของโรงเรียน และอาจารย์เสิ่นเสียอีก

ท้ายที่สุดอัจฉริยะไร้เปรียบคนนั้นก็เป็นคนจัดการสามแม่ทัพอสูรขั้นสูงด้วยตัวคนเดียว อัจฉริยะไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตพวกเขาเท่านั้น แต่ยังช่วยชีวิตนักเรียนจำนวนนับไม่ถ้วนในโรงเรียนอีกด้วย

อาจกล่าวได้ว่าอัจฉริยะไร้เปรียบเป็นดั่งพ่อแม่คนที่สองของพวกเขาก็ว่าได้

ดังนั้นจะให้พวกเขาทนเห็นพ่อแม่ถูกดูถูกได้อย่างไร?!

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของพวกเขา ฟางอวี่ก็กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อะไร? อยากสู้งั้นรึ?”

เหลยจินเผิง เด็กอ้วนอีกคนเหวี่ยงกระบี่ในมือไปข้างหน้าอย่างรุนแรง และเยาะเย้ย “พวกเจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกล้าขนาดจัดการกับเราได้? งั้นเอาแบบนี้เป็นไง ข้าจะเป็นคนต่อสู้กับพวกเจ้าทั้งหมดในคราวเดียวเอง ถ้าข้าใช้เวลาเกินกว่าสิบวินาทีเพื่อเอาชนะพวกเจ้าทั้งหมด ข้าจะถือว่าพวกเจ้าชนะไปเลย!”

นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมเมืองฉูรวมทั้งซูหลิงโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก

อวดดี พวกเขาจะอวดดีเกินไปแล้ว

นักเรียนบางคนที่ทนไม่ไหวตะโกนขึ้น “ได้! เอาก็เอา แม้ข้าจะลงเอยด้วยอันดับรั้งท้าย แต่ข้าก็จะลากเจ้าไปพร้อมกับข้าด้วย!”

นักเรียนที่เหลือก็ตะโกนขึ้นเช่นกัน

หยวนเฉิง และหยุนหยานส่ายหัวอย่างลับ ๆ เมื่อเห็นภาพตรงหน้า แม้ฟางอวี่ และพวกจะพูดเกินจริงไปบ้าง แต่เห็นได้ชัดว่านักเรียนจากโรงเรียนมัธยมเมืองฉูประเมินความสามารถตัวเองสูงไปมาก ในสถานการณ์ที่ความแข็งแกร่งแตกต่างกันมากเกินไป ความใจร้อน และความโกรธเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้

“อาจารย์เสิ่นลงทุนย้ายเรามาที่นี่เพื่อฝึกคนพวกนี้!” หยวนเฉิง และหยุนหยานมองหน้ากัน สีหน้าของพวกเขาดูผิดหวังอย่างมาก

จิ! จิ!

ขณะที่ทั้งสองกลุ่มกำลังจะเข้าปะทะกัน จู่ ๆ กระต่ายที่มีดวงตาสีแดงก็กระโดดออกมาจากวัชพืชรอบ ๆ กระต่ายเหล่านี้มีฟันใหญ่โตยื่นออกมาจากมุมปากทั้งสองข้าง ทำให้พวกมันดูน่ากลัวมากเป็นพิเศษ

“แย่แล้ว นั่นมันกระต่ายเขี้ยว!”

นักเรียนส่วนใหญ่ตื่นตระหนก

กระต่ายเขี้ยวไม่ใช่สัตว์กลายพันธุ์เหมือนหมูป่างา แต่เป็นนักรบอสูรขั้นต่ำที่แท้จริง

"วิ่ง!"

นักเรียนคนหนึ่งตะโกน

ทันทีที่เสียงดังขึ้น นักเรียนหลายคนก็หันหลังหนี

เมื่อเผชิญกับนักรบอสูรขั้นต่ำ ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือการหนี

ฟางอวี่ และอัจฉริยะหยานจิงหัวเราะเมื่อเห็นสิ่งนี้ “ฮ่าฮ่า ข้าประเมินพวกเขาสูงเกินไปจริง ๆ แค่กลุ่มนักรบอสูรขั้นต่ำยังทำให้พวกเจ้ากลัวจนหัวหด!”

ซูหลิง จางอี้ และอีกหลายคนดูอับอาย ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดวิ่งทันที

อย่างไรก็ตามยังมีนักเรียนอีกไม่น้อยที่ยังคงวิ่งหนีสุดชีวิต ไม่กล้าแม้แต่หยุด

ฉัวะ! ฉัวะ!

เวลานี้หยวนเฉิง หยุนหยาน และพวกได้เริ่มลงมือ

กระบี่ในมือของพวกเขาก่อภาพติดตา ขณะฟันกระต่ายเขี้ยวทั้งหมดที่กระโจนเข้าใส่ การเคลื่อนไหวนั้นทั้งเฉียบคม และสะอาดหมดจด

ภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาที กระต่ายเขี้ยวมากกว่าสามสิบตัวถูกพวกเขาทั้งห้าจัดการไปมากกว่าครึ่ง!

อย่างไรก็ตาม ยังมีกระต่ายเขี้ยวสามถึงสี่ตัวที่กระโจนเข้าหาซูหลิง จางอี้ และโจวเฮา

“จางอี้ เจ้าเตรียมสนับสนุนข้า!” ซูหลิงตะโกน เมื่อเห็นว่าหยุนหยาน และฟางอวี่สามารถจัดการกระต่ายเขี้ยวได้อย่างง่ายดาย เธอจึงไม่อยากแพ้

โจวเฮาที่ซ่อนอยู่ด้านหลังเหยียดหลังของเขา สำหรับเขานักรบอสูรขั้นต่ำพวกนี้ไม่ต่างจากมด เพียงออกแรงเล็กน้อย เขาก็สามารถฆ่าพวกมันได้

ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเบื่อกับการมองดูจางอี้ และซูหลิงที่กำลังประหม่า แต่เขาไม่ได้วางแผนจะโจมตี ท้ายที่สุด พวกมันก็เป็นเพียงนักรบอสูรขั้นต่ำ ด้วยความแข็งแกร่งของซูหลิง และจางอี้ ตราบใดที่พวกเขาใจเย็น พวกเขาจะสามารถจัดการกับพวกมันได้อย่างง่ายดาย

“ซูหลิง ทางซ้าย!”

แม้โจวเฮาจะไม่ได้วางแผนโจมตี แต่เขาก็ไม่ลืมงานที่ซูหลิงมอบหมายให้ เขาตะโกนบอกโดยไม่แม้แต่จะมอง

ซูหลิงหันไปทางซ้ายโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าไม่มีวี่แววของกระต่ายเขี้ยวเลย เธอก็อดหันกลับไปจ้องโจวเฮาไม่ได้ “เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ทำไมเจ้ายังล้อเล่นอีก!”

"ระวัง!" จางอี้ตะโกนขึ้นทันที ขณะก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยซูหลิง

อย่างไรก็ตามโจวเฮากลับเร็วกว่า

เขายื่นมือออกไป และดึงซูหลิงเข้าหาเขา

"เจ้าคิดจะทำอะไร?!"

ซูหลิงเกือบชนหน้าอกของโจวเฮา ใบหน้าที่งดงามของเธอเผยให้เห็นถึงความอับอายปนโกรธ

ฟุบ! ฟุบ!

ตอนนั้นเอง…

ได้มีกระต่ายเขี้ยวสองตัวกระโจนเข้าหาพวกเขาจากทางซ้ายโดยไม่คาดคิด

จางอี้รีบสกัดด้วยกระบี่ของเขา

อย่างไรก็ตาม การโจมตีของกระต่ายเขี้ยวนั้นทั้งเร็ว และรุนแรงเกินไปจนทำให้จางอี้ล้มลงกับพื้นทันที

ซูหลิงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เธอละเลยความอับอายและความโกรธของเธอ ก่อนยกกระบี่ขึ้น ฉวยโอกาส และฟันตรงเข้าที่คอของกระต่ายเขี้ยว

ฉัวะ!

เลือดกระเซ็นขณะที่หัวของกระต่ายเขี้ยวหล่นลงมา

กระนั้นซูหลิงไม่ได้ดูโล่งใจเลย เธอเตะออกไปด้วยแรงทั้งหมด ส่งกระต่ายเขี้ยวอีกตัวที่กำลังกัดชุดป้องกันของจางอี้บินไป

จางอี้ตบพื้น และกระโดดกลับมายืนได้อีกครั้ง

ฉัวะ! ฉัวะ!

ทั้งสองร่วมมือกัน และฆ่ากระต่ายเขี้ยวที่เหลือทันที

จากสี่ตัวที่กระโจนเข้ามาก่อนหน้านี้ สองตัวได้มุ่งหน้าไปทางหวังหมิง หลี่จี้ และคนอื่น ๆ

“เฮ้อ เกือบไปแล้ว!”

ซูหลิงตบหน้าอกของเธอ

จางอี้พยักหน้า และกล่าวด้วยความกลัว “ใช่ โชคดีที่เจ้าตอบสนองได้ทัน ไม่อย่างนั้นข้าคงตายไปแล้ว!”

ฟันของกระต่ายเขี้ยวนั้นคมมาก แม้แต่การสัมผัสเล็กน้อยยังทำให้เกิดแผล

แม้ว่านี่จะเป็นสภาพแวดล้อมการฝึกเสมือนจริง แต่ทุกอย่างให้ความรู้สึกเหมือนจริงมาก

ซูหลิงมองไปที่จางอี้ และส่ายหัวเบา ๆ “ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณ ถ้าเจ้าไม่ช่วยสกัดได้ทันเวลา ข้าคงเป็นคนที่ลงไปนอนอยู่กับพื้น!”

จางอี้โบกมือ “ซูหลิง เจ้าไม่ต้องชมข้า แต่เป็นโจวเฮาต่างหาก อย่าลืมว่าเขาเป็นคนเตือนให้เจ้าระวังซ้าย!”

ซูหลิงที่จำคำเตือนของโจวเฮาได้หันกลับไปมองเขา “โจวเฮา เจ้ารู้ได้ยังไงว่ากระต่ายเขี้ยวจะโจมตีเราจากทางซ้าย”

“แน่นอนว่าต้องเดาอยู่แล้ว ยังต้องถามอีกเหรอ?” โจวเฮากล่าวอย่างไม่ลังเล

สีหน้าของซูหลิงมืดลง ขณะยกกำปั้นขึ้น และต่อยไหล่ของโจวเฮา

โจวเฮาแสร้งทำเป็นเจ็บปวด “ใจเย็น ๆ สิ!”

“ถ้าเจ้าไม่อยากโดนข้าทุบตีจนตาย งั้นก็บอกความจริงมา!” ซูหลิงตะโกน

“อะแฮ่ม… ข้าจะบอกก็ได้ แต่เจ้าอย่าโกรธไปนะ” โจวเฮาหัวเราะแห้ง ๆ “อันที่จริง ข้าแค่อยากใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ก็เท่านั้น!!”

ซูหลิงเข้าใจทันที ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ก่อนเธอจะยกเท้าขึ้น และเตะโจวเฮา “ไร้ยางอาย!”

เวลานี้หยวนเฉิง หยุนหยาน และพวกที่จัดการกระต่ายเขี้ยวเสร็จก็เดินเข้ามา

เมื่อภาพตรงหน้าฟางอวี่ก็อดเยาะเย้ยไม่ได้ “ข้าประทับใจมาก ใครเล่าจะคิดว่าสองคนนี้จะกล้าจีบกันในพื้นที่รกร้าง.. สมกับเป็นพวกมือใหม่จริง ๆ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด