ตอนที่แล้ว932 ยาซึมเข้าสู่ผิวหนัง กระดูกเหล็กผิวทองแดง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป934 ไม้คัง แช่น้ำยา

933 ฉีและโลหิตไหลเวียน ไม่แก่ไม่ตาย


933 ฉีและโลหิตไหลเวียน ไม่แก่ไม่ตาย

“ชมเกินไปแล้ว” เมี่ยวซีเหอพูด

“ตอนนี้ นายก็มาถึงจุดนี้แล้ว แล้วยังจะเอากล้วยไม้สีเลือดมาทำอะไรอีก?” หวูซานถาม

อยู่ๆเขาก็นึกขึ้นมาได้ เขาถาม “หรือว่านายอยากจะกลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้งและมีชีวิตอมตะ?”

“ฉันรู้สึกว่า ฉันมาถึงจุดสูงสุดแล้ว” เมี่ยวซีเหอพูด “ฉันไปข้างหน้าหรือก้าวหน้ากว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ฉันอยู่จุดนี้มาถึงหกปี ตลอดหกปีที่ผ่านมา ฉันพยายามอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จเลย ฉันยังคงยืนอยู่ที่จุดเดิม พอตอนนี้ กล้วยไม้สีเลือดปรากฏออกมา มันได้มอบโอกาสครั้งใหม่ให้กับฉัน ฉันอยากจะดูว่า ฉันจะสามารถก้าวไปไกลกว่านี้ได้อีกไหม”

“การก้าวไปข้างหน้าในความหมายของนายคืออะไร?” หวูซานถาม

“เพื่อให้พลังฉีและโลหิตไหลเวียนไร้ที่สิ้นสุด และกลายเป็นอมตะไม่แก่ไม่เฒ่า” เมี่ยวซีเหอพูด

ฮาฮาฮา! หวูซานหัวเราะ

“นั่นก็แค่การเป็นอมตะและเป็นหนุ่มตลอดกาลไม่ใช่เหรอ เมี่ยวซีเหอ? นายกล้ามากนะที่คิดฝันถึงเรื่องนี้น่ะ!”

“ถ้าฉันคิดฝันถึงเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วฉันจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไรล่ะ?” เมี่ยวซีเหอตอบกลับไปหลังจากที่จิบชา

“การสกัดร่างกายด้วยยาเป็นความลับที่หุบเขาพันโอสถเก็บรักษาเอาไว้มาโดยตลอด” หวูซานพูด “มันสามารถกลั้นผิวหนังภายนอกและเพิ่มจุดเดือดของอวัยวะภายใน ครั้งสุดท้ายที่เจอนายก็ผ่านมานานถึง 20 ปี นายไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด นายยังเอาตัวเองไปทดลองด้วยใช่ไหม?”

“มันเป็นเกียรติสำหรับฉันที่ได้รับคำสั่งสอนจากอาจารย์ เมื่อครั้งที่อยู่ในหุบเขาพันโอสถ หลังจากกลับออกมา ฉันก็ศึกษาเรื่องนั้น ฉันพยายามมาตลอดหลายปี แล้วมันก็เห็นผล แต่ก็ยังห่างไกลจากระดับที่นายอยู่ ฤทธิ์ของยาซึมเข้าสู่วิญญาณและไขกระดูกของนายไปแล้ว คนแรกที่ทำเรื่องนี้ในหุบเขาพันโอสถคงไปไม่ถึงขั้นนั้นเลยใช่ไหม?”

“ฉันที่เป็นคนรุ่นหลังจะไปเข้าใจความต้องการของคนรุ่นก่อนได้ยังไง จริงไหม?” เมี่ยวซีเหอถาม

“ฉันขอคิดดูก่อน” หวูซานเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “นายกลั่นร่างกายตัวเองด้วยยา ยาได้เข้าสู่วิญญาณและไขกระดูกของนาย ครึ่งหนึ่งคือพิษและอีกครั้งคือยา ส่วนกล้วยไม้สีเลือดคือยาวิเศษ มันมีความบริสุทธิ์สูง มันต่อต้านเลือดในตัวนายใช่ไหม?”

“ยอดเยี่ยม!” เมี่ยวซีเหอพูด

คำพูดของอีกฝ่ายเข้าเป้าทั้งหมด

“ตอนที่ฉันได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์ เขาพูดว่า ยาทุกตัวที่ใช้ในการกลั่นร่างกาย จำเป็นต้องมีความเป็นกลางและลดการส่งผลเสียต่อร่างกายให้เหลือน้อยที่สุด” หวูซานพูด “ถ้าดูจากทฤษฎีนี้ ร่างกายของนายไม่น่าจะมีการต่อต้านฤทธิ์ของกล้วยไม้สีเลือดเท่าไหร่ แต่เป็นพิษในร่างกายของนายต่างหากที่ทำให้นายหลุดออกจากเส้นทางที่ถูกต้อง ใช่ไหม?”

“ฉันเดินบนเส้นทางนั้น แต่ฉันก็มาถึงจุดสิ้นสุดของมันแล้ว” เมี่ยวซีเหอพูด “ถ้าฉันอยากก้าวต่อ ฉันก็ต้องหาเส้นทางอื่น พิษก็คือยาชนิดหนึ่ง และแมลงพิษก็เช่นเดียวกัน”

“ตอนนี้ นายได้กลายเป็นมนุษย์พิษไปแล้ว กล้วยไม้มีสรรพคุณในการล้างพิษด้วยรึเปล่า?”

“มี ฉันลองดูแล้ว มันสามารถขจัดพิษได้ทุกชนิด” เมี่ยวซีเหอตอบ

“การผสานพลังของกล้วยไม้สีเลือดเข้ากับเลือดในร่างกายของนายคงเป็นเรื่องที่ยากมาก” หวูซานพูด

มีสมุนไพรที่สามารถสร้างความเป็นกลางให้กับยาทุกชนิดหรือไม่? มี เช่น สมุนไพรวิเศษ แต่การสร้างความเป็นกลางก็คือการปรับสมดุลของหยินหยาง เพื่อที่ฤทธิ์ของยาบางตัวจะไม่รุนแรงจนเกินไป แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปรับให้ยาตัวอื่นเข้ากันได้กับพิษ เช่น ต้นต้วนฉาง

“ฉันก็เลยมาหานายยังไงล่ะ” เมี่ยวซีเหอพูด

“นายลองแล้วเหรอ?” หวูซานถาม

“ใช่ แต่ฉันทำไม่สำเร็จ”

“ฉันขอคิดก่อน” หวูซานตอบ

เขาจ้องมองไปที่เลือดในถ้วย หลังจากนั้น เขาก็หันไปมองเมี่ยวซีเหอ

“ความจริง เรื่องนี้มีคำตอบอยู่สองอย่าง มันขึ้นอยู่กับว่านายอยากเลือกคำตอบไหน”

“ทำไมนายถึงพูดแบบนั้น?” เมี่ยวซีเหอถาม

“ทางเลือกก็คือ การลบพลังทั้งหมดที่อยู่ภายในร่างกายและเลือดของนายออกไปจนหมด แล้วกินกล้วยไม้สีเลือดเข้าไป หรือง่ายๆ ก็แค่ยอมแพ้เรื่องกล้วยไม้สีเลือดไปซะ” หวูซานพูด

“ฉันจะลบล้างพลังที่อยู่ภายในตัวของฉัน ทั้งที่มันซึมลึกไปจนถึงไขกระดูกออกไปได้ยังไง?”

“เอาเลือดออก แล้วเติมเลือดเข้าไปใหม่ พร้อมกับใช้ยาล้างพิษเข้าช่วย” หวูซานเสนอ

เมี่ยวซีเหอเงียบไป ถ้าหวูซานสามารถคิดวิธีการนี้ได้ เขาก็คงคิดได้เหมือนกัน แต่ความเสี่ยงนั้นสูงเกินไป มันไม่ได้ง่ายอย่างที่พูด แม้แต่สภาพร่างกายในปัจจุบันของเขา หากผิดพลาดขึ้นมาก็สามารถนำไปสู่การบาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิตได้เลย

“เรามาคิดหาวิธีการอื่นกันดีไหม?”

