ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 62 ประลองยุทธ์หาคู่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 64 ระเบิดบุพผาสายฟ้า!

STY-ตอนที่ 63 หนึ่งบุรุษผู้ปกป้องเวทีประลอง!


“ข้ามีนามว่า หยานกวงเต๋า ศิษย์คนโตของนิกายกระบี่ทรราช ในเมื่อเจ้าหยิงทะนงขนาดนี้ ข้าก็จะขอทดสอบเจ้า!”

ชายคนนี้ ได้ลุกขึ้นและเคลื่อนไหว

กระบี่ขนาดใหญ่ได้ควบแน่นมาจากมือของเขาและพุ่งเข้าหา เย่เฉิน

ดวงตาของ เย่เฉิน ยังคงเย็นชา กระบี่ในมือของเขาได้ขยับเล็กน้อย โดยที่เขาไม่ได้ชักกระบี่ออกมาจากฝัก

ทันใดนั้นคลื่นปราณกระบี่ก็พุ่งออกมา

เย่เฉิน ที่แกล้งทำเป็นอยู่ในอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงได้ใช้เทคนิคการฝึกฝนของอาณาจักรก่อตั้งจิตจิตวิญญาณเท่านั้น

ทันใดนั้น กระแสพลังปราณก็พุ่งออกไปโจมตีใส่ หยานกวงเต๋า

ปั้ง—

หยานกวงเต๋า ได้ถูกซัดกระเด็นและลอยออกไปจากเวทีประลองในทันที

ในเวลานี้ทุกคนต่างตกตะลึง

พวกเขาไม่ได้คาดหวังเลยว่า เย่กู่เฉิง จะแข็งแกร่งมากขนาดนี้

แม้ว่า หยานกวงเต๋า จะไม่ได้ยอดเยี่ยมที่สุด และ นิกายกระบี่ทรราช ก็เป็นเพียงนิกายเล็ก ๆ แต่เขาก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในขั้นกลางของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ ดังนั้น เขาจะพ่ายแพ้ในการโจมตีเดียวได้อย่างไร?

นี่ไม่ใช่ว่า เย่กู่เฉิง แข็งแกร่งเกินไปหรือไม่?

ในขณะนี้ ฮวางเต๋า และ เมิ่งจื่อฉิว ที่ยืนอยู่ด้วยกันก็พึมพัมออกมา

“พี่เต๋า,ซ่งอวี๋เซียง ในวันนั้นสมควรถูก เย่กู่เฉิง คนนี้จัดการใช่หรือไม่?”เมิ่งจื่อฉิว ได้กล่าวพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

“ข้าได้ยินมาว่า ซ่งอวี๋เซียง มาพบกับศิษย์คนโตของยอดเขาหยกอมตะ และ ดูเหมือนว่าจะเป็น เย่กู่เฉิง ที่ทุบตีเขาจริง ๆ …”ฮวางเต๋า ได้กล่าวออกมา

“นี่มัน…โหดเหี้ยมเกินไป!”

“พี่เต๋า ไม่ใช่ว่าท่านมาที่แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตาเพื่อมองหาเทพธิดาหรอกเหรอ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เชิญท่านก่อนเลย!”

ในเวลานี้ ฮวางเต๋า ก็ยิ้มออกมาและตอบกลับ “เชิญพี่จื่อฉิวก่อนเลย!”

ทั้งสองได้แย้งกันอยู่ชั่วครู่ จนไม่มีใครกล้าขึ้นไปบนเวทีเพื่อต่อสู้กับ เย่กู่เฉิง

เย่เฉิน ที่ยืนอยู่บนเวทีเขาได้เอามือไขว้หลัง ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย “ยังมีใครอยากจะสู้ต่ออีกหรือไม่?”

หลังจากที่ได้เห็น ความแข็งแกร่งของ เย่เฉิน ทุกคนก็ได้เข้าใจในความแข็งแกร่งของเขา

มันมีวิธีที่ง่ายที่สุดในการแข่งขันประเภทนี้อยู่

เพราะบนสนามพวกเขาจะต้องท้าทายเพียงคนเดียวซึ่งก็คือ เย่กู่เฉิง ตราบใดที่อีกฝ่ายเผชิญหน้ากับผู้คนมากมาย เมื่อเวลาผ่านไป ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาจะต้องลดลงอย่างแน่นอน และ พลังปราณก็จะหมดลง เมื่อถึงเวลานั้น ใครที่เคลื่อนไหวเร็วที่สุด ก็จะเป็นผู้ชนะ!

ดังนั้นหลายคนจึงได้พยายามจับตามองและรอให้คนอื่นเคลื่อนไหว

ในขณะนี้ ก็มีชายหนุ่มในชุดสีขาวปรากฏตัวขึ้นบนเวที และ ยืนอยู่ตรงข้าม เย่กู่เฉิง

ชายหนุ่มคนนี้ได้ถือพัดในมือและโบกเบา ๆ

ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในขั้นปลายของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ

เป็นเพราะว่าเขาอยู่ในขั้นปลายของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ เขาจึงมีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับ เย่เฉิน!

“น้องเย่ ข้ามีนามว่า ฮั่นหยูซวน จากนิกายหิมะร่วงโรย ข้ามาที่นี่เพื่อที่จะชนะ!”ชายหนุ่มในชุดขาวได้โบกพัดในมือและประกาศอย่างมั่นใจ

“นั่นมัน ฮั่นหยูซวน!”

“ฮั่นหยูซวน นายน้อยของนิกายหิมะร่วงโรย!”

“ข้าได้ยินมาว่า นายน้อยของนิกายหิมะร่วงโรยลุ่มหลงในการเล่น พิณ หมากรุก ประดิษฐ์อักษาร และ วาดภาพ ของ หลี่จื่อหยาน มานานแล้ว ดังนั้น เขาที่มาที่นี่ย่อมมาหา หลี่จื่อหยาน อย่างแน่นอน!”

เมื่อได้ยิน การสนทนาที่ด้านล่างเวที เย่เฉิน ก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ ฮั่นหยูซวน

อีกฝ่าย เป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลามีหน้าตาที่ไม่เลว อีกทั้งยังดู อ่อนโน้มถ่อมตน เขาไม่คิดเลยว่า อีกฝ่ายจะมาชื่นชอบ ศิษย์พี่หญิงห้าของเขา

ทว่า เย่เฉิน ก็ไม่มีทางที่จะยกศิษย์พี่หญิงห้าให้

ไม่ ต้องกล่าวว่าเขาจะไม่ยกศิษย์พี่ทั้ง 7 ให้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม!

เย่เฉิน มองไปที่ ฮั่นหยูซวน และ กล่าวพูดออกมาอย่างสงบ “เชิญ!”

ฮั่นหยูซวน ได้โบกพัดในมือของเขา ทันใดนั้น ภาพการเคลื่อนไหวจำนวนมากก็ได้ถูกแสดงออกมา และ มันได้พุ่งโจมตีใส่ เย่เฉิน

การโจมตีเหล่านี้ เป็นร่องรอยของการฟาดฟันทั้งหมด

ฮั่นหยูซวน ที่ดูเหมือนจะโจมตี ในความเป็นจริง เขากำลังวาดภาพ ในขณะที่ โจมตี เย่เฉิน ซึ่งภาพที่กำลังวาดก็คือเส้นสายที่พุ่งไปโจมตี เย่เฉิน

การโจมตีของเขาได้พุ่งเข้าหา เย่เฉิน อย่างต่อเนื่อง

เย่เฉิน มองไปที่ การโจมตีของ ฮั่นหยูซวน และ กล่าวพูดออกมา “ก็แค่อุบายเล็กน้อย”

มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจศาสตร์การวาดภาพ?

เย่เฉิน เคยเรียนกับศิษย์พี่หญิงห้าของเขา หลี่จื่อหยาน มาก่อน และ ด้วยความช่วยเหลือของระบบ ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี หมากรุก ประดิษฐ์อักษร และ วาดภาพ พวกมันทั้งหมด ล้วนอยู่ในอาณาจักรมหายานทั้งหมด

ดังนั้น เมื่อพูดถึงการวาดภาพ เย่เฉิน ก็ยังคงมีความมั่นใจอยู่บ้าง

เย่เฉิน ได้ยิ้มออกมา และ เขาเคลื่อนไหวเหมือนกับ ฮั่นหยูซวน โดยการหมุนเวียนพลังปราณแท้จริง เพื่อโจมตี แปรงและหมึกของ ฮั่นหยูซวน อย่างต่อเนื่อง

จากนั้นเขาก็หักแปรงและหมึกของ ฮั่นหยูซวน จนภาพทิวทัศน์ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของทุกคน

วินาทีนี้ทุกคนได้กลายเป็นตกตะลึง

“ทั้ง เย่กู่เฉิง และ ฮั่นหยูซวน ต่างก็กำลังวาดทิวทัศน์ในขณะที่พวกเขาโจมตี!”

“นี่มัน…น่าทึ่งเกินไปแล้ว!”

“มาดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ”

หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด เย่เฉิน ก็ถอนพลังปราณของเขากลับมาและมายืนเอามือไขว่หลังเหมือนเดิม

ฮั่นหยูซวน ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของ เย่เฉิน เขาได้โค้งคำนับทันที “ข้าแพ้แล้ว!”

เมื่อเขาพูดแบบนี้ออกมา ทุกคนก็ดูตกใจ

ทุกคนรู้ว่า ฮั่นหยูซวน นายน้อยแห่งนิกายหิมะร่วงโรย มีความเชี่ยวชาญในด้านการ ประพันธ์ และ วาดภาพ พวกเขาไม่ได้คาดหวังเลยว่า อีกฝ่ายจะพ่ายแพ้ในการวาดภาพให้กับศิษย์ที่ไม่เป็นที่รู้จักในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

“ขอบคุณปล่อยให้ข้าชนะ!”เย่เฉิน ได้ป้องมือของเขา

“ว้าวว นี่คือ ศิษย์ของท่านปรมาจารย์ยุทธ์? ไม่เพียงแต่ท่านปรมาจารย์ยุทธ์เท่านั้นที่อยู่ยงคงกระพัน แม้แต่ ศิษย์ของเขาก็อยู่ยงคงกระพันด้วย!”

“เยี่ยมเกินไปแล้ว! นี่มันเท่เกินไป! ต่อจากนี้ข้าจะเป็นแฟนคลับของท่าน!”

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยชอบนายน้อย ฮั่นหยูซวน มาก่อน แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว! ไอดอลของข้าก็คือ คุณชายเย่ ท่านคือไอดอลของข้า!”

บรรดาผู้ที่พูดนั้นก็คือ ศิษย์หญิงทั้งหมดจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เย่เฉิน เคยเห็น ศิษย์หญิงเหล่านี้บนยอดเขาหยกอมตะมาก่อน ทว่า พวกนางรู้จักเพียงรูปลักษณ์ดั้งเดิมของ เย่เฉิน เท่านั้น จึงนั้นอีกฝ่ายจึงไม่รู้จักตัวตนในอีกสถานะของเขา

เย่เฉิน ได้ยืนเอามือไขว่หลังโดยที่ไม่ขยับเขยื้อน

สำหรับเขา นอกจากศิษย์พี่หญิงเจ็ดแล้ว คนอื่น ๆ ล้วนเป็นคนธรรมดา และ เย่เฉิน ก็ไม่ได้ชื่นชอบพวกเขาเช่นเดียวกัน

“แม้แต่นายน้อยฮั่นหยูซวน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ข้าสงสัยจังว่าใครกันจะสามารถจับคู่กับเขาได้!”

“ใช่แล้ว แม้ว่า เย่กู่เฉิง จะอยู่ที่ขั้นตอนของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ แต่ข้ากลับรู้สึกว่าเขามีความสามารถที่อยู่ยงคงกระพันในอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ!”

“เมื่อมี เย่กู่เฉิง อยู่ ดูเหมือนว่าจะไม่มีบุตรแห่งสวรรค์คนใดได้รับเลือกให้แต่งงานกับเทพธิดาทั้ง 7 แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตาของเราแล้ว”

ทว่า ในขณะนี้เอง ก็มีชายหนุ่มในชุดเกราะสีทองได้กระโดดขึ้นไปบนเวที เขามองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “เย่กู่เฉิง ข้ามีนามว่า เซียวจ้านเถียน ข้าขอท้าประลองกับเจ้า!”

เขาที่ถือหอกทองคำอยู่ในมือและสวมชุดเกราะสีทอง เขาเสมือนกับเทพเจ้าสงครามมากในเวลานี้

เย่เฉิน ได้จ้องมองไปที่ อีกฝ่ายเล็กน้อย

นี่เป็นเพราะ เซียวจ้านเถียน มีพลังอยู่ในขั้นต้นของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่าแล้ว

“เขา…เป็น เซียวจ้านเถียน จากตระกูลเซียวของเมืองหยุนไท่?”

“เป็นไปได้ยังไง?เหตุใด เซียวจ้านเถียน ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างตกตะลึง

กระทั่งมีศิษย์ใหม่บางคนได้กล่าวถามออกมา “ศิษย์พี่ ทำไมพวกท่านถึงดูตื่นเต้นกันจังหลังจากที่ เซียวจ้านเถียน ผู้นี้ปรากฏตัวออกมา?”

ในขณะนี้ ศิษย์คนนึงได้ตอบกลับ “ศิษย์น้อง บางทีเจ้าอาจจะยังไม่รู้ แต่ เซียวจ้านเถียน ผู้นี้ ได้รับการยกย่องกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับ 1 ในอาณาเขตของเมืองหยุนไท่!”

ทันทีที่เขากล่าวพูดเช่นนี้ หลายคนที่ไม่เข้าใจก็กลายเป็นตกตะลึงในทันที

อันดับหนึ่งในหมู่รุ่นเยาว์ คนเหล่านี้ กลัวว่า เย่กู่เฉิง จะพบกับความยากลำบากแล้ว

เซียวจ้านเถียน ที่ถือหอก ได้ชี้ไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวออกมา “หลังจากเอาชนะเจ้าได้ ข้าต้องการที่จะให้ เทพธิดาอันเหมี่ยวหาน มาเป็นคู่บ่มเพาะทางเต๋าของข้า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด