ตอนที่แล้วบทที่ 734 หนึ่งสัปดาห์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 736 ขัดขวาง

บทที่ 735 เป็นไปได้มั้ย?(ตอนฟรี)


บทที่ 735 เป็นไปได้มั้ย?

ในเวลานี้ จี้เฟิงกำลังคิดเกี่ยวกับการโปรโมตทางออนไลน์ เพราะจี้เฟิงไม่ได้คาดหวังมากนักเรื่องที่ผู้ค้าเหล่านั้นจะลองยาลดความอ้วนด้วยตัวเอง

ในสายตาของจี้เฟิง ผู้ค้าเหล่านั้นอาจจะไม่ได้ใช้คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ด้วยตัวเอง แต่ก็คงจะช่วยโปรโมตอยู่แล้ว เพราะพวกเขาได้รับผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนไปฟรีๆ และถ้าหากพวกเขาต้องการทำให้คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ให้กลายเป็นเงิน พวกเขาก็ต้องโปรโมตมัน

ดังนั้น สิ่งที่จี้เฟิงรอคอยจริงๆก็คือหลังจากที่ผู้ค้าเหล่านั้นขายยาลดน้ำหนักออกไปแล้ว การตอบรับของผู้บริโภคที่ทานมันเข้าไปและการประชาสัมพันธ์ของพวกเขาเองในทุกๆช่องทาง นี่ต่างหากถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญและคาดหวังได้มากที่สุด

ด้วยผลตอบรับของผู้บริโภค จี้เฟิงเชื่อว่าผู้ค้าเหล่านั้นจะต้องได้รับคำติชมโดยตรงจากลูกค้าอย่างแน่นอน และหลังจากนั้นพวกเขาถึงจะเริ่มคิดหาวิธีมาซื้อสินค้าที่โรงงานต่อไป

ตอนนี้จี้เฟิงรับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดจากผู้บริโภคเหล่านั้นดี ผู้บริโภคเหล่านั้นสามารถสร้างกระแสบนอินเทอร์เน็ตได้ และทั้งหมดนี้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง

ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน...

บางทีสิ่งที่วางไว้ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนมันทุกสถานการณ์ แค่อาศัยภาพรวมและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการก็เพียงพอแล้ว

คำพูดเหล่านั้นล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น จี้เฟิงผู้เป็นคนที่วางแผนด้วยตัวเองไม่เคยคิดว่าการโปรโมตคังหยวนสลิมมิ่งโดยพึ่งพาแค่ผู้ค้าไม่กี่คนเหล่านั้นจะประสบผลสำเร็จอย่างท่วมท้น เขาเป็นคนที่ไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดนั้นอยู่แล้ว

และเป็นเพราะปัจจัยที่ไม่แน่นอนเหล่านี้เอง จี้เฟิงจึงได้เตรียมการต่างๆสำรองเอาไว้ หากผู้ค้าเหล่านี้ไม่สามารถโปรโมตได้จริงๆ จี้เฟิงก็ตัดสินใจที่จะจัดจำหน่ายสินค้าไปก่อน

ตามแผนเดิมของจี้เฟิง หากการประชุมส่งเสริมการลงทุนไม่ประสบความสำเร็จและการโปรโมตไม่บรรลุผลตามที่หวัง ขอแค่เพียงยังมีผู้ค้าที่มาติดต่อทำธุรกิจร่วมกันกับโรงงานยาเซียว รวมถึงบริษัทยาฉางเหอด้วย จี้เฟิงจะให้ยาแก่พวกเขาในปริมาณมากไปฟรีๆ ก่อน มุ่งเน้นไปที่การกระจายสินค้าให้ได้ในวงกว้าง เพราะถ้าตะวันออกไม่ได้ผล ตะวันตกอาจจะดีก็ได้ ผู้คนของแต่ละพื้นที่อาจมีความชื่นชอบที่ไม่เหมือนกัน

ตราบใดที่มีการบอกกันปากต่อปาก ความนิยมก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเอง เพียงแค่มันอาจจะเห็นผลช้าว่าการโปรโมตด้วยแผนปัจจุบัน แต่ก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น

ในความเป็นจริง เนื่องจากจางฉงจินปรากฏตัวขึ้นที่การประชุมส่งเสริมการลงทุน ทำให้ผู้ค้าส่วนใหญ่ต่างพากันออกไป เมื่อมองกลับไปที่จุดนั้น มันจึงทำให้จี้เฟิงตระหนักได้ว่าการประชุมส่งเสริมการลงทุนอาจล้มเหลว

และต่อให้ยังมีผู้ค้าคนอื่นๆเหลืออยู่ พวกเขาอาจจะไม่ได้สนใจในตัวยาลดน้ำหนักคังหยวนจริงๆ ความน่าจะเป็นของความสำเร็จจึงเป็นอะไรที่น้อยมาก

ดังนั้นจี้เฟิงจึงเตรียมการต่างๆ

จี้เฟิงไม่ได้ใช้เวลานานมากในการคาดเดาว่าผู้ค้าเหล่านั้นจะยอมทดลองใช้ยาจริงๆหลังจากที่พวกเขากลับไปแล้วหรือไม่ แทนที่จะเสียเวลากับมัน จะเป็นการดีกว่าที่จะคิดว่าจะทำยังไงให้ผงยาลดน้ำหนักคังหยวนได้รับการโปรโมตที่ดี และวิธีการสร้างกระแสชักจูงผู้คนให้เข้ามาทดลองใช้ยาให้ได้ เพราะถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ มันจะช่วยขยายความนิยมให้ไปจนถึงระดับสูงสุดได้เลย!

ในฐานะผู้นำเบื้องหลังของโรงงานผลิตยาเซียวฟามาซูติคอล จี้เฟิงไม่สามารถปล่อยให้หยางเต๋อจ้าวและซูหยวนยุ่งกับทุกสิ่งทุกอย่างได้

โรงงานยาเซียวในปัจจุบันแตกต่างอย่างมากจากตอนที่ฮั่นจงดูแลอยู่

ในตอนที่ฮั่นจงอยู่ จี้เฟิงไม่จำเป็นต้องควบคุมดูแลอะไรมาก การโปรโมตยาก็ไม่ใช่เรื่องยาก มันไม่จำเป็นต้องมีการโปรโมตด้วยซ้ำ ยากระแสไฟฟ้าพิเศษเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในตอนที่มันถูกใช้ในหยานจิง นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือโดยตรงจากเทียนเหยากรุ๊ป ดังนั้นการโปรโมตจึงไม่จำเป็นเลยสำหรับยากระแสไฟฟ้าพิเศษ

นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าของยากระแสไฟฟ้าพิเศษในปัจจุบันยังเป็นกลุ่มทหาร ซึ่งแตกต่างจากผงยาลดน้ำหนักคังหยวนอย่างมาก

แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงงานยาเซียวมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง มันแทบไม่มีอะไรเลยนอกจากลูกค้าที่เคยมีความสัมพันธ์การด้านธุรกิจเพียงไม่กี่รายสำหรับร้านขายยาทั่วไป

หากคุณต้องการเงินแต่ปราศจากเงิน หากคุณต้องการได้รับความนิยมแต่ปราศจากชื่อเสียง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรค

ดังนั้นจี้เฟิงจึงต้องลงมือด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์เป็นโครงการแรกที่เขาทำธุรกิจอย่างจริงๆจังๆ เขาต้องผลักดันมันให้กลายเป็นแบรนด์ระดับประเทศและระดับโลกที่มีชื่อเสียง นี่คือเป้าหมายของจี้เฟิง!

………………..

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อสัปดาห์ใหม่เริ่มต้นขึ้น จี้เฟิงนั่งอยู่ในห้องสำนักงานของโรงงานยาเซียว เขากำลังรออะไรบางอย่างอยู่อย่างเงียบๆ

แม้ว่าในใจของจี้เฟิงจะไม่ได้คาดหวังเกี่ยวกับผู้ค้าเหล่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องตัดใจยอมแพ้ สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลของมันจะออกมาดีหรือไม่ดี เขาก็จะรอรับฟังจนถึงวินาทีสุดท้าย!

ที่ด้านตรงกันข้ามของจี้เฟิง ซูหยวนและหยางเต๋อจ้าวนั่งเคียงข้างกันบนโซฟาและรอการตอบรับจากผู้ค้าเหล่านั้น ทั้งสองต่างรู้สึกเป็นกังวลและไม่สบายใจพอๆกันอยู่ในใจ โดยไม่รู้ว่าผู้ค้าจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไรบ้าง

พวกเขาจะตัดความสัมพันธ์และยุติความร่วมมือทุกอย่างกับโรงงานเซียวไปเลยหรือเปล่าถ้าผงยาคังหยวนมีปัญหาขึ้นมาจริงๆ?

หรือมันจะเป็นการนำพาทุกสิ่งทุกอย่างให้พังทลายลงไปอย่างเงียบๆ?

ทั้งสองคนรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจแต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอ

“บอสคะ คุณกลับไปพักผ่อนก่อนก็ได้นะคะ ฉันกับผู้อำนวยการหยางสามารถอยู่รอและจัดการเรื่องที่เหลือได้ค่ะ!”

เมื่อเห็นจี้เฟิงนั่งหลับตาและพักผ่อน ซูหยวนก็คิดว่าจี้เฟิงคงเป็นกังวล เธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใสเพื่อเป็นการปลอบโยนว่า “มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ค้าเหล่านั้นจะใช้ผงลดความอ้วนของเรา เพราะถ้าฉันเป็นตัวแทนจำหน่าย ต่อให้ฉันไม่อยากลองเอง ฉันก็จะต้องให้คนอื่นลองอย่างแน่นอน... พวกนั้นหัวหมอจะตาย เพราะสุดท้ายแล้วถ้าผงยาลดความอ้วนคังหยวนไม่ได้ดีอย่างที่เราพูดไว้ มันก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาในการกดดันโรงงานยาของเราในเรื่องอื่นๆ และเพื่อปกปิดบาดแผลนี้ เราจะต้องยอมแพ้ส่วนหนึ่งของผลกำไรในด้านอื่นๆอย่างแน่นอน!”

จี้เฟิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ตอนนี้สิ่งที่ผมกังวลไม่ใช่เรื่องที่ว่าผู้ค้าและตัวแทนจำหน่ายเหล่านั้นจะใช้ผงยาลดความอ้วนหรือเปล่า แต่กังวลว่าพวกเขาจะไม่จริงจังกับเรื่องนี้เลยต่างหาก เพราะโรงงานผลิตยาของเรา ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือประเภทของผลิตภัณฑ์ มันยังห่างไกลหากจะนำไปเปรียบเทียบกับโรงงานขนาดใหญ่เหล่านั้น และเรื่องของผลประโยชน์ในตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่เราแค่พูดไป ผู้ค้าและตัวแทนเหล่านั้นอาจไม่สามารถสัมผัสถึงมันได้ก็ได้!”

“ประธานจี้ คุณยังรู้จักพ่อค้าหัวหมอพวกนั้นดีไม่พอนะ!” หยางเต๋อจ้าวยิ้มและพูดว่า “สิ่งแรกที่นักธุรกิจจะมองหาคือผลกำไร ประโยคนี้เหมาะสมกับพ่อค้าพวกนั้นมากจริงๆ!”

“ลุงหยางหมายความว่ายังไง?” จี้เฟิงถามทันที

“สำหรับนักธุรกิจรายใหญ่ วิสัยทัศน์ของพวกเขาจะมองในระยะยาวเป็นหลักและพวกเขาก็จะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ที่จะได้รับในอนาคตมากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันพวกเขาจะไม่สนใจกำไรและการขาดทุนในทันที... อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าและตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมงานกับโรงงานผลิตยาของเราเป็นพวกมองระยะสั้น พวกเขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ที่จะได้รับในทันที!”

หยางเต๋อจ้าวยิ้มและพูดอย่างมั่นใจ “ฉันกล้าพูดได้เลยว่าคนเหล่านั้นจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำกำไรจากเราให้ได้มากที่สุด และผงยาลดความอ้วนก็นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาในตอนนี้!”

“มีเหตุผลๆ!” จี้เฟิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที แม้ว่าหยางเต๋อจ้าวจะเป็นคนอารมณ์ร้อนและอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่จี้เฟิงต้องชื่นชม นั่นก็คือหยางเต๋อจ้าวเป็นคนที่ผ่านอะไรมามากและมีประสบการณ์มามากมาย มันทำให้เขาสามารถมองคนออกและตัดสินคนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จี้เฟิงไม่อาจเทียบได้ในตอนนี้

อายุหลายสิบปีเหล่านี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์และประสบการณ์ชีวิตไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างขึ้นได้อย่างการฝึกฝนร่างกายหรือศึกษาหาความรู้ มันเป็นการใช้ชีวิตที่ต้องผ่านผู้คนที่แตกต่างมากมายและค่อยๆสะสมประสบการณ์จนกว่ามันจะมากพอที่จะมองเห็นผู้คนได้แม่นยำมากขึ้น

แม้ว่าจี้เฟิงจะมีสมองหมายเลข 1 ซึ่งเป็นสมองอัจฉริยะจากต่างดาวคอยช่วยเหลือ แต่เขาก็ยังคงขาดบางสิ่งในเรื่องนี้

ทั้งสามคนพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอการติดต่อจากพวกผู้ค้า

แม้ว่าปากที่พูดจะดูผ่อนคลายมาก แต่ทั้งสามคนต่างก็มีความกังวลในใจ เพราะการประชุมส่งเสริมการลงทุนจะสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผลตอบรับของผู้ค้าเหล่านั้น  นอกจากนี้มันยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทั้งสามคน ตลอดจนทิศทางของแผนในอนาคตของโรงงานผลิตยา มันจึงเป็นสิ่งที่ทั้งสามคนต้องให้ความสนใจอย่างมาก

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ และแล้วช่วงเช้าก็ได้ผ่านไป แต่โทรศัพท์ในห้องสำนักงานก็ยังไม่ดังขึ้นเลย จะมีก็แต่เสียงพูดคุยของทั้งสามคนที่ดังขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขารู้สึกว่าความเงียบมันจะยิ่งทำให้ความกังวลเพิ่มมากขึ้น

จี้เฟิงมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงครึ่ง พวกเขามารอกันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า แต่ก็ยังไม่มีการติดต่อใดๆกลับมา สถานการณ์ในปัจจุบันดูเหมือนจะแย่ลงเล็กน้อย ทุกคนเริ่มตระหนักว่าการประชุมส่งเสริมการลงทุนในครั้งนี้จะไม่ได้มีผลอะไร

ยิ่งรอกันนานขึ้นเท่าไหร่ อารมณ์ของหยางเต๋อจ้าวก็ยิ่งร้อนรุ่มมากขึ้นเท่านั้น เขาเงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังอยู่บ่อยครั้ง สลับกับดื่มน้ำบ่อยๆ บางครั้งเขาก็ลุกไปเติมน้ำให้กับจี้เฟิงและซูหยวน แต่การกระทำของเขามันดูกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด

“ผู้อำนวยการหยาง อย่าใจร้อน ตราบใดที่เราไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาด ฉันเชื่อว่ามันจะไม่เกิดปัญหาใหญ่แน่นอน!” ซูหยวนปลอบโยน

หยางเต๋อจ้าวพยักหน้าเล็กน้อย แต่ความกังวลของเขาเป็นเรื่องที่ยากจะยับยั้ง

“ไอ้คนพวกนี้ เวลาที่จะต่อรองกับเรา กระตือรือร้นยิ่งกว่าใคร แต่พอตอนนี้รู้ว่าเราต้องการความช่วยเหลือ กลับเงียบเป็นเป่าสาก!” หยางเต๋อจ้าวรอด้วยความกังวลใจ เขาอดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจและบ่นออกมา

ซูหยวนยิ้มเล็กน้อย “คนพวกนี้ก็มีนิสัยแบบนี้แหละค่ะ อย่าไปใส่ใจมากนักเลย เราจะหงุดหงิดเองเปล่าๆ!”

