ตอนที่แล้วEp.217 - ติดตามมหาเทพแล้วจะมีแต่สิ่งดีๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.219 - ที่หลบภัยโนมส์

Ep.218 - ชุดเซ็ทใหม่


3/3

Ep.218 - ชุดเซ็ทใหม่

ทั้งสองได้รับแต้มวิญญาณเฉลี่ยคนละ 370 - 380 แต้ม

สำหรับเจียงหนาน นี่ไม่ต่างจากการทะยานขึ้นสู่สวรรค์

เธอไม่เคยสัมผัสประสบการณ์แต้มวิญญาณเพิ่มขึ้นหลายร้อยแต้มในคราวเดียวมาก่อน

เอาจริงๆสำหรับเธอ การเก็บเกี่ยวแต้มวิญญาณหลายสิบแต้มในคราวเดียวก็เป็นอะไรที่ยากมากแล้ว

แต้มวิญญาณสะสมในตัวของเจียงหนานตอนแรกนั้นน้อยกว่าของเหล่าจ้าวและเสี่ยวเฉียง เพราะท้ายที่สุดแล้วเธอไม่ได้มีความจำเป็นต้องทุ่มเทแบบเหล่าจ้าว แล้วอีกอย่างยังต้องใช้แต้มวิญญาณจำนวนมากในการเรียนรู้มรดกขั้น 1 ของเธอ

แต่ฮังอวี่พาเธอมาล่าในครั้งนี้

มันทำให้แต้มวิญญาณสะสมของเขาทะยานขึ้นจนเกือบเทียบเท่ากับคนอื่นๆ

คุณสามารถจินตนาการถึงความตื่นตกใจของเธอได้

ฮังอวี่หยิบไอเท็มที่ดรอปจากภูติปีศาจการ์กอยล์หิน มอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นนั้นใจกว้างเสมอ มันดรอปไอเท็มสีเขียวถึง 4 ชิ้น และไอเท็มสีขาวใส 6 ชิ้น และหินคริสตัลเขียว 28 ก้อนในคราวเดียว

ฮังอวี่กวาดสายตามอง อ่านข้อมูลของพวกมันอย่างรวดเร็ว

[สร้อยคอภูติปีศาจหิน] อุปกรณ์เลเวล 7 , สีเขียวคุณภาพกลาง , พลังวิญญาณ +3 , จิตรับรู้ +3 , พลังจิต+3 , ความต้านทาน+2 (ต้องใช้หินคริสตัลเขียวยี่สิบก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)

[สร้อยข้อมือภูติปีศาจหินสภาพเก่า] อุปกรณ์เลเวล 7 , สีเขียวคุณภาพต่ำ , การโจมตีทางเวทมนตร์ +5 , สติปัญญา +2 (ต้องใช้หินคริสตัลเขียวสิบห้าก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)

[พิม์เขียวหลอมอาวุธ : ธนูคำสาปหิน] ไอเท็มเฉพาะเลเวล 7 , สีเขียวคุณภาพกลาง

[หินสกิลนักเวทย์ : ระเบิดสายฟ้า] (ชิ้นส่วนมรดกของทูตสายฟ้า) สีเขียวคุณภาพสูง , หินสกิลขั้น 2 , เงื่อนไขการเรียนรู้ : 300 แต้มวิญญาณ

ชุดสีเขียวสองชุด พิมพ์เขียวหนึ่งสีเขียว และหินสกิลสีเขียวขั้น 2 !

โดยรวมแล้วผลกอบโกยถือว่าคุ้มค่ามาก

แต่สิ่งที่ฮังอวี่รู้สึกเสียใจก็คือ อุปกรณ์และหินสกิลเหล่านี้ มันไม่มีประโยชน์สำหรับเขา สร้อยคอเห็นได้ชัดว่าเหมาะกับผู้ใช้วิญญาณ ส่วนสร้อยข้อมือเหมาะกับนักเวทย์

และหินสกิลสีเขียวก็เป็นของนักเวทย์เช่นกัน

อานุภาพของมันใกล้เคียงกับหินสกิลคลุ้มคลั่งกระหายเลือดของฮังอวี่

ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ ฮังอวี่ยังไม่ได้เปิดใช้งานคลุ้มคลั่งกระหายเลือด เขามีแต้มต่อเหนือกว่าฉูเทียนหัว 1 - 2 แต้ม

ทว่าหากเขาเริ่มใช้งานคลุ้มคลั่งกระหายเลือด

เขาจะสามารถเอาชนะฉูเทียนหัวได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

จะเห็นได้ว่าสกิลขั้น 2 สามารถนำมาซึ่งความได้เปรียบมหาศาล

‘ทูตสายฟ้า’ คือมรดกขั้นต่อไปของ ‘ผู้ใช้ศาสตร์สายฟ้าฝึกหัด’ เฉินหยูย่อมต้องการหินสกิลนี้เป็นอย่างมาก และต้องขอบอกว่าเธอโชคดีจริงๆที่ศึกนี้ดรอปหินสกิลดังกล่าวได้

ในเมื่อมีกฏก็ต้องปฏิบัติตาม อุปกรณ์ชิ้นใดที่ดรอปจากมอนสเตอร์จะต้องนำไปกองรวมกันแล้วแยกสินสงครามกันอีกที

ซึ่งนี่รวมไปถึงอุปกรณ์หรือไอเท็มต่างๆเช่นกัน

แต่ยังไงซะ หากมีเลือกได้ ฮังอวี่ก็อยากฆ่ามอนสเตอร์ที่ดรอปไอเท็มที่เหมาะกับนักรบอย่างเขาเหมือนกัน

แต่ตอนนี้ในเมื่อไม่มีทางเลือก ก็ได้แต่ทำไปตามสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม ในบรรดาไอเท็มสีเขียวทั้งสี่นี้ ไม่ใช่ว่าฮังอวี่จะไม่สนใจพวกมันเลยซะทีเดียว

ในบรรดาไอเท็มสีเขียวทั้งสี่ชิ้น หินสกิลล้ำค่าที่สุด รองลงมาก็อุปกรณ์ทั้งสองชิ้น ทว่าสิ่งที่ฮังอวี่สนใจจริงๆกลับเป็นพิมพ์เขียวที่โดดเด่นน้อยที่สุด

ธนูคำสาปหินไม่ธรรมดา แม้จะเป็นเพียงธนูยาวสีเขียวเลเวล 7 แต่ในช่วงต้นเกม มันนับเป็นอาวุธสังหารอย่างแท้จริง สามารถใช้สู้กับมอนสเตอร์หรือ BOSS ในช่วงต้นเกม และมีค่าสูงกว่าธนูสีเขียวแบบธรรมดาในเลเวลเดียวกันถึง 10 คันรวมกัน

อุปกรณ์ยิ่งมีคุณภาพสูง

โอกาสที่จะดรอปก็ยิ่งน้อยลง

บางส่วนจะปรากฏเป็นชิ้นส่วนหรือพิมพ์เขียว แม้ตรงจุดนี้ต้องพยายามอย่างมากกว่าจะสร้างได้ แต่ค่าคุณสมบัติของมันดีมาก ธนูคำสาปหินนี้ถือเป็นตัวอย่างอย่างดี

ในสายตาของฮังอวี่

ธนูคำสาปหินนับเป็นสิ่งประดิษฐ์ชั้นเลิศ

หากได้ครอบครองมัน เรื่องต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นเพียงลำพังก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ดังนั้น สำหรับเขาแล้ว พิมพ์เขียวนี้มีมูลค่าสูงกว่าอุปกรณ์สีเขียวทั้งสองชิ้นที่ดรอปมาก และเนื่องจากพิมพ์เขียวนี้ไม่ระบุค่าคุณสมบัติของมัน ดังนั้นคนอื่นๆย่อมไม่สนใจ

นั่นเท่ากับว่าเขามีโอกาสสูงมากที่จะได้รับพิมพ์เขียวนี้มาในครอบครอง!

ไอเท็มสีขาวที่ดรอปจากภูติปีศาจการ์กอยล์หิน นั้นประกอบไปด้วยชุดเซ็ทการ์กอยล์อันได้แก่ ชุดเกราะนักรบ , รองเท้านักบวช , กางเกงนักบวช และเสื้อคลุมนักเวทย์

“ยอดเยี่ยม!”

“มันดรอปเกราะอกของนักรบ!”

เมื่อเห็นเกราะอกนักรบการ์กอยล์หิน

เจียงหนานดูมีความสุขมากกว่าฮังอวี่ซะอีก

เพราะทีมของเธอได้ฆ่าการ์กอยหินไปแล้วกว่าหลายสิบตัว

แม้โอกาสดรอปอุปกรณ์ชุดเซ็ทจะสูง แต่เนื่องจากมันดรอปชุดเซ็ทของทั้ง 4 อาชีพ โอกาสที่จะได้ในสิ่งที่ต้องการจึงมีน้อยมาก

แม้จะล่าการ์กอยล์หินมาหลายสิบตัว

แต่การจะได้ชุดเซ็ทที่ต้องการยังต้องอาศัยโชคเป็นอย่างมาก

ฮังอวี่มีรองเท้านักรบการ์กอยล์อยู่แล้ว อีกสองส่วนที่เขาต้องการคือกางเกงและเกราะอก

ไม่คาดหวังเลย

ว่าในการออกล่าวันนี้ เขาสามารถดรอปกางเกางได้หลายตัวแล้วก็จริง แต่เกราะอกกลับไม่เคยดรอปลงเลย

ทว่าภูติปีศาจการ์กอยล์หินซึ่งเป็น BOSS ของพวกการ์กอยหินกลับดรอปมัน!

ฮังอวี่พยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “ดูเหมือนโชคของฉันจะไม่เลวร้ายเกินไป เหล่าจ้าวกับคนอื่นๆดูเหมือนจะเงียบลงแล้ว คิดว่าฝั่งเขาก็น่าจะสู้จบแล้วเหมือนกัน ไปดูกันเถอะ”

ทั้งสองเดินฝ่าป่า

ตามคิดคาดไว้ การต่อสู้ฝั่งนี้จบลงแล้ว

การ์กอยหินทั้งสี่ถูกสังหาร

แม้ปราศจากผู้รักษา แต่การล้มชนชั้นยอดขั้นโกลด์สี่ตนโดยไม่สูญเสียสมาชิกเลยช่างเป็นเรื่องน่าทึ่ง ซึ่งนี่มากพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของพวกเขา

หมาหวังเอ๋อเดินกะเผลกเข้ามา

มันหอบหายใจและเริ่มสาดน้ำลาย

“ฮ่ง รายงานเจ้านาย”

“มอนสเตอร์ถูกกำจัดแล้ว”

“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคำสั่งการของเปิ่นหวัง”

“เปิ่นหวังต่อสู้อย่างกล้าหาญ เห็นไหม แม้แต่ขาสุนัขยังหัก”

ฮัสกี้ยกขาหน้าที่หักขึ้นเพื่อแสดงหลักฐานว่ามันต่อสู้อย่างกล้าหาญ

ฮังอวี่ลูบหัวให้กำลังใจมัน

เสี่ยวเฉียงหันไปมองรอบๆ “แล้วมอนสเตอร์เจ้าถิ่นล่ะไปอยู่ที่ไหนแล้ว?”

เจียงหนานเท้าสะเอว “เสี่ยวเฉียง นายก็อยู่กับพี่มหาเทพมานานแล้ว ทำไมยังถามคำถามโง่ๆแบบนี้อีก?”

เธอยืดอกขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

แม้ไม่ได้กล่าวชัดเจน

แม้ไม่ได้คำตอบตรงๆ

แต่ทุกคนสามารถคาดเดาได้ ว่าการ์กอยหินระดับเจ้าถิ่นน่าจะไปเยี่ยมยมบาลแล้ว!

“ภูติปีศาจการ์กอยล์หินมีเกราะสายฟ้าต้องสาป ฉันคงสู้มันไม่ได้ถ้าไม่มีผู้รักษาที่แข็งแกร่ง ดังนั้นนี่ไม่ใช่ผลงานของฉันคนเดียว” ฮังอวี่หยิบสินสงครามทั้งหมดที่ริบได้ออกมาอย่างไม่ปิดบัง “เจ้าพวกนี้คือไอเท็มที่ดรอป”

จางเสี่ยวเฉียงกรีดร้องเสียงหลง

คนอื่นๆแม้เดาไว้แล้วแต่ก็ยังอดประหลาดใจไม่ได้เช่นกัน

สุดยอด!

เจียงหนานในเลเวล 5 และฮังอวี่ในเลเวล 6

ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ทั้งสองกลับสามารถโค่นเจ้าตัวที่แข็งแกร่งกว่าผู้บัญชาการมนุษย์หมูป่าได้!

เรื่องแบบนี้มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วมันเกิดขึ้นจริงๆ

ต่อให้ยากจะเชื่อแต่ก็ต้องยอมรับ!

กระทั่งฉินมู่ที่เงียบขรึมเหมือนท่อนไม้ก็ยังอดพูดไม่ได้ว่า “พวกคุณสุดยอดจริงๆ”

สถานการณ์ของฉินมู่นั้นคล้ายกับเจียงหนาน

เขามาจากค่ายลิซาร์ดแมนและเคยร่วมงานกับเฉินหยูหลายครั้ง แต่เขามักอยู่นอกทีมเสมอ ไม่ถือว่าเป็นลูกน้องของเฉินหยู

แต่ที่เฉินหยูแนะนำให้เขาเข้าร่วมทีมนี้

เพราะความสามารถของเขาตรงตามเงื่อนไข

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเฉินหยูถึงไม่สามารถดึงฉินมู่เข้าทีมหลักได้ อย่างแรกเพราะบุคลิกอันโดดเดี่ยว อย่างที่สองเพราะเฉินหยูไม่สามารถโน้มน้าวใจเขา

ทว่าหากเฉินหยูแก่กล้าเท่ากับฮังอวี่

ฉินมู่ย่อมตัดสินใจเข้าร่วมทีมกับเธออย่างไม่ลังเล

เห็นได้ชัดว่าฉินมู่เองก็เป็นส่วนหนึ่งในศึกโจมตีค่ายมนุษย์หมูปา

ฮังอวี่แข็งแกร่งกว่าใครๆ และต่อไปจะยิ่งแกร่งกว่านี้ อนาคตของเขาไร้ขีดจำกัด

ฉูเทียนหัวและเฉินหยูก็ยอมรับในข้อนั้นเช่นกัน

‘ฉันด้อยกว่าเขาจริงๆ’

ฉูเทียนหัวได้แต่ทอดถอนหายใจอย่างลับๆ

ในทางกลับกัน เฉินหยูจ้องมองไปยังหินสกิลขั้น 2 ซึ่งเป็นสินสงครามที่ริบมาได้ หน้าอกอันอวบอิ่มของเธอสะท้อนขึ้นลงอย่างแรง

ดวงของฉันก็ดีเหมือนกันนี่

ปฏิบัติการนี้ของฮังอวี่ส่งเนื้อเข้าปากฉันชัดๆ

หินสกิลขั้น 2 !

หินสกิลสีเขียวขั้น 2!

ทั้งยังเป็นสกิลมรดกในขั้นต่อไปของเธอพอดี!

ฮังอวี่สั่งให้ทุกคนหยุดพักเพื่อรวบรวมของที่ริบมาได้ จากนั้นพูดคุยกับทุกคนว่า “ผมอยากขอใส่ชุดเซ็ทการ์กอยล์หินก่อน”

ในเมื่อมีชุดครบเซ็ทอยู่เบื้องหน้า

ถ้าจะต้องเก็บมันไว้ในมิติเก็บของ

สู้ใส่ไว้บนตัวเพื่อเพิ่มพลังรบไปเลยไม่ดีกว่าหรือ?

เฉินหยูและเสี่ยวเฉียงก็อยู่ในระหว่างการต่อสู้เช่นกัน และในเมื่อพวกเขามาถึงเลเวล 6 แล้ว ดังนั้นสามารถเลือกอุปกรณ์นักเวทย์สองสามชิ้นมาสวมใส่ก่อนส่งคืนตอนแจกจ่ายสินสงครามหลังจบการเดินทาง

แน่นอน

หินสกิลเป็นของพิเศษ

ดังนั้นแม้มันจะดรอปแล้วก็ตาม

แต่เจ้าสิ่งนี้ต้องเหลือทิ้งไว้จนกว่าจะมีการแจกจ่ายขั้นสุดท้าย

หลังจากได้รับความยินยอมเป็นเอกฉันท์จากทุกคน ฮังอวี่เปลี่ยนชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์ทันที และอุปกรณ์ใหม่ปรากฏขึ้นบนร่างกายเขา ซึ่งเป็นชุดเซ็ทโทนลวดลายเทาหม่น

วัสดุของชุดนี้ค่อนข้างหยาบ

ให้ความรู้สึกเหมือนหินแกะสลัก

ทว่าหากสังเกตดีๆ คุณจะพบว่าทุกรายละเอียดและลวดลายนั้นเป็นรูปแบบอันลึกลับซับซ้อน ให้ความรู้สึกดูเรียบง่ายแต่บรรยากาศขึงขัง

ร่างฮังอวี่สั่นไหว

เขากะพริบหายไปโผล่อีกจุดหนึ่งในหลายเมตรถัดไป

หมาหวังเอ๋ออุทาน “เจ้านายเร็วมาก!”

เจียงหนานพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ เร็วมากจริงๆ!”

ฮังอวี่รู้สึกว่าตัวเขาเบาเหมือนนกนางแอ่น คล้ายสามารถเหยียบย่ำบนผิวน้ำได้

ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเร็วกว่าเดิม ทุกสิ่งในโลกดูเชื่องช้าในสายตา ไม่ว่าจะเป็นปีกที่กำลังกระพือของฝูงแมลงที่บินผ่าน หรือยอดหญ้าที่พลิ้วไหวไปตามลม

ความรู้สึกในตอนนี้ของฮังอวี่สรุปได้ 3 คำ -- เหมือนเกิดใหม่!