ตอนที่แล้วบทที่ 15 งานเลี้ยงเริ่มต้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 17 การอัพเกรดและจุดเริ่มต้น

บทที่ 16 พวกนายชั่วร้ายมาก


บทที่ 16 พวกนายชั่วร้ายมาก

.

เมื่อมองไปยังสีหน้าหมองคล้ำของคนทั้งคู่ หลี่ซวนก็หยุดพูดไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดอย่างลึกลับว่า “แต่! เมล็ดพันธุ์อวกาศเหล่านั้นยังอยู่ในช่วงทดลองในต่างประเทศ ซึ่งยังไม่ประสบผลสำเร็จดี! ลูกพี่ลูกน้องของฉันจึงไม่กล้านำผักผลไม้ที่เขาปลูกมาขายเอง เพราะกลัวว่าจะถูกจับ! ดังนั้นเขาจึงมาพบเครือญาติเดียวในประเทศนี้ของเขา ซึ่งก็คือบ้านของฉัน เขาจึงมาพบกับฉันโดยตรงที่เมืองใหญ่แห่งนี้!”

“บ้าเอ๊ย…ซวนจื่อ มันจะลึกลับเกินไปแล้ว? ลูกพี่ลูกน้องของนายเป็นคนที่มีความสามารถ! เขาสามารถนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศออกมาโดยไม่มีใครจับได้ แล้วทำไมเขาไม่ขายเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ยังพัฒนาไม่สำเร็จพวกนั้นล่ะ?” เฉินเหว่ยปินที่ฟังเรื่องราวมาชั่วขณะหนึ่ง อดที่จะพูดแทรกไม่ได้

“หยุดเลย! อาปิน! นายไม่ละอายใจเหรอที่เรียกตัวเองว่านักศึกษามหาวิทยาลัย? การฆ่าไก่เอาไข่แบบนี้ยังคิดออกมาได้!” หลี่ซวนเหลือบมองเพื่อนสนิท จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า “ลูกพี่ลูกน้องของฉันต้องการให้ฉันอยู่ในที่แจ้งขายสินค้า และเขาอยู่ในที่มืดคอยจัดการเรื่องวัตถุดิบ อย่างที่นายรู้ เรื่องพืชผักพวกนี้เป็นความลับ เป็นไปไม่ได้ที่จะนำออกมาขายโดยตรง ดังนั้น ฉันเลยเจรจาประนีประนอมกับเขา โดยการเข้าสู่ธุรกิจอาหาร!”

“ซวนจื่อ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ?” เฉินเหว่ยปินกล่าวพร้อมกับส่ายหน้า

หลี่ซวนส่ายหน้าไม่สนใจคำพูดของเฉินเหว่ยปิน และถามกลับไปว่า “ขอถามหน่อย อาหารที่เพิ่งกินไป รู้ไหมว่าทำไมมันถึงได้อร่อยมาก?”

“พวกเรา…” เฉินเหว่ยปินกับเสี่ยวหลานมองหน้ากันและตอบว่า “ฉันไม่รู้จริงๆ! แม้จะรู้ว่ามันคือซี่โครงหมูตุ๋นหัวไชเท้า แต่ตอนที่กิน ไม่ว่าจะเป็นหัวไชเท้าหรือว่าซี่โครงหมูมันก็อร่อยเหมือนกัน และฉันก็กินไปเยอะด้วย! แล้วก็น้ำซุปก็อร่อย พูดตามตรงนะ ซวนจื่อ ฉันคิดว่านายมีสูตรลับบางอย่าง! ไม่คิดว่าจะเป็นหัวไชเท้า…”

“อืม! ด้วยผักชุดนี้ พวกเราจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน! นายคิดไหมว่าเมื่อมันอร่อยขนาดนี้? มันก็ไม่สำคัญว่าพวกเราจะขายแพงแค่ไหนและเราก็ไม่ห่วงว่าจะมีใครรู้ว่าเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ผัก!” หลี่ซวนยิ้ม

“ถ้างั้น… ซวนจื่อ นายต้องการให้เราช่วยอะไร?” เฉินเหว่ยปินขมวดคิ้วถาม “เป็นไปได้ไหมว่า… เราควรลาออกจากงานทันที แล้วเอาเงินมาลงทุนเปิดแผงขายอาหารกับนาย แล้วพัฒนาไปช้าๆ?”

“ไม่ไม่! ตอนนี้แค่พวกนายช่วยฉันเก็บเป็นความลับก็พอ! ตอนนี้ให้มีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ลูกพี่ลูกน้องของฉันรู้ พวกนายสองคนรู้ ฉันรู้ และจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้อีก สิ่งนี้เป็นความลับมากเกินไป จะถูกเปิดเผยแม้เพียงครึ่งคำก็ไม่ได้ จากนี้ก็แค่รอจนกว่าฉันจะแน่ใจว่ามันทำเงินได้จริงๆ แล้วพวกนายค่อยกลับมาช่วยฉัน เมื่อทำได้ดีแล้ว ถึงเวลานั้นฉันจะเป็นคนรับผิดชอบในการติดต่อแหล่งที่มาของสินค้าและจัดทำแผน โดยมีพวกนายสองคนคอยช่วยเหลือ และมันควรจะใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นในเวลาไม่นานนัก!” ในเวลานี้หลี่ซวนยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนคนที่แสร้งทำเป็นลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ

“ในเมื่อมันเป็นความลับขนาดนี้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนรู้? มันจะมีปัญหาไหม?” เสี่ยวหลานถามอย่างระมัดระวัง

หลี่ซวนส่ายหน้า “เราไม่ได้ขายเป็นผักโดยตรง แต่ทำมันเป็นอาหารสำเร็จรูป ด้วยวิธีการใช้มือเดียวปิดบังท้องฟ้าแบบนี้ ตราบใดที่เราเรียกมันว่าสูตรลับ ก็ไม่มีใครสามารถค้นพบได้! ไม่ต้องพูดถึงว่า สิ่งนี้เป็นความลับที่มาจากต่างประเทศ แม้จะพบก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ ต่อให้เป็นเรื่องใหญ่ก็แค่ให้ประเทศของเราซื้อเทคโนโลยีไปก็พอแล้ว เพียงแต่ว่ามันจะเป็นการตัดเส้นทางการเงินของพวกเราในอนาคต!”

เฉินเหว่ยปินกับเสี่ยวหลานมองหน้ากันอีกครั้ง เฉินเหว่ยปินขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วเขาก็ถามขึ้นอีกว่า “ถ้าสิ่งที่นายพูดเป็นความจริง ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดคือการขายเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์ แต่ว่า ซวนจื่อ ฉันไม่อยากเชื่อเลยจริงๆว่าของดีแบบนี้ทำไมนายถึงมาบอกฉัน?”

“ฮ่า ฮ่า! ตอนแรกฉันเองยังไม่อยากเชื่อเหมือนกัน แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่คนที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันสามารถหาได้ก็คือฉัน ส่วนคนที่ฉันสามารถหาได้ก็มีเพียงนายเท่านั้น!” หลี่ซวนตอบด้วยรอยยิ้ม แม้จะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาพูดออกมาไม่ได้

หลังจากเงียบไปสักพัก เมื่อเห็นว่าเฉินเหว่ยปินยังดูเหมือนไม่อยากเชื่อ หลี่ซวนก็ถามขึ้นอีกครั้ง “อาปิน ถึงนายไม่เชื่อฉัน แต่นายควรเชื่อลิ้นของตัวเองใช่ไหม? หลังจากกินของอร่อยจนจุกแบบนี้ มันก็เป็นคำอธิบายที่ดีสำหรับนายแล้วไม่ใช่เหรอ? หรือว่านายยินดีจะเชื่อว่าฉันไปพบมนุษย์ต่างดาวมา โดยไม่ต้องการเชื่อเหตุผลที่สมเหตุสมผลของฉัน?”

หลังจากได้ยินเช่นนั้น เฉินเหว่ยปินก็โล่งใจ คิ้วที่ขมวดแต่เดิมก็ผ่อนคลายออก “จริงด้วย! ฮ่าฮ่า! ฉันนี่ก็โชคดีเหมือนกัน! ที่ขึ้นรถม้าคันเดียวกับนาย จนได้มาสัมผัสเรื่องดีๆแบบนี้”

“อืม!” หลี่ซวนพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วตอนนี้นายมีความมั่นใจพอที่จะตามฉันไปเจริญรุ่งเรืองด้วยกันแล้วใช่ไหม?”

“ซวนจื่อ! พูดตามตรงนะ ฉันไม่มั่นใจในตัวนาย! แต่สำหรับหัวไชเท้านี้ ฉันมั่นใจเต็มร้อย!” เฉินเหว่ยปินยิ้ม “เอาล่ะ! ต่อไปนี้มนุษย์เงินเดือนคนนี้จะไม่ทำงานงกๆ แบบน้ำมันเต็มถังอีกต่อไป! นายตั้งหลักได้เมื่อไหร่ก็แจ้งให้เราทราบทันที!”

“ฮี่ฮี่…อย่างนี้ถึงจะถูกต้อง!” หลี่ซวนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แล้วตบไหล่เฉินเหว่ยปินและพูดว่า “ใช่แล้ว! อาปิน ฉันจะให้รางวัลก้อนโตนายล่วงหน้า!” พูดจบเขาก็ชี้ไปที่ห้องครัว

“อะไร? จ่ายตอนนี้เลย?” เฉินเหว่ยปินรู้สึกงงเล็กน้อย

“รางวัลไม่มาก! ไม่สิ! น่าจะเรียกว่าโบนัสมากกว่า!” หลี่ซวนยิ้ม “ฉันจะเอาซี่โครงหมูตุ๋นหัวไชเท้าใส่กล่องอาหารกลางวันให้นายไปกินที่ทำงานพรุ่งนี้ แล้ว… พอนายเปิดกล่อง ฮี่ฮี่…”

“โอ้!” เฉินเหว่ยปินตะลึง ชี้หน้าหลี่ซวนแล้วหัวเราะอย่างชั่วร้าย “นายนี่มันเลวจริงๆ! ฮี่ฮี่ฮี่…”

“เฮ้! พี่ซวนจื่อ คุณลำเอียงไปหน่อยแล้ว! ทำไมไม่ใส่กล่องให้ฉันบ้างล่ะ หลังจากกินของอร่อยๆนี้ ฉันก็ไม่สนใจอาหารอื่นแล้ว!” เสี่ยวหลานประท้วง

“คุณไม่ได้กำลังลดน้ำหนักเหรอ? ได้สิฉันจะทำให้!” หลี่ซวนกล่าว “แล้วนาย พี่ชายเหว่ยปิน จุดประสงค์หลักของข้าวกล่องพรุ่งนี้ไม่ใช่เพื่อสนองความหิว แต่นายต้องไปใช้ไมโครเวฟของที่ทำงานดึงความหอมของอาหารจานนี้ออกมา ลองคิดดู ตอนที่พี่ชายเหว่ยปินกินข้าวด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ แล้วไอ้อ้วนน่าตายที่ไม่มีโชคได้กินจะมีสีหน้าท่าทางยังไง?”

“ฮี่ฮี่ฮี่…” เฉินเหว่ยปินหัวเราะอย่างชั่วร้าย

“ว้าว!” เสี่ยวหลานพูดขึ้นทันที “พวกนายชั่วร้ายมาก!”

“ชั่วร้าย? เสี่ยวหลาน อย่าพูดไร้สาระ!” เฉินเหว่ยปินพูดด้วยใบหน้าจริงจัง “เราเชิญเขามาชิมอาหารอันโอชะที่หาได้ยากในโลกนี้อย่างจริงใจ น่าเสียดาย…ที่ทำคุณบูชาโทษ ผู้จัดการจ้าวที่นับถือของเราต้องตำหนิตัวเองว่าไม่มีโชค!”

“หยุด…ไม่ต้องมาเสแสร้งจริงจัง!” เสี่ยวหลานพูดด้วยสีหน้าเข้าใจการกระทำของคนรัก หลังจากเงียบครุ่นคิด เธอก็พูดต่อไปว่า “อย่างไรก็ตามการจัดการกับคนชั่วร้ายอย่างเจ้าอ้วนจ้าว นี่เป็นวิธีที่ถูกต้อง!”

พูดจบ เธอก็ดูหงุดหงิดเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะโบกมือ “ไม่ได้! แบบนี้มันดีกับเจ้าอ้วนมากเกินไป กล้าดียังไงมารังแกอาปินของฉัน! เจ้านายของคุณตะกละมากใช่ไหม? เฮอะ! ให้เขาลองกินสักชิ้นก็พอ ยิ่งได้กินก็ยิ่งอยาก! ให้เขาอยากให้ตายไปเลย! เฮอะ!” เสี่ยวหลานเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

“ฮี่ฮี่ฮี่…” หมาป่าสีเทาสองตัวหัวเราะอย่างชั่วร้าย และพูดขึ้นพร้อมกันว่า “เสี่ยวหลาน คุณชั่วร้ายมาก!”

“…”

.

*****

ผู้แปล – วันอาทิตย์หยุดจ้า   แปลได้ไม่ถึง 3 หน้ากระดาษ แถมฟรี บทสั้น 2 บทจะฟรี บทสั้นที่ 3 จะขายนะจ๊ะ

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด