ตอนที่แล้วบทที่ 2 คู่หมั้นที่ไม่ต้องการถอนหมั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 ธนาคารจินหลงเป่า

บทที่ 3 หลี่ลั่วผู้ต้องการจะถอนหมั้น


สัตว์อสูรม้าสิงโตสี่ตัวดึงรถศึกอย่างราบรื่นไปตามถนนกว้างของเมืองหนานฟง อาคารที่หนาแน่นเหมือนป่าข้างถนนถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว

ภายในรถศึกค่อนข้างกว้างขวางอบอุ่นสบาย หลี่ลั่วและเจียงชิงเอ๋อกำลังนั่งอยู่ที่สองข้างของโต๊ะกาแฟ

ทั้งสองไม่มีอะไรจะพูดมาก หลี่ลั่วหลับตาลงพักผ่อนเมื่อขึ้นรถ ขณะที่เจียงชิงเอ๋อเปิดหนังสืออ่านอย่างระมัดระวัง แสงแดดที่ส่องผ่านลงมาจากช่องหน้าต่างรถส่องประกายบนแก้มคล้ายหยกอันละเอียดอ่อน เปล่งปลั่งและดึงดูดใจยิ่งขึ้น

ความเงียบกินเวลาเนิ่นนาน ขนตาหนาและเรียวยาวของเจียงชิงเอ๋อพลันกระพริบ เงยหน้าขึ้นและดวงตาสีทองของนางก็จ้องมองไปที่หลี่ลั่วที่อยู่ตรงหน้า แล้วพูดว่า "ดูเหมือนว่าสิ่งที่ข้าพูดในโรงเรียนมัธยมหนานฟงเมื่อสองสามปีก่อนทำให้เจ้ามีปัญหา"

"ขอโทษ"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่ลั่วก็ลืมตาขึ้นมองไปยังหน้าสวยและละเอียดอ่อนที่อยู่ข้างหน้าด้วยใบหน้าที่ดุดันและแข็งกระด้างที่ไม่สามารถปกปิดได้ และยิ้ม "คำขอโทษนี้ไม่แสดงความจริงใจเลยแม้แต่น้อย"

“ถ้าเจ้ามีความจริงใจ ยอมให้ข้าถอนหมั้นสิ”

เจียงชิงเอ๋อพลิกหน้าหนังสือผ่านๆ กล่าวว่า "นี่คือการถอนหมั้นในตำนานงั้นรึ แต่ในละคร ควรเป็นข้าที่ถือโอกาสพูดถึงเรื่องนี้ เจ้าจะสลับลำดับงั้นรึ"

สำหรับอารมณ์ขันที่เย็นชาของนาง หลี่ลั่วไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี*

(哭笑不得 kū xiào bù dé ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี (สำนวนจีน) ทั้งตลกและน่าอายมาก ระหว่างเสียงหัวเราะและน้ำตา)

เจียงชิงเอ๋อเงยหน้าขึ้น เหลือบมองไปที่หลี่ลั่ว และพูดอย่างเฉยเมยว่า "อะไร เจ้ากลัวว่าการสัญญาการแต่งงานนี้จะทำให้เจ้ามีปัญหามากขึ้นงั้นรึ"

หลี่ลั่วเงียบ เขาส่ายหน้าและพูดว่า "ข้ากลัวที่จะถ่วงเวลาเจ้า เจ้าเป็นผู้หญิง ทำไมเจ้าถึงต้องหมั้นโดยไม่จำเป็น ใช่ว่าเจ้าไม่รู้ว่าการหมั้นครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร กี่ครั้งแล้วที่พ่อของข้าถูกแม่ข้าทุบตีในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้”

"พ่อข้าทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องไร้สาระ อันที่จริงข้าเห็นด้วยกับการทุบตี แต่ที่สำคัญก็คือ ทำไมทุกครั้งที่แม่ข้าทุบตีพ่อ แม่ต้องทุบตีข้าไปกับเขาด้วย"

สุดท้าย สีหน้าของหลี่ลั่วก็ค่อนข้างไม่พอใจอยู่บ้างเช่นกัน

เมื่อนึกถึงภาพของนายหญิงผู้สง่างามผู้ที่อ่อนโยนต่อเขามาก แต่เมื่อนางเท้าสะเอว ขมวดคิ้ว ทุบตีชายสองคนในตระกูล คนหนึ่งตัวใหญ่และคนหนึ่งตัวเล็กจนถึงขั้นที่ไก่บินสุนัขกระโดด แม้แต่เจียงชิงเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะโค้งริมฝีสีดอกกุหลาบขึ้นเล็กน้อยไม่ได้ จากนั้นก็สงบลงอีกครั้ง

"ข้าไม่กลัว" นางส่ายหน้า

หลี่ลั่วพูดด้วยอาการปวดหัว "แล้วถ้าเจ้าเจอคนที่ชอบในอนาคตเจ้าจะทำอย่างไร หรือเจ้าจะเพียงแค่หยอกล้อ"

เจียงชิงเอ๋อยิ้มเล็กน้อย "บางทีข้าอาจจะไม่พบ สายตาของข้าค่อนข้างสูง และเจ้ากับข้าก็มีสัญญาแต่งงานกัน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะคิดอะไรกับคนอื่น"

หลี่ลั่วจ้องไปที่เจียงชิงเอ๋อ มีความโกรธในเสียงมากขึ้น "เจียงชิงเอ๋อ เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ ข้ารู้ว่าพ่อแม่ของข้าดีกับเจ้ามากและเจ้าก็รู้สึกกตัญญูพวกเขามาก แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องแสดงความกตัญญูด้วยวิธีนี้ คิดว่าข้าเป็นใคร เป็นเครื่องมือที่เจ้าใช้แสดงความกตัญญูด้วยงั้นรึ"

"สัญญาการแต่งงานนี้ ข้าเห็นด้วยงั้นรึ"

ความโกรธที่เกิดขึ้นมาอย่างกระทันหันของหลี่ลั่วทำให้เจียงชิงเอ๋อตกตะลึง นัยน์ตาสีทองสดใสของนางจ้องมองไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย เงียบไปชั่วขณะแล้วก้มศีรษะลงเล็กน้อย "ข้าขอโทษ เป็นความจริงที่ข้าไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้"

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่ลั่วก็กล่าวว่า "ถ้าเช่นนั้น สัญญาการหมั้นครั้งนี้…"

"แต่…"

เจียงชิงเอ๋อเงยหน้าสวยขึ้นมองไปยังหลี่ลั่วแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "เจ้าควรรู้ว่ากฎในบ้านของเรามีอะไรบ้าง หากมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสองฝ่าย เช่นนั้น เราจะต่อสู้กันก่อนและผู้ชนะจะมีสิทธิ์ตัดสินใจ"

กฎนี้ ตั้งขึ้นโดยแม่ของหลี่ลั่ว เป็นเวลาหลายปีแล้วที่นางใช้กับทุกอย่างในบ้าน ดังนั้น ทุกครั้งที่นางไม่เห็นด้วยกับพ่อของหลี่ลั่ว นางจะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วลากเขาไปที่ห้องฝึกโดยตรง

"ดังนั้น หากเจ้ามีความคิดเห็นขนาดใหญ่เกี่ยวกับสัญญาการแต่งงาน เราสามารถไปที่ห้องฝึกเมื่อเรากลับถึงบ้านและทำตามกฎ" เจียงชิงเอ๋อกล่าว

ทันใดนั้นหลี่ลั่วก็มีสีหน้าแข็งทื่อ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป และในที่สุดเขาก็กัดฟัน ชี้ไปที่เจียงชิงเอ๋อและพูดอย่างโกรธเคืองว่า "เจียงชิงเอ๋อ อย่าเพิ่งไปไกลเกินไป ตอนนี้ข้าเป็นมือใหม่เขตแดนสิบตรา ตอนนี้ข้าจะสู้กับเจ้าได้งั้นรึ"

