ตอนที่แล้วบทที่ 9 หัวไชเท้ามีค่ามากกว่าทีวีสี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 ความคิดเรื่องอาณาจักรอาหาร

บทที่ 10 หัวไชเท้ายกโลก


บทที่ 10 หัวไชเท้ายกโลก

.

หลังจากทำสิ่งต่างๆ และตั้งนาฬิกาปลุกที่จะครบกำหนดในอีกเจ็ดนาทีข้างหน้า หลี่ซวนก็หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอีกครั้ง รอคอยอย่างอดทน

ผลลัพธ์คือ นาฬิกายังไม่ทันปลุก หลี่ซวนก็ปิดมันลงในเวลา หกนาทีสามสิบวินาที จากนั้นก็เข้าไปในฟาร์มของเพื่อนที่ชื่อ ‘FX19’ และเฝ้ารออยู่ที่แปลงฟาร์มที่ 122 ของเขา

ฟาร์มของเพื่อนคนนี้มีระดับมากกว่า 100 มีที่ดินมากกว่า 100 แปลง และมีความหลากหลายมาก พืชผลหลายสิบชนิดไม่ได้สุกในเวลาเดียวกัน

จากประสบการณ์ของหลี่ซวนเพื่อนประเภทนี้มักจะเป็นเป้าหมายของการขโมยที่ดีที่สุด เพราะท้ายที่สุดก็ไม่มีใครที่มีเวลาว่างในการเขียนเวลาครบกำหนดของที่ดินมากกว่า 200 แปลงใช่ไหมล่ะ? และถึงจะเขียนได้ ก็เกรงว่าไม่มีเวลามานั่งดูทั้งกลางวันกลางคืนหรอก?

แต่ผลลัพธ์กลับทำให้เขาหดหู่…

แม้ว่าหลี่ซวนจะเริ่มอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังขโมยไม่สำเร็จ

ถ้านี่ไม่ใช่ ‘เพลนฟาร์ม’ เขาคงสงสัยว่าชายคนนี้กำลังโกงอยู่หรือไม่ มิฉะนั้นเขาจะเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?

อย่างไรก็ตาม โชคของหลี่ซวนก็ไม่ได้เลวร้ายสำหรับรายถัดมา ไม่นานเขาก็ขโมยมะเขือเทศธรรมดาสองลูกจากเพื่อนชื่อ ‘ต๋าปู้หลิวซี’ และทำภารกิจสำเร็จ

ต๋าปู้หลิวซี? ทำไมชื่อนี้มันช่างคุ้นเคยนัก? หลี่ซวนขมวดคิ้ว และหันไปให้ความสนใจกับกล่องข้อความที่อยู่ตรงหน้า

(ผู้แปล – ต๋าปู้หลิวซี คำเลียนเสียง อักษรดับเบิ้ลยู W ของจีน และแปลว่าอย่าพลาด - ได้มาจากอากู๋)

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นเพลนฟาร์ม: ชาวโลก คุณทำภารกิจมือใหม่สำเร็จแล้ว มาเริ่มทัวร์ฟาร์มกันเถอะ! / ตกลง/”

“ในที่สุด ภารกิจทั้งหมดก็เสร็จเรียบร้อย!” หลี่ซวนพึมพำด้วยความโล่งอก หลังจากพึมพำ เขาก็ตรวจฟาร์มอย่างละเอียดทั้งภายในภายนอกอีกครั้ง เพื่อดูว่ามีอะไรที่เขาพลาดไปหรือไม่

ต้องบอกว่าหลี่ซวนใช้เวลาในการทำภารกิจนานมากกว่า 4ชั่วโมง ตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น

ด้วยความบังเอิญอีกเพียงไม่กี่นาที หัวไชเท้าที่หลี่ซวนปลูกไว้ในฟาร์มระหว่างปฏิบัติภารกิจตอนเที่ยงจะสุกอีกครั้ง

คราวนี้หลี่ซวนไม่กล้าผ่อนคลาย เขาเชื่อว่าต้องมีอีกหลายคนที่จ้องมองที่ดินเพียงแห่งเดียวของเขาในเวลานี้

เมื่อเห็นว่าอีก 5 วินาทีจะถึงกำหนด หลี่ซวนก็คว้าหัวไชเท้าอย่างเมามัน

“หัวไชเท้า +14”

หลังจากเห็นอักษรที่ลอยขึ้นมา หลี่ซวนก็โล่งใจ โชคดีที่มีเพียงสามคนเท่านั้นที่เร็วกว่าเขา

“มือซ้ายแข็งเกินไป ถ้าเป็นมือขวา…” หลี่ซวนลูบนิ้วโป้งมือซ้ายเพื่อปลูกเมล็ดหัวไชเท้าอีกครั้ง เขาต้องเร่งรีบปรับปรุงการเคลื่อนไหวของมือซ้าย มิฉะนั้นถ้าต้องเพิ่มเพื่อนอีก เกรงว่าเขาอาจถูกขโมยพืชผลจนหมดแน่

หลังจากปลูกเสร็จ ฟาร์มของหลี่ซวนยังคงอยู่ที่ระดับ 1 แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากการอัพเกรด และมีคะแนนประสบการณ์อีกไม่กี่สิบ ถ้าเก็บหัวไชเท้าในคืนนี้ น่าจะเพียงพอสำหรับการอัพเกรดเป็นระดับ 2 ซึ่งสามารถเพิ่มเพื่อนได้อีก 10 คนและเปิดที่ดินแปลงที่สอง

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทั้งหมด และขายหัวไชเท้าชุดที่สอง จำนวนเหรียญทองที่มีก็เกือบ 2,000 เหรียญแล้ว ซึ่งหลี่ซวนต้องการเพียง 100 เหรียญทองเพื่อเปิดที่ดินผืนแรก

หลี่ซวนรู้สึกตื่นเต้น เมื่อคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะมีรายได้เป็นสองเท่าของวันนี้

แต่สิ่งที่ทำให้หลี่ซวนหดหู่ก็คือ ฟาร์มปศุสัตว์และฟาร์มเลี้ยงปลามีข้อกำหนดด้านระดับฟาร์มมากจริงๆ ในการเปิดฟาร์มปศุสัตว์ ฟาร์มจะต้องมีระดับถึง 30 ส่วนเงื่อนไขสำหรับการเปิดฟาร์มเลี้ยงปลานั้นรุนแรงกว่า ไม่เพียงฟาร์มจะต้องมีระดับถึง 50 แล้ว ระดับของฟาร์มปศุสัตว์จะต้องมีระดับถึง 30 ด้วย

สิ่งนี้ทำให้ความคิดที่จะทำสามอย่างในเวลาเดียวกันของหลี่ซวนถูกเลื่อนออกไป และทำให้ความคิดในการอัพเกรดระดับฟาร์มอย่างรวดเร็วของเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้น

“นี่ควรเป็นอีกวิธีที่พวกเขาใช้ดึงดูดผู้เล่นเพลนฟาร์ม!” หลี่ซวนคิด

สำหรับ XX ฟาร์มของเฉินเหว่ยปิน ภายใต้กลยุทธ์นาฬิกาปลุกของหลี่ซวน หลังจากทำงานหนักมา 6-7 ชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ขโมยเหรียญทองมามากพอที่จะเปิดที่ดินผืนสุดท้าย

แม้ว่าหลี่ซวนจะยังคงเต็มไปด้วยพลังงาน แต่เขาก็ลังเลเล็กน้อยที่จะถอนตัวออกจากพื้นที่เพาะปลูกของเพื่อน ‘เพลนฟาร์ม’ แต่เวลาไม่เอื้ออำนวย เพราะตอนนี้เป็นเวลา 2 ทุ่มแล้ว ภายในอีกครึ่งชั่วโมง เฉินเหว่ยปินกับแฟนสาวก็น่าจะกลับมาแล้ว

ในเวลานี้หลี่ซวนอาศัยอยู่ในบ้านเช่าของเพื่อนสนิท และเขายังคงต้องจ่ายค่าแรงจำนวนหนึ่งเป็นค่าเช่า แม้เขาจะไม่มีความสามารถในการทำอาหารก็ตาม แต่เขาก็ต้องทำสองเรื่องอย่างซื้อผักกับทำความสะอาดเพื่อจ่ายเป็นค่าเช่า

น่าเสียดายที่ค่าอาหารสิบกว่าหยวนที่เฉินเหว่ยปินทิ้งไว้ให้ ภายใต้ความโศกเศร้าและโศกนาฏกรรมในครอบครัวของหลี่ซวน เขาได้นำมันไปซื้อเหล้ามาดื่มจนหมดแล้ว ดังนั้นอาหารเย็นของวันนี้เขาคงต้องให้เฉินเหว่ยปินซื้อผักกลับมาด้วย

“โหล? ซวนจื่อ นายดีขึ้นหรือยัง?” เสียงของเฉินเหว่ยปินดังมาจากปลายสาย

“อืม!” หลี่ซวนตอบ “ได้นอนซักตื่นก็ดีขึ้น วันนี้ฉันขโมยผักให้นายตั้งนาน ในที่สุดก็สำเร็จตามเป้าหมาย นายไม่ต้องห่วง! แค่เพื่อนๆของนายกำลังมีปัญหาแค่นั้นเอง!”

“เหอ เหอ … ฉันรู้อยู่แล้ว! เรื่อเล็กๆน้อยๆอย่างอกหัก ขาดเงิน จะเอาชนะพี่ซวนของเราได้อย่างไร?” เฉินเหว่ยปินหัวเราะ “เรื่องมนุษย์ต่างดาวที่ฉันให้ความร่วมมือเมื่อกลางวันเป็นยังไง? ฮ่า ฮ่า!”

“ฮ่า ฮ่า!” หลี่ซวนนึกถึงคำถามที่เขาถามเพื่อนเมื่อตอนเที่ยงแล้วรู้สึกขบขัน “ใช่แล้ว! ถ้านายกลับมากินข้าวเย็น อย่าลืมซื้อผักมาด้วยล่ะ! สิบกว่าหยวนที่นายทิ้งไว้ให้ ฉันเอาไปดื่มหมดแล้ว!”

“อืม! นายอยากให้ฉันซื้อเพิ่มอีก 2-3 ขวดเพื่อฉลองที่ฟาร์มของฉันนำหน้าเพื่อนร่วมงานไปหนึ่งก้าวไหม?” เสียงไร้ยางอายของเฉินเหว่ยปินดังขึ้น

“ไม่ต้องหรอก! ฉันไม่อยากดื่มแล้ว!” หลี่ซวนยิ้ม แต่สายตาของเขายังจับจ้องไปยังหัวไชเท้าที่เขา ‘นำออก’ มาจาก ‘เพลนฟาร์ม’ เมื่อตอนเที่ยง แล้วรีบพูดขึ้นว่า “ฉันมีหัวไชเท้าหัวใหญ่ขนาด 5-6 ชั่ง (2.5-3 กก.) แล้ว นายซื้อเนื้อกลับมาด้วยแล้วกัน เราจะได้เอามันมาทำอาหารกิน!”

“โอเค เราจะกลับเร็วๆนี้ นายช่วยทำความสะอาดบ้านด้วย เพราะนอกจากเสี่ยวหลานแล้วคืนนี้ เรามีแขกมาด้วย!” พูดจบ เฉินเหว่ยปินก็หยุดพูดไร้สาระและวางสายไป

ทางด้านหลี่ซวน เขายังคงถือโทรศัพท์มือสอง ในขณะที่ดวงตายังจ้องอยู่ที่หัวไชเท้าขนาดใหญ่สีขาวอวบอ้วน และไม่สามารถถอนสายตาจากมันได้เป็นเวลานาน

“ดูเหมือนว่าหัวไชเท้านี้จะ…”

หลี่ซวนหยิบหัวไชเท้าขึ้นมา จ้องมองมันอย่างใกล้ชิด

เมื่อเที่ยงหลี่ซวนไม่ได้มองหัวไชเท้าอย่างละเอียด เพราะเขากำลังตกใจกับการทำงานของ ‘เพลนฟาร์ม’ ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าหัวไชเท้านี้ดูแตกต่างจากที่เขาเคยเห็นมาก่อน

ประการแรก พื้นผิวของหัวไชเท้านี้เรียบลื่นราวกับผิวเด็กทารก ประการที่สอง สีของหัวไชเท้านี้ไม่ใช่สีขาวธรรมดา แต่มันดูเหมือนหยกขาวที่เปล่งประกาย ใสและเป็นมันวาว ที่สำคัญที่สุดก็คือ หัวไชเท้านี้มีกลิ่นหอมจางๆ โชยออกมาตลอดเวลา ทำให้นึกอยากกัดกิน

หลังจากลูบไล้เป็นเวลานาน ในที่สุดหลี่ซวนก็ไม่ขัดขืน หรือบางทีเขาอาจไม่ต้องการต่อต้านก็ได้ เขากัดหัวไชเท้าเข้าไปคำใหญ่และเคี้ยวมันเหมือนผลไม้

รสเผ็ดแบบหัวไชเท้าที่คิดไว้ไม่ปรากฏขึ้น แต่กลับมีกลิ่นหอมแรงเข้ามาแทนที่ การเคี้ยวให้ความกรอบและสดชื่น และรสชาติก็ยิ่งหวานขึ้นไปอีก ภายใต้การโจมตีของกลิ่นหอมที่เข้มข้นและสดชื่นนี้ หลี่ซวนแทบต้องการกลืนลิ้นของเขาลงท้องไปด้วย

หัวไชเท้าคำนี้ทำให้รูขุมขนทั้ง 36,000 ของหลี่ซวนเปิดออกอย่างควบคุมไม่ได้ มีคำหนึ่งปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของเขา

สดชื่น!

“นี่ยังเป็นหัวไชเท้าอยู่อีกเหรอ?” ลิ้นของหลี่ซวนกลืนรสชาติที่หลงเหลืออยู่ในปากอย่างไม่ตั้งใจ ในขณะที่ดวงตาจับจ้องไปที่หัวไชเท้าในมือพร้อมกับกัดมันอีกครั้ง

หลังจากที่หัวไชเท้าถูกกัด กลิ่นหอมหวานน่าจดจำก็อบอวลไปทั่วห้องนั่งเล่น ซึ่งยิ่งทำให้น่าดึงดูดขึ้นไปอีก

ดังนั้นแม้ว่าหลี่ซวนจะยับยั้งตัวเองแล้ว แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะกัดกินอีก

“หยุดกิน หยุดกินได้แล้ว! แต่ยังมีเมล็ดพันธุ์อยู่ในฟาร์มอีกนี่ ไว้โอกาสหน้าแล้วกัน” เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลี่ซวนก็กัดกินหัวไชเท้าต่อไป ตอนนี้เขายังรู้สึกตกใจตัวเอง ที่รู้สึกอยากกินหัวไชเท้านี้ทั้งหัว

และอยากกินมันเหมือนผลไม้แทนข้าวเย็น

หลี่ซวนยังสงสัยว่าหัวไชเท้านี้เป็นยาเสพติดหรือไม่

ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติดหรือไม่ก็ตาม หลี่ซวนแน่ใจว่า หัวไชเท้าที่ปลูกและผ่านเทคโนโลยีการดัดแปลงพันธุกรรมชนิดนี้ ไม่กลัวการตรวจสอบ มันไม่เพียงแต่จะไม่ทำร้ายผู้คนอย่างยาเสพติดเท่านั้น มันยังอาจเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์อีกด้วย

เทคโนโลยีต่างดาวนี้ดีจริงๆ หัวไชเท้าก็อร่อยถึงขนาดนี้ ดูเหมือนว่าต่อไปเขาจะได้กินอร่อยๆ

“เดี๋ยวนะ!”

หลี่ซวนหยุดเคี้ยว ขมวดคิ้วเล็กน้อย และกลอกตาช้าๆ 2-3 ครั้ง

ดวงตาของเขาค่อยๆสว่างขึ้น จากนั้นก็กระโดดขึ้นจากเก้าอี้ราวกับได้ค้นพบโลกใหม่แล้วหัวเราะลั่น “รวยแล้ว รวยแล้ว! ฮ่า ฮ่า!”

ระดับความบ้าคลั่งนี้เลวร้ายยิ่งกว่าตอนดูร้านค้าเมื่อตอนบ่าย!

หลี่ซวนเป็นคนมีความสามารถ และเขาก็โฆษณาตัวเองแบบนั้นมาโดยตลอด

เขามักคิดว่า ถ้าคุณให้ไวอากร้ากับเขา … ไม่ใช่สิ ถ้ามอบไม้คานที่ยาวพอและจุดศูนย์กลางรองรับน้ำหนัก เขาจะงัดโลกใบนี้ให้ดู

และตอนนี้ จุดศูนย์กลางและไม้คานได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าหลี่ซวนแล้ว ซึ่งก็คือหัวไชเท้าที่อยู่ตรงหน้า

เพราะหัวไชเท้านี้อร่อยมาก…

หลี่ซวนคิดไม่ออกจริงๆว่าใครจะสามารถต้านทานความยั่วยวนของหัวไชเท้านี้ได้เพียงเพื่อประหยัดเงิน

ด้วยหัวไชเท้านี้ หลี่ซวนไม่เพียงไม่ต้องกังวลเรื่องยอดขายเท่านั้น แต่ยังสามารถขายจนหมดสต็อกได้ด้วย และเขายังสามารถผูกขาดการจัดหาสินค้าสำหรับมนุษย์ทั้งหมดบนโลก ในแง่ของราคา เขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ ตราบใดที่ผู้คนรับได้ก็ไม่ต้องกังวลกับการแข่งขัน

อย่างไรก็ตาม หลี่ซวนก็ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดที่ต้องสละเหรียญทอง ‘เพลนฟาร์ม’ นำผักผลไม้เหล่านี้ออกมาขาย ซึ่งจะสร้างรายได้ให้เขาได้อย่างมหาศาลอย่างแน่นอน

สำหรับทางเลือกระหว่างเหรียญทอง ‘เพลนฟาร์ม’ กับเงินจริง หลี่ซวนเลือกอย่างหลัง

อย่างน้อยก็ตอนนี้

ประการแรก ปลายทางสุดท้ายของเหรียญทองในเพลนฟาร์มก็คือความจริง เพื่อซื้อของที่เหลือเชื่อเหล่านั้นสำหรับตัวตนที่แท้จริง เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการทำให้ชีวิตที่ดีขึ้น และการได้รับเงินจริงเป็นจำนวนมากก็สามารถบรรลุวัตถุประสงค์นี้เช่นกัน

ประการที่สอง ของในเพลนฟาร์มแพงเกินไป ในขั้นตอนนี้เขาไม่สามารถจ่ายได้ หากเขาเก็บไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เกรงว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5-6 ปี กว่าจะสามารถซื้อของที่ราคาถูกที่สุดได้ แต่ความจริงนั้นเรียบง่ายกว่า แม้จะไม่รู้ว่าในเวลา 5-6 ปี เขาจะเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกหรือไม่ แต่อย่างน้อยเขาก็รวย

หลี่ซวนได้สัมผัสกับพลังของเงินเพื่อช่วยชีวิตแล้ว

นอกจากนี้ เมล็ดพืชในเพลนฟาร์มยังมีราคาไม่แพง แม้ว่าผักผลไม้ส่วนใหญ่เหล่านี้จะนำมาสู่โลกความจริง แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการอัพเกรดเพลนฟาร์มอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่อัพเกรดไปจนถึงระดับหนึ่งและมีพื้นที่เพียงพอ การรับเหรียญทองก็จะง่ายขึ้นมาก ซึ่งจะง่ายกว่าตอนนี้หลายเท่า

เมื่อเขาได้รับเงินอย่างเพียงพอในโลกความจริง ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยนไปใช้เหรียญทองในเพลนฟาร์ม ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มเก็บออมเหรียญทองในตอนนี้

ที่สำคัญที่สุดคือ ในโลกความจริงหลี่ซวนขาดแคลนเงินอย่างมาก และต้องการเงินอย่างเร่งด่วน!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของหลี่ซวนก็สว่างสดใส และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหัวไชเท้าในปากถูกกลืนลงท้องไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเอาแต่จ้องมองหัวไชเท้าในมือและกลืนน้ำลาย

.

*******

(ผู้แปล – ยกโลก มาจาก ‘มอบไม้คานที่ยาวพอและจุดศูนย์กลางรองรับน้ำหนัก ข้าพเจ้าจะงัดโลกใบนี้ให้ท่านดู’ ซึ่งเป็นคำพูดที่มีชื่อเสียงของนักวิชาการชาวกรีกโบราณอาร์คิมิดีส)

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด