ตอนที่แล้วEp.256 - ป้อมปราการหอคอยเขตแดน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.258 - ดวลกับลิซ

Ep.257 - กำจัดวัชพืชที่หยั่งรากลึก


3/3

Ep.257 - กำจัดวัชพืชที่หยั่งรากลึก

ฮังอวี่พาหวังเอ๋อกลับมาจากโลกวิญญาณ

ทันทีที่เท้าของทั้งสองแตะพื้นบ้าน เสียงการ์ตูนหยุดลง ตามด้วยเสียงรองเท้าแตะดังขึ้น ซักพักก็ปรากฏร่างของเด็กสาวที่ดูเหมือนอายุราวๆ 13 14 ปีก้าวเข้ามาในห้อง

เด็กสาวมีผมสีเงินและดวงตาสีม่วงอันงดงาม

เธอแต่งตัวเหมือนมนุษย์ สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น เผยขาขาวราวหิมะพร้อมกับรองเท้าสลิปเปอร์รูปตัวการ์ตูนแกะ

“พี่ชาย หวังเอ๋อ ในที่สุดก็กลับมา”

ฮังเสี่ยวไป๋ยึดถือฮังอวี่และหวังเอ๋อเสมือนเป็นญาติกันแล้ว ภูติสาวจากโลกวิญญาณผู้นี้ ปัจจุบันเริ่มมีความคิดเกี่ยวกับญาติมิตรกับเขาแล้ว แม้เธอยังมีอุปสรรคทางสังคมและไม่ชอบที่ๆคนพลุกพล่านเหมือนเดิม แต่ก็ชอบอยู่กับพวกฮังอวี่มาก

“เสี่ยวไป๋จะไปชงชาให้พี่ชาย”

ใบหน้าน้อยๆที่ดูเป็นธรรมดาแสดงออกถึงความสุข

เธอทำท่าคิดว่าใบชากับกาน้ำอยู่ที่ไหน ก่อนเดินจากไปพร้อมเสียงรองเท้า

“ฮ่ง เสี่ยวไป๋เติบโตขึ้นจริงๆ ตอนนี้เธอรู้วิธีชงชาแล้ว” หมาหวังเอ๋อยืดตัว ก่อนนอนหงายท้องเหมือนสุนัขตาย “งั้นเปิ่นหวังขอด้วยถ้วยนึง เอาชาเขียวก็อบลินแบบใส่น้ำตาลนะ!”

เสี่ยวไป๋ชงชาอย่างว่องไว

ชาวิญญาณที่ชงจากน้ำพุวิญญาณมีเอฟเฟกต์ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า

หากได้ดื่มชาถ้วยนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องพักผ่อนหรือนอนหลับอีก

“เอาล่ะ เสี่ยวไป๋ หยุดอยู่ตรงนี้ก่อน ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”

ฮังเสี่ยวไป๋นั่งลงแต่โดยดี นัยน์ตาสีม่วงราวอัญมณีสุกสกาว ไร้วี่แววของสิ่งชั่วร้ายเจือปน

สิ่งที่ฮังอวี่ต้องการจะพูดคือเรื่องสัญญาอุปการะ เรื่องนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากเสี่ยวไป๋ ทางหนึ่งเพื่อเป็นการแสดงความเคารพในสิทธิ์ของเธอ อีกทางหนึ่งสัญญาจะบรรลุก็ต่อเมื่อเธอเต็มใจ ไม่อาจบังคับได้

หากมีการต่อต้านจากคู่สัญญา

พิธีจะล้มเหลวและสัญญาจะกลายเป็นโมฆะ

สารภาพตามตรง ฮังอวี่ยังไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แม้เสี่ยวไป๋จะเชื่อฟังเขาอยู่เสมอ แต่ถ้าเป็นเรื่องทำสัญญาเธอจะยอมหรือไม่? เพราะเมื่อลงนามในสัญญาแล้วจะไม่มีทางยกเลิกได้ ซึ่งนั่นเป็นการสร้างพันธะมากมายแก่ผู้ถูกทำสัญญาอุปการะ มันคือการเสียอิสรภาพส่วนใหญ่ไป

ดังนั้นไม่ง่ายเลยที่จะยอมรับ

ไม่ทราบว่าเสี่ยวไป๋จะคิดเห็นเช่นไร

“สัญญาอุปการะ?”

ฮังเสี่ยวไป๋กระพริบตาไร้เดียงสาของเธอ มีกระทั่งวี่แววของความเหลือเชื่อใน เพราะกระทั่งในโลกวิญญาณ สัญญาอุปการะนั้นหายากมาก

และนี่คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ฮังอวี่ต้องใช้มันให้เร็วที่สุด

สัญญาอุปการะที่เขามีเป็นเพียงสัญญาเลเวล 8

มันมีผลกับเป้าหมายสูงสุดแค่เลเวล 8 เท่านั้น หากเลเวลของเสี่ยวไป๋เกินกว่านี้ สัญญาก็จะถือเป็นโมฆะ

“เสี่ยวไป๋จะได้เป็นคนในอุปการะของพี่ชายจริงๆน่ะหรือ?” แทนที่จะขัดขืน ฮังเสี่ยวไป๋กลับแสดงท่าทีปิติยินดีอย่างน่าประหลาดใจ “เยี่ยมไปเลย! แบบนี้เสี่ยวไป๋จะได้ติดตามพี่ชายไปตลอดแล้ว! ขอบคุณพี่ชายที่มอบโอกาสนี้ให้เสี่ยวไป๋!”

เอ๋ นี่มันยังไงกัน?

เธอมีความสุขที่ถูกอุปการะงั้นหรอ?

ภูติมายานั้นมีบุคลิกบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเป็นเอกลักษณ์

เสี่ยวไป๋ยังไม่เคยเห็นโลกกว้าง

คนที่ฮังเสี่ยวไป๋ไว้วางใจและชื่นชอบมากที่สุดจึงมีแค่ฮังอวี่

ตอนนี้ต่อให้เธอถูกไล่ออกไป ฮังเสี่ยวไป๋ก็ไม่ยินยอมออกจากบ้านนี้ เธอต้องการให้ฮังอวี่อุปการะ!

ฮังเสี่ยวไป๋เป็นเด็กสาวหัวแข็งเหมือนเหล็ก ตรงกันข้ามกับหวังเอ๋อที่ขี้เล่นและขี้ขลาด ถ้าถามว่าตอนนี้เธอกลัวอะไรที่สุด ก็คงกลัวว่าวันหนึ่ง ฮังอวี่จะไม่ต้องการเธอ ... ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอก็ไม่รู้แล้วว่าจะไปอยู่ที่ไหน

สัญญาอุปการะคืออะไร?

เมื่อลงนามในสัญญาแล้ว

ทั้งสองฝ่ายจะมีพันธะต่อกันเพิ่มขึ้น

นั่นเท่ากับเสี่ยวไป๋สามารถคลายความกังวลเรื่องถูกไล่ออกไปจากหัวใจได้อย่างสมบูรณ์

ภายใต้อำนาจของสัญญาอุปการะ คนในอุปการะไม่สามารถทำร้ายเจ้าของสัญญาได้ และผู้อุปการะจะต้องภักดีต่อเจ้าของสัญญา

ความสัมพันธ์นี้จะผูกมัดเสี่ยวไป๋กับฮังอวี่เข้าด้วยกัน สำหรับเสี่ยวไป๋แล้วไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่กลับเป็นเรื่องที่ดีมาก ... ส่วนเรื่องเงื่อนไขของสัญญา? นั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าการห้ามทรยศ ซึ่งเสี่ยวไป๋ไม่มีทางทำแบบนั้นอยู่แล้ว!

ผลลัพธ์จึงกลายเป็นไม่มีการต่อต้านใดๆ

เสี่ยวไป๋ยอมรับด้วยความยินดี!

“เอาล่ะเสี่ยวไป๋ ฟังให้ดีนะ ถึงฉันจะทำสัญญากับเธอ แต่ก็จะไม่มีการบังคับเธอ สาเหตุหลักๆที่ทำแบบนี้ก็เพราะเธอจะได้กลับสู่โลกวิญญาณอีกครั้ง ฟื้นพลังได้เร็วขึ้น”

“พี่ชายต้องการปล่อยเสี่ยวไป๋กลับไปโลกวิญญาณ?” สีหน้าของฮังเสี่ยวไป๋หมองลงทันที “ถ้างั้น .... เสี่ยวไป๋ไม่อยากทำสัญญาแล้ว เสี่ยวไป๋ไม่อยากกลับไป เสี่ยวไป๋ต้องการอยู่กับพี่ชายกับหวังเอ๋อ!”

“เด็กโง่ เธอคือสมบัติ ทำไมฉันถึงต้องปล่อยเธอไปด้วย?” ฮังอวี่ลูบหัวที่เต็มไปด้วยผมสีเงินอย่างอ่อนโยน “จำไว้ว่าที่นี่จะเป็นบ้านของเธอเสมอ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น ตราบใดที่เธอไม่อยากไป จะไม่มีใครไล่เธอได้”

ฮังเสี่ยวไป๋ได้ยินเช่นนั้น

สีหน้าของเธอแสดงถึงความสุขอีกครั้ง

ฮังอวี่ค่อยตระหนักว่าที่เขาคิดมากก่อนหน้านี้ เป็นการกังวลไปเองทั้งสิ้น

ปรากฏว่าสิ่งที่เสี่ยวไป๋วิตกที่สุดไม่ใช่เรื่องเสรีภาพส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องที่ว่าเธอจะยังคงสามารถอยู่ในบ้านหลังนี้ได้หรือไม่

ฮังอวี่ไม่ใช่คนโง่เขลา

แล้วเขาจะทิ้งเสี่ยวไป๋กลับโลกวิญญาณได้ยังไง?

คนที่ขยัน เชื่อฟัง นิสัยดี สวย เก่ง ยินดีทำงานหนักเพื่อครอบครัวโดยไม่ยอมรับแม้เงินสักหยวนเดียว คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเขี่ยเธอทิ้ง!

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฮังอวี่ยังทำสัญญาไม่ได้

เสี่ยวไป๋เดินทางมาโลกจริงได้เป็นเวลานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว และพลังรบของเธอสมควรฟื้นตัวขึ้น

เป็นไปตามที่คาดไว้

ตอนนี้เสี่ยวไป๋คงอัพเลเวลจากในตอนแรกแล้ว

ก่อนหน้านี้หวังเอ๋อกล่าวว่าพลังรบของ BOSS มิโนทอร์พอๆกับเสี่ยวไป๋ ซึ่งมันเป็นเจ้าถิ่นเลเวล 8 ดังนั้นเลเวลของเสี่ยวไป๋ในตอนนี้ก็ควรอยู่ในระดับเจ้าถิ่นเลเวล 8 เช่นกัน

ได้เวลาพอดี

ฮังอวี่ดื่มโพชั่นแต้มวิญญาณอีกขวด

ตราบใดที่รอครบเวลาอีก 12 ชั่วโมงเขาก็จะสามารถดื่มโพชั่นขวดต่อไปได้

ในตอนนั้นเอง

มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก

หญิงสาวสวยที่ให้อารมณ์ของความเป็นผู้ใหญ่เปิดประตูเข้ามา

เวลานี้เธอสวมอุปกรณ์ของโลกวิญญาณ ใส่กางเกงหนังและรองเท้าบูท ชุดเกราะกระชับกับสัดส่วน เผยส่วนโค้งเว้าของรูปร่างอันงดงามอย่างเด่นชัด จะเป็นใครไปได้อีกถ้าไม่ใช่อาจารย์ซู?

ในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดที่ฮังอวี่เคยเจอ

ไม่มีใครรูปร่างดีไปกว่าซูหยุนปิง

ซูหยุนปิงก้าวขาเรียวยาวเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังและตั้งตารอ เอ่ยถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”

“ต้องขอบอกว่าโชคของอาจารย์ไม่เลว”

“นี่คือหินสกิล ‘ซากศพคืนชีพ’ กับ ‘ลูกไฟศพพิษ’” ฮังอวี่หยิบหินสกิลทั้งสองออกมาแล้วโยนให้เธอ “ราคาอย่างแรกคือ 150 หินคริสตัลขาว อย่างหลังราคา 120 หินคริสตัลขาว”

ซื้อมาได้จริงๆ!

ซูหยุนปิงเผยท่าทีปิติยินดี!

แต่สองก้อนรวมแล้วราคาสูงถึง 270 ก้อนเชียวหรือ?

ราคานี้แพงก็จริง แต่เป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน!

ทางหนึ่งมีสกิลให้ใช้งานเพิ่มขึ้น อีกทางหนึ่งการเรียนรู้สกิลมรดกครบเซ็ท จะสามารถได้เพิ่มประสิทธิภาพของพวกมันและค่าคุณสมับติได้ ซึ่งนั่นช่วยให้มีโอกาสท้าทายมอนสเตอร์ที่รับมือยาก สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากยิ่งขึ้น

กระทั่งซูหยุนปิงก็ยังประสบปัญหาขาดแคลนหินสกิล

เช่นนั้นแล้ว หากนำหินสกิลทั้งสองนี้นำไปประมูลแก่พวกเศรษฐีในเจียงเฉิง แล้วขายได้ในราคา 400 หินคริสตัลขาวหรือมากกว่านั้นสักเล็กน้อย เธอจะไม่แปลกใจเลย

น่าเสียดาย

ที่เงินของเธอมีไม่มากพอ

บวกกับเวลาเร่งรีบ

จึงหาหินคริสตัลได้เพียงเท่านี้

และจากที่ฟังจากฮังอวี่ ดูเหมือนว่าเมื่อซื้อหินสกิลครั้งนี้ได้แล้วยังต้องรออีกนานเป็นสิบวัน .... ช่างน่าเสียดาย!

ซูหยุนปิงถือหินสกิลล้ำค่าทั้งสองก้อน

แม้จะดีใจ แต่ขณะเดียวกันเธอรู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย

เพราะสุดท้ายแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รับหินสกิลมรดกขั้น 2 หากเธอมีมัน นั่นอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังรบให้แก่เธอในทุกๆด้าน

แต่ระหว่างที่เธอกำลังคิดแบบนั้น เสียงของฮังอวี่ก็ดังขึ้น

“นอกจากหินสกิลทั้งสองของคนเฝ้าสุสานแล้ว ผมยังนำหินสกิลที่เหมาะกับอาจารย์ซูกลับมาอีกก้อน มันคือหินสกิลขั้น 2 ‘เขตแดนแห่งความเงียบ’ ที่เป็นอาชีพมรดกขั้นต่อนักมายากล”

ฮังอวี่หยิบหินสกิลขั้น 2 ของนักเล่นกลลวงตาออกมาอีกก้อน แล้วโยนให้กับเธอ

ซูหยุนปิงรู้สึกราวกับหัวใจหยุดเต้น รีบคว้ามันมาดูทันที ก่อนเผยสีหน้าประหลาดใจ ตื่นเต้น และสับสบในเวลาเดียวกัน

“แน่นอนว่าเกินงบ”

“หินสกิลนี้ราคา 400 หินคริสตัลขาว!”

“ผมออกให้อาจารย์ก่อน 170 หินคริสตัลขาว บวกกับภาษาโลกวิญญาณ เท่ากับอาจารย์เป็นหนี้ผม 200 หินคริสตัลขาว แน่นอน ห้ามคิดเชียวว่าผมให้เปล่า ทั้งหมดมีดอกเบี้ย ฉะนั้นอย่าพยายามหนีหนี้ เข้าใจไหมครับ?”

“ต่อให้ฉันอยากหนี แต่คนของฉันย้ายมาอยู่ที่นี่หมดแล้ว จะให้หนียังไงอีก?” ซูหยุนปิงยิ้ม จากนั้นเอ่ยช้าลง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ขอบคุณจริงๆ!”

นี่เป็นครั้งแรกที่อาจารย์ซูพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเช่นนี้

ฮันหยูขนลุกขึ้นมาทันที

“เอาล่ะๆ ก็แค่เรื่องเล็กน้อย ถ้าอาจารย์ช่วยผมต่อไปเรื่อยๆ ก็จะมีผลประโยชน์ดีๆแบบนี้รออยู่อีกเยอะ” ฮังอวี่หยุดพักหนึ่งแล้วเอ่ยต่อว่า “เตรียมตัวได้แล้ว อาจารย์ต้องไปกับผม”

ซูหยุนปิงเอ่ยถามทันที “ไปไหน?”

“ก็จะไปไหนซะอีก? ตบตูดตัวเองให้พร้อมซะ!”

“หยาบคาย!” ซูหยุนปิงหน้าแดงเล็กน้อย แต่เธอเป็นคนฉลาด ดังนั้นรู้ได้ทันทีว่า ฮังอวี่หมายถึงอะไร “นายกำลังจะไปตามล่าหวงจื่อหมิง ... ฉันหมายถึงลิซตัวที่หนีไป?”

“เจ้าหมอนั่นคือหายนะ และผมไม่ชอบเก็บหายนะเอาไว้ใกล้ตัว วันนี้พวกเราจะไปกำจัดมันแบบตัดรากถอนโคน”

ฮังอวี่กล่าวต่อ “นอกจากนี้ กล่องวิญญาณของลิซมีประโยชน์มากสำหรับผม ผมต้องการมัน”

ซูหยุนปิงเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

“นายมั่นใจแค่ไหน?”

“เขาดุร้ายและมีไหวพริบมากเลยนะ”

“ผมมั่นใจเกือบ 100%!” ฮังอวี่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “อย่าเสียเวลาอีกเลย ได้เวลาเริ่มงานแล้ว เป็นถึงอาจารย์แต่ถ้าดันเข้าสอนช้า ผมจะหักเงินเดือน!”

ซูหยุนปิงมองแผ่นหลังที่เปี่ยมไปด้วยความม่นใจของฮังอวี่ ประกายสายหนึ่งสะท้อนเข้ามาในดวงตาเธอ จากนั้นมุมปากของอาจารย์สาวก็เริ่มเผยรอยยิ้มบางๆ

เจ้าหมอนี่บางครั้งก็ทำตัวน่าขบขัน แต่แท้จริงแล้วลึกๆเขามีความเป็นผู้ใหญ่

เอาจริงๆเขาเป็นคนที่รอบคอบมาก ทุกการกระทำถูกเตรียมไว้เพื่อตัวเอง ทุกการกระทำล้วนมีความหมายลึกซึ้งและส่งผลต่อแผนการในระยะยาว

นั่นทำให้ซูหยุนปิงเกิดความรู้สึกขึ้นมา ว่าในโลกใบนี้ ในที่สุดเธอก็พบคนที่คุ้มค่าพอที่จะไว้ใจ!