การฝึกฝนของมนุษย์นั้น หลังจากเปิดตำหนักสภาวะแล้ว จะเป็นการสร้างรากฐานเขตแดนสิบตรา หลังจากเขตแดนสิบตราแล้วก็จะเป็นเขตแดนจอมสภาวะ และหลังจากเขตแดนจอมสภาวะแล้วเท่านั้น จึงจะถือว่าเริ่มเข้าสู่เขตแดนการฝึกยุทธ์จริง

หลังจากเขตแดนจอมสภาวะแล้วก็จะมีอีกสามเขตแดนใหญ่

ขุนพล จอมทัพ ราชัน

จอมทัพ ราชัน อยู่ไกลเกินไป ส่วนขุนพลนั้นแบ่งออกเป็นสองระดับ ระดับบนคือขุนพลเทพสวรรค์ ระดับล่างคือขุนพลอสูรพสุธา และเจียงชิงเอ๋ออยู่ที่ระดับขุนพลอสูรพสุธา

การที่สามารถเข้าถึงเขตแดนขุนพลด้วยวัยเพียงเท่านี้ พรสวรรค์ในการฝึกยุทธ์ของเจียงชิงเอ๋อนั้นแน่นอนว่าสร้างความตกใจให้กับผู้คนนับอนันต์ และกระทั่งบางคนก็ยังคาดเดาว่าบันทึกขุนพลที่อายุน้อยที่สุดของอาณาจักรต้าเซี่ยอาจจะถูกทำลายโดยนาง

แต่ตอนนี้ เจียงชิงเอ๋อ เขตแดนขุนพลอสูรพสุธาคนนี้จะต่อสู้กับหลี่ลั่วเขตแดนสิบตรา

หลี่ลั่วกังวลมากว่าถ้าหากนางไม่สามารถยั้งแรงไว้ได้เมื่อถึงเวลานั้น นางคงจะตบเขาตาย

เจียงชิงเอ๋อวางหนังสือไว้บนโต๊ะและพูดด้วยความเสียใจว่า "ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีทางเป็นไปได้"

หลี่ลั่วสั่นสะท้านเหน็บหนาว โลกจะดีกว่านี้ได้หรือไม่ ทำไมจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะถอนหมั้น

เขาพิงหน้าต่างอย่างอ่อนแรง ดวงตาจับจ้องไปที่ใบหน้าที่เรียบเนียนและละเอียดอ่อนของเจียงชิงเอ๋อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก้วตาสีทองคู่นั้น ซึ่งผุดผ่องมากจนทำให้ผู้คนมึนเมา

เขาถอนหายใจ ลดเสียงเบาลงเป็นอันมาก "พี่สาวชิงเอ๋อ เราอยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้ว ข้าเข้าใจดีว่าเจ้าไม่มีความรู้สึกเช่นชายหญิงกับข้า"

"โดยปราศจากความรู้สึกเป็นฐาน การหมั้นหมายนี้จะมีความหมายอะไร"

เจียงชิงเอ๋อเงียบไปชั่วขณะ พูดว่า "ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็อยากจะบอกว่า พรุ่งนี้เจ้าก็เพิ่งจะมีอายุแค่เพียงสิบเจ็ดปี จะแสร้งทำเป็นแก่เท่าไหร่กันเชียว…"

"แต่สิ่งที่เจ้าพูดก็มีความจริงบางอย่าง แต่ข้าไม่ได้สนใจคนอื่น แต่สำหรับเจ้าแล้วอย่างน้อยข้าก็ไม่ได้ปฏิเสธ"

หลี่ลั่วแสดงรอยยิ้มบิดเบี้ยว กล่าวว่า "พี่สาวชิงเอ๋อ สัญญาแต่งงานนั้นเป็นยิ่งกว่าความกตัญญูของเจ้าที่มีต่อพ่อแม่ข้า ข้าเชื่อว่าความรู้สึกของเจ้าที่มีต่อพวกเขาแข็งแกร่งกว่าที่มีต่อข้า ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ามากน้อยเท่าไหร่ แต่จริงแล้วความกตัญญูแบบนี้ข้าไม่ต้องการ”

หลังจากพูดแบบนั้นแล้ว หลี่ลั่วก็ก้มหน้าลงแล้วพูดช้าๆ ว่า "ข้ารู้ว่าการขอให้เจ้าถอนหมั้นอาจเป็นจริงไม่ได้ แต่…"

เขาเงยหน้าขึ้น มองตรงเข้าไปในดวงตาของเจียงชิงเอ๋อ "ข้าหวังว่าเจ้าจะให้โอกาสตัวเองและให้โอกาสข้าด้วย"

หลี่ลั่วหยุดชั่วคราว จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า "เราสามารถทำข้อตกลง เจ้าช่วยข้าควบคุมตำหนักลั่วหลานก่อนที่ข้าจะมีความสามารถเพียงพอ หากเจ้าสามารถทำให้มันไม่ขาดทุนมากนักเมื่อข้ารับช่วงต่อตำหนักลั่วหลาน ข้าจะถอนหมั้นให้กับเจ้าเป็นการขอบคุณ คิดว่าเป็นอย่างไร"

เจียงชิงเอ๋อไม่พูด มีเพียงนิ้วหยกที่เรียวยาวที่ขยับอย่างนุ่มนวลและเป็นจังหวะบนโต๊ะ และความเงียบก็กินเวลาเนิ่นนาน และในที่สุดนางก็กระซิบว่า "หลี่ลั่ว เจ้าไม่ชอบข้าจริงๆ งั้นรึ"

หลี่ลั่วหยุดชะงัก เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “พี่ชิงเอ๋อ เจ้าอาจประเมินความน่าดึงดูดใจและความเป็นเลิศของเจ้าต่ำไป สำหรับคนในวัยนี้ เสน่ห์ของเจ้าคือเครื่องสังหารประเภทหนึ่ง ถ้าข้าบอกว่าไม่ชอบนั่นก็จะเป็นการดูหมิ่นและเสแสร้ง”

"แต่อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ต้องการสัญญาการแต่งงานแบบนี้"

เจียงชิงเอ๋อเลิกคิ้วเล็กน้อย และทันใดนั้นมือเล็กๆ ก็ตบลงไปบนโต๊ะกาแฟ

บูม

หลี่ลั่วตกใจ รีบขยับก้นถอยไปข้างหลังแล้วพูดว่า "มาคุยกันกว่า อย่าทำอะไรเลย"

เจียงชิงเอ๋อมองไปที่เขาอย่างว่างเปล่า พูดอย่างเฉยเมยว่า "หลี่ลั่ว ข้าไม่ได้เจอเจ้ามาสักพักแล้ว คารมคมคายของเจ้าดี สิ่งที่เจ้าพูดนั้นค่อนข้างสมเหตุสมผล ข้าจะถือว่านี่เป็นข้อตกลง เมื่อเจ้าต้องการครอบครองตำหนักลั่วหลาน ข้าก็จะยกมันให้เจ้าอย่างสมบูรณ์ และเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็จะคืนสัญญาการแต่งงานให้กับข้า"

เมื่อหลี่ลั่วได้ยินดังนั้น เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันใด แต่ในขณะเดียวกัน ในส่วนลึกของหัวใจ ก็รู้สึกถึงการสูญเสียที่อธิบายไม่ได้บางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เขาสาปแช่งตัวเองอย่างลับๆ จริงๆ แล้วมันช่าง…

“คำพูดของเจ้าในวันนี้ ทำให้ข้าประทับใจอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว”

หลี่ลั่วโกรธเล็กน้อย "เด็กงั้นรึ ข้าอายุเท่าไหร่แล้ว"

เจียงชิงเอ๋อไม่สนใจเขา เพียงแค่จ้องมองเขาด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า "แต่หลี่ลั่ว ข้ายังต้องเตือนเจ้าอีกครั้ง เจ้าวางแผนที่จะทำตามข้อตกลงนี้จริงๆ หรือไม่ เมื่อสัญญาการแต่งงานนี้ถูกยกเลิก ข้าเกรงว่าเจ้าจะไร้ความหวังในชีวิตนี้จริงๆ"

หลี่ลั่วหรี่ตา เขาวางแขนลงบนโต๊ะกาแฟ ยืดตัวไปข้างหน้า และมองตรงไปที่เจียงชิงเอ๋อ ใบหน้าของพวกเขาอยู่ห่างกันเพียงครึ่งฉื่อเท่านั้น

"เจียงชิงเอ๋อ ข้าไม่สนใจสัญญาการแต่งงานนี้จริงๆ เพราะในอนาคตข้าอยากให้เจ้ามอบสัญญาแต่งงานให้กับข้าด้วยมือของเจ้าเอง ไม่ใช่ให้กับพ่อแม่ข้า"

ดวงตาสีทองของเจียงชิงเอ๋อสะท้อนใบหน้าหล่อเหลาของหลี่ลั่ว รอยยิ้มที่มุมปากนางดูชัดเจนขึ้น แน่นอนว่านางเข้าใจความหมายของหลี่ลั่ว เหตุผลที่เขาคืนสัญญาการแต่งงานนี้เป็นเพราะนางไม่ได้ตั้งใจจะชอบเขาแบบชายหญิง แต่หากนางให้สัญญาการแต่งงานกับหลี่ลั่วอีกครั้งในอนาคตนั่นก็หมายความว่านางตกหลุมรักเขา

"นั่งลง" ริมฝีปากสีแดงนางเปิดออกเล็กน้อย

พลังที่อธิบายไม่ได้ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า กดหลี่ลั่วลงไปนั่งลงอย่างแรงบนที่นั่งของรถ แรงนี้ทำให้ฝ่ายหลังยิ้มกริ่มอย่างควบคุมไม่ได้

จากนั้นสภาวะกดดันก่อนหน้านี้ก็สลายไปในทันที

เจียงชิงเอ๋อสัมผัสแก้มหอมกรุ่นของตนเอง มองดูหลี่ลั่วอย่างเกียจคร้านและพูดว่า "ไม่เก่งแต่เสียงดัง ข้าเคยเห็นลูกเทวดา*มามากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าพูดแบบนี้กับข้า"

*(天骄 เทียนเจียว บุตรแห่งสวรรค์ มีที่มาตั้งแต่สมัยจีนโบราณยุคเจ็งกิสข่าน ในที่นี้มีความหมายเป็นการดูถูก)

ดวงตาสีทองของนางเปล่งประกายแวววาว ลึกลับและลึกล้ำ

"ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่สถาบันศักดิ์สิทธิ์เฉวียนชิง… นี่เป็นก้าวแรก และถ้าเจ้าไปไม่ถึง คำพูดของวันนี้จะถือเหมือนเป็นเพียงแค่หัวใจของเด็กที่ดื้อรั้น และให้ลืมมันไปเสีย"

คราครั้งนี้หลี่ลั่วไม่พูดอะไรอีก เขาแค่เอนตัวพิงหน้าต่างรถ ค่อยๆ หลับตาลง แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า "ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็รอหน่อย"

ดวงตาเจียงชิงเอ๋อจ้องมองไปที่ถนนและอาคารผ่านช่องหน้าต่างรถ มีแสงแดดส่องเข้ามาในดวงตานางและนางก็ยิ้มออกมาทันทีโดยไม่รู้ตัว

มีความนุ่มนวลที่หายากในดวงตา

รถศึกห้อตะบึง หลังจากผ่านไปเนิ่นนานหลี่ลั่วก็ลืมตาขึ้นและพูดด้วยความสงสัยว่า "นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านใช่ไหม"

เจียงชิงเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อย พูดเบาๆ ว่า "ไปที่ธนาคารจินหลงเป่าเพื่อเอาของอะไรบางอย่าง"

ดวงตาสีทองของนางตกลงไปที่หลี่ลั่ว

"อาจารย์และอาจารย์หญิง ก่อนออกเดินทาง ได้ทิ้งของบางอย่างไว้ให้เจ้าเปิดดูได้เมื่อเจ้าอายุสิบเจ็ดปี"

เมื่อหลี่ลั่วได้ยินดังนั้น หัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน

พ่อกับแม่ฝากอะไรไว้ให้เขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด