ตอนที่แล้ว(ฟรี)ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 109 ความก้าวหน้าของลู่ซูหลัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 111 ความโกรธของมังกร

(ฟรี)ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 110 การมาถึงของมังกร


ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 110 การมาถึงของมังกร (ฟรี)

สีหน้าของจิ่วเซินยังคงสงบแม้หลังจากที่เขาถูกโอบกอดจากสาวงาม แม้แต่ขานเย่ก็ยกย่องท่านอาจารย์ของเขาในใจ ชายคนอื่นคงจะมีสีหน้าร้อนออกมาอย่างแน่นอนหากพวกเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่ท่านอาจารย์ของเขากลับสามารถรักษาความเฉยเมยของไว้ได้

ด้วยขอบเขตหัวใจปัจจุบันของจิ่วเซินที่มาถึงขั้นที่สามใจไม่หวั่นดั่งขุนเขาแล้ว การรักษาสภาวะอารมณ์ภายในไม่กี่วินาทีเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่ง

จิ่วเซินเหลือบมองที่ลู่ซูหลันและกล่าวอย่างไม่แยแส “เจ้ามาถึงขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญขั้นต้นแล้ว แม้ว่าจะไม่เลว อย่างไรก็ตาม เจ้ายังต้องทำให้รากฐานของเจ้าเสถียร นอกจากนี้ ผลของต้นมังกรกำเนิดปฐพีก็สุกแล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันหมายความว่าอะไร?”

ท่าทางเขินอายของลู่ซูหลันเปลี่ยนไปอย่างกระตือรือร้นเมื่อนางได้ยินคำพูดเหล่านั้น “หมายความว่าท่านอาจารย์สามารถปรุงโอสถระดับ 9 ให้ข้าได้แล้วใช่หรือไม่?”

จิ่วเซินพยักหน้าอย่างสงบและเดินไปที่ต้นมังกรกำเนิดปฐพี ลู่ซูหลันและคนอื่น ๆ ก็เดินตามหลังเขาด้วยสายตาที่คาดหวัง นายท่านของพวกเขากำลังวางแผนที่จะปรุงโอสถระดับ 9! โอสถในระดับนั้นย่อมทำให้ผู้ฝึกตนขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญต้องแย่งชิงมันมาแน่นนอน แต่นายท่านของพวกเขาสามารถปรุงโอสถดังกล่าวได้!

ผลไม้รูปทรงแปลก ๆ สามผลกำลังห้อยอยู่บนต้นไม้ขนาดเล็ก แต่ละผลปลดปล่อยออร่ามังกรบริสุทธิ์ที่ทำให้ทุกคนในร้านรู้สึกถึงพลังอันสูงส่งและน่าสะพรึงกลัวของมัน

ภายใต้การจ้องมองราวกับคนโง่เขลาของทุกคน จิ่วเซินได้ดึงผลไม้วิญญาณทั้งสามออกมา ราวกับดึงผลไม้ออกมาจากต้นไม้ธรรมดาก็ว่าได้ ทำให้ปากของทุกคนกระตุก

ท่านอาจารย์ ทุกคนรู้ดีว่าจะต้องจัดการกับพืชวิญญาณด้วยความระมัดระวัง เรารู้ว่าท่านยอดเยี่ยม แต่อย่างน้อยท่านก็ช่วยรอให้ใจกันเปราะบางของพวกเราให้พร้อมก่อนได้หรือไม่?

หลังจากเก็บเกี่ยวผลไม้วิญญาณทั้งสามผลแล้ว จิ่วเซินเดินไปยังต้นมังกรกำเนิดปฐพีต้นอื่นและทำเช่นเดียวกัน สีหน้าของเขายังคงสงบนิ่งโดยไม่มีร่องรอยของการเปลี่ยนแปลง

คราวนี้ลู่ซูหลันและคนอื่น ๆ ชินแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงยืนอยู่เบื้องหลังจิ่วเซินอย่างเชื่อฟังขณะที่เหยียดคอเพื่อดูผลไม้วิญญาณเหล่านั้น

เมื่อจิ่วเซินกำลังจะเด็ดผลไม้ผลสุดท้าย เขาก็หันไปยังทิศทางหนึ่งและขมวดคิ้ว “ดูเหมือนว่ากิ้งก่าจากป่าไร้ขอบเขตจะล้มเหลวในการบรรลุขอบเขตเทพก่อตั้ง ดังนั้นจึงต้องการผลไม้จากต้นมังกรกำเนิดปฐพี หลังจากสัมผัสถึงพลังงานมังกรบริสุทธิ์ของมัน… แม้ว่าผลไม้จะสามารถช่วยมันให้บรรลุขอบเขตเทพได้แท้จริง แต่แล้วมันสำคัญยังไงกัน” จิ่วเซินพึมพำอย่างดูถูกในขณะที่เขาเด็ดผลไม้ที่เหลือ จากนั้นเขาก็เก็บผลไม้ทั้งหมดและเดินออกไปนอกร้านในขณะที่หยิบเก้าอี้ออกมาจากต่างหูมิติของเขา จากนั้นเขาก็วางเก้าอี้ไว้ตรงมุมหนึ่ง แล้วเอนกายลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเกียจคร้าน

“เหมียว!” ไอซ์รับรู้ได้แล้วว่ามีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกำลังมาหาพวกเขา แต่นางเพียงแค่เหลือบมองไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนตักของจิ่วเซิน

ลู่ซูหลันและคนอื่น ๆ กำลังสับสน และมีเพียงธีอาเท่านั้นที่มองดูอย่างเคร่งขรึมขณะที่จ้องมองไปยังทิศทางใดทิศทางหนึ่ง นางรู้สึกได้ถึงออร่าที่ทรงพลังกำลังพุ่งเข้าหาพวกเขาด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการ แม้แต่ธีอาที่ไร้ความหวาดกลัวผู้นี้ยังเผยให้เห็นถึงท่าทางที่ระมัดระวัง และนางก็อดไม่ได้ที่จะวางมือขวาไว้บนด้ามดาบของนาง

เมื่อเห็นการกระทำที่แปลกประหลาดของนาง ขานเย่อและคนอื่น ๆ ต่างก็งงงวย แต่หลังจากนั้น ลู่ซูหลันก็ทำหน้าจริงจังเช่นกัน

“มีผู้แข็งแกร่งกำลังเดินทางมาหาเรา” ลู่ซูหลันพึมพำอย่างเคร่งขรึม

คราวนี้สัหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นจริงจัง สิ่งมีชีวิตชนิดใดกันที่ได้เดินมาหาพวกเขา แม้แต่ธีอาที่ปกติแล้วยังดูเคร่งขรึม?

“โฮก!!” เสียงคำรามของมังกรดังก้องไปทั่วจักรวรรดิซิลเวอร์วิง ทำให้ประชาชนหน้าซีดเผือดในทันที คนที่อ่อนแอนั้นถึงกับพ่นเลือดออกมาเต็มปากในขณะที่ปิดหูด้วยท่าทางหวาดกลัว

สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมากำลังบินอยู่เหนือเมืองเบลทราน และดวงตาขนาดใหญ่ของมันก็เปล่งประกายด้วยความกระหายเลือดอย่างแรงกล้าขณะที่มันค้นหาบางสิ่งที่อยู่ด้านล่าง ปีกขนาดมหึมาของมันสร้างลมกระโชกแรง โชคดีที่มีการจัดค่ายกลระดับ 9 ที่คอยปกป้องเมืองเบลทรานจากสิ่งนี้

ผู้คนในเมืองเบลทรานเริ่มคลั่งไคล้หลังจากเห็นสัตว์ตัวยักษ์ที่บินได้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นสัตว์อสูรขนาดมหึมาที่แม้แต่เพียงสายตาของมันก็ยังทำให้หัวใจของพวกเขาต่างเต้นรัวด้วยความกังวลใจ

จักรพรรดิเอลิกกำลังลอยอยู่เหนือท้องฟ้า แต่เขาไม่กล้าก้าวออกจากค่ายกลของเมือง ชายชราสี่คนที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองนั้นอยู่ในขอบเขตที่ 7 ระดับจักรพรรดิขั้นสูงสุด หนึ่งในนั้นคือผู้พิทักษ์ต้วนมู่ ผู้อาวุโสเหล่านี้คือผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของจักรวรรดิซิลเวอร์วิง! พวกเขามักจะทำการบ่มเพาะอยู่ภายในพระราชวังและจะปรากฏตัวเมื่อจักรวรรดิเผชิญกับอันตรายร้ายแรงเท่านั้น การปรากฏตัวของพวกเขาบ่งบอกถึงภัยคุกคามของสัตว์อสูรตัวนี้ได้อย่างชัดเจน!

“สหาย อะไรกันทำให้เจ้ามายังจักรวรรดิอันต่ำต้อยของข้า” จักรพรรดิเอลิกป้องมือของเขาในขณะที่ถามมังกรด้วยความเคารพ

มังกรเบนสายตาอันกระหายเลือดไปยังจักรพรรดิ ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าหัวใจของตนกำลังบิดเบี้ยวในทันที แต่เขายังมีท่าทีสงบนิ่งอย่างดื้อรั้น เขาต้องรักษาภาพลักษณ์อันทรงพลังของเขาในฐานะจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิของตน! หากเขาแสดงท่าทางหวาดกลัว พลเมืองของจักวรรดิของเขาจะต้องตกอยู่ในความไม่สงบอย่างแน่นอน

“หืม! เจ้ามนุษย์ที่อ่อนแอเหมือนว่าเจ้าจะมีความกล้าหาญดี! นักบุญมังกรผู้นี้จะไว้ชีวิตอันไร้ค่าของเจ้า ตราบที่เจ้านำต้นมังกรกำเนิดปฐพีมาให้ข้า” เสียงสัตว์อสูรลอยมา ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในอากาศ

ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ต่างมีท่าทางโกรธแค่น แต่พวกเขาที่จะตอบโต้หลังจากเห็นว่าจักรพรรดิยกมือขึ้นเพื่อหยุดพวกเขาจากการกระทำที่หุนหันพลันแล่น

‘มันควรจะพูดถึงต้นมังกรกำเนิดปฐพีของปรมาจารย์ไวน์จิ่ว ข้าควรทำเช่นไร?’ หัวใจของจักรพรรดิตอนนี้กำลังสับสนวุ่นวายกับสิ่งที่เขาควรทำ เขากำลังเผชิญหน้ากับมังกรที่อยู่ในขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญขั้นสูงสุด ในทางกลับกัน ความแข็งแกร่งของจิ่วเซินยังคงเป็นปริศนาสำหรับเขาจนถึงตอนนี้ ไม่นาน เขาได้ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้วจึงถอนหายใจ

“เฮ้อ!”

จักรพรรดิเอลิกเหลือบมองมังกรด้วยสายตาที่แน่วแน่และตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“อวดดี! เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงมาพูดกับจักรพรรดิผู้นี้เช่นนี้!”

เสียงอันสง่างามของจักรพรรดิดังก้องไปทั่วทั้งจักวรรดิซิลเวอร์วิง ทำให้ประชาชนต่างวประหลาดใจ ขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขาชื่นชมในความกล้าหาญของเอลิก นี่คือจักรพรรดิของพวกเขา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด