ตอนที่แล้วตอนที่ 16 คัดลอกครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 บ้านใหม่และยันต์คุ้มกัน

ตอนที่ 17 หลินซูโหรว


“มีใครอยู่ไหม?”

หลิงอี้ตะโกนถามสองสามครั้งหลังจากเข้ามา

พอไม่มีใครตอบกลับเขาจึงวางหลินชูโหรวไว้บนโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วมองไปรอบๆ

นี่เป็นบ้านสองชั้นหลังเล็ก พอเดินเข้ามาจึงมาถึงห้องโถงทันที

มีพรมแดงขนาดใหญ่ปูอยู่กลางห้องโถง บนพรมแดงมีโซฟายาวสีแดงไวน์หนึ่งตัวและโซฟาสั้นสองตัว ตรงกลางระหว่างโซฟามีโต๊ะขนาดใหญ่ตั้งอยู่

หลินซูโหรวกำลังนอนบนโซฟายาวสองเมตร

โซฟาตัวนี้หันหน้าไปทางทีวี80นิ้วที่ติดอยู่บนผนัง ซึ่งทีวีเครื่องนี้ใหญ่กว่าทีวีในห้องหลิงอี้มาก

เขาเดินไปรอบๆชั้นแรก เดินจากห้องครัวทางซ้ายไปยังห้องออกำลังกายทางขวา พอได้ดูห้องน้ำกับห้องเก็บของแล้วเขาพบว่าที่นี่สะอาดมาก

ในห้องครัว เขาเห็นแค่จานกับตะเกียบที่นำออกมาล้าง

เธอคงล้างมันหลังกินอาหารเสร็จ

“เธออยู่ที่นี่คนเดียว?”

หลิงอี้ขมวดคิ้วเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้

เขาแค่จะพาเธอมาส่งที่บ้านแล้วปล่อยให้ครอบครัวเธอจัดการเรื่องที่เหลือต่อ

แต่ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้อยู่บ้านคนเดียว?

เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบโทรศัพท์ของเธอจากกระเป๋าแล้วดูว่าจะติดต่อกับครอบครัวได้ยังไง

สมุดรายชื่อในโทรศัพท์ผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนของเขาไม่มีผิด มันไม่มีอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า!

หลิงอี้ “...”

หลิงอี้มองใบหน้าอ่อนหวานของหญิงสาวที่หลับอยู่และคิดในใจ “อยู่คนเดียว ไม่มีข้อมูลติดต่อญาติหรือเพื่อน”

“ผู้หญิงคนนี้เป็นเหยื่อเหมือนกัน?”

เขาไม่สนใจเรื่องตัวตนของเธอ

สิ่งที่เขาสนใจคือจะทำยังไงต่อ?

“อืมม ทำดีให้ถึงที่สุดแล้วกัน ขอหาวิธีแก้คำสาปก่อน” หลิงอี้มองหญิงสาวครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้

เขาไม่ได้รีบกลับนักเพราะห้องของเขาอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม

เขานั่งลงบนโซฟาและเข้าฟอรั่มค้นหาวิธีแก้ปัญหาคำสาปฝันร้าย

เพียงครู่เดียว

เขาได้พบวิธีแก้คำสาบหลายวิธี

วิธีที่ง่ายที่สุดคือซื้อยันต์คลายคำสาปจากร้านเสินลู่

เป็นยันต์ที่สามารถลบคำสาประดับต่ำได้ ยันต์หนึ่งใบสามารถลบคำสาประดับต่ำให้กับผู้เล่นที่เลเวลต่ำกว่า10(รวมถึงคนธรรมดา)

เขาเปิดร้านเสินลู่และพบว่ายันต์นี้สามารถซื้อได้ชิ้นเดียวต่อวัน และแต่ละชิ้นมีราคาแค่1เหรียญทองเท่านั้น

“ถูกขนาดนั้นเลย? รู้แบบนี้ฉันน่าจะหาวิธีแก้คำสาปตั้งแต่อยู่ในร้านอาหาร”

หลิงอี้ซื้อ[ยันต์คลายคำสาป]และใช้มันกับหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ทันที

เวลาต่อมา

จุดสีฟ้าอ่อนโผล่จากความว่างเปล่าเหใอนกับมีดาวดวงเล็กๆปรากฏขึ้น

จุดแสงเหล่านี้ค่อยๆตกลงมาที่ร่างหลินซูโหรว แทรกซึมผ่านเสื้อผ้าของเธอและหลอมรวมเข้ากับผิวหนัง

“ตอนนี้คงหายดีแล้ว”

หลิงอี้ตั้งใจจะออกไป

แต่ในตอนนั้นเอง ข้อความที่เกินความคาดหมายก็ปรากฏขึ้น

[ความคืบหน้าในการคลายคำสาป: 1/3]

[แจ้งเตือน: เป้าหมายมีเลเวลสูงกว่า10จึงต้องการพลังในการคลายคำสาปมากขึ้น!]

“สูงกว่าเลเวล10!?”

หลิงอี้มองหญิงสาวที่หลับอยู่ด้วยตาเบิกกว้างเพราะความประหลาดใจ

เป็นเรื่องยากจริงๆที่จะคิดว่าผู้หญิงบอบบางคนนี้เป็นผู้เล่นระดับสูง

ในขณะที่เขาประหลาดใจอยู่ เปลือกตาของผู้หญิงคนนั้นเริ่มสั่นรัวราวกับว่าเธอพยายามปลุกตัวเองให้ตื่น

หลิงอี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าเธออาจต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อยจึงช่วยเขย่าตัวเธอ

เห็นผลได้อย่างชัดเจน

หลินซูโหรวตื่นขึ้นทันที ดวงตาสีน้ำเงินของเธอเปิดขึ้น

หลิงอี้มองเธอ เธอมองเขา

ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะร้อง‘อ๊าาา’และลุกขึ้นทันที เธอใช้แขนโอบรอบหน้าอกและย่อตัวไปที่มุมโซฟาอย่างรวดเร็วเหมือนกระต่ายหวาดกลัว

ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

“ฟื้นแล้วเป็นยังไงบ้าง?” หลิงอี้ถามด้วยความสงสัย

ความคืบหน้าในการคลายคำสาปมีแค่หนึ่งในสาม หรือว่าคำสาปจะหายไปหมดหลังจากฟื้น?

ดูแล้วมันค่อนข้างคลุมเครือ

หลินซูโหรวมองเขาด้วยความตื่นตระหนกและก้มหน้ามองตัวเองทันที พอเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองยังอยู่ครบเธอจึงโล่งใจ

เมื่อเห็นแบบนั้น

หลิงอี้พูดต่อ “การคลายคำสาปทำได้แค่หนึ่งในสามไม่ใช่เหรอ?”

“แค่คลายคำสาปเล็กน้อยก็ตื่นได้ครึ่งหนึ่ง”

หลินซูโหรวตอบอย่างอ่อนแรง

“ในเมื่อเธอตื่นแล้วและยังเป็นผู้เล่นด้วย ถ้าอย่างนั้นทำต่อเองเลย ฉันไปล่ะ”

หลิงอี้โบกมือและกำลังจะจากไป

แต่ก่อนที่เขาจะหันหลังก้าวออกไป เสียงรีบร้อนก็ดังมาจากข้างหลัง “เดี๋ยวก่อน ฉันยังต้องให้คุณช่วยอยู่”

“หืม?” หลิงอี้หันกลับมาด้วยความสับสน

หลินซูโหรวสูดหายใจเข้าลึกและอธิบายสถานการณ์ของเธอ

......

ที่ทแ

เธอเคยเป็นผู้เล่นเลเวล30

ตอนนั้นเธอยังเป็นคนมองโลกในแง่ดีและมีรอยยิ้มร่างเริงอยู่ทุกวัน

แต่หลังจาก

ในระหว่างการประเมินเสินลู่ เขตของพวกเธอล้มเหลวเพราะคริสตัลถูกกองทัพมอนเสตอร์ครอบครอง ทุกคนในเขตนั้นจึง‘ไม่สามารถเข้าเสินลู่และไม่สามารถใช้พลังของผู้เล่น’ได้อย่างถาวร

พูอีกอย่างคือถึงจะมีเลเวลสูงแต่เธอเป็นแค่คนธรรมดา

เธอล่วงหล่นจากคนพิเศษกลายเป็นคนธรรมดาซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยมาก หลังจากนั้นเธอจึงทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังและค่อยๆเปลี่ยนเป็นคนอ่อนแอ

“ถึงจะมีเลเวลอยู่ แต่ฉันใช้พลังของผู้เล่นไม่ได้แล้ว”

ขณะที่พูดเธอก็ถอดรองเท้าออก วางเท้าในถุงน่องสีขาวบนโซฟาและคุยกับหลิงอี้ในท่านั่งเป็ด

“ฉันซื้อไอเทมคลายคำสาปไม่ได้เพราะเข้าร้านเสินลู่ไม่ได้ สองวันต่อจากนี้ฉันเลยต้องการให้คุณช่วย”

เธอทำทุกอย่างให้ชัดเจน

“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”

หลิงอี้เข้าใจ

ไม่มีอะไรมากไปกว่าการซื้อ[ยันต์คลายคำสาป]ให้เธออีกสองวัน

ส่วนเรื่องเหรียญทองเขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจแม้แต่น้อย

หลิงอี้รับปากให้ความช่วยเหลือ

หลินซูโหรวมองรอยยิ้มกล้าหาญของเขาและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอเม้มปากแล้วพูดด้วยเสียงเบา “แต่ฉันไม่มีอะไรตอบแทนให้นะ”

เธอมองไปมาในบ้านของตัวเองครู่หนึ่ง พอเห็นว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เธอก็ยิ่งเขินอายมากขึ้นไปอีก

แต่หลิงอี้ไม่คิดแบบนั้น

“ไม่หรอก มีเรื่องที่เธอตอบแทนฉันได้อยู่”

เขามองหน้าหลินซูโหรวด้วยรอยยิ้ม

เธอเคยเป็นผู้เล่นเลเวล30และเกือบผ่านเส้นทางหลักมาแล้ว

เหรียญทองแค่ไม่กี่เหรียญเทียบกับข้อมูลในหัวเธอไม่ได้เลย!

แม้ว่าข้อมูลส่วนใหญ่จะเปิดให้อ่านแบบสาธารณะ แต่จะเจอข้อมูลนั้นได้เมื่อหาในฟอรัมด้วยความรอบคอบเท่านั้น

ดังนั้นการได้ข้อมูลจากคนที่รู้ข้อมูลอยู่แล้วต้องดีกว่าแน่นอน

เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้ม หลินชูโหรวจึงตกตะลึงและแก้มของเธอเริ่มแดง

เธอเอามือโอบหน้าอกเธออีกครั้งแล้วพูดอย่างประหม่า “นั่น เรื่องนั้นไม่ได้นะ”

ดวงตาสีน้ำเงินเกือบจะน้ำนอง

หลิงอี้ “...”

เขาข้ามเรื่องนี้ไปและแนะนำตัวกับเธอ

“จะว่าไป เธอยังไม่รู้จักชื่อฉันเลย”

เขาเอื้อมมือไปทางเธอ “มาทำความรู้จักกันเถอะ ฉันชื่อหลิงอี้”

“หลิงจากความทะเยอทะยาน อี้จากไม่มีใครเทียบ”

“ฉันเพิ่งเป็นผู้เล่นวันนี้ ตอนนี้...อืม...เลเวลค่อนข้างดี”

หลินชูโหรวมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าอยู่นาน จากนั้นเธอจึงถอนหายใจแล้วยื่นมือหยกขาวจับมือเขา

“หลินซูโหรว ไม่มีความหมายพิเศษ นายจะเรียกแบบไหนก็ได้”

“เป็นแค่คนธรรมดาที่ทำอะไรไม่ถูก”