ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 6 บุญคุณความแค้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 8 งานเลี้ยง

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 7 เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 7 เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่

แปลโดย iPAT  

เมื่อได้รับเงินคืน คู่สามีภรรยาแซ่หลี่รู้สึกทั้งประหลาดใจและมีความสุข พี่สะใภ้ลืมความเจ็บปวดและรีบยัดถุงเงินเข้าไปในเสื้อคลุมของนางทันที

สามอันธพาลมองหน้ากันด้วยความรู้สึกชื่นชม นั่นเป็นเงินก้อนใหญ่ มันเพียงพอที่จะเลี้ยงปากท้องของพวกเขาไปได้อีกนาน อย่างไรก็ตามมันกลับถูกโยนทิ้งอย่างง่ายดาย เดิมทีพวกเขามีเพียงความหวาดกลัวแต่ตอนนี้พวกเขากลับมองแผ่นหลังของหลี่ฉิงซานด้วยความเคารพนับถือ

ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยคิดว่าลูกผู้ชายต้องตอบแทนบุญคุณและชำระหนี้แค้น แต่มันเป็นสิ่งที่พวกเขาได้ยินมาเท่านั้น พวกเขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะพบคนเช่นนี้จริงๆ หลี่ฉิงซานสามารถทำสิ่งนี้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ในอนาคตเขาจะต้องกลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน นี่ทำให้ความรู้สึกดูแคลนที่มีต่อหลี่ฉิงซานเนื่องจากอายุที่น้อยกว่าของเขาถูกลบออกไปจากหัวใจของสามอันธพาลอย่างสมบูรณ์

เมื่ออาทิตย์อัสดง ภูเขาสีเขียวถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง หลี่ฉิงซานก้าวไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจราวกับภาระที่มองไม่เห็นถูกยกออกจากบ่า กระทั่งความเหนื่อยล้าก็ยังอันตรธานหายไปพร้อมกัน เขารู้สึกว่าหากเขาฝึกหมัดปีศาจวัวตอนนี้ มันจะไหลลื่นกว่าปกติอย่างแน่นอน

ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะพลังแห่งเต๋าหรือทักษะการต่อสู้ พวกมันล้วนเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้ฝึกฝนทั้งสิ้น การฝึกเคล็ดวิชาหมัดปีศาจวัว ผู้ฝึกฝนต้องมีจิตใจที่แน่วแน่และกระจ่างชัด มันจึงจะทำให้ผู้ฝึกฝนก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว

หลี่ฉิงซานสามารถชำระบุญคุณความแค้น นั่นทำให้จิตใจของเขาปลอดโปร่ง ตอนนี้ไม่มีเมฆหมอกปกคลุมหัวใจของเขาอีกต่อไป เห็นได้ชัดว่ามันใกล้เคียงกับความต้องการขั้นพื้นฐานของการบ่มเพาะแล้ว

เมื่อหลี่ฉิงซานกลับถึงบ้าน เขามองสามอันธพาลด้วยดวงตาส่องประกาย “ขอบคุณสำหรับก่อนหน้านี้”

หากไม่ใช่เพราะแรงกดดันจากสามอันธพาล พี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หากทั้งสองเริ่มใช้ความรุนแรง มันอาจไม่จบลงอย่างงดงามเช่นนี้

นี่ทำให้เขาเข้าใจบางอย่าง นั่นคือความได้เปรียบเชิงตัวเลข กระทั่งราชาปีศาจวัวในตำนานยังต้องมีพี่น้องร่วมสาบานโดยไม่ต้องกล่าวถึงตัวตนที่ไร้นัยสำคัญเช่นหลี่ฉิงซาน แต่แน่นอนว่าอันธพาลทั้งสามไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นพี่น้องร่วมสาบานของเขา

สามอันธพาลเร่งตอบกลับ “พี่ใหญ่ โปรดอย่ากล่าวเช่นนั้น ท่านเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และไม่ถือสาพวกเรา พวกเรายังตอบแทนท่านได้ไม่มากพอ เจ้าหัวล้านหลิวที่ชั่วร้ายสมควรได้รับยิ่งกว่าความตาย ก่อนหน้านี้แม้เราจะติดตามเขา แต่เรารู้สึกรังเกียจเขามาก...”