“เฮ้อ!” หยางเต๋อจ้าวอดไม่ได้ที่จะส่ายศรีษะเล็กน้อยและถอนหายใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

“พวกคุณคิดว่าจะมีความเป็นไปได้มั้ยที่จางฉงจินจะหาเรื่องขัดขวางผู้ค้าเหล่านั้นไม่ให้ติดต่อพวกเรา?” จู่ๆจี้เฟิงก็ถามขึ้น

“อะไรนะ?”

ซูหยวนและหยางเต๋อจ้าวอึ้งและชะงักไปทันที พวกเขายังตามไม่ทันความคิดของจี้เฟิง

จี้เฟิงแตะต้นขาของตัวเองเบาๆและพูดอย่างครุ่นคิด “ตั้งแต่จางฉงจินประกาศว่าจะแก้แค้นโรงงานของเรา ครั้งแรกที่เขาโผล่มาก็คือวันที่โรงงานของเราจัดการประชุมส่งเสริมการลงทุน เขาโผล่มาได้พอดิบพอดีในนามของคนในซันไชน์กรุ๊ป ผมก็เลยกำลังคิดว่าถ้าเขาจะแก้แค้นเราจริงๆ ก็คงจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น และอาจไปสกัดกั้นผู้ค้าเหล่านั้นกลางทางก็ได้ไม่ใช่เหรอ? เพราะต่อให้ผู้ค้าเหล่านั้นไม่ได้ทดลองใช้ยา แต่อย่างน้อยพวกเขาก็น่าจะติดต่อมาเพื่อปฏิเสธหรือต่อรองอะไรซักอย่าง! แต่จนตอนนี้พวกเรากลับไม่ได้ข่าวอะไรจากพวกเขาเลย”

“นี่....” หยางเต๋อจ้าวและซูหยวนมองหน้ากัน พวกเขาต่างรู้สึกตกใจในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็พูดพร้อมกันว่า “มีความเป็นไปได้จริงๆด้วย!”

โรงงานผลิตยาเซียว เป็นโรงงานขนาดเล็กที่มีทรัพย์สินไม่กี่สิบล้าน และไม่เพียงพอที่จะเปรียบเทียบกับยักษ์ใหญ่อย่างซันไชน์ฟามาซูติคอลกรุ๊ป

และถ้าครั้งนี้จางฉงจินมาขวางทางหรือก่อปัญหาอีกจริงๆ ก็เกรงว่ามันจะไม่ใช่แค่จังหวะเวลาที่บังเอิญอย่างแน่นอน!

จากการประชุมส่งเสริมการลงทุนเมื่อสัปดาห์ก่อน จะเห็นว่าซันไชน์ฟามาซูติคอลกรุ๊ปดึงตัวผู้ค้ายาเหล่านั้นอย่างไร พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ค้ายาจำนวนมากได้เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ และตอนนี้หากการดำเนินการที่พวกเขารอเพิ่งผ่านไปได้เพียงครึ่งทาง กลับถูกขัดขวางขึ้นมาอีกครั้ง ผลลัพธ์ของมันจะเลวร้ายขนาดไหน

“แล้วเราควรทำยังไงดี?” หยางเต๋อจ้าวมองไปที่จี้เฟิง เพราะเขารู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของจี้เฟิง หากจี้เฟิงเอ่ยปาก เขาเชื่อว่าซันไชน์ฟามาซูติคอลกรุ๊ปจะไม่กล้าเข้ามาสร้างปัญหาและอาจจะไล่จางฉงจินออกทันทีเลยก็ได้!

จี้เฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา “กัวเถา พาคนออกไปตรวจสอบทางเข้าโรงงานและบริเวณใกล้ๆเคียงซักสามสี่คน...”

...จบบทที่ 735~❤️

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด