ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 ขาดเงิน

บทที่ 1 บทนำที่ไม่ใช่บทนำ


บทที่ 1 บทนำที่ไม่ใช่บทนำ

.

หลี่ซวนเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมาก!

อย่างน้อย ตัวเขาก็คิดเช่นนั้น

ในช่วง 26 ปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากวัยเด็กที่สวยงามของเขาแล้ว หลี่ซวนยังคงยึดมั่นในทัศนคติที่ว่า “ทุกปัญหามีทางแก้เสมอ” ทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่าง “มีความสุข” ภายใต้ความกดดัน

ไม่ว่าอย่างไรชีวิตก็อยู่ได้แค่ร้อยปี!

เวลามีไม่มากนัก แล้วทำไมต้องไปเสียอารมณ์กับด้านลบ อย่าง ความผิดหวัง ความโศกเศร้าและปัญหาต่างๆนาๆด้วย?

ดังนั้นก่อนสำเร็จการศึกษา หลี่ซวนอดทนต่อแรงกดดันในการศึกษาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจบการศึกษา หลี่ซวนยังโอ้อวดว่าเขาสามารถอดทนต่อแรงกดดันในอาชีพการงานของเขาได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้เขาต้องมาพึ่งพาผู้อื่น อาศัยอยู่ในบ้านเช่าของเพื่อนสนิทสมัยเรียนอย่างไร้ยางอาย และใช้ที่นี่เป็นเหมือนเปลือกหอยทาก

อันที่จริง ไม่ใช่ว่าหลี่ซวนไม่ต้องการความก้าวหน้า เขาก็มีความทะเยอทะยานสูงเช่นกัน

เขาต้องการนอนหลับอย่างสบายตื่นตามธรรมชาติ และนับเงินจนมือเป็นตะคริว!

นี่คืออุดมคติของหลี่ซวน! ยิ่งไปกว่านั้น เขาเต็มใจที่จะทำงานหนักเพื่ออุดมคตินี้!

อย่างไรก็ตาม ในโลกนี้มีคนจำนวนมากที่ทำงานหนัก แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

น่าเสียดายที่นั่นเป็นเพียงอดีต

“ถ้าฉันสามารถมีความคิดเหมือนนาย! ชีวิตของฉันคงเหนื่อยตายแน่!

นี่เป็นสิ่งที่เฉินเหว่ยปิน เพื่อนรวมชั้นและเพื่อนสนิทของหลี่ซวนมักพูดต่อหน้าเขา! และทุกครั้งที่เฉินเหว่ยปินพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็มักจะเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี!

ในความเป็นจริง ทำไมหลี่ซวนถึงไม่เป็นเช่นนั้น?

หลังจากจบจากมหาวิทยาลัย หลี่ซวนก็ตระหนักได้ว่าภาระของเขานั้นหนักมาก

แต่ไม่มีทางเลือก ภาระจะหนักขนาดไหนก็จำเป็นต้องแบก!

เพราะเขาไม่ได้ต่อสู้เพียงเพื่อตัวเองเท่านั้น! ยังมีอีกหลายปากท้องที่รอคอยอยู่เบื้องหลัง

ดังนั้นหลี่ซวนจึงทำงานหนักมากและพยายามปรับตัวให้เข้ากับภาระหนักบนบ่า!

ถ้าไม่ใช่เพราะ “การมองโลกในแง่ดี” ที่หลี่ซวนเคยประกาศแล้วล่ะก็ บางทีเขาอาจพังทลายไปนานแล้ว!

“ถ้าฉันเป็นเขา ฉันคงไม่สามารถหัวเราะได้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา!”

นี่คือสิ่งที่เฉินเหว่ยปินเพื่อนที่ดีที่สุดของหลี่ซวนมักพูดให้คนอื่นฟัง และเมื่อเขาพูดแบบนี้ดวงตาของเขาก็จะเต็มไปด้วยความชื่นชมและ … ความเห็นอกเห็นใจ?

ใช่ ความเห็นอกเห็นใจ!

หลี่ซวนเกิดในชนบท พ่อแม่ของเขาต้องทุบหม้อขายเหล็ก (ขายทุกสิ่งทุกอย่าง) เพื่อส่งเขาเรียน แต่เขายังมีน้องชายสองคน และน้องสาวอีกหนึ่ง

น้องชายสองคนของเขาแต่ละคนได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและน้องสาวก็เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปี 3 แล้ว…

แรงกดดันแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะทนรับไหวจริงๆ

อย่างไรก็ตาม หลี่ซวนก็กัดฟันแบกรับไว้

แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลี่ซวนตกงานอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะเขาทำงานไม่หนักพอ แต่เป็นเพราะเขาก้าวร้าวเกินไป ไปคุกคามบางคนที่มีสถานะ จนถูกคิดบัญชี

นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เขาตกงานในลักษณะนี้

ในเรื่องนี้หลี่ซวนเสียใจมาก! ทำไมเขาต้องไปทำสิ่งอุกอาจจนส่งผลเสียต่อชีวิต? ทำไมเขาถึงกล้าไปทำแบบนั้น?

ต้องรู้ว่าสถานการณ์ทางบ้านยังยากลำบากมาก ค่าเล่าเรียนของน้องชายสองคนก็ยังล้าช้าอยู่มาก! เขาไม่สามารถส่งเงินไปให้ทางบ้านได้ในขณะที่ยังไม่มีงานทำ!

การตกงานครั้งนี้ไม่มีทางเลือก อีกฝ่ายมีสายสัมพันธ์กัน อีกทั้งยังกดขี่และคดโกง ไม่นานหลังจากเข้าทำงานที่บริษัท เขาก็ถูกเพ่งเล็ง แม้แต่หัวหน้ายังจ้องจับผิด และเลิกวางใจในตัวเขา

ดังนั้นหลังจากส่งเงินทั้งหมดกลับบ้าน เขาก็เริ่มดำเนินการหางานใหม่อีกครั้ง

เฉินเหว่ยปิน เพื่อนสนิทที่สุดของเขาได้เข้ามาช่วยเหลือเขาอีกครั้ง

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลี่ซวน อาศัย กิน และใช้ของๆเฉินเหว่ยปินทั้งหมด

แม้ว่าการช่วยเหลือนี้จะเป็นเพียงชั่วคราว แต่สำหรับเพื่อนที่ดีที่สุดคนนี้ หลี่ซวนยังคงรู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ

ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนสนิทคนนี้ หลี่ซวนคงไม่สามารถส่งเงินกลับบ้านได้มากขนาดนั้น แม้ว่าค่าครองชีพในเมืองนี้จะไม่สูงมาก แต่ถ้าหากเขายืนกรานจะส่งเงินกลับบ้านโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือนี้ บางทีในตอนนี้เขาอาจต้องไปขอทานตามท้องถนนแล้วก็เป็นได้

ในเรื่องนี้หลี่ซวนได้สาบานในใจนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยคำสาบานที่เป็นคำพูดที่มีชื่อเสียงของเฉินเซิง “จงมั่งคั่งและมีเกียรติ อย่าลืมกันและกัน!”

(ผู้แปล – เฉินเซิง ผู้บุกเบิกกองทัพกบฏต่อต้านฉินและก่อตั้งระบอบจางจู - รวยแล้วอย่าลืมกัน)

หากวันหนึ่งเขาร่ำรวยขึ้นมา เขาจะทำให้เพื่อนที่ดีที่สุดคนนี้มีชีวิตที่ดีอย่างที่ฝันถึง!

ถูกไล่ออก หมดเงิน พึ่งพาคนอื่น หางานทำ…

ภายใต้แรงกดดันที่ไม่อาจต้านรับ มันได้ส่งผลต่อจิตวิญญาณ ในการ ‘มองโลกในแง่ดี’ ของหลี่ซวน

ไม่มีทางเลือก! ภาระบนบ่าของเขาหนักมากจนหลี่ซวนต้องหาข้อแก้ตัวทุกรูปแบบเพื่อหลอกตัวเอง และกังวลว่าวันหนึ่งเขาจะแบกรับต่อไปไม่ไหว!

ถ้าวันหนึ่งเขาแบกรับต่อไปไม่ไหวแล้วทางบ้านจะทำอย่างไร?

หลี่ซวนไม่อยากคิด!

เขามักบอกกับตัวเองว่าทุกปัญหามีทางแก้เสมอ! ความทุกข์ยากในระยะสั้นได้วางรากฐานที่มั่นคงให้กับชีวิตที่ดีในอนาคต

สวรรค์จะให้ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่แก่ผู้คน แต่คนผู้นั้นต้องรับความประสงค์ของสวรรค์ให้ได้เสียก่อน ต้องทนทุกข์ยากอย่างหนักจนกล้ามเนื้อกระดูกเหือดแห้ง ร่างกายว่างเปล่า…

หลี่ซวนค่อนข้างดูถูกผู้มาโจมตีเขา อย่างไรก็ตามทุกอย่างได้เกิดขึ้นแล้ว ต่อให้หดหู่เพียงใดก็ช่วยอะไรไม่ได้ ให้กำลังใจตัวเองดีกว่า ขจัดความโศกเศร้า และใช้การกระทำของตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้

หลี่ซวนยอมรับว่าเขาไม่เคยรู้สึกหดหู่ใจ

จนกระทั่งเมื่อคืน โทรศัพท์มือถือเลียนแบบมือสองของหลี่ซวนได้รับสายติดต่อกันถึงสองสาย

สายหนึ่งมาจากแฟนสาวที่คบกับหลี่ซวนมาครึ่งปี เนื้อหาของการสนทนานั้นคือกระบวนการที่ขนมปังเอาชนะความรักได้อย่างไร

หลี่ซวนอกหัก!

แฟนสาวไปหมั้นกับเศรษฐี!

ใช่แล้ว! หลี่ซวนไม่มีเงิน เกิดในชนบท ไม่มีพื้นฐานและต้องจ่ายทุกอย่างให้กับครอบครัว รวมถึงค่าเล่าเรียนของน้องชายสองคนกับน้องสาวอีกหนึ่งคน

ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถให้ความสุขแก่ใครได้!

แฟนสาวของเขาจึงไม่ต้องการตรึงความสุขในอนาคตของเธอไว้กับชายหนุ่มยากจน

อีกสายมาจากครอบครัวของเขา แม่ของเขาร้องไห้คร่ำครวญ โดยมีเนื้อหาว่าภายใต้แรงกดดันของค่าเล่าเรียนที่สูงของน้องชายทั้งสองคนของเขา พ่อของเขาเข้าไปในเมืองเพื่อขายเลือดอีกครั้ง และเป็นลมทันทีที่กลับมาถึงบ้านในตอนกลางคืน!

ภายใต้ข่าวร้ายทั้งสองนี้ หลี่ซวนไม่สามารถ ‘มองโลกในแง่ดี’ ได้อีกต่อไป!

หลี่ซวนผู้ซึ่งไม่เคยดื่มเหล้ามาก่อน ได้ใช้เงินค่าอาหารสิบกว่าหยวนที่เฉินเหว่ยปินทิ้งไว้ให้ ไปซื้อเหล้าคุณภาพต่ำสองสามขวดมาดื่มจนเมาปลิ้น!

“คิดไม่ถึง…ฉันจะกลายเป็นคนแบบที่ฉันดูถูก…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของหลี่ซวนก่อนที่เขาจะผล็อยหลับไป

.

0 0 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด