ตอนที่แล้วEp.268 - ป้อมปราการมอนสเตอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.270 - ขุนศึกมังกรปฐพี

Ep.269 - สภาพแวดล้อมปั่นป่วน


1/4

Ep.269 - สภาพแวดล้อมปั่นป่วน

ในตอนแรก ทุกคนรู้สึกประหม่าไม่มากก็น้อย แต่ตอนนี้พวกเขาอ้อมเข้ามาด้านหลังศัตรู อยู่ข้างในป้อมปราการที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ทุกประเภท หากประมาทเพียงนิด เผลอไปแหย่รังแตนเข้า ก็อาจถูกพวกมันทุกตัวบุกเข้ามารุมทึ้ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป

ความตึงเครียดก็ค่อยๆจางหาย

ร่วมงานกับผู้บัญชาการฮัง ปราศจากปัญหา สมาชิกทีมอยู่ครบ!

ฮังอวี่รู้จักป้อมปราการนี้เป็นอย่างดี และด้วยความช่วยเหลือจากเทคนิคตาเหยี่ยว มันไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะหลง ขณะเดียวกันก็คอยหลบเลี่ยงกับดัก และจุดที่มีมอนสเตอร์หนาแน่นเกินไป จากนั้นนำทีมเก็บกวาดมอนสเตอร์อย่างเป็นระเบียบ

ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสอง หวังเอ๋อ เสี่ยวไป๋ ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน

หวังเอ๋อมีความสามารถในการแจ้งเตือนล่วงหน้าที่ทรงพลัง มันสามารถค้นหากองทหารลาดตระเวนและมอนสเตอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ได้ตลอดเวลา

เรื่องความสามารถของเสี่ยวไป๋คงไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากความ ด้วยสกิลขั้น 3 ฝุ่นลวงตาของเธอ ช่วยให้สามารถควบคุมพื้นที่บริเวณรอบๆ สร้างความสับสนแก่มอนสเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์ พวกเขาตรงไปในทิศทางไหน หมอกละอองจะถูกปูไว้บนเส้นทางล่วงหน้า

ถึงขนาดนี้แล้วยังมีอะไรต้องบ่นอีก?

มันยอดเยี่ยมมาก!

จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของทุกคนยิ่งมายิ่งสูงขึ้น ทุกการต่อสู้ของพวกเขาเป็นไปอย่างราบรื่น

ด้วยการปกป้องจากสกิลเสี่ยวไป๋ ตอนนี้ไม่ใช่แค่เลิกประหม่า แต่พวกเขายังมีอารมณ์พูดคุยเฮฮากันโดยไม่ต้องกลัวถูกเปิดเผยตำแหน่ง ซึ่งในเวลานี้ ฉูเทียนหัวที่คอยเฝ้าสังเกตเสี่ยวไป๋มานาน ในที่สุดก็อดไม่ไหว

เขาเอ่ถามเสียงต่ำ “เสี่ยวฮัง ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ถูกไหม?”

แม้ฉูเทียนหัวจะลดเสียงลงแล้ว

อย่างไรก็ตาม เจียงหนาน จ้าวหมิง และเฉินหยูยังคงได้ยิน

ฮังอวี่แกล้งไม่เข้าใจ เอ่ยถามกลับว่า “ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น?”

“ฉันมองยังไงเธอก็แข็งแกร่งกว่านาย” ฉูเทียนหัวกล่าวอย่างมั่นใจ “ฉันคิดว่าโอกาสที่ยอดฝีมือระดับนี้จะปรากฏตัวขึ้นในหมู่มนุษย์มีน้อยมาก”

ฮังอวี่กล่าว “เหล่าฉู พูดแบบนี้เกรงว่าจะเป็นการชมผมเกินจริงไปหน่อย”

ฉูเทียนหัวตอบกลับจริงจัง เวลานี้เขาไม่มีอารมณ์ขัน

“นายอย่าถ่อมตัวหน่อยเลย”

“พลังรบของนายแข็งแกร่งที่สุดแล้วในหมู่พวกเรา”

“ดังนั้น ผู้ที่มีพลังรบเทียบเท่ากับนายต้องเป็นมือหนึ่ง และผู้ที่จะเป็นมือหนึ่งได้ ไม่บังเอิญพบโชคอันยิ่งใหญ่ ก็ต้องได้รับการฝึกฝนในสภาพแวดล้อมที่มีทรัพยากรสูง ... ถึงอย่างนั้นก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง”

“แต่คนที่นายพามา เธอแข็งแกร่งมากเกินไป นอกจากนี้ ฉันเห็นว่าเธอครอบครองสกิลขั้น 2 และ 3 ไว้มากมาย อะไรพวกนี้สำหรับมนุษย์ในช่วงต้นเกม มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมี”

ฉูเทียนหัวกล่าวสรุปทิ้งท้าย “น้องสาวของนาย เธอคือคนจากโลกวิญญาณใช่ไหม?”

จ้าวหมิง เจียงหนาน เฉินหยู แต่ละคนเผยท่าทีไม่เหมือนกันเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย เจียงหนานเต็มไปด้วยความตกใจและอยากรู้อยากเห็น ขณะที่จ้าวหมิงดูเคร่งขรึม เฉินหยูดูจมอยู่ในความคิด

ฮังอวี่เอ่ยถามอย่างสงสัย “ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น?”

ฉูเทียนหัวกล่าว “ในเน็ตลือกันว่ามีคนประสบความสำเร็จในการจับมือกับคนของโลกวิญญาณ ขอให้เขาเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ นอกจากนี้ยังมีสองเคสที่ได้ยินมาว่าพวกเขาจับคนของโลกวิญญาณได้”

“ฉันไม่นึกเลยว่าข่าวลือจะเป็นจริง”

“ปรากฏว่ามีคนจากโลกวิญญาณติดต่อกับมนุษย์ หรือแม้กระทั่งเข้าร่วมกับพวกเรา”

จ้าวหมิงและเฉินหยูให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เสี่ยวไป๋ทรงพลังถึงขนาดนี้ ที่แท้เธอเป็นชาวโลกวิญญาณ” เจียงหนานเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธออดถามไม่ได้ “ถ้าพวกเราสามารถรวบรวมคนจากโลกวิญญาณมาเป็นพรรคพวกได้เยอะๆ หลังจากนี้การสำรวจโลกวิญญาณคงง่ายขึ้น”

จ้าวหมิงส่ายหัวทันที “โลกมันไม่ได้สวยงามขนาดนั้นน่ะสิ”

“เหล่าจ้าวพูดถูกแล้ว คนจากโลกวิญญาณกว่า 90% นั้นยากจะสื่อสารด้วย อีกทั้งพวกเขาส่วนใหญ่ยังมีเจตนามุ่งร้าย” ฉูเทียนหัวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ในบางพื้นที่ มีคนจากโลกวิญญาณปรากฏตัวขึ้น พวกเขาพยายามสร้างขุมกำลัง กลายเป็นภัยอันตรายที่ซ่อนอยู่ในเมือง ร้ายแรงยิ่งกว่ากองทัพสัตว์ร้ายที่บุกเข้ามาจากภายนอกเสียอีก”

“เหล่าฉูพูดถูก เสี่ยวไป๋เป็นข้อยกเว้นที่หาได้ยาก” ฮังอวี่พยักหน้า “ชาวโลกวิญญาณส่วนใหญ่มีนิสัยดุร้าย ถ้าพบเบาะแสของพวกเขาในโลกมนุษย์ เธอควรรายงานมันแก่สกายเน็ตในท้องที่ทันที”

เจียงหนานแลบลิ้นออกมา

เธอพึ่งรู้ตัวได้ว่าตัวเองคิดตื้นเกินไป

เหตุใดคนจากโลกวิญญาณต้องจับมือสร้างสันติภาพกับมนุษย์ที่อ่อนแอในตอนนี้ด้วย?

เฮ้อ คนละเผ่าพันธุ์ ก็ย่อมมีใจต่างกันไป ในเมื่อส่วนใหญ่เชื่อถือไม่ได้ งั้นเชื่อแค่พี่มหาเทพดีกว่า!

เฉินหยูกล่าว “ดูเหมือนหลังจากกลับไปคงต้องตามข่าวนี้ซะแล้ว”

เห็นได้ชัดว่าจ้าวหมิงก็สนใจมากเช่นกัน

เขาวางแผนที่จะกลับไปรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องหลังออกจากโลกวิญญาณ

ทุกคนสนทนาเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆของแต่ละคนระหว่างกวาดล้างมอนสเตอร์

สถานการณ์ของเจียงหนานตอนนี้ดีมาก

หยานจิงเป็นเมืองที่มีระเบียบมากที่สุดในปัจจุบัน

เพราะถึงมีภัยคุกคามใดๆเกิดขึ้นก็สามารถหยุดยั้งเอาไว้ได้

ด้านจ้าวหมิง เขากล่าวถึงเหตุการณ์ประหลาดเมื่อหลายวันก่อน “ในทะเลห่างออกไปหลายร้อยไมล์จากเซินเจิ้น จู่ๆก็เกิดกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางหลายสิบไมล์ปรากฏขึ้น น้ำวนไม่ใช่แค่ทำให้น้ำทะเลบิดเบี้ยว แต่ยังทำให้พื้นที่ใกล้เคียงบิดเบือนไปด้วย พอจะรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

ฮังอวี่ตอบ “ผมคิดว่านั่นน่าจะเป็นช่องว่างมิติขนาดใหญ่ ถ้าเกิดขึ้นแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้ายังอยู่เป็นเวลานาน คนในเซินเจิ้นต้องเริ่มระวังตัวเพราะอาจมีสิ่งมีชีวิตทรงพลังบุกเข้ามาได้”

“เมื่อเร็วๆนี้เมืองหรงเฉิงของพวกเราเจอปัญหามากมาย” เฉินหยูกล่าวขึ้น “ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มนุษย์หนูจู่ๆก็โผล่มาในเมืองบ่อยครั้ง พวกมันคอยลอบโจมตีพลเมือง ว่ากันว่าเบื้องหลังของมนุษย์หนูเหล่านั้นคือราชาหนูผู้ทรงพลัง”

“นั่นต้องเป็นแผนรุกรานของคนจากโลกวิญญาณแน่นอน!” ฉูเทียนหัวกล่าวโดยไม่เสียเวลาคิด “เท่าที่ฉันรู้ มี 18 พื้นที่ทั่วประเทศประสบกับภัยคุกคามในลักษณะคล้ายกัน และอาจมีอีกหลายพื้นที่ที่พวกเรายังไม่สามารถตรวจสอบ นี่พูดได้เลยว่าเป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงต่อการอยู่รอดของมนุษยชาติ”

“...”

เจียงหนาน จางเสี่ยวเฉียงพอได้ยินเหตุการณ์ประหลาดของคนอื่นๆ

เธอและเขาเกิดความรู้สึกกดดันในใจ

ทุกวันนี้ประเทศต่างๆกำลังสูญเสียความสามารถในการควบคุมดินแดนของตน

ผู้คนในแต่ละเมืองต่างอยู่ในภาวะพึ่งพาตนเอง สถานการณ์ในหลายๆแห่งถึงจุดวิกฤต มอนสเตอร์ป่าเอย ขุมกำลังจากโลกวิญญาณเอย มอนสเตอร์ที่มีพลังมหาศาลเอย ... สิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อโลกมนุษย์มีมากเกินไป

หายนะอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา!

หากคิดหยุดยั้ง ทุกคนมีแต่ต้องร่วมมือกันเท่านั้น!

...

การไล่เก็บกวาดกองทหารลาดตระเวนผ่านมาแล้วกว่าสองชั่วโมง

ระหว่างนี้ หวังเอ๋อรวมไปถึงราชินีมดหน้าคนได้อัพเลเวลกันทั้งคู่ สุนัขอัพเลเวล 6  ราชินีมดหน้าคนอัพเลเวล 5

[หมาหวังเอ๋อ] (สัตว์วิญญาณกลายพันธุ์) เลเวล 6 , ชั้นยอดขั้นโกลด์ , ค่าพลังชีวิต 220 , ค่าพลังจิต 300 , อัตราฟื้นฟูพลังชีวิต +0.1 ,ความว่องไว +0.5 ,  จิตรับรู้ +2 , แต้มวัฒนาการ 92/140 , แต้มวิญญาณ 2/4000

[มดยักษ์หน้าคน] ชั้นยอดขั้นโกลด์ , พลังชีวิต 170 , พลังจิต 280 , แต้มวิวัฒนาการ 29/220 , แต้มวิญญาณ 1/2000

ค่าสเตตัสของหวังเอ๋อเมื่อขึ้นมาเป็นเลเวล 6 เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก

ตอนนี้การโจมตีปกติของมันเทียบเท่ากับการโจมตีของฉูเทียนหัวแล้ว

และหากมันใช้สกิลแปลงร่าง พลังที่โจมตีออกมาจะเทียบได้กับการโจมตีเต็มกำลังของฉูเทียนหัว แต่ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยไม่ต่างจากฉูเทียนหัวมากนัก

แต่สิ่งที่ทำให้หวังเอ๋อรู้สึกเสียดายก็คือ

ดูเหมือนร่างแยกของมันยังคงมีแค่ 3 ร่างดังเดิม ไม่ได้มีร่างแยกเพิ่ม แต่ถึงแม้ไม่ได้ร่างแยกเพิ่ม แต่ค่าคุณสมบัติของร่างแยกก็ดีขึ้นมาก

ส่วนราชินีมดหน้าคนเลเวล 5

เวลานี้มันสามารถเรียกใช้มดงาน 12 ตัว + มดชั้นยอด 3 ตัว!

พลังรบของมันมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาก และสกิลโจมตีอย่างแส้พลังจิตสามารถสร้างดาเมจได้เทียบเท่ากับลูกไฟจากสกิลพรสวรรค์ของจางเสี่ยวเฉียง นอกจากนี้ยังสร้างเอฟเฟตก์มึนงงอย่างรุนแรง สามารถสู้กับมนุษย์เลเวล 6 7 ได้สบาย

พลังรบของสัตว์วิญญาณคือส่วนหนึ่งของเจ้านาย

ยิ่งสัตว์วิญญาณทั้งสองแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ก็หมายความว่าฮังอวี่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

“เกือบสำเร็จแล้ว กองลาดตระเวนกับพวกมอนสเตอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้ถูกเก็บกวาดออกไปหมดเกลี้ยงโดยที่ไม่มีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น”

“ที่เหลือก็ไปจัดการกับ BOSS ตัวแรกของที่นี่ก่อน!”

ฮังอวี่นำทีมไปยังประตูหลักของป้อมปราการ พวกเขาสามารถเห็นได้จากระยะไกลว่ามีมอนสเตอร์ที่สวมเครื่องจักรขนาดใหญ่เดินไปมาอยู่หน้าประตูหลักป้อมปราการ และรอบๆเต็มไปด้วยหุ่นเชิดมนตรากลุ่มใหญ่

เจียงหนานอุทานด้วยความประหลาดใจ “เป็นมอนสเตอร์ประเภทหุ่นรบอีกแล้ว!”

ผู้ใช้วิญญาณฉินมู่ขมวดคิ้ว “มอนสเตอร์ประเภทนี้มีความต้านทานคาถาสูง มนต์วาจาต้องห้ามใช้ไม่ได้ผลกับมัน”

จ้าวหมิงเอ่ยถามฮังอวี่ “จะสู้ยังไง?”

ฮังอวี่อธิบายสั้นๆ

“เจ้าหมอนี่คือผู้ควบคุมกลไกของป้อมปราการ”

“มันควบคุมการเปิดปิดประตูป้อมปราการ รวมไปถึงกับดักทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียง พวกเราต้องโค่นมันเพื่อปิดกับดักและเปิดประตูให้คนอื่นเข้ามา”

“ผู้ควบคุมกลไกเป็นมอนสเตอร์ที่ทรงพลัง มีพลังรบในระดับเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์ แต่ด้วยกลไกมนตราที่มันควบคุมนี้ ทำให้พลังรบของมันแข็งแกร่งกว่าระดับเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์ทั่วๆไป”

“แต่ด้วยพลังรบของพวกเรา คิดจัดการกับมันไม่น่ายาก”

เมื่อคนอื่นๆได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจ

ฮังอวี่คือใคร? เขาคือคนที่เคยสังหารระดับเจ้าถิ่นเลเวล 8 ด้วยตัวคนเดียว!

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีฮังเสี่ยวไป๋อยู่ที่นี่ ไหนจะยอดฝีมือและสัตว์วิญญาณอีกมากมาย ในสายตาของทุกคน เจ้า BOSS ตัวนี้จึงเป็นได้แค่แต้มวิญญาณมหาศาลและตัวดรอปไอเท็มสีเขียวเท่านั้น!