ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 9 ตอบโต้อย่างรุนแรง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 11 ผีร้ายรังควาน

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 10 ไม่มีทวยเทพ


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 10 ไม่มีทวยเทพ

แปลโดย iPAT   

ผู้อาวุโสทั้งหมดตัวสั่นเทาขณะที่หลี่ฉิงซานกินดื่มจนพอใจ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา สิ่งที่เขากินมีเพียงเนื้อกวาง นั่นทำให้เขารู้สึกเบื่อเล็กน้อย เขาต้องการอาหารชนิดอื่น ดังนั้นเขาจึงกินอาหารทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะก่อนจะลูบหน้าท้องที่พองโตของเขาด้วยความพึงพอใจ

“ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นญาติผู้ใหญ่ของข้า มันไม่ใช่การกล่าวเกินจริงหากบางคนจะบอกว่าพวกท่านเฝ้ามองข้าเติบโตขึ้นมา อย่างไรก็ตามบางคนไม่คำนึงถึงสายสัมพันธ์นี้และพยายามสร้างปัญหาให้ข้าเพราะเห็นแก่ที่ดิน หากข้าไม่ได้รับคำอธิบายในวันนี้ ข้าจะอธิบายเอง ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ข้าก็จะไม่ลังเล”

ขณะที่หลี่ฉิงซานกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ เขาก็หยิบมีดขึ้นมา “พ่อบ้านหลิว หัวหน้าหมู่บ้านหลี่ พวกท่านไม่เห็นด้วยงั้นหรือ?”

พ่อบ้านหลิวต้องการหลีกเลี่ยงอันตรายที่ใกล้เข้ามา ดังนั้นเขาจึงเปิดปากกล่าว “หลี่เอ้อ หากเจ้าต้องการทำนาบนที่ดินผืนนั้น เจ้าสามารถทำได้!”

หลี่ฉิงซานตอบ “ข้าไม่ต้องการที่ดิน ท่านซื้อมันไปโดยใช้เงินของท่าน ข้าไม่ต้องการเอาเปรียบท่าน ข้าเพียงต้องการทวงคืนความยุติธรรม ท่านสามารถทำสิ่งที่ท่านต้องการ แต่อย่าลืมว่าทวยเทพกำลังเฝ้ามองอยู่เบื้องบนและพวกเขาสามารถมองทะลุหัวใจของผู้คน” ในตอนท้าย น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย

พ่อบ้านหลิวไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร ดังนั้นหัวหน้าหมู่บ้านหลี่จึงต้องตอบแทน “นี่เป็นความผิดของเราที่หลงเชื่อพี่ชายของเจ้า...”

“นั่นไม่ใช่พี่ชายข้า!” หลี่ฉิงซานขัดจังหวะเสียงเย็น

“หลี่ต้าและคนอื่นๆพูดเรื่องไร้สาระ พวกเราตาบอดด้วยความโลภซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราทำตัวโง่เขลา ทุกวันนี้ข้าไม่สามารถข่มตาหลับ ข้าเกรงว่าวันหนึ่งข้าจะจากไปโดยไม่สามารถเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของเจ้าในปรโลก” เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านหลี่กล่าวจบประโยค น้ำตาของเขาก็ไหลอาบแก้มเมื่อเขาคิดถึงความทุกข์ทรมานในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

หลี่ฉิงซานหันหน้าไปทางผู้อาวุโสคนอื่นๆ “แล้วพวกท่านคิดว่าข้าควรได้รับส่วนแบ่งที่ดินหรือไม่?”

“แน่นอน เจ้าควรได้รับ!” ตอนนี้ยังจะมีใครกล้าพูดว่าไม่

เมื่อถึงจุดนี้ หลี่ฉิงซานก็พยายามหาทางออก เขาเงยหน้าหัวเราะ “ดังนั้นความยุติธรรมก็ยังมีอยู่ในโลก!” เสียงหัวเราะของเขาหยุดลงอย่างกะทันหัน เขาก้มศีรษะลงขณะที่การแสดงออกของเขาดูค่อนข้างซับซ้อน มันมีทั้งความก้าวร้าว ความโล่งใจ ความเศร้า และความขมขื่น เขามองมีดที่อยู่ในมือพลางคิด ‘ปรากฏว่าความยุติธรรมอยู่ที่นี่’

เขาขมวดคิ้วพึมพำ “ไม่มีทวยเทพอยู่เบื้องบน ความยุติธรรมอยู่ในมือ ไม่มีทวยเทพอยู่เบื้องบน ความยุติธรรมอยู่ในมีด...” เขาไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ได้และมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

เดิมทีเขาไม่พอใจและต้องการระบายความขับข้องใจออกมาทั้งหมด เขาพร้อมที่จะฆ่า แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น เขาเก็บมีดก่อนจะหันหลังและเดินจากไป

คนงานเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสและได้ชมการแสดงที่ดี ดังนั้นพวกเขาจึงแยกย้ายกันไปด้วยความพอใจและพูดถึงหลี่ฉิงซานด้วยความชื่นชม

พ่อบ้านหลิวเช็ดเหงื่อเย็นเยียบบนหน้าผาก เขารู้ว่าเขาไม่สามารถจัดการหลี่ฉิงซานได้อีก หากเขายังดึงดัน ผลลัพธ์จะกลายเป็นเลวร้าย อย่างไรก็ตามแม้สิ่งต่างๆจะไม่เป็นไปตามแผนการ แต่เขาก็สามารถบรรลุเป้าหมาย

หัวหน้าหมู่บ้านหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก บางทีเขาอาจคิดเช่นเดียวกัน

คนทั้งสองสบตากันและรู้สึกเข้าใจซึ่งกันและกัน

แต่หลี่หูปฏิเสธที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป “ท่านพ่อ เหตุใดเราไม่เรียกพี่ใหญ่กลับมา? ด้วยทักษะการต่อสู้ของเขา ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถจัดการหลี่เอ้อ!”

หลี่เปากล่าวเสริม “ท่านลุงหลิว ไม่ใช่ว่าน้องหลิวอยู่ในเมืองชิงหยางเช่นนั้นหรือ?”

หัวหน้าหมู่บ้านหลี่เดือดดาลทันที เขากล่าวเสียงเข้ม “หุบปาก! ข้าให้กำเนิดคนไร้ประโยชน์เช่นพวกเจ้าได้อย่างไร!?”

พ่อบ้านหลิวไม่ได้กล่าวสิ่งใด คนทั้งคู่ผ่านประสบการณ์มามากมาย ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจวิธีการรักษาตัวรอด พวกเขาจะไม่เสี่ยงเพียงเพื่อความภาคภูมิใจเล็กๆน้อยๆ

“พวกคนไร้ประโยชน์ ทวยเทพโกรธแล้ว วันเวลาของเขากำลังถูกนับถอยหลัง!” หมอผีที่นิ่งเงียบมาตลอดกล่าวด้วยความอาฆาตแค้น

แม้พวกเขาจะอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ แต่หลายคนยังรู้สึกสั่นสะท้าน

คนในหมู่บ้านนับถือภูตผีและเทพเจ้าขณะที่หมอผีเป็นบุคคลสำคัญในการสื่อสารกับเหล่าทวยเทพ หลี่ฉิงซานพึ่งกล่าวว่าไม่มีทวยเทพอยู่เบื้องบน ดังนั้นในความคิดของคนเหล่านี้ มันจึงมีความเป็นไปได้ที่ทวยเทพจะโกรธ

ครั้งหนึ่ง เด็กในหมู่บ้านล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ ครอบครัวของเด็กนำตัวเด็กไปรับการรักษาจากหมอผี นางบอกว่าเด็กคนนั้นถูกปีศาจสิงสู่ นางจึงเผาเขาด้วยไฟก่อนจะกดเขาลงไปในน้ำโดยอ้างว่านางกำลังบังคับให้ปีศาจร้ายออกไป สุดท้ายเด็กคนนั้นก็เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ

หมอผีบอกเพียงว่าราชานรกเรียกตัวเขา ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ อย่างไรก็ตามพ่อแม่ของเด็กไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ แม่ของเด็กตะโกนด่าทออยู่หน้าบ้านหมอผีทุกวัน นี่เป็นการท้าทายหมอผีอย่างรุนแรง ไม่กี่วันต่อมา แม่เด็กก็เสียชีวิตด้วยอาการป่วยลึกลับอย่างกะทันหัน

หมอผีกล่าวว่าเด็กคิดถึงแม่ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นนางอีกโดยเฉพาะการเตะและเย้ยหยันนางในที่สาธารณะ ชัดเจนว่าหลี่ฉิงซานทำให้นางขุ่นเคืองอย่างสมบูรณ์

“พ่อบ้านหลิว เด็กผู้นี้เป็นภัยพิบัติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตของเจ้า แต่อย่ากังวล ทวยเทพจะขจัดหายนะนี้ให้เจ้าเอง...”

เมื่อได้ยินประโยคนี้จากหมอผี พ่อบ้านหลิวก็รีบสั่งให้คนรับใช้นำอาหารและเครื่องเซ่นไหว้มามอบให้นาง เขายังยัดถุงเงินใบเล็กๆใส่ในมือของนางอีกด้วยแม้จะไม่เต็มใจนักก็ตาม

คนรับใช้นำสิ่งของทั้งหมดเดินตามหมอผีไปอย่างใกล้ชิดกระทั่งไปถึงบ้านของนางที่ทำจากอิฐและกระเบื้องหลังหนึ่ง นอกจากพ่อบ้านหลิวและหัวหน้าหมู่บ้านหลี่ นางเป็นคนเดียวในหมู่บ้านที่สามารถครอบครองบ้านเช่นนี้

มีโต๊ะบูชาทวยเทพและกระถางธูปวางอยู่ในห้องโถงใหญ่ อากาศเต็มไปด้วยควันธูป นั่นทำให้มันดูคล้ายกับศาลเจ้า

“เสี่ยวอัน เสี่ยวอัน ย่ากลับมาแล้ว” หมอผีพึมพำ ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของนางปรากฏรอยยิ้มลึกลับแต่ดูเป็นมิตร

คนรับใช้รู้ว่าหมอผีไม่มีหลาน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขนลุกด้วยความหวาดกลัว เขารีบวางสิ่งของทั้งหมดลง แต่ในจังหวะนี้เขากลับรู้สึกเหมือนบางคนกำลังดึงกางเกงของเขา อย่างไรก็ตามเมื่อเขาหันหน้าไปมอง เขากลับไม่พบผู้ใด เขากรีดร้องเสียงหลงว่า “แม่จ๋า!” ก่อนจะตะเกียกตะกายออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะลึกลับที่ดังขึ้นด้านหลังเขา

“เสี่ยวอัน ย่ากำลังพูดกับเจ้า มีคนรังแกย่า”

ไม่มีเสียงตอบรับในห้องโถงที่ว่างเปล่า

“อันใด!? กล้าไม่เชื่อฟังข้างั้นหรือ!” ทันใดนั้นใบหน้าของหมอผีพลันเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง นางตะโกนด่าทอเป็นชุด ขณะเดียวกันนางก็เขย่าระฆังทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในมือ

ลมหนาวพัดเข้ามาในห้องอย่างกะทันหัน

ไม่นานหลังจากนั้นการแสดงออกของหมอผีก็กลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง “ดี ย่าไม่อยากตีเจ้าเช่นกัน หลานชายที่ดีของข้า”

ตั้งแต่ต้นจนจบ มันเหมือนนางกล่าวกับตนเอง

เมื่อหลี่ฉิงซานกลับไปถึงบ้านของเขา เขาไม่เห็นวัวดำ เขาคิดว่ามันคงออกไปล่าสัตว์ให้เขา

ด้วยความมึนเมา เขาเริ่มฝึกหมัดปีศาจวัวอีกครั้ง ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวไปเองตามสัญชาตญาณขณะที่เขาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ มันค่อนข้างน่ากลัว หากเขาตัดสินใจหลบหนีตั้งแต่หน้าประตูบ้านของพ่อบ้านหลิว สิ่งใดจะเกิดขึ้น?

เกี่ยวกับเรื่องนี้ คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเขาไม่ใช่พ่อบ้านหลิวหรือหัวหน้าหมู่บ้านหลี่แต่เป็นความกลัวในใจของเขาเอง สิ่งใดคือความแข็งแกร่งที่แท้จริง? บางคนในโลกใบเดิมของเขากล่าวไว้ว่า “การเอาชนะผู้อื่นคือความแข็งแกร่ง แต่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงคือการเอาชนะหัวใจของตนเอง”

“คนแข็งแกร่งจะไม่หวาดกลัว!” หลี่ฉิงซานตะโกนเสียงดังราวกับเขาสามารถเอาชนะอุปสรรคที่มองไม่เห็น ไม่ว่าความยากลำบากหรืออันตรายใดจะรออยู่เบื้องหน้า เขาก็จะเผชิญหน้าและก้าวข้ามพวกมันโดยไม่ก้มศีรษะลงหรือถอยหนี

‘ไม่มีทวยเทพอยู่เบื้องบน ความยุติธรรมไม่ได้อยู่ที่ใจคนแต่อยู่ในมือของข้า’

ในเวลานี้มัดกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายของเขาราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวขณะที่เขาสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ออกไปในหมัดเดียว เขารู้สึกว่าแม้เขาจะไม่ใช้อาวุธ เขาก็สามารถเอาชนะหลี่หูและหลี่เปาพร้อมกันได้โดยตรง