หลี่ฉิงซานโบกมือขัดจังหวะ “อดีตก็คืออดีต”

ด้วยถ้อยคำที่ยิ่งใหญ่เพียงไม่กี่คำของหลี่ฉิงซาน สามอันธพาลรู้สึกโล่งอกและสบายใจขึ้นทันที ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของพวกเขา นั่นทำให้พวกเขาเริ่มประจบสอพลอหลี่ฉิงซาน พวกเขากล่าวไปจนถึงขั้นที่ต้องการเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเขา

ตลอดสองชีวิตของหลี่ฉิงซาน เขาไม่เคยได้รับการยกย่องถึงเพียงนี้มาก่อน แม้มันจะมาจากปากของสามอันธพาลที่เขาดูถูก แต่เขาก็ยังรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง อย่างไรก็ตามเรื่องพี่น้องร่วมสาบานเป็นไปไม่ได้ หลังจากหลีกเลี่ยงคำขอของพวกเขา เขาก็ส่งคนทั้งสามออกไป

วัวดำที่หมอบอยู่ด้านข้างเปิดปากถาม “เหตุใดเจ้าไม่รับปากพวกเขา? พวกเขายินดีติดตามเจ้าในฐานะลูกน้อง เจ้าจะสามารถสร้างกลุ่มของตนเอง หมู่บ้านนี้จะปลอดภัยมากขึ้นสำหรับเจ้า หากบางสิ่งเกิดขึ้น พวกเขาจะรายงานให้เจ้ารู้อย่างรวดเร็ว”

ภายในหมู่บ้านเล็กๆ ความแข็งแกร่งเชิงปริมาณเป็นกุญแจสำคัญ โดยส่วนใหญ่ผู้คนจะหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาทกับครอบครัวที่มีสมาชิกมากกว่า

หลี่ฉิงซานกล่าวด้วยความภาคภูมิใจและกล้าหาญ “แม้พี่น้องร่วมสาบานของข้า หลี่ฉิงซาน จะไม่ใช่วีรบุรุษหรือบุคคลสำคัญของโลก แต่พวกเขาก็ต้องเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญกับสายสัมพันธ์และมิตรภาพ ข้าจะเชื่อมโยงตนเองกับคนเช่นพวกเขาได้อย่างไร?”

เสียงของเขาก้องกังวาลจนนกกาสองสามตัวที่เกาะอยู่บนต้นไม้บินหนีกระจัดกระจายไป

วัวดำเงียบ มันมองหลี่ฉิงซานอย่างพิจารณาและจมอยู่ในห้วงแห่งความคิด

หลี่ฉิงซานรู้สึกอับอายเล็กน้อย เขาเกาศีรษะแก้เขิน “พี่วัว ท่านคงต้องการหัวเราะเยาะคำพูดของข้า แต่นั่นคือสิ่งที่ข้ารู้สึกจริงๆ ข้าเพียงต้องการบอกท่าน”

วัวดำนำน้ำเต้าใส่สุราออกมาจากความว่างเปล่าอีกครั้งและโยนให้หลี่ฉิงซาน “หากเจ้าไม่กล้าพูดบางคำ เจ้าคงต้องกลับไปทำนา หากเจ้าต้องการพูดสิ่งใด เพียงกล่าวมันออกมา”

หลี่ฉิงซานเปิดจุกน้ำเต้าอย่างช่ำชองและยกมันขึ้นดื่มก่อนจะเช็ดปากและเผยรอยยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าต้องการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมโลกหรือทั่วทั้งจักรวาล! ข้าต้องการลิ้มลองอาหารเลิศรสและสุราที่ดีที่สุด! ข้าต้องการไปถึงจุดสูงสุดของเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด และหลับนอนกับหญิงที่งดงามที่สุด! มีเพียงวิธีนี้ชีวิตนี้ของข้าจึงจะไม่สูญเปล่า! พี่วัว ท่านคิดว่าความฝันของข้าจะเป็นจริงได้หรือไม่?”

“แน่นอน!”

“ดี ข้าจะทำมัน!”

ความฝันของเด็กหนุ่มดังไปทั่วลานบ้านเล็กๆ บางทีตอนนี้เขาอาจไม่ได้จริงจังกับมันเลย อย่างไรก็ตามประกายไฟเล็กๆแห่งความหวังถูกจุดขึ้นในหัวใจของเขาแล้วและมันจะกลายเป็นกองเพลิงที่ลุกโชกช่วงในวันหนึ่ง

ด้วยจิตวิญญาณที่ถูกกระตุ้น เขาเริ่มฝึกหมัดปีศาจวัวอีกครั้งภายใต้ความมึนเมา เขาไม่รู้ว่าตนเองเคลื่อนไหวถูกต้องหรือไม่ เขาแกว่งแขนและขาไปตามความรู้สึกโดยมีวัวดำเฝ้ามองอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ

ในที่สุดหลี่ฉิงซานก็ล้มลงบนพื้นด้วยความมึนเมา

วันรุ่งขึ้น ข่าวการคืนเงินให้พี่ชายและพี่สะใภ้ของหลี่ฉิงซานแพร่สะพัดไปทั่วทั้งหมู่บ้านผ่านสามอันธพาล นี่ทำให้บางคนรู้สึกชื่นชมและยกย่องเขาที่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ แน่นอนว่ามีบางคนเย้ยหยัน โดยปราศจากที่ดิน เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เขาจะถูกบังคับให้ทำงานกับพ่อบ้านหลิว เมื่อเวลานั้นมาถึง เขายังจะมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่อยู่หรือไม่?

อย่างไรก็ตามมันยังทำให้ชื่อเสียงของหลี่ฉิงซานพุ่งสูงขึ้น

พ่อบ้านหลิวรู้สึกทั้งมีความสุขและกังวล เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขที่หลี่ฉิงซานจะไม่มาสร้างปัญหาให้เขาเกี่ยวกับเรื่องที่ดินอีกต่อไป แต่เขากังวลว่าหลี่ฉิงซานจะตามชำระหนี้แค้นกับเขามากน้อยเพียงใด บางทีหลี่ฉิงซานอาจกำลังรอเวลาที่เหมาะสมสำหรับการแก้แค้น หลังจากทั้งหมดเจ้าหัวล้านหลิวเพียงทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น

หากหลี่ฉิงซานเข้ามาสร้างปัญหาให้เขาในเวลานี้ มันจะดีที่สุด ในความเป็นจริงเขามีวิธีการมากมายที่จะใช้จัดการหลี่ฉิงซาน แต่เขาไม่สามารถเฝ้าระวังได้ตลอดเวลา ดังคำกล่าวที่ว่า รังแกคนแก่ดีกว่าคนจนที่ยังเด็ก

ขณะที่พ่อบ้านหลิวกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ในห้องโถง ชายชราผู้หนึ่งก็เดินมาถึงหน้าประตูบ้านของเขาโดยไม่ได้นัดหมาย

ยามที่ยืนอยู่หน้าประตูหยุดเขา

พ่อบ้านหลิวเดินเข้าไปและเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าอ้วนกลมของเขา “หัวหน้าหมู่บ้านหลี่ สิ่งใดนำท่านมาที่นี่?”

หัวหน้าหมู่บ้านหลี่กล่าวด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม “เจ้ามียามตั้งแต่เมื่อใด? สิ่งนี้จะช่วยเจ้าได้งั้นหรือ?”

พ่อบ้านหลิวเป็นเพียงเจ้าของที่ดินในหมู่บ้านเล็กๆ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้ชีวิตเยี่ยงเจ้านายตระกูลใหญ่ในเมือง ปกติเขามีเพียงคนรับใช้ชรา เขาไม่เคยมียามเฝ้าประตูมาก่อน

แม้เขาจะทำทุกสิ่งเพื่อครอบครองที่ดินในหมู่บ้าน แต่ส่วนใหญ่มันก็เป็นการทำธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย แม้มันจะเกี่ยวข้องกับการบีบบังคับ แต่เขาก็จะรังแกเฉพาะคนที่ไม่มีทางสู้กลับ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยมีศัตรูมาก่อน เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขากำลังป้องกันตัวจากหลี่ฉิงซาน เดิมทีเขาคิดว่าเด็กผู้นี้เป็นคนที่ไม่สามารถตอบโต้ แต่สุดท้ายผลลัพธ์กลับทำให้เขาประหลาดใจ

คนทั้งสองเข้าไปพูดคุยกันในห้องโถง หัวหน้าหมู่บ้านหลี่กล่าว “พ่อบ้านหลิว เจ้ามีประสบการณ์มากมาย บอกข้า เจ้าจะจัดการหลี่เอ้ออย่างไร?”

ดวงตาของหัวหน้าหมู่บ้านหลี่แดงก่ำ ชาวบ้านกลัวหลี่ฉิงซาน เขาก็เช่นกัน เมื่อผู้คนเติบโตขึ้น พวกเขาจะหวาดกลัวต่อความตายมากขึ้น เมื่อคืนนี้เขานอนพลิกตัวไปมาตลอดทั้งคืน ความผิดปกติเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาผุดลุกขึ้นนั่งอย่างเร่งรีบเพราะกลัวว่าหลี่ฉิงซานจะลอบเข้ามาพรากชีวิตวัยชราของเขา นั่นทำให้เขาไม่สามารถข่มตาหลับ

เขาลุกขึ้นจากเตียงตั้งแต่เช้าตรู่และตัดสินใจบางอย่าง หากเขาไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม มันจะตามหลอกหลอนเขาตลอดไป เขาจะไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้อีก นั่นเป็นเหตุผลที่เขามาหาพ่อบ้านหลิว

พ่อบ้านหลิวโบกมือ “ข้าจะจัดการเขาได้อย่างไร? ทุกคนในหมู่บ้านยกย่องเขาเยี่ยงวีรบุรุษ นอกจากนี้มันก็ไม่มีหลักฐานว่าเขาฆ่าเจ้าหัวล้านหลิว”

“เขาจะไม่ใช่ฆาตกรได้อย่างไร? มันเขียนไว้บนใบหน้าของเขา!” ชายหนุ่มที่มาพร้อมกับหัวหน้าหมู่บ้านหลี่เปิดปากกล่าว เขาคือบุตรชายของหัวหน้าหมู่บ้านหลี่ เขาชื่อหลี่หู เขาเคยเป็นคนที่มีอำนาจในหมู่บ้าน แต่ตอนนี้เขากลับไม่สามารถเปรียบเทียบกับหลี่ฉิงซาน โดยธรรมชาติเขาย่อมไม่เต็มใจยอมรับเรื่องนี้

‘ไม่ใช่ว่าเจ้าสามารถอ่านทุกสิ่งจากใบหน้าของเขางั้นหรือ? เหตุใดไม่จัดการด้วยตนเอง?’ พ่อบ้านหลิวชำเลืองมองหลี่หูด้วยสายตาเย้ยหยันและคิด ‘ฮืม เป็นเพียงเด็กน้อยที่โง่เขลาแต่กลับกล้าอวดดีกับข้า!’

หลังจากนั้นเขาก็หันหน้ากลับมาทางหัวหน้าหมู่บ้านหลี่ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อวานเขาทำสิ่งใด?”

“แน่นอน ข้ารู้ ทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนที่ยิ่งใหญ่และใจกว้าง นั่นทำให้ข้าไม่สามารถทำสิ่งใดกับเขาและต้องมาหาเจ้า” ในฐานะหัวหน้าหมู่บ้าน เขาเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดของหมู่บ้าน แต่ตอนนี้เด็กน้อยผู้หนึ่งกลับปรากฏตัวขึ้นและท้าทายอำนาจของเขา เขารู้สึกโกรธและเจ็บปวดมาก เขาตัดสินใจที่จะกู้คืนความภาคภูมิใจของตนโดยไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป