ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 108 ไม่เสียสักเพนนี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 110 'นักฆ่าเพชรตัดเพชร' เข้าถล่มโรงภาพยนตร์!

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 109 อวดดี!


ตอนที่ 109 อวดดี!

หลังจากอาบน้ำกันเสร็จ ทั้งสองก็เปลี่ยนเสื้อแล้วออกไปทานอาหารเย็นที่ชั้นล่างด้วยกัน

"รู้สึกยังไงบ้าง ที่ได้ไปแสดงที่นิวยอร์กแกรนด์เธียเตอร์?" ฮาร์ดี้ถามเอวา

"มันเป็นการแสดงที่ฉันเคยฝันเกี่ยวกับมันเพราะ เรนาตา เทบัลดี จูเซปเปดิ สเตฟาโน ลิลลี่ เลห์แมนน์และศิลปินชื่อดังอีกมากมายได้แสดงที่นั่น ซึ่งฉันไม่ได้คาดหวังเลยว่าวันหนึ่งฉันจะได้มาแสดงที่นี่ นายลองคิดดูสิว่ามันน่าตื่นเต้นแค่ไหน!"

เอวากล่าวด้วยความตื่นเต้น

ทั้งสองคุยกันตลอดแม้กำลังทานข้าวกันอยู่ และฮาร์ดี้ก็ไม่ได้พูดเรื่องโรบินเลย

หลังจากกลับมาที่โรงแรมเอวาก็เข้าไปในห้องนอนเพื่อแต่งหน้า ส่วนฮาร์ดี้ก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาไมค์ "ไมค์ พรุ่งนี้ฉันเกรงว่าคงจะไม่ได้ไปกับนายเพื่อเซ็นต์ชื่อที่ธนาคารแล้ว"

"เกิดอะไรขึ้น? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"

ไมค์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะฮาร์ดี้ตกลงกับเขาแล้วว่าพรุ่งนี้พวกเขาจะพากันไปที่ธนาคารเพื่อเซ็นสัญญาเงินกู้ด้วยกัน

"ฉันจะต้องเรียกคนจากลอสแอนเจลิสมาสอนบทเรียนให้ใครสักคนหน่อยนะ" ฮาร์ดี้กล่าว

ไมค์แปลกใจ

"นายจะสั่งสอนใคร? แล้วบอกได้ไหมว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?” ไมค์ถามอย่างรวดเร็ว

ฮาร์ดี้เล่าเรื่องของโรบินอีกครั้ง

"นักร้องรับเชิญคนหนึ่งที่ได้ไปโปรโมทภาพยนตร์ของฉันเมื่อวานนี้ เขาเห็นเอวาจึงอยากเรียกเธอออกไปด้วยกัน แต่เอวาได้ปฏิเสธผู้ชายคนนั้นและมันก็ขู่ว่าจะไม่ขึ้นแสดง นายไม่คิดเหรอ? ว่าฉันต้องให้บทเรียนกับเขาสักหน่อย"

ไมค์รู้สึกพูดไม่ออกนิดหน่อย

เขาคิดว่าฮาร์ดี้กำลังแกล้งเขาอยู่

เรื่องที่ต้องไปลงนามมันไม่ใหญ่กว่าเหรอ?

อันที่จริงฮาร์ดี้ไม่จำเป็นต้องไปเซ็นสัญญาก็ได้ เพราะไมค์นั้นเป็นประธานที่รับผิดชอบบริษัท ส่วนฮาร์ดี้เป็นแค่ผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง

ซึ่งไมค์ก็สามารถเซ็นสัญญาได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว

แต่เขาอยากให้ฮาร์ดี้ไปด้วยเฉยๆ เพราะทั้งสองมีความทะเยอทะยานและความสนใจที่คล้ายกัน

และในช่วงเวลานี้พวกเขาได้กลายเป็นเพื่อนรักกันแล้ว

ซึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ ไมค์ก็หวังว่าฮาร์ดี้จะอยู่กับเขา

"ฮาร์ดี้ ลอสแอนเจลิสค่อนข้างไกลจากนิวยอร์กมากเลยนะ ไม่จำเป็นต้องโทรหาใครหรอก เดี๋ยวฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง ตกลงไหม?" ไมค์กล่าว

"ถ้านายจัดการเอง มันจะไม่ขัดกับหลักการของนายเหรอ?"

ไมค์เคยบอกกับฮาร์ดี้ว่าเขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับธุรกิจของครอบครัว

ไมค์ถอนหายใจ

"ฉันแค่บอกว่าฉันไม่ชอบสไตล์ของแก๊ง แต่ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่ช่วยเพื่อนเมื่อพวกเขาถูกรังแกนี่"

"และนี่ก็คือนิวยอร์คฝั่งตะวันออก ฉันเป็นคนรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแถวนี้ ถ้ามันอยู่ในลอสแอนเจลิสฝั่งตะวันตก นายจะต้องเป็นคนลุยเองอยู่แล้ว"

"ฮ่าๆ ตกลง! ฉันจะฟังนาย ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปนอนก่อนล่ะ" ฮาร์ดี้ยิ้ม

ไมค์วางโทรศัพท์ลงพร้อมกับรอยยิ้มที่ช่วยไม่ได้บนใบหน้าของเขา

เพราะฮาร์ดี้ชายคนนี้ได้เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของเขาไปแล้ว

ซึ่งเขาเปลี่ยนจากการทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว เป็นการได้ทำอะไรร่วมกัน

ไมค์คิดอยู่พักหนึ่งและก็โทรหาคลีเมนซ่า

คลีเมนซ่าเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในครอบครัวของเจ้าพ่อมาเฟียวีโต้ คอร์เลโอเน

ตำแหน่งของเขาในครอบครัวนั้นคือผู้ออกคำสั่งของแก๊งและรับผิดชอบในการออกปฏิบัติงานตามคำสั่งของเจ้าพ่อมาเฟีย และอย่ามองว่าเขาเป็นแค่คนตัวเตี้ยและคนอ้วนคนหนึ่งเชียวล่ะ

เพราะว่าชายคนนี้เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในครอบครัวคอร์เลโอเนแล้ว

"ลุงคลีเมนซ่า ผมไมค์เอง ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยหน่อยได้ไหม?" ไมค์กล่าว

"พูดมาเลยไมค์" คลีเมนซ่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เขานั้นเห็นไมค์ตั้งแต่เขาเกิดจนเติบโตขึ้น

ซึ่งในบรรดาลูกๆ สามคนของเจ้าพ่อมาเฟีย เขานั้นชอบไมค์มากที่สุดเพราะเขารู้สึกว่าตัวตนของไมค์นั้นมีลักษณะคล้ายกับเจ้าพ่อมาเฟียคนเก่ามาก

"คู่หูของฉันทอม ฮาร์ดี้ที่คุณได้เจอเมื่อตอนรับประทานอาหารเมื่อไม่นานมานี้ เขามีบริษัทหนังในฮอลลีวู้ด และกำลังโปรโมทในนิวยอร์ค... "

ไมค์พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้คลีเมนซ่าฟัง

ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือแฟนสาวของฮาร์ดี้ได้ถูกนักร้องคนหนึ่งตามรังควาน และยังต้องการทำลายการโปรโมทที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้อีก

เพียงแค่เธอปฏิเสธชายคนนั้นเท่านั้นเอง

"มันก็แค่เรื่องน้อย เดี๋ยวผมไปจัดการให้แล้วพรุ่งนี้ศพของเขาจะนอนอยู่ที่หน้าประตูบ้านเอง" คลีเมนซ่ากล่าว

"ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก เพื่อนผมบอกว่าแค่ให้บทเรียนสักเล็กน้อยก็พอ" ซึ่งไมค์ไม่ชอบฆ่าคนเพราะเรื่องเล็กๆ แค่นี่

"แค่สอนบทเรียนให้เขา? เอาแค่ไหนล่ะ แขนหัก ขาหัก หรือเลือดออกในสมองดี?"

"ผมคิดว่าไม่ต้องถึงขนาดนั้น เพียงแค่ให้เขารู้ว่าทำอะไรลงไปและกลับมาทำในสิ่งที่เขาต้องทำก็พอ"

ครีเมนซ่าวางสายจากไมค์ แตะคางของเขาและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อที่จะโทรหาเจ้าพ่อมาเฟียเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ไมค์ขอให้เขาทำเรื่องแบบนี้

เขารู้สึกว่ามันจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับเจ้าพ่อมาเฟีย

เจ้าพ่อมาเฟียได้ยินว่าไมค์ขอให้ครีเมนซ่าช่วยไปสอนบทเรียนให้คนอื่น ซึ่งตอนแรกเขาก็รู้สึกแปลกใจแต่ความรู้สึกต่อมาของเขาก็คือความพึงพอใจ

เพราะไมค์นั้นโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ

เขาเคยคุยกับไมค์เกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของแล้ว ซึ่งไมค์ก็ต่อต้านมาตลอดและเขาก็ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับครอบครัวทุกอย่าง

ถึงไมค์จะกลับมาจากกองทัพ เขาก็พยายามที่จะอยู่ห่างจากครอบครัวเสมอ

เขาหางานบรรณาธิการด้วยตัวเองและก็แค่กลับมากินข้าวที่บ้านเท่านั้น

เขาไม่ยอมติดต่อกับคนในครอบครัวเลย

วีโต้เคยคิดว่าความสัมพันธ์ของเขากับลูกชายจะดำเนินต่อไปแบบนี้

ทว่ามันกลับมีจุดเปลี่ยนเกิดขึ้น

ฮาร์ดี้ได้ปรากฏตัว และกลายเป็นเพื่อนกับไมค์

จากนั้นทั้งสองก็เริ่มก่อตั้งบริษัทด้วยกัน

เขาก็พบว่าไมค์ได้เปลี่ยนไปมากในตอนนี้ เพราะอย่างน้อยเขาก็เต็มใจที่จะยอมรับความคิดเห็นของเขา

และพึ่งพาครอบครัว

นี่คือความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

และเมื่อเขาได้ติดต่อกับฮาร์ดี้หลายครั้ง

เขาก็คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีความคิดที่รอบคอบมาก

ไม่ดื้อรั้น

เข้าใจในสิ่งต่างๆ ได้ง่าย

มีความชำนาญในการควบคุมคนจากแก๊งใต้ดิน

ไม่หลงไปในทางที่ผิด

แล้วก็มีความเข้าใจในตัวเองสูงมาก

เจ้าพ่อมาเฟียมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของฮาร์ดี้

แล้วตอนนี้ผู้หญิงของฮาร์ดี้ถูกคุกคามโดยนักร้องคนหนึ่ง ซึ่งเขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่สมควรจบแค่การสั่งสอน

"คลีเมนซ่าอย่าใช้กำลังกับนักร้องที่ชื่อโรบิน แต่ให้เขารู้ถึงความร้ายแรงของสิ่งที่เขากำลังทำ และให้ไปเข้าร่วมการแสดงด้วย หลังจากนั้นก็จับเขาเซ็นสัญญาซะ" เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว

"ผมเข้าใจแล้ว" ครีเมนซ่าตอบ

เรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ซะแล้ว

หลังจากวางหูโทรศัพท์ เจ้าพ่อมาเฟียก็โทรหาคนอื่นอีก

คราวนี้เขาติดต่อเพื่อนเก่าในวงการบันเทิง

หลังจากวางสายอีกครั้ง เขาก็โทรหาลูกชายของเขาจอห์นนี่ ฟอนเทน

หลังจากโทรศัพท์อีกสองสามครั้ง เจ้าพ่อมาเฟียก็รู้สึกว่าแค่นี้น่าจะพอแล้ว

เขาเดินออกจากห้องหนังสือด้วยความพึงพอใจ

เดินไปที่สนามหญ้าเพื่อสูบซีการ์และชื่นชมแสงจันทร์อันงดงาม

......

วันต่อมา

ฮาร์ดี้และเอวาลุกขึ้นเก็บของ เปิดประตูห้องเตรียมออกไป แต่กลับพบผู้อำนวยการโฆษณาของเอ็มจีเอ็มกำลังยืนอยู่หน้าประตู

ดูเหมือนว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนี้มานานแล้ว

เมื่อเขาเห็นฮาร์ดี้และเอวาออกมา

เขาก็ทักทายด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาทันที "คุณฮาร์ดี้ คุณเอวา อรุณสวัสดิ์ครับ"

"มีอะไรหรือเปล่า?"

"พอดีผมมีเรื่องบางอย่างที่ต้องมารายงานกับคุณให้ได้นะครับ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก"

"เมื่อเช้านี้ผมได้รับโทรศัพท์สองสามสาย คนแรกมาจากโรบินเขาบอกว่าเขาจะเข้าร่วมการแสดงในคืนนี้ ซึ่งตอนนี้เขาได้ไปโรงละครเพื่อเตรียมซ้อมแล้ว"

เอวามองไปที่เขาอย่างไม่เชื่อเล็กน้อย “มีอะไรผิดปกติกับโรบินหรือเปล่า?”

ผู้อำนวยการคิดว่าเอวาอาจจะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เขาจึงเหลือบมองไปที่ฮาร์ดี้ยิ้มและพูดว่า "ไม่มีอะไรให้ห่วงเลย แค่โรบินบอกว่าเมื่อวานนี้ เสียงเขาไม่ค่อยดีนิดหน่อยและกลับมาบอกผมว่าดีขึ้นแล้วในวันนี้ ซึ่งมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการแสดงในคืนนี้อย่างแน่นอน"

“นอกจากนี้ผมยังได้รับโทรศัพท์จากบริษัทการแสดงอีกสองแห่ง พวกเขาบอกว่าจะมีแขกรับเชิญมาเพิ่มอีกในคืนนี้”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ผู้อำนวยการโฆษณาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

"หนึ่งคือคุณจูดี้ การ์แลนด์ เธอยินดีที่จะมานิวยอร์กและร้องเพลง 'Flying Over the Rainbow' ในงานคืนนี้”

เอวาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

"จริงเหรอ! จูดี้ การ์แลนด์จะมาด้วยเหรอ?!"

"นอกจากนี้ยังมีคุณมัสกุลีนักร้องที่ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ 'Gone with the wind’ จะมาร้องเพลง 'My True Love' พร้อมกับเพลงประกอบภาพยนตร์ Gone with the wind ในคืนนี้ด้วย"

"พระเจ้า!" เอวาอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา

มัสกุลีเป็นไอดอลของเธอ และเป็นคนที่เธอชื่นชอบมากๆ

"ยังมีอีกคนหนึ่งชื่อจอห์นนี่ ฟอนเทนนักร้องชื่อดังที่จะมาร้องเพลงในค่ำคืนนี้อีก!"

เอวาแปลกใจและเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก “ทำไมจู่ๆ ถึงมีดาราดังมากมายมาที่นี่? พวกเขาได้รับเชิญจากเอ็มจีเอ็มหรือเปล่าหรือเปล่า? เพราะเรื่องนี่มันเกินจริงมากไปแล้ว!”

ผู้อำนวยการฝ่ายการโฆษณามองไปที่ฮาร์ดี้ "เอ็มจีเอ็มไม่ได้เชิญพวกเขาเลย บางทีคุณเอวาอาจจะลองถามคุณฮาร์ดี้ดูนะครับ"

เอวาหันไปมองฮาร์ดี้

ฮาร์ดี้ยักไหล่ "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆ ฉันแค่โทรหาเพื่อนคนหนึ่งเมื่อวาน ซึ่งฉันก็ไม่ทราบวิธีที่เขาจัดการเรื่องนี้"

ผู้อำนวยการโฆษณามองไปที่ฮาร์ดี้และเขาก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้

การโทรศัพท์ของคุณนี่...

เมื่อนึกถึงน้ำเสียงถ่อมตนของโรบินตอนที่เขาโทรมาในตอนเช้า

เขานั้นได้มาขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้

ซึ่งเขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าโรบินไปเจอกับอะไรมา

นอกจากนี้ยังมีดาราและนักร้องรุ่นใหญ่เช่น จูดี การ์แลนด์ มัสกุลี และจอห์นนี่ ฟอนเทนที่มาเป็นแขกรับเชิญอีก

นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้อย่างแน่นอน

เขาเคยได้ยินว่าฮาร์ดี้นั้นมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งทั้งหมดเขาก็แค่เคยได้ยินมาเท่านั้น

เขาไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องจริงขนาดนี้

เขานึกไม่ถึงจริงๆ

"ผมมีธุระที่ต้องไปคุยก่อนในตอนกลางวัน และเดี๋ยวผมจะไปหาคุณที่นั่นเพื่อดูการแสดงในขึ้นคืนนี้นะ" ฮาร์ดี้จูบกับเอวาแล้วก็จากไป

เอวายิ้มและก็โบกมือให้เขา

ผู้อำนวยการโฆษณามองไปที่ฮาดี้จนเขาหายไป

เขาบอกได้เลยว่าเอวานั้นโชคดีมาก ที่สามารถติดตามผู้ชายคนนี้ได้

เอวาและทีมโฆษณาไปที่โรงละครแกรนด์เธียเตอร์ในนิวยอร์ก การแสดงคืนนี้จำเป็นต้องมีการซ้อมในช่วงกลางวัน เพราะยังมีดาราอีกสองสามคนที่เป็นแขกรับเชิญมาด้วย

ทำให้เพลงสำหรับคืนนี้มีเยอะขึ้น พร้อมกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำเพิ่ม

เอวาเดินเข้ามาในห้องโถง

โรบินหันมามองเธอแวบหนึ่ง

เมื่อโรบินได้เห็นเอวาเป็นครั้งแรกในตอนเมื่อวานนี้ เขาก็รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาทันที

ซึ่งอารมณ์นั้นก็ครอบงำเขาให้เข้าไปทักทายเธอ

ทว่าในวันนี้เขามีความรู้สึกเพียงอย่างเดียวในหัวใจของเขา

มันก็คือความกลัว

สิ่งที่เขาประสบมาเมื่อคืน ตอนนี้มันยังมองเห็นได้อย่างชัดเจนและอยู่ในใจของเขาตลอดเวลา

เขายังไม่อยากตาย

นี่คือความคิดที่เรียบง่ายที่สุดของเขา

โรบินมาหาเอวาพร้อมกับรอยยิ้มที่นุ่มนวลที่สุดบนใบหน้าของเขา "คุณเอวา ผมขอโทษสำหรับเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ด้วยนะครับ วันนี้ผมจะฝึกซ้อมและไม่ทำสิ่งใดให้ผิดพลาดเลย!"

"เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะ?" เอวากล่าว

"อ๊า!"

"โอ้ ไม่มีอะไรครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปซ้อมก่อน!" โรบินรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ตราบใดที่อีกฝ่ายจำไม่ได้

เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปรื้อฟื้นให้มีเรื่องอีก

เขาไม่อยากเข้าโรงพยาบาล และถูกฆ่าตายที่นั่น

แล้วก็ไม่อยากไปทำให้น้ำ มันขุ่นมากกว่าเดิม

ซึ่งเขาไม่อยากสำลักน้ำจนตายจากการดื่มน้ำ และสำลักน้ำโดยที่ไม่ได้คายมันออกมา

ไมค์ขับรถไปรับฮาร์ดี้ ฮาร์ดี้ขึ้นไปบนรถและตบไหล่ไมค์เพื่อแสดงความขอบคุณ

ไมค์มองไปที่ฮาร์ดี้และพูดว่า "เรื่องของนายได้รับการแก้ไขยังไง?"

"นี่นายไม่รู้เหรอ?" ฮาร์ดี้มองไปที่ไมค์ด้วยความประหลาดใจ

"ไม่รู้ เพราะเมื่อวานฉันโทรไปแค่สายเดียวเอง" ไมค์กล่าว

หือ?

ไอ้หมอนี้มันแกล้งถ่อมตัวเองชัดๆ

เพราะตอนนี้มันแสดงออกมาบนใบหน้าหมดแล้ว

"ไปกันเถอะ นายไม่ได้บอกฉันเหรอว่าวันนี้มีหลายอย่างที่ต้องทำ แล้วฉันก็อยากรีบไปดูการแสดงคืนนี้ด้วย" ฮาร์ดี้กล่าว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด