ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 48 ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 50 การปราบปรามที่ทรงพลัง!

STY-ตอนที่ 49 จงหยุดมือ!


เย่เฉิน และ ศิษย์พี่หญิงหก ได้ถูกโยนเข้าไปในกำแพงหิน

ในขณะนี้หมอกสีชมพูได้ตลบอลอวลไปทั่วพื้นที่

เย่เฉิน สัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนในใจของเขามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ศิษย์พี่หญิงหกยังเป็นผู้หญิงที่สวยได้แล้ว การที่นางบิดตัวไปมาบนเรือนร่างของ เย่เฉิน มันทำให้ เลือดลมของ เย่เฉิน ได้กลายเป็นสูบฉีดอย่างรุนแรง

ฉากอีโรติกเช่นนี้ใครบ้างที่จะรู้สึกไม่ตื่นเต้น?

ในปัจจุบัน ศิษย์พี่หญิงหกลู่อวี๋ถิง ได้พุ่งเข้าหา เย่เฉิน พร้อมกับ กดร่างกายของ เย่เฉิน ลงพร้อมกับเริ่มจูบปากของเขา

“ศิษย์พี่หญิงหก นี่ท่านจะรุกข้าหนักไปไหม?ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ข้าเกรงว่า…”

“เฉินน้อย ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!”

เย่เฉิน มีพลังอยู่ในอาณาจักรเทวะ ดังนั้นเขาจึงสามารถควบคุมตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ศิษย์พี่หญิงหกของเขาเพิ่งจะอยู่ในขั้นกลางของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ ดังนั้น นางจึงไม่สามารถที่จะต้านทานหมอกที่ปล่อยออกมาจากปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่มีพลังในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ได้

ปัจจุบัน ศิษย์พี่หญิงหก ได้ลูบไล้ไปทั่วร่างกายของ เย่เฉิน และ ใบหน้าของนางก็ยื่นเข้ามาใกล้หูของ เย่เฉิน พร้อมกับหอบหายใจอย่างรุนแรง

สิ่งนี้ทำให้ เย่เฉิน ดูตื่นเต้นเล็กน้อย

เขาแทบจะทนไม่ไหวและอยากจะจับศิษย์พี่หญิงหกของเขากดลงเสียตั้งแต่ตอนนี้

อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีร่องรอยของเหตุผลปรากฏขึ้นในใจของเขา

หมอกของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง กำลังสะกดจิต ศิษย์พี่หญิงหกของเขา ดังนั้น ศิษย์พี่หญิงหก จึงได้กลายเป็นไม่มีเหตุผล และ ถ้าเขาเกิดร่วมเพศกับศิษย์พี่หญิงหกไปตอนนี้ เกรงว่ามันจะเป็นการทำร้ายศิษย์พี่หญิงหกเสียมากกว่า

ศิษย์พี่หญิงหก เปรียบเสมือน พี่สาวของเขา ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถอาศัยประโยชน์จากจุดนี้มาทำร้ายนางได้

“เย่เฉิน เจ้าจะต้องพยายามหักห้ามใจตัวเองเอาไว้!”

เย่เฉิน ได้กล่าวกับตัวเองและลุกขึ้นนั่ง แต่ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงหก ก็พยายามไซร้มาที่อ้อมแขนของเขาแล้ว

เขาได้พยายามระงับสติของตัวเอง และ เตือนตัวเองในใจ…

อา—

นั่งเฉย ๆ แบบนี้ เขาจะทนการยั่วยวนของ ศิษย์พี่หญิงหก ของเขาได้อย่างไร

ในขณะนี้ เย่เฉิน ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาได้ลงชื่อเข้าใช้และได้รับ บทสวดหัวใจเยือกแข็ง และ โอสถหัวใจเยือกแข็ง มา

โอสถหัวใจเยือกแข็ง เป็นสิ่งที่สามารถชำระจิตใจให้บริสุทธิ์และขจัดสิ่งสกปรกออกไปได้ นี่ถือเป็นยาแก้พิษที่ดีในตอนนี้

ดั่งคำกล่าวที่ว่า หัวใจเย็นยะเยือกดั่งน้ำแข็ง

ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้กินโอสถหัวใจเยือกแข็งทันที และ ท่องบทสวดหัวใจเยือกแข็งในใจของเขาอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับปล่อยให้ศิษย์พี่หญิงหกของเขากระทำทุกอย่างที่นางต้องการ

หลังจากพักผ่อนไปชั่วระยะเวลานึง ในที่สุด เย่เฉิน ก็สามารถชำระล้างสารพิษในร่างและตื่นขึ้น

เขาได้ลอบกลืนน้ำลายและป้อนโอสถหัวใจเยือกแข็งให้กับศิษย์พี่หญิงหกของเขา

จากนั้นเขาก็ใช้พลังปราณที่แท้จริงในการปัดเป่าหมอกสีชมพูออกจากร่างกายของศิษย์พี่หญิงหกของเขาอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไปนาน เย่เฉิน ก็กำจัดมันได้สำเร็จ จากนั้น เขาก็อุ้มศิษย์พี่หญิงหกของเขาด้วยมือข้างเดียวและบินออกมาจากกำแพงหิน

ในเวลานี้ ศิษย์พี่หญิงหกของเขาดูเหมือนจะเหน็ดเหนื่อยและหมดสติไป

“ฉางเหว่ย!”เย่เฉิน ได้เปิดใช้เทคนิคการสะกดข่มของเทพทันที

ทันใดนั้น เสือตัวใหญ่ที่เหมือนกับลูกแมวที่เชื่อฟัง ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ใต้เท้าของ เย่เฉิน

เย่เฉิน ได้อุ้มศิษย์พี่หญิงหกของเขาและขึ้นไปนั่งบนหลังของ ฉางเหว่ย พร้อมกับ รีบมุ่งหน้าไปที่ ห้องโถงบนยอดเขาอวี๋เซียว ในทันที

ยอดเขาอวี๋เซียว

ณ ลานจตุรัส

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ลานจตุรัสบนยอดเขาอวี๋เซียว

“เวลาผ่านไป 10,000 ปีแล้ว 10,000 ปี ในที่สุดข้าก็มีอิสระเสียที!”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้หัวเราะเสียงดัง

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางถูกผนึกไว้ที่ใต้ยอดเขาอวี๋เซียวโดยบรรพบุรุษของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์หลังจากที่เขากลายเป็นอมตะ และ หลังจากที่ บรรพบุรุษของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ผนึกปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเสร็จ เขาก็ออกจาก แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ไป โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาได้ไปที่สถานที่แห่งไหน

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก โดย นางสามารถเทียบเคียงได้กับผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ของมนุษย์ และ ความแข็งแกร่งของนางก็น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง

ย้อนกลับไปในตอนนั้น บรรพบุรุษของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ได้ปราบปรามและผนึกนางไว้ ซึ่งนางได้เก็บงำความแค้นนี้ไว้ในใจ และ ตอนนี้นางก็กลับมาแล้ว ดังนั้น นางจึงได้แสวงหาวิธีการแก้แค้นต่อแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แห่งนี้

เพราะว่า บรรพบุรุษของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ที่เป็นอมตะได้จากไปแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกอมตะที่ก้าวข้ามด่านเคราะห์ได้สำเร็จ แม้แต่ ผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ ก็ไม่มีแม้แต่คนเดียว

ก่อนที่ เย่เฉิน จะปรากฏตัว ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ก็คือประมุขนิกายอวี๋เซียวที่มีพลังอยู่ในอาณาจักรมหายาน

ดังนั้นจึงไม่มีใครที่แข็งแกร่งพอจะต่อกรกับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้

“บรรพบุรุษของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เจ้าผนึกข้าไว้ที่นี่เป็นเวลากว่า 10,000 ปี วันนี้ ข้าจะสังหารศิษย์และสิ่งมีชีวิตทุกตัวในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของเจ้าเพื่อระบายความเกลียดชังในใจของข้า!”

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้กล่าวพูดออกมาเสียงดัง

ในเวลานี้ นางก็ปลดปล่อยพลังของนางออกมาและมองไปยังพื้นที่โดยรอบ

ยกเว้น ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรเทวะ ที่นางไม่ได้ฆ่าตอนปรากฏตัวในคราแรก นางก็ไม่พบผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรเทวะอื่นใดในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แห่งนี้

“แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ในตอนนี้กลับกลายเป็นสถานที่รกร้างเช่นนี้เชียวหรือ? แม้จะไม่ต้องพูดถึงผู้อมตะ เพียงแค่ ผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์สักคนก็ยังไม่มี!”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้กล่าวพูดออกมาเสียงดัง

น้ำเสียงของนางได้ดังกึกก้องเข้าไปในหูของทุกคน

ในเวลานี้ ศิษย์หลายคน ได้พุ่งออกมา โดยแต่ละคนได้เรียกสมบัติของพวกเขาและทำการปิดล้อมปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเอาไว้

จ้าวฉีหยาง และ ประมุขนิกายอวี๋เซียว ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้

พวกเขามองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง และ ในที่สุด พวกเขาก็รู้ว่า สัตว์อสูรที่ถูกบรรพบุรุษของพวกเขาผนึกไว้ แท้จริงแล้วก็คือ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง

“ใครเป็นประมุขนิกายของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ในปัจจุบัน?”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้กล่าวถาม

ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้ก้าวไปข้างหน้า

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้มองไปที่ประมุขนิกายอวี๋เซียวและกล่าวพูดอย่างเย็นชา “ฮ่าฮ่าฮ่า…ขยะที่มีพลังในอาณาจักรมหายาน ก็สามารถเป็นประมุขนิกายได้ด้วยงั้นหรือไม่?ข้าไม่คิดเลยว่า แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์จะตกต่ำลงถึงเพียงนี้!”

“ปีศาจจิ้งจอก เจ้าคิดจะทำอะไร?”ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้มองไปที่ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและกล่าวถาม

“ข้าคิดจะทำอะไร?นี่ข้าพูดไม่ชัดงั้นเหรอ?ในเมื่อข้าไม่สามารถแก้แค้นบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ ข้าก็จะทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แห่งนี้เพื่อชำระหนี้แค้นในอดีต”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้กล่าวออกมา จากนั้น หางของนางก็ได้ขยายออกในทันที

ทันทีที่หางขนาดใหญ่ของนางได้ขยายออก แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวที่ราวกับภูเขาไท่ชางกดทับก็ได้ตกลงมาทุกผู้คน

ในปัจจุบัน เย่เฉิน ก็ได้มาถึงแล้ว

เขานั่งอยู่บนหลังของ ฉางเหว่ย พร้อมกับ ศิษย์พี่หญิงหกของเขา

แม้ว่า นี่จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ แต่ เย่เฉิน ก็ได้ปกปิดกลิ่นอายพลังของเขาอย่างระมัดระวัง

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง มีพลังอยู่ในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ ดังนั้น เขาจะต่อสู้กับมันได้อย่างไร?

แต่ในขณะนั้น เย่เฉิน ก็มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงทั้ง 6 คน และ เซียนหยกอมตะ ด้วยหางตา ถ้าเกิดเขาทิ้งพวกเขาเอาไว้ตามลำพัง แม่ และ ศิษย์พี่หญิงทั้ง 6 จะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจำเป็นจะต้องลงมือ

เย่เฉิน ได้ตั้งสติและพยายามสงบสติอารมณ์ลง เขาพยายามนึกถึงตอนที่เขาลงชื่อเข้าใช้และได้รับสิ่งของหลายสิ่งหลายอย่างมา

“เทคนิคการสะกดข่มของเทพ!”

ใช่แล้ว เทคนิคการสะกดข่มของเทพ

เย่เฉิน ได้จำได้ว่า เทคนิคการสะกดข่มของเทพ สามารถปราบปรามเผ่าพันธุ์ใดก็ได้ เช่น สัตว์อสูร,ภูติผี,ปีศาจ เทพ …

ซึ่ง ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตัวนี้ ก็เป็น สัตว์อสูร ดังนั้น เทคนิคการสะกดข่มของเทพ น่าจะสามารถใช้จัดการนางได้

ในขณะที่ หางของ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ยืดออกและกำลังจะโจมตี เซียนหยกอมตะ ที่อยู่ด้านข้าง

เย่เฉิน ก็ได้เปิดใช้เทคนิคการสะกดข่มของเทพในทันทีและตะโกนออกมาอย่างรุนแรง “เจ้าสัตว์ร้าย จงหยุดมือซะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด