ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 91 เป็นหุ้นส่วน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 93 ฮัน เยจิน (Han Yejin)

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 92 น้ำแร่ร็อคกี้เมาท์เท่นสปริง!-ตอนฟรี


ตอนที่ 92 น้ำแร่ร็อคกี้เมาท์เท่นสปริง

เมื่อได้ยินฮาร์ดี้ตกลงที่จะให้ความร่วมมือ ไมค์ก็ลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น “ฮาร์ดี้ฉันจะพานายไปพบใครบางคน”

“ใครกัน?”

“ศาสตราจารย์จอร์จ วอร์ดจากห้องปฏิบัติการวิจัยอิเล็กทรอนิกส์ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เขาเคยทำงานให้กับบริษัทวิทยุอเมริกันมาก่อน ฉันรู้ว่าเขามีงานวิจัยเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เยอะมากๆ” ไมค์กล่าว

ทั้งสองขับรถไปที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ระหว่างทางไมค์บอกกับฮาร์ดี้ว่าศาสตราจารย์จอร์จ วอร์ดเป็นชาวอิตาลี

เขาได้มาขอความช่วยเหลือจากเจ้าพ่อมาเฟียเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันกับครอบครัวของเขา

และในภายหลังเขากับเจ้าพ่อมาเฟียก็กลายเป็นเพื่อนกัน

เส้นสายของเจ้าพ่อมาเฟียมีอยู่ทุกหนทุกแห่งจริงๆ

สำหรับรุ่นที่สองอย่างไมค์ ฮาร์ดี้มีแต่ความอิจฉาในหัวใจ

เพราะอะไร?

คุณอาจจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้สิ่งหนึ่งสำเร็จ แต่สำหรับไมค์ มันอาจจะเป็นเพียงแค่การโทรศัพท์หาใครสักคน

ทั้งสองคนเข้าไปที่ห้องแล็บ

โชคดีที่ศาสตราจารย์จอร์จ วอร์ดอยู่ที่นี่

“ไมค์ทำไมคุณถึงมาที่นี่ หรือว่าคุณมาหาผมใช่ไหม?” หลังจากที่ศาสตราจารย์วอร์ดเห็นไมค์

เขาก็ยิ้มและเดินเข้าไปกอด

“ลุงวอร์ด นี่คือเพื่อนของผมทอม ฮาร์ดี้เรากำลังวางแผนที่จะสร้างบริษัทผลิตโทรทัศน์ด้วยกัน และผมก็รู้ว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ ผมเลยอยากจะถามอะไรคุณหน่อย” ไมค์กล่าว

ศาสตราจารย์วอร์ดจับมือกับฮาร์ดี้

“อยากรู้เกี่ยวกับทีวีหรือ? ไม่มีปัญหาเลย”

วอร์ดพาทั้งสองไปที่สถาบันวิจัยของเขา ซึ่งมันมีขนาดใหญ่มาก และก็พาพวกเขาเข้าไปที่ห้องๆ หนึ่งที่อยู่ข้างใน

“นี่คือห้องวิจัยโทรทัศน์ของเรา แต่ว่าหลังจากสงครามเกิดขึ้นวัสดุทั้งหมดได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นมากที่สุดสำหรับสงคราม อุตสาหกรรมโทรทัศน์จึงได้ถูกหยุดพัฒนาโดยรัฐบาล และโทรทัศน์ในตลาดตอนนี้ก็มีขนาดประมาณ 12 นิ้วเท่านั้นเอง”

“แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้หยุดการวิจัยของเรา และเราก็ได้ผลิตหน้าจอแบนที่ใช้หลอดสุญญากาศเป็นตัวฉายภาพ ซึ่งขนาดของมันจะมี 14 นิ้ว 17 นิ้วหรือแม้กระทั่ง 21 นิ้ว”

“และตอนนี้เรากำลังศึกษาโทรทัศน์ที่แสดงภาพออกมาเป็นสีได้อยู่ บีบีซีได้ใช้งานทีวีสีแล้ว และฉันก็ได้รับข้อมูลบางอย่างจากพวกเขา ฉันก็พบว่ายังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกมาก”

ลุงวอร์ดพูดกับไมค์และกล่าวต่ออีกว่า

“คุณเพิ่งบอกว่าคุณต้องการสร้างบริษัทผลิตโทรทัศน์ใช่ไหม? มันอาจจะต้องใช้เวลาเยอะมากในการสร้างเลยนะ… แต่ไมค์ฉันขอเสนอให้คุณซื้อกิจการผู้ผลิตทีวีที่เรียกว่าเบร็ดดีกว่า”

“ทำไมคุณถึงให้ผมซื้อบริษัททีวีนั่น? มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเขาเหรอ?” ไมค์ถาม

ศาสตราจารย์วอร์ดยิ้ม

“บริษัทนั้นก่อตั้งขึ้นในปี 1939 ในเวลานั้นอุปกรณ์ประกอบโทรทัศน์ที่ทันสมัยที่สุดได้ถูกเขาซื้อไป เขาลงทุนไปมากกว่า 3 ล้านเหรียญ แต่สงครามกลับเกิดขึ้นก่อนจึงทำให้การผลิตทีวีหยุดชะงักลง และต่อมาเขาก็ล้มละลาย โรงงานทีวีก็ถูกธนาคารยึดไปและมันก็ยังปิดอยู่ตลอดเวลา”

ฮาร์ดี้คิดในใจว่า ‘นี่มันเหมือนกับโรงงานของเล่นที่เขาซื้อเลยไม่ใช่เหรอ?’

ดูเหมือนว่ายังมีโรงงานอีกหลายแห่งที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม

“เมื่อโรงงานถูกสร้างขึ้นเขาได้จ้างฉันเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค ฉันคุ้นเคยกับสถานการณ์ในโรงงานนั้นเป็นอย่างดี สายการผลิตของพวกเขาสามารถผลิตทีวีขนาด 12 นิ้วได้ และก็ดัดแปลงสักหน่อยก็สามารถผลิตทีวีขนาด 14 นิ้วได้เลย”

“ฉันคิดว่าคุณสามารถเข้าสู่ตลาดได้จากทีวีขนาด 14 นิ้ว และหลังจากที่คุณทำเงินได้แล้ว คุณก็สามารถลงทุนสร้างสายการผลิตที่ใหญ่ขึ้นเพื่อผลิตทีวีขนาด 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือ 21 นิ้วได้”

“บางทีเมื่อถึงเวลานั้นทีวีสีก็จะพร้อมให้บริการเช่นกัน และคุณก็สามารถเริ่มต้นสายการผลิตทีวีสีต่อไปได้เลย”

“อย่างไรก็ตามข้อตกลงอะไรต่างๆ ของโรงงานของพวกเขาก็มีพร้อมแล้ว ข้อตกลงสิทธิบัตรการผลิตทีวีของพวกเขาก็ทำไว้แล้ว ดังนั้นปัญหาของคุณจะน้อยมาก”

ไมค์ดีใจมาก “ขอบคุณครับ คุณลุงวอร์ด”

ในขณะนี้ฮาร์ดี้ได้กล่าวว่า “ศาสตราจารย์วอร์ดนอกจากเราจะซื้อเทคโนโลยีของคุณแล้ว เรายังต้องการจ้างคุณให้เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคของบริษัทและเป็นหัวหน้าวิจัยอีกด้วย คุณคิดว่ายังไง?”

ไมค์มองไปที่ฮาร์ดี้ด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขาก็เข้าใจว่าฮาร์ดี้หมายถึงอะไร

ศาสตราจารย์วอร์ดเป็นนักวิจัยมืออาชีพ เขานั้นเป็นคนเดียวที่สามารถพัฒนาบริษัททีวีได้

“คุณคิดอย่างไรกับเงินปันผล 10% ของแต่ล่ะเทคโนโลยี” ฮาร์ดี้เสนอเงื่อนไขให้กับเขาโดยตรง

และถ้าพูดกันตามตรงเงื่อนไขมันก็ดีมากๆ อยู่แล้ว

วอร์ดครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ยักไหล่ “ห้องปฏิบัติการวิจัยของฉันก็ขาดแคลนเงินทุนอยู่เสมอ และข้อเสนอของคุณก็ทำให้ฉันสนใจจริงๆ”

เท่านี้แหละ!

บริษัทผลิตโทรทัศน์ก็มีนักเทคนิคแล้ว

ไมค์ทำงานอย่างแข็งขันและไปที่ธนาคารในช่วงบ่ายเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์โรงงานผลิตโทรทัศน์เบร็ด

แน่นอนว่ามีบริษัทนี้อยู่ในบัญชีของธนาคารและราคาของมันอยู่ที่ 2.1 ล้านดอลลาร์

เมื่อทั้งสองออกจากธนาคารไมค์ก็โทรหาเจ้าพ่อมาเฟียทันทีและเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง

ในตอนเย็นเจ้าพ่อมาเฟียก็โทรศัพท์ไม่กี่ครั้ง

วันต่อมา

ไมค์ก็พาฮาร์ดี้ไปที่ธนาคารอีกครั้ง แต่คราวนี้ราคาที่เสนอลดลงเหลือ 1.2 ล้านดอลลาร์

นี่คือการใช้เส้นสายของเจ้าพ่อมาเฟีย

ซื้อโรงงาน

ทำสัญญา

ภายในหนึ่งสัปดาห์ฮาร์ดี้ก็ได้โรงงานทีวีมาเพิ่ม ซึ่งมันครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยเอเคอร์ในนิวยอร์ก

แน่นอน

เงินในมือของเขาเหลือน้อยอีกครั้ง

จากเงินมากกว่าสี่ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้รับจากการเล่นหุ้น ตอนนี้เหลือแค่ 500,000 ดอลลาร์เท่านั้น

ทุกอย่างเกือบจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

ฮาร์ดี้จึงเตรียมบอกลาไมค์กลับไปลอสแอนเจลิส

“ไมค์พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปลอสแอนเจลิส และฉันจะยกโรงงานผลิตโทรทัศน์ไว้ให้คุณดูแล”

“ไม่ต้องกังวลฉันเคยจัดการคนมาก่อน และศาสตราจารย์วอร์ดก็เป็นผู้รับผิดชอบด้านเทคโนโลยี การสรรหาคนงานแค่กลุ่มๆ หนึ่งอาจจะใช้เวลาไม่เกินสองเดือนเพื่อที่จะเริ่มการผลิตได้”

สัปดาห์นี้ฮาร์ดี้ได้เห็นว่าไมค์เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและมีพลังตลอดทั้งวัน

ไม่แน่บางทีเขาอาจจะพบบางสิ่งบางอย่างที่เขาชอบทำแล้วก็ได้

“สิ่งเดียวที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือ เมื่อไหร่ที่รัฐบาลจะยกเลิกการห้ามให้มีการผลิตโทรทัศน์จำนวนมากสักที” ไมค์กล่าว

“ตามสถานการณ์ภายในประเทศตอนนี้ การห้ามดังกล่าวจะไม่มีอีกต่อไป และถ้าคุณวีโต้ คอร์เลโอเนไปพูดกับเพื่อนเขาที่สภาคองเกรส ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานก็คงปลดล็อกแน่นอน” ฮาร์ดี้กล่าว

ไมค์คิดว่าข้อเสนอของฮาร์ดี้นั้นดีมาก

“สำหรับบริษัทน้ำแร่ฉันได้ส่งคนไปหาแหล่งน้ำที่เหมาะสมแล้ว เมื่อพบแหล่งน้ำและผ่านการตรวจสอบ เราก็จะเปิดโรงงานผลิตน้ำแร่ได้” ไมค์กล่าว

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันกลับไปถามใครบางคน ว่ามีแหล่งน้ำที่เหมาะสมในชายฝั่งตะวันตกหรือไม่”

ชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งตะวันตกอยู่ไกลเกินไปแม้ว่าจะมีทรัพยากรน้ำแร่ แต่ในนิวยอร์กการขนส่งสินค้าอาจจะมีราคาแพงกว่าน้ำแร่

ถ้ามันถูกผลิตและส่งไปยังชายฝั่งตะวันตก

การหาแหล่งน้ำและการสร้างโรงงานในบริเวณใกล้เคียงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

วันต่อมา

ฮาร์ดี้ก็ขึ้นเครื่องกลับลอสแอนเจลิส เดิมทีเขาต้องการมาที่นิวยอร์กเพื่อพบกับเจ้าพ่อมาเฟียในหนัง

และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกนี้

แต่ไม่คาดคิดเขายังได้พบกับเจ้าพ่อมาเฟีย และยังกลายเป็นเพื่อนที่ดีกับไมค์อีกด้วย

ทั้งสองได้ร่วมลงทุนและเปิดโรงงานผลิตทีวี โรงงานผลิตน้ำแร่

ทำให้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากขึ้น

สำหรับฮาร์ดี้การเดินทางไปยังนิวยอร์กครั้งนี้คุ้มค่ามาก

ฮาร์ดี้เพิ่งกลับมาลอสแอนเจลิส เขาก็ได้รับแจ้งว่ามีคนจากบริษัทเหมืองแร่ต้องการพบเขา

เขาลืมไปว่าได้ซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ และกลายเป็นหัวหน้าที่นี่แล้ว

ผู้คนในบริษัทคิดว่ามันเป็นจุดเปลี่ยนที่ดี แต่หนึ่งเดือนต่อมาหัวหน้าก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย...

ทีมสำรวจเหมืองไม่สามารถทำอะไรต่อได้ พวกเขาจึงต้องถอนตัวออกจากเหมือง

และเมื่อโคลัมบัสหัวหน้าของทีมสำรวจเหมืองแร่กลับมา

เขาก็เข้าไปตบโต๊ะของผู้จัดการอดัมส์และแสดงความโกรธอย่างมาก

“พวกเราอยู่บนภูเขามานานแล้ว และไม่มีใครสนใจเราเลย ไม่มีใครบอกเราว่าเจ้านายคนเดิมถูกจับเข้าคุกไปแล้วด้วย แถมตอนนี้บริษัทยังเปลี่ยนมือไปแล้วอีก”

“และผมมาที่นี่ก็เพื่อมาคุยเรื่องเงินเดือน แต่คุณกลับบอกว่าคุณไม่มีเงิน? อดัมส์ คุณเชื่อหรือไม่ว่าพี่น้องสองโหลที่อยู่ข้างนอกจะขุดหลุมในลานบ้านแถวๆ นี้และฝังคุณทั้งเป็น”

คนพวกนี้กำลังขุดหลุมอยู่จริงๆ

และพวกเขาก็ขุดได้มืออาชีพมาก...

อดัมส์ก็ช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน เขาเป็นแค่ตัวแทน

“ไม่มีเงินในบัญชีของบริษัทเหลืออยู่แล้ว และมันยังมีหนี้ก้อนโต้อยู่อีก เพราะผู้ถือหุ้นได้ขายหุ้นทั้งหมดให้เจ้านายคนใหม่ของเราชื่อทอม ฮาร์ดี้ไปแล้ว และฉันก็ไม่เคยเจอเขาเลยด้วย ฉันแค่เคยได้ยินชื่อเขามาเท่านั้นเอง!” อดัมส์พูดอย่างไว

โคลัมบัสขมวดคิ้ว “เจ้านายคนใหม่ซื้อบริษัทไป เขาจะปล่อยบริษัททิ้งก็ได้ แต่พวกเรายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ! และคุณยังไม่ได้ติดต่อเขาอีกเหรอ?”

“ฉันก็คิดว่าเขาจะติดต่อมาเหมือนกัน แต่หลังจากรอมาหลายวันก็ไม่มีใครติดต่อมาเลย ฉันเลยไปขอข้อมูลติดต่อจากบริษัทการเงินเพื่อที่จะโทรหาอีกฝ่าย แต่เขาบอกว่าเจ้านายอยู่ที่นิวยอร์กและไม่ได้อยู่ที่ลอสแอนเจลิสเลยด้วยซ้ำ” อดัมส์กล่าว

โคลัมบัสคิดอยู่พักหนึ่งและตัดสินใจว่า “เราไม่สามารถรอได้อีกแล้ว ฉันจะไปหาเจ้านายที่ลอสแอนเจลิส แม้ว่าเขาจะต้องการไล่เราออก แต่เขาก็ต้องจ่ายเงินเดือนให้เรา”

นั่นคือทั้งหมด!

ผู้จัดการอดัมส์และผู้อำนวยการโคลัมบัสมาที่ลอสแอนเจลิสจากซานฟรานซิสโก

เมื่อรู้ว่าฮาร์ดี้ยังไม่กลับมาทั้งสองก็ต้องอยู่รอ

ในห้องทำงานของฮาร์ดี้

ชายวัยกลางคนสองคนยืนอยู่ตรงหน้าเขา และสีหน้าของพวกเขาก็ระแวดระวังเล็กน้อย

ก่อนที่อดัมส์และโคลัมบัสจะมาที่นี่ พวกเขายังคิดที่จะสั่งสอนเจ้านายของพวกเขาสักหน่อยที่ทำให้พวกเขาเสียอารมณ์ขนาดนี้

แต่เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในประตูของบริษัทรักษาความปลอดภัยเอชดีซีเคียวริตี้

ความคิดเหล่านี้ก็ถูกลืมทันที

ไม่มีใครไม่รู้ชื่อของการรักษาความปลอดภัยของบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ในขณะนี้

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าหัวหน้าใหญ่จะเป็นบอสของบริษัทรักษาความปลอดภัยเอชดีซีเคียวริตี้

“พวกคุณต้องการอะไร?” ฮาร์ดี้มองไปที่ทั้งสองและถามพวกเขา

อดัมส์เป็นคนแรกที่พูดว่า “เจ้านายครับ ตอนนี้ไม่มีเงินอยู่ในบัญชีของบริษัทเลยสักนิด แต่กลับมีหนี้สินอยู่จำนวนมาก พวกเราก็เลยทำงานต่อไม่ได้ครับ”

หลังจากที่พูดจบเขาก็เหลือบมองไปที่โคลัมบัสอีกครั้ง

“ยิ่งไปกว่านั้นค่าจ้างสองเดือนยังติดค้างทีมสำรวจเหมืองแร่และบุคลากรในสำนักงานใหญ่อยู่ครับ”

ฮาร์ดี้มองไปที่หัวหน้าสำรวจเหมืองแร่โคลัมบัส “ทีมสำรวจได้พบเหมืองใหม่บนที่ดินผืนนั้นในเม็กซิโกบ้างไหม?”

โคลัมบัสส่ายหัวอย่างอายๆ

“ไม่เลยครับ แร่ในพื้นที่นั้นมีน้อยมากจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่พบสายแร่ที่คุ้มค่าสำหรับการทำเหมืองเลย”

“พูดอีกอย่างก็คือที่ดินผืนนั้นไร้ค่า?” ฮาร์ดี้ขมวดคิ้ว

โคลัมบัสชงักชั่วครู่แล้วก็กางมือออกอย่างช่วยไม่ได้

แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่ความหมายของเขาก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน

ที่ดิน 8,000 เอเคอร์ที่เดวิด วอลช์ซื้อมาในราคา 200,000 ดอลลาร์ มันไม่มีค่าอะไรเลย

และตอนนี้เขาก็ยังขายมันไม่ได้อีก

|เหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาเป็นบริษัทจดทะเบียน หากไม่มีแผนกใดแผนกหนึ่งก็ยากที่จะทำงานได้ราบรื่น

“ฉันจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งไปยังบัญชีของบริษัทเหมืองแร่ มันจะเพียงพอสำหรับการดำเนินงานตามปกติและเงินเดือนที่ควรจะได้รับ สำหรับทีมสำรวจของคุณฉันจะขอเวลาสักระยะเวลาหนึ่ง แล้วจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีงานใหม่ๆ”

เมื่อทั้งสองได้ยินว่าเจ้านายคนใหม่เตรียมที่จะให้เงิน

พวกเขาก็มีความสุขมาก

พวกเขาก้มหัวลงเพื่อแสดงความขอบคุณและก็เตรียมจะจากไป

ขณะที่ทั้งสองกำลังจะออกไปนั้น ฮาร์ดี้ก็คิดอะไรบางอย่างและถามอย่างสงสัย

“โคลัมบัสมีแหล่งน้ำดีๆ ในนิวเม็กซิโกบ้างไหม?” ฮาร์ดี้ถาม

“แหล่งน้ำนั้นมีเยอะมากเพราะหิมะได้ละลายมาจากเทือกเขาร็อกกี้ นอกจากนี้ยังมีน้ำในภูเขาอีกจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้มันก่อตัวเป็นหุบเขาขนาดใหญ่และมีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่ พวกเรานั้นดื่มน้ำในภูเขาระหว่างการสำรวจเหมือง และผมก็รู้เรื่องน้ำอยู่นิดหน่อย ผมจึงกล้าพูดได้เลยว่ามันเป็นหนึ่งในน้ำที่ดีที่สุดที่ผมเคยดื่มมา และมันยังมีความหวานอยู่เล็กน้อยอีกด้วย” โคลัมบัสตอบ

ตาของฮาร์ดี้ก็สว่างขึ้นทันที

และทันใดนั้นสโลแกนก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

'น้ำแร่ร็อคกี้เมาท์เท่นสปริงแสนหวาน'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด