ตอนที่แล้วEp.237 - ขายหมดแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.239 - ตั๊กแตนบนเชือกขึง

Ep.238 - เงื่อนไข


1/4

Ep.238 - เงื่อนไข

ก่อนหน้าที่ร้านขายโพชั่นมังกรฟ้าจะเปิดให้บริการ

ในเจียงเฉิงไม่เคยมีร้านขายโพชั่นอย่างเป็นทางการมาก่อน

โพชั่นที่ผลิตขึ้นโดยกองกำลังใหญ่มักใช้กันภายในหรือแลกเปลี่ยนกันระหว่างกองกำลัง

หรือก็คือเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปที่จะหาช่องทางการซื้อโพชั่นอย่างต่อเนื่อง ตลอดมาพวกเขาได้แต่แลกเปลี่ยนกันในหมู่เพื่อนๆ ซื้อจากในแบทเทิลเน็ต หรือแวะตามแผงลอยเพื่อลองเสี่ยงโชคดู พูดสั้นๆก็คือลำบากมาก

เช่นนั้นแล้ว จะสะดวกแค่ไหนหากมีร้านที่สามารถหาซื้อโพชั่นได้ตลอดเวลา?

ราคาโพชั่นตอนนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

แต่แน่นอน การปรับราคาให้สูงขึ้นเพื่อบรรเทาแรงซื้อและลดการกดดันด้านการผลิตไม่ใช่ทางออกที่ดี

งานเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการขยายห่วงโซ่การผลิตเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต รับสมัครนักกลั่นโพชั่นมืออาชีพให้มากขึ้น จากนั้นก็เริ่มจ้างนักกลั่นโพชั่นแบบพาร์ทไทม์

พนักงานพาร์ทไทม์สามารถทำงานบนชั้นสองร้านขายโพชั่นเพื่อแสดงความสามารถและรับเงินส่วนแบ่งจำนวนหนึ่งผ่านร้านค้าได้

ฮังอวี่เชื่อว่าการฝึกฝนนักกลั่นโพชั่นในกลุ่มยังเป็นปัญหาที่สำคัญมาก เนื่องจากโพชั่นต้องทำซ้ำๆ และถ้าอยากรักษาความได้เปรียบในระยะยาว เขาต้องแน่ใจว่าทีมนักกลั่นต้องมีพัฒนาการ

ยิ่งนักกลั่นโพชั่นมีความชำนาญมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการกลั่นโพชั่นและความเร็วในการผลิตก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ตัวอย่างเช่นหากให้เสี่ยวไป๋กลั่นโพชั่นระดับต่ำ

ด้วยสกิลกลั่นโพชั่นที่ใกล้อัพเลเวล 5 อยู่รอมร่อแล้วของเธอ ส่งผลให้เธอสามารถกลั่นโพชั่นระดับต่ำทีเดียวพร้อมกันได้ถึง 10 ขวด ไม่เพียงสามารถทำได้ภายใน 1 นาที แต่อัตราความสำเร็จยังใกล้ถึง 100%

ดังนั้น ฮังอวี่จึงขอให้หวังเอ๋อคัดเลือกกลุ่มคนที่น่าเชื่อถือและมีความสามารถเพียงพอ

อนาคตหน่วยกลั่นโพชั่นของกลุ่มมังกรฟ้าจะได้มั่นคงและยืนยาว

และตอนนี้ งานเปิดตัวร้านขายโพชั่นเป็นไปด้วยดี

ฮังอวี่มีคติทำผิดต้องถูกลงโทษ ทำดีต้องได้รางวัล

อันดับถัดไปคือรางวัลที่สุนัขควรจะได้รับ

สาเหตุหลักๆที่สามารถสร้างหน่วยผลิตโพชั่นขึ้นมาได้ต้องยกเครดิตให้หวังเอ๋อ

ตั้งแต่มีเจ้าหมา ฮังอวี่รู้สึกสบายมาก เหมือนแทบไม่ได้ทำอะไรเลย

“คราวนี้ ร้านขายโพชั่นมังกรฟ้าประสบความสำเร็จขนาดนี้ก็เพราะการประสานงานของนาย” ฮังอวี่ลูบหัวฮัสกี้แล้วพูดว่า “เมื่อกลับไป ให้เอาโพชั่นลับแต้มวิญญาณออกมา 20 ขวด ครึ่งหนึ่งเป็นรางวัลของนาย และอีกครึ่งหนึ่งเป็นรางวัลสำหรับฝ่ายผลิตที่ทำผลงานได้ดี”

โพชั่นลับแต้มวิญญาณ 10 ขวด!

เจ้านายใจกว้างจริงๆ

หวังเอ๋อควงสว่านหางอย่างมีความสุข

ฮังอวี่มีโพชั่นลับแต้มวิญญาณอยู่ในมือประมาณ 100 ขวด 10 ขวดนำไปตั้งเป็นรางวัลใหญ่ในการจับสลากของร้านสำหรับสมาชิกที่เติมเงิน อีก 20 ขวดมอบให้สุนัขและทีมฝ่ายผลิตเพื่อสร้างแรงจูงใจ และอีกหลายสิบขวดมอบให้ราชินีมดเพื่อเร่งการอัพเลเวล

โพชั่นลับแต้มวิญญาณถูกใช้ไปเป็นจำนวนมาก

ส่วนที่ยังเหลือต้องเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น

แม้โพชั่นลับเหล่านี้จะช่วยฮังอวี่ได้ไม่มากนัก

แต่สำหรับคนทั่วไปมันยังคงมีค่ามาก

ดังนั้น การนำโพชั่นลับออกวางขายหรือมอบมันเป็นรางวัลแก่ลูกน้อง นับเป็นการซื้อใจที่ดีมาก ฮังอวี่วางแผนจะส่งคนไปหาปะการังของมนุษย์ปลาต่อ เพื่อนำมากลั่นโพชั่นลับแต้มวิญญาณเพิ่มเติม

ความสำเร็จของร้านโพชั่นมังกรฟ้าเรียกได้ว่าตอกตะปูฝาโลง

มันเปิดบริการในจังหวะที่เหมาะสม และสามารถเพิ่มหินคริสตัลขาวได้ในลมหายใจเดียว สำหรับฮังอวี่แล้ว เขาเชื่อว่าเมื่อกลับไปโลกวิญญาณในคืนพรุ่งนี้ หินคริสตัลเหล่านี้จะถูกแลกเปลี่ยนเป็นไอเท็มล้ำค่าจำนวนมาก และฮังอวี่ตั้งตารอเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ

และในเวลาเดียวกัน

มีข่าวดีจากทางคฤหาสน์เก่า

เสี่ยวไป๋สามารถหลอมธนูคำสาปหินได้สำเร็จแล้ว

ฮังอวี่ดีใจมากเมื่อทราบข่าวนี้ เขารีบกลับบ้านเพื่อรับธนูทันที เมื่อเห็นคุณสมบัติของธนูคำสาปหิน เขาก็พอใจมาก เป็นอย่างที่คิดจริงๆ นี่คือผลงานชิ้นเอก!

[ธนูคำสาปหิน] อุปกรณ์เลเวล 7 , สีเขียวคุณภาพสูง , การโจมตีทางกายภาพ + 20 , พละกำลัง +3 , ว่องไว +3 , ทุกการโจมตีมีโอกาส 20% ที่จะก่อเอฟเฟกต์กลายเป็นหิน , ค่าความทนทาน 30/30

ทำไม ฮังอวี่ถึงกล่าวว่าธนูคำสาปหินคือผลงานชิ้นเอกน่ะหรือ?

สาเหตุหลักๆมาจากโอกาส  20% ที่จะทำให้เกิดสถานะกลายเป็นหิน

ความสามารถนี้พูดได้เลยว่าขี้โกงมาก

ในฐานะที่เป็นอาวุธสีเขียวใสเลเวล 7 ธนูคำสาปหินมีอัตราการโจมตีที่สูงมาก หากศัตรูไม่ใช่มอนสเตอร์ที่มีเลเวลเกิน 10 และมีระดับไม่เกินเจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์ ด้วยธนูนี้ เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งสกิลควบคุมหน่วงเหนี่ยวของพวกผู้ใช้วิญญาณด้วยซ้ำ เพียงออกล่ามอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นโดยการโจมตีจากระยะไกลเพียงอย่างเดียวก็สามารถฆ่าพวกมันได้

“ธนูดี! ธนูดี!”

“คืนพรุ่งนี้ เมื่อกลับไปยังโลกวิญญาณ ฉันจะลองทดสอบมันดู”

ฮังอวี่ตรวจสอบธนูคำสาปหินพักหนึ่งก่อนเก็บมันลงในมิติเก็บของ

และในตอนนั้นเอง จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอกจึงรีบออกไปดู และในที่สุดก็ได้พบกับความงาม ผู้มาเยือนมิใช่ใครอื่น เป็นอาจารย์ซู ซูหยุนปิง

“อาจารย์ซูวันนี้คุณหายไปไหนมา?”

แต่ในไม่ช้า ฮังอวี่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติ

เขากวาดสายตามองซูหยุนปิงหัวจรดเท้า และเห็นว่าผมของซูหยุนปิงยุ่งเหยิง ทั้งยังมีคราบเลือดอยู่บนใบหน้า มือ และหน้าอกของเธอ ซึ่งบ่งบอกว่าตำแหน่งเหล่านี้ถูกโจมตี แต่อุปกรณ์โลกวิญญาณมีค่าความทนทาน ตราบใดที่มันยังไม่หมด ก็สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ดังนั้นอุปกรณ์จึงยังดูไม่บุบสลาย

ข้างหลังเธอตามมาด้วยคนสนิทสองคน เฉารุ่ยและหลินหลาน

นอกจากนี้ยังมีชายชราหล่อเหลาซึ่งยังดูหนุ่มกว่าคนอื่นๆในวัยเดียวกัน

ฮังอวี่เลิกแสดงสีหน้าทำเป็นเล่นทันที เอ่ยถามเสียงขรึม “เกิดอะไรขึ้น?”

“ขอโทษจริงๆที่งานเปิดร้านโพชั่นมังกรฟ้าฉันไม่ได้แวะมา” ซูหยุนปิงถอนหายใจ กล่าวอย่างโกรธเคือง “แต่อย่าตำหนิฉันเลย ถ้าจะตำหนิก็ควรตำหนิตาแก่ซู เขาถูกลอบโจมตีแถมยังเกือบตาย ฉันเลยต้องรีบพาคนไปช่วย ไม่อย่างงั้นวันนี้คงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

หายไปทั้งวัน

ที่แท้เธอไปช่วยพ่อ?

“เรื่องในวันนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด” ใบหน้าของซูเจิ้งเฉิงดูเก้อเขิน รองประธานบริหารสมาคมโลกวิญญาณผู้สง่างามต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แถมยังเป็นลูกสาวที่มาช่วยชีวิตเขา นี่มากพอแล้วที่จะบอกว่าเขาเป็นผู้พ่ายแพ้จริงๆ

ฮังอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขารู้สึกว่าเรื่องราวชักจะยุ่งยากเสียแล้ว

การที่ซูหยุนปิงและซูเจิ้งเฉิงมาเคาะประตูในเวลานี้ มันต้องมีเหตุผลแน่ๆ

ฮังอวี่ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่ไม่จำเป็น เพราะนั่นไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทำตัวติดดิน ค่อยๆลอบเติบโตที่เขายึดมั่นมาโดยตลอด แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เหมาะที่จะละทิ้งทั้งสองคน ดังนั้นเบี่ยงตัวเล็กน้อย เปิดทางให้พวกเขาเข้ามา

ซูหยุนปิงเข้าสู่ลานบ้าน

ทันใดนั้นเธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที

อย่างน้อยที่นี่ก็ปลอดภัยมากสำหรับเธอ

ซูหยุนปิงนั่งลง จิบชาเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด

“ฉันมาที่นี่วันนี้ นอกจากเรื่องหลบภัยแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ที่จริงฉันได้พิจารณาข้อเสนอของนายอย่างรอบคอบแล้ว พูดตรงๆถึงจะไม่ค่อยน่าพอใจนัก แต่ถ้าทีมของฉันเข้าร่วมกับกลุ่มมังกรฟ้า ฉันรู้สึกว่าฉันและทีมจะสามารถไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน”

ซูเจิ้งเฉิงไม่พูดอะไร เพียงพยักหน้าเล็กน้อย

เรื่องการเปิดร้านโพชั่นมังกรฟ้าได้แพร่กระจายไปทั่วเจียงเฉิงแล้ว

อนาคตของฮังอวี่นั้นไร้ขีดจำกัด ตอนนี้เขากำลังต้องการผู้มีพรสวรรค์อย่างเร่งด่วน และซูหยุนปิงก็มีความสามารถมาก ทีมของเธอเป็นผู้ใหญ่ หากรวมเข้าด้วยกัน พวกเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน จากนั้นก็จะเริ่มเติบโต และมีตำแหน่งใหญ่ในพื้นที่นี้

“อาจารย์ซูได้คำตอบแล้วหรือ?”

“ไม่เลว”

หัวใจของฮังอวี่เต้นแรงขึ้นเล็กน้อย

ทว่าเขาไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ยกชาขึ้นจิบอย่างสงบ

เวลานี้ ฮังอวี่ต้องการคนมีฝีมือมาอัดฉีดเข้ากลุ่มอย่างเร่งด่วน

หากเขาสามารถนำคนอย่างซูหยุนปิงมาเป็นลูกน้องได้ นั่นเท่ากับผลประโยชน์มหาศาล

นอกจากนี้ อาจารย์ซูยังมีหน่วยกลั่นโพชั่นซึ่งได้รับการดูแลอย่างดี

เหตุผลที่เธอยังต้องการาซื้อโพชั่นจากฮังอวี่ นั่นก็เพราะเธอยังไม่พบช่องทางการซื้อเมล็ดพันธุ์ที่มั่นคง

หากทั้งสองทีมรวมเป็นหนึ่ง

คงได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่รู้จักซูหยุนปิงดี เธอไม่ใช่คนตัดสินใจอะไรง่ายๆ การที่เธอตัดสินใจรวดเร็วแบบนี้ แสดงว่าต้องมีเงื่อนไขที่กำลังผูกมัดตัวเธอเองอยู่

“แล้วเงื่อนไขของอาจารย์คือ?”

“กำจัดคนๆหนึ่ง”

ฮังอวี่วางกาน้ำชา สายตาเขาหรี่เล็กลง เอ่ยเสียงแข็ง “ใคร?”

“หวงหยุนหลง รองประธานสมาคมโลกวิญญาณ!” ซูหยุนปิงพูดและหยุดไปพักหนึ่งก่อนเอ่ยต่อว่า “การฆ่าเขาไม่ใช่แค่ฉันที่ได้ประโยชน์ แต่นายก็จะได้ประโยชน์ด้วย เพราะเมื่อฉันเข้าร่วมกับนาย เขาจะนำอันตรายมาสู่กลุ่มมังกรฟ้า”

หวงหยุนหลง?

ถ้าเดาไม่ผิด

การลอบสังหารครั้งก่อนในตรอกมังกรฟ้าสมควรเป็นฝีมือของชายผู้นี้เช่นกัน

เมื่อเป็นเช่นนั้น หากบุคคลผู้นี้ยังไม่ถูกกำจัดออกไป แม้ซูหยุนปิงจะเข้าร่วมกับกลุ่มมังกรฟ้า แต่ก็ยังคงตกเป็นเป้าหมายของอีกฝ่าย และกระทั่งกองกำลังของฮังอวี่ก็พลอยตกเป็นเป้าหมายด้วย

แต่เจ้าหมอนั่นเห็นได้ชัดว่าไม่ธรรมดา

จากเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งนี้ พ่อลูกตระกูลซูตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชมาก

หากซูเจิ้งเฉิงและซูหยุนปิงมีวิธีจัดการกับเขา ทั้งคู่คงไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากฮังอวี่

งานนี้

เกรงว่าจะยาก

ฮังอวี่เกลียดปัญหามาก

ยิ่งเป็นการรับปัญหาใส่ตัวยิ่งเกลียด

เขาไม่ชอบเอาเรื่องไม่ดีใส่ตัว

อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของข้อเสนอนี้ชัดเจน หากทำสำเร็จ ก็จะได้รับอาจารย์ซูเป็นพรรคพวก!