ตอนที่แล้วEp.270 - ขุนศึกมังกรปฐพี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.272 - เก็บกวาด

Ep.271 - ผู้คุมค่ายกล


3/4

Ep.271 - ผู้คุมค่ายกล

เจียงหนานเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “เจ้าถิ่นขั้นโกลด์!”

จางเสี่ยวเฉียงชำเลืองมองแล้วพูดว่า อุปกรณ์บนตัวค่อนข้างมีสไตล์ มองยังไงก็ทรงพลัง!”

ไม่มีใครเคลือบแคลงสงสัยในสิ่งที่ฮังอวี่พูด

ทุกคนเผยสีหน้าเคร่งเครียด

แม้ผู้คุมกลไกกับขุนศึกมังกรปฐพีจะเป็นระดับเจ้าถิ่นเหมือนกันทั้งคู่ แต่ก็มีความห่างชั้นกันในด้านพลังรบ

เจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์ เจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์ เจ้าถิ่นขั้นโกลด์ เป็นระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ่งเชิง

มีระดับเจ้าถิ่นมากมายที่อังอวี่เคยกำจัด ได่แก่ผู้บัญชาการมนุษย์หมูป่า ผู้พิทักษ์ต้นไม้ยักษ์ ภูติการ์กอยล์หิน โนมส์นักกลั่นโพชั่น ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ สุดท้ายผู้คุมกลไก ไล่ตั้งแต่ผู้บัญชาการค่ายมาจนถึงป้อมปราการ แต่ละตัวไม่ง่ายที่จะรับมือ

แต่หากไม่นับโนมส์นักกลั่นโพชั่นที่เป็นเจ้าถิ่นระดับซิลเวอร์แล้ว

ตนอื่นๆล้วนอยู่ในขั้นบรอนซ์ทั้งสิ้น

ภาพการต่อสู้กับโนมส์นักกลั่นยังคงสดใหม่ พวกเขาเกือบพ่ายแพ้ หากไม่ใช่เพราะร่างสุดท้ายของโนมส์นักกลั่นช่วยปลุกจิตสำนึกดั้งเดิมของมันกลับมาได้ ทุกคนคงตายและยังมาไม่ถึงจุดนี้

ทว่าปัจจุบัน สิ่งที่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาคือเจ้าถิ่นขั้นโกลด์

พลังรบของมันย่อมแก่กล้ากว่าโนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตรา

นอกจากนี้ ยังมีมอนสเตอร์ลูกน้องอีกจำนวนมากในพื้นที่เปิดโล่ง หลายตัวเป็นชนชั้นยอดขั้นโกลด์ ซึ่งท่ามกลางภูมิประเทศเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะแยกพวกมันออกจากกันหรือใช้วิธีลอบตลบหลังเหมือนที่พึ่งบุกป้อมปราการไป

แม้ฮังอวี่จะมีความสามารถอันยอดเยี่ยม

แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเรื่องยากมากหากคิดใช้ลูกเล่นตุกติก

สถานที่แห่งนั้นคือแกนหลักของป้อมปราการ

มันคือบททดสอบสุดท้ายก่อนขึ้นหอคอยเขตแดน!

คือศึกหนักอันแสนดุเดือดอย่างไม่ต้องสงสัย!!

“ในสถานการณ์แบบนี้ พวกเราไม่ควรสู้กับพวกมันตรงๆ ถูกไหม?” จ้าวหมิงกล่าวโดยอิงกับสถานการณ์ปัจจุบัน “เสี่ยวฮัง นายมีแผนว่ายังไง?”

ฮังอวี่พยักหน้าแล้วกล่าว “เป็นความจริงที่พวกเราไม่สามารถทำลายมอนสเตอร์จำนวนมากในแนวหน้าของมันด้วยทีมเดียว เจ้าถิ่นขั้นโกลด์ที่อยู่ท่ามกลางพวกมันยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่พวกเราสามารถเตรียมการล่วงหน้าเพื่อลดประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกมันได้”

“งั้นพวกเราต้องเตรียมอะไรบ้าง?”

“ลุงจ้าวลองดูใต้เท้าของพวกมันสิ”

ทุกคนลองเพ่งมอง และพบว่าเหล่ามอนสเตอร์ที่ขวางทางเข้าหอคอยเขตแดนอยู่นั้น บนพื้นใต้เท้าของพวกมันมีอักษารรูนและรูปแบบที่ดูซับซ้อนไหลเวียนอยู่ ซึ่งหากไม่เพ่งมองดี ๆก็ยากที่จะสังเกตเห็น

ฉูเทียนหัวกล่าวทันที “นั่นคือค่ายกล!”

จ้าวหมิง เฉินหยูผู้เคยเห็นสิ่งต่างๆมามากมายก็ตระหนักว่าเป็นค่ายกลเช่นกัน

“ใช่ มันคือค่ายกล มอนสเตอร์พวกนี้ไม่ใช่แค่ทรงพลัง แต่ยังมีค่ายกลคอยสนับสนุน และหน้าที่ของค่ายกลแต่ละแบบต่างกันออกไป บางชนิดเขตแดน บางชนิดสามารถรักษา บางชนิดสามารถเสริมพละกำลัง”

ฮังอวี่กวาดสายตาไปบนพื้นและเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าพวกเราผลีผลามเดินเข้าไป ไม่ต้องพูดถึง 100 คน ต่อให้มี 500 คนก็คงเอาชนะพวกมันไม่ได้”

เฉินหยูกล่าว “นายกำลังจะบอกว่าพวกเราต้องทำลายค่ายกลพวกนี้ก่อน?”

“ใช่ ทำลายค่ายกลก่อนแล้วค่อยดวลศึกใหญ่!”

“แต่พวกเราจะทำลายค่ายกลได้ยังไง?”

“ดูจากรูปแบบข้างล่างนั่น เห็นได้ชัดว่ามีหลายค่ายกล ผมไม่คิดว่าพวกมันจะโผล่มาจากอากาศอย่างไร้เหตุผล จะต้องมีศูนย์กลางที่ใช้สร้างค่ายกลอยู่แถวๆนี้แน่ๆ พวกเราต้องออกค้นหามัน” ฮังอวี่กล่าว “ขอให้ทุกคนตามผมมาติดๆ ระวังอย่าให้ถูกเจอตัว”

หากมีมนุษย์กลุ่มอื่นมาที่นี่ ส่วนใหญ่พวกเขาคงถูกดึงดูดโดยกลุ่มมอนสเตอร์ตรงหน้า จากนั้นก็มุ่งหน้าไปสู้กับพวกมันทันที แต่ฮังอวี่ตรงกันข้าม เขาไม่สนใจมอนสเตอร์เหล่านั้น

แต่เลือกสังเกตรอบๆก่อน

เดินลัดเลาะไปยังทางผ่านที่ไม่โดดเด่น

แล้วสุดท้าย ทางเดินทรงอุโมงค์ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

หวังเอ๋อร้องเตือน “มีกลิ่นของมอนสเตอร์ที่นี่ จากกลิ่นแล้วมีจำนวนค่อนข้างมาก และเหมือนจะมีมอนสเตอร์ระดับ BOSS ซ่อนอยู่ข้างในนั้นด้วย”

ฮังอวี่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เป็นมันแน่นอน เข้าไปกันเถอะ!”

ฝูงชนเข้าไปในอุโมงค์

ภายใต้การนำทางของหวังเอ๋อ พวกเขาเก็บกวาดมอนสเตอร์กลุ่มเล็กๆตลอดทาง และในที่สุดก็มาถึงพื้นที่เปิดโล่ง

นี่คือห้องลับที่ซ่อนอยู่ในป้อมปราการ มันคล้ายกับห้อง BOSS ในตอนเล่นเกม

มอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์หลายสิบตัวรวมตัวกันอยู่รอบๆแท่นสูงตระหง่านตรงกลางห้อง และบนแท่นสูง มีมอนสเตอร์ที่แต่งตัวแบบจอมเวทย์นั่งหลับตาอยู่ มันกำลังกางฝ่ามือไปข้างหน้า ร่ายคาถาที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ

ส่วนมอนสเตอร์ตัวอื่นๆที่อยู่รอบๆก็สวมชุดนักเวทย์เช่นกัน

ทว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ในห้องลับแห่งนี้

เกือบทั้งหมดเป็นเอลฟ์

“เป็นอย่างที่คิด นี่คือ BOSS ลับของป้อมปราการ - ผู้คุมค่ายกล” ฮังอวี่อธิบายสั้นๆ “มันคือ BOSS ตัวสำคัญอีกตัวที่นอกเหนือผู้คุมกลไก หน้าที่ของมันคือรักษาค่ายกล ตราบใดที่มันถูกกำจัด ค่ายกลทั้งหมดจะถูกทำลาย”

เป็นแบบนี้นี่เอง

ไม่นึกเลย

ว่าจะมีมอนสเตอร์ BOSS ลับอยู่ที่นี่

แต่ต่อให้ลับยังไง มันก็ยังถูกฮังอวี่กับหวังเอ๋อหาจนพบ

ฉูเทียนหัวกล่าว “ดูจากชุดของมันแล้ว น่าจะเป็นสายเวทย์ มอนสเตอร์ประเภทนี้ค่อนข้างเปราะบาง แต่มีความสามารถในการโจมตีที่รุนแรง แต่ฉันยังไม่รู้ว่ามันเป็นเจ้าถิ่นขั้นไหน”

“เป็นเจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์” ฮังอวี่กล่าว “มันแข็งแกร่งกว่าผู้คุมกลไกมาก และมอนสเตอร์เกือบทั้งหมดที่ปรากฏที่นี่คือสายเวทย์อย่างที่ว่าจริงๆ”

นอกเหนือจากผู้คุมค่ายกลแล้ว

รอบๆยังมีมอนสเตอร์เอลฟ์อีกประมาณ 20 - 30 ตัว

แต่ละตัวสวมชุดคลุม สวมหน้ากาก ถือคทา และมีประมาณหนึ่งในสามที่เป็นมอนสเตอร์ชั้นยอด เจ้าพวกนี้รับมือยากอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะพวกมันทั้งหมดสามารถโจมตีในระยะไกลได้ ต่อให้เป็นจ้าวหมิง หากทะเล่อทะล่าเข้าไป คงถูกระดมยิงตายในวินาทีเดียว

หากตอนนี้มีผู้ใช้วิญญาณอย่างซูหยุนปิงที่เรียนรู้สกิลเขตแดนแห่งความเงียบที่สามารถใบ้หมู่ได้แล้วล่ะก็ การต่อสู้ในครั้งนี้คงง่ายขึ้นมาก แต่ตอนนี้ นอกจาเสี่ยวไป๋แล้ว ผู้ใช้วิญญาณเพียงคนเดียวในทีมคือฉินมู่ และเขาสามารถใบ้มอนสเตอร์ได้ทีละตัวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม อย่าได้หวาดกลัวไป

“มีเวลาประมาณ 15 วินาทีก่อนที่ผู้คุมค่ายกลจะเข้าร่วมการต่อสู้”

“สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือกำจัดมอนสเตอร์ตัวอื่นๆที่ขวางทางให้ได้มากที่สุดภายใน 15 วินาที”

“ทุกคนที่มีคัมภีร์สกิลหรือไอเท็มเฉพาะที่ทรงพลังอย่าเก็บงำมัน ขอให้เอาออกมาใช้ พวกเราต้องสร้างดาเมจให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาที่จำกัด”

ฮังอวี่อธิบายสถานการณ์คร่าวๆ

ฉูเทียนหัวประเมินพลังรบของทั้งสองฝ่ายคร่าวๆ “ตราบใดที่พวกเราต้านทานการโจมตีระลอกแรกของมอนสเตอร์ได้ ด้วยพลังรบที่มี น่าจะฆ่ามอนสเตอร์ 20 กว่าตัวได้ในเวลาประมาณ 10 วินาที”

“แต่การรอดจากการโจมตีระลอกแรกคงไม่ง่ายขนาดนั้น” ในฐานะรถถังที่มีพลังป้องกันสูงที่สุดในทีม จ้าวหมิงเอ่ยขึ้น “มีนักเวทย์เกือบ 30 ตนที่นี่ และ 7 -8 ตนที่เป็นชนชั้นยอด ถ้าพวกมันโจมตี ดาเมจจะต้องรุนแรงมากจนแม้แต่ฉันยังต้านไม่ไหว”

ฮังอวี่เอ่ยปาก “ปัญหานี้แก้ไม่ยาก จับตาดูผมให้ดี!”

ระหว่างกล่าว

มดยักษ์จำนวนหนึ่งถูกปล่อยออกมา

ขณะเดียวกัน เครื่องรางอัญเชิญก็ถูกเปิดใช้งาน อัศวินอันเดธถูกปลดปล่อยทันที

อัศวินอันเดธผู้นี้เป็นชนชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 10 ครอบครองพลังชีวิตมหาศาล

“เตรียมตัวให้ดี”

“จะเริ่มกันแล้ว!”

ฮังอวี่ว่าจบ เขาก็สั่งการให้มดนับสิบตัววิ่งขึ้นไป แล้วให้อัศวินอันเดธตามหลังไปติดๆ พวกมันวิ่งไปข้างหน้าเพื่อดึงดูดความสนใจ เข้ารับการโจมตีระลอกแรกของมอนสเตอร์

ในที่สุด

ฮังอวี่ก็ยังคงใช้สมองงัดลูกเล่นมาเอาเปรียบอีกฝ่าย

มอนสเตอร์ระดับต่ำพวกนี้มีสติปัญญาต่ำ

ดังนั้นเมื่อเห็นศัตรูกลุ่มใหญ่บุกเข้ามา มันจึงไม่เสียเวลาคิด ร่ายคาถาทันที

การโจมตีด้วยเวทย์มนตร์อันตระการตาปะทุขึ้น สังหารมดยักษ์ในวินาทีเดียว

“ดีล่ะ พวกเราไปกันเลย!”

ฮังอวี่ ฮังเสี่ยวไป๋เป็นผู้นำ โดยใช้มดยักษ์เป็นตัวตายตัวแทน รีบวิ่งตรงไปยังกลุ่มมอนสเตอร์นักเวทย์ จ้าวหมิง เฉินหยู และคนอื่นๆก็เริ่มลงมือ กำจัดมอนสเตอร์นักเวทย์

ณ ขณะนี้

ตัวตนเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่บนแท่นสูง

ผู้คุมค่ายกลที่กำลังพึมพำร่ายคาถาอยู่ตลอดเวลาพลันลืมตาขึ้น!