“ได้ ลองคิดหาวิธีอื่นดู” หวูซานพูด

มันเป็นเรื่องง่ายในการเสนอให้คิดหาวิธีการอื่น แต่กลับยากที่จะทำ เมี่ยวซีเหอรู้ถึงความพยายามที่เขาทุ่มเทลงไปและความเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญ มีเพียงการก้าวเข้าสู่ขอบเหวแห่งความตาย เขาถึงจะสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ ในเวลานี้ เขาต้องหาหนทางอื่นหรือไม่ก็ยอมแพ้ไป เขาไม่สามารถตัดสินใจได้เลย

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ฤทธิ์ของยาลดลง ชีวิตของฉันก็จะเกิดความไม่แน่นอนขึ้น” เมี่ยวซีเหอพูด

“เฮ้อ ความจริง นายไม่เห็นจะต้องรีบเลย” หวูซานพูด “หลังจากที่กลั่นวิญญาณและไขกระดูกแล้ว นายก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ด้วยร่างกายนี้ไปได้อีก 100 กว่าปีโดยไม่มีปัญหา ด้วยเวลาเหลือเฟือขนาดนี้ มีหรือจะทำไม่ได้?”

เมี่ยวซีเหอก้มลงมองถ้วยชาในมือของเขา เขารินชาให้กับหวูซาน

“ฉันกังวลมากเกินไป”

“ความเย้ายวนจากกล้วยไม้สีเลือดมันมากเกินไป” หวูซานพูด

“อืม ขอบใจนะ”

“ด้วยความยินดี”

ใบไม้บังตาจนมองไม่เห็นภูเขาไท่ซาน

“เอาล่ะ ฉันต้องกลับแล้ว”

“ทำไมถึงรีบกลับล่ะ? ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ?”

“ไม่ล่ะ ยังมีเรื่องให้ต้องกลับไปจัดการอยู่” เมี่ยวซีเหอลุกขึ้นและเดินออกไป

หวูซานเดินตามเขาไป

“ถ้ามีเวลาว่างก็กลับไปที่หุบเขาได้นะ” เมี่ยวซีเหอพูด “ฉันยินดีต้อนรับเสมอ”

“ฉันอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้วล่ะ” หวูวานพูด

เมี่ยวซีเหอพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันหลังและเดินจากไป ในเวลาไม่นาน เขาก็ห่างออกไปไกลแล้ว หวูซานเฝ้ามองอีกฝ่ายที่เดินหายลับไปจากทางเดิน ก่อนจะกลับเข้าไปในอาคารไม้ไผ่ของตนเอง

“ใครกันที่ทำให้ราชายาถึงกับต้องเดินออกมาส่งด้วยตัวเองแบบนี้?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ? บางทีอาจจะเป็นญาติก็ได้”

“จิ๊ ดูผู้ชายคนนั้นสิ แต่งตัวอย่างกับคนบ้านนอก ไม่เหมือนคนในเมืองสักนิดเดียว”

“อย่าตัดสินหนังสือแค่จากหน้าปกของมันสิ คิดว่า ปกติราชายาแต่งตัวยังไง? เขาก็ใส่เสื้อผ้าอย่างชาวบ้านแถวนี้ไม่ใช่เหรอ?”

“นั่นก็จริง”

“เฮ้อ วันนี้ ราชาจะรักษาคนไหมนะ?”

“วันนี้ เขาอาจจะยอมรักษาก็ได้”

ไม่นาน หลังจากที่หวูซานกลับเข้าไปในอาคารไม้ไผ่ ลูกศิษย์ของเขาก็เดินออกมา เขาได้บอกข่าวร้ายกับคนที่รออยู่ด้านนอกเป็นเวลานานว่า “วันนี้ เขาไม่รับรักษา!”

“หา ทำไมล่ะ?”

“คงเป็นครั้งแรกที่มาที่นี่สินะ การรับคนไข้ของราชายาต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาด้วย ถ้าเขาไม่อยากรักษา เขาก็จะไม่รักษา”

“ฉันต้องมารอตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ได้อะไรเลยงั้นเหรอ?”

“ถ้ารีบก็ไปที่อื่นเถอะ แต่ถ้าไม่รีบ ก็แค่รอต่อไป”

ภายในอาคารไม้ไผ่ มีกล่องและถ้วยชาวางอยู่บนโต๊ะ ด้านในมีกล้วยไม้สีเลือดแช่แข็งวางอยู่ ภายในถ้วยชามีเลือดสีแดงคล้ำอยู่ภายใน

หวูซานเดินไปที่โต๊ะและจ้องมองของสองสิ่งนั้น หลังจากนั้นสักพัก เขาก็เอื้อมมือและเอานิ้วจุ่มลงไปในเลือดและนำเข้าปาก

แหวะ! เขารีบบ้วนทิ้งและล้างปากอยู่หลายรอบ

เขาถอนหายใจและคิด เลือดมีแต่พิษ! วิเศษจริงๆเมี่ยวซีเหอ!

สายตาของเขาเลื่อนไปทางกล่องใส่กล้วยไม้สีเลือด เขาหยิบขึ้นมาดอกหนึ่ง นำมันขึ้นมาดม มันมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลาย

กลิ่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

เขาส่งกล้วยไม้สีเลือดเข้าไปในปากและเคี้ยวจนละเอียด เขารู้สึกว่า ภายในปากของเขาอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม มันให้ความรู้สึกสดชื่น

เป็นของดีจริงๆ!

เขาเคี้ยวอย่างช้าๆ ลิ้มรสของก้านและใบ และกลืนกินดอกของมัน เขานั่งนิ่งและสัมผัสถึงพลังของดอกไม้ที่เข้าไปอยู่ในกระเพาะของเขาแล้วในตอนนี้

ฤทธิ์ของยามีความบริสุทธิ์ มันอบอุ่นและชะล้างสิ่งที่อยู่ภายในร่างกาย

เฮ้อ หลังจากผ่านไปนาน เขาก็ถอนหายใจยาว

น่าเสียดาย

เขาลืมตาและมองออกไปทางหน้าต่าง

ถ้าเมี่ยวซีเหอเจอกล้วยไม้สีเลือดเร็วกว่านี้ บางที เขาอาจจะสามารถก้าวไปได้ไกลกว่านี้ก็ได้

“อาจารย์”

“มีอะไร?”

“มีคนสร้างปัญอยู่ข้างนอกครับ”

“ปล่อยพวกเขาไป บอกพวกเขาว่า ฉันจะไม่รับคนไข้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์

“ครับ อาจารย์”

“อะไรนะ? เขาเปลี่ยนเป็นหนึ่งอาทิตย์! เขาคิดอะไรอยู่?”

คนที่อยู่ด้านนอก ต่างโวยวายหลังจากที่ได้รู้ข่าว

“เฮ้อ มีความสุขจริงๆ!” หวูซานหัวเราะอยู่ภายในอาคารไม้ไผ่ เขาดูสดชื่นมาก

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ใกล้เย็นแล้ว

“มันใกล้จะหมดหน้าหนาวอยู่แล้ว แต่ทำไมอากาศยังเป็นแบบนี้อยู่อีกล่ะ? มันไม่เห็นเปลี่ยนเลย!”

“อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น!”

ภายในคลินิกแห่งหนึ่งในเขตเหลียนชาน

“เสี่ยวเหมย”

“คุณลุง มีอะไรให้ฉันช่วยคะ?”

“เอ่อ ซุปเสี่ยวเผยหยวนที่ฉันซื้อไปเมื่อสองวันก่อนใกล้จะหมดแล้วน่ะสิ ช่วยเอามาให้ฉันอีกสองขวดทีนะ” ชายชราวัยหกสิบบอก

“ได้ค่ะ รอเดี๋ยวนะคะคุณลุง” พันเหมยพูด “หลังจากกินยาไปแล้วเป็นยังไงบ้างคะ?”

“มันดีมากเลยล่ะ ฉันรู้สึกสบายขึ้นมาก ยาที่ทำขึ้นในเขตของเราได้ผลดีจริงๆ”

“ใช่ค่ะ” พันเหมยพูด

ชายชราจากไปเมื่อมีคนอื่นเข้ามาในคลินิก เขามาเพื่อถามหายาตัวเดียวกัน

“ยังมีเหลืออยู่รึเปล่า?”

“มีค่ะ คุณลุงไม่สบายเหรอคะ?” พันเหมยถาม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด