ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 88 เจ้าพ่อมาเฟีย-ฟรี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 90 คลื่นใต้น้ำ

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 89 ไมค์ คอร์เลโอเน


ตอนที่ 89 ไมค์ คอร์เลโอเน

หลังจากมาถึงนิวยอร์ก ฮาร์ดี้ก็ไปเช็คอินที่โรงแรม ขณะที่ซีเกลถูกเพื่อนๆ ของเขาพาไปที่บ้านและก่อนจากฮาร์ดี้ไปเขาก็ตบไหล่แล้วบอกว่า “ฉันจะไปรับคุณตอนบ่ายวันพรุ่งนี้”

เขาก็ขึ้นรถและขับออกไป

แม้ว่าเขาจะอยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานาน ฮาร์ดี้ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด

เขากวักมือเรียกรถแท็กซี่ให้จอดและให้ไปส่งที่วอลสตรีต

ในปี 1940 นครนิวยอร์กเต็มไปด้วยตึกสูง ซึ่งแสดงเสน่ห์ของมหานครได้เป็นอย่างดี และจะมีอยู่ไปถึงยุคปัจจุบันเลยทีเดียว

พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเจ้าพ่อมาเฟียวีโต้ คอร์เลโอเน มันเป็นการดีที่จะให้ของขวัญกับเขา

แต่ฉันจะให้อะไรดี?

หลังจากเดินไปตามถนนในเวลาไม่นาน เขาก็ไม่เห็นของที่เหมาะสมเลยสักนิด

แต่เมื่อเขาเดินผ่านร้านขายของเก่า เขาก็พบวัตถุโบราณของยุโรปและเครื่องลายครามที่ดูสวยงามซึ่งหันไปทางถนน

ฮาร์ดี้เดินเข้าไป

เขาเห็นของเก่าทุกประเภทในร้าน ไม่ว่าจะเป็นจากยุโรป อเมริกา แม้แต่ของอียิปต์ก็ยังมี

และแน่นอน ฮาร์ดี้ก็เห็นวัตถุโบราณของจีนอีกด้วย

หลังจากมองไปรอบๆ ฮาร์ดี้ก็เห็นว่าเครื่องลายครามของจีนนั้นสวยงามที่สุด

เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเคลือบ โถแก้วเกลซพอร์ซเลนสีเหลือง โถแถ้วเกลซพอร์ซเลนสีแดง

ฮาร์ดี้ไม่ค่อยรู้เรื่องของเก่าเท่าไหร่ แต่เห็นว่ามันดูสบายตามาก “เจ้าของร้าน เครื่องลายครามพวกนี้ราคาเท่าไหร่?”

“คุณต้องการชิ้นไหนล่ะ?” ชายชราถาม

ฮาร์ดี้ชี้ไปที่ขวดแก้วที่เคลือบอะไรสักอย่าง

“ขวดแก้วนั้น 80 ดอลลาร์น่ะ”

ฮาร์ดี้ส่ายหัว

“แพงเกินไป”

“แล้วขวดสีแดงนั้นล่ะ?”

“ชิ้นนั้น 55 ดอลลาร์”

ฮาร์ดี้ส่ายหัวอีกครั้ง

ครั้งล่าสุดที่ฉันได้ของพวกนี้มา 40 หรือ 50 ชิ้น ฉันไม่ต้องใช้เงินสักบาทเดียว

“เครื่องลายครามพวกนี้เป็นของจีนทั้งหมดหรือเปล่า?”

“ใช่ มันเป็นเครื่องลายครามของจีนที่สวยงามมากเลยล่ะ”

“คุณมีของพวกนี้กี่แบบ?”

เจ้าของร้านคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันจำได้ว่าน่าจะประมาณ 35 แบบ”

“แล้วคุณคิดยังไงถ้าฉันจะให้ชิ้นละ 30 ดอลลาร์ และช่วยแพ็คของให้ด้วย?” ฮาร์ดี้ถาม

เจ้าของร้านตกตะลึง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนซื้อของโบราณเยอะขนาดนี้

ลักษณะของนักธุรกิจของเจ้าของร้านโผล่มาทันที

เขาเริ่มต่อรองราคากับฮาร์ดี้อย่างจริงจัง

และสุดท้ายก็ขายไปได้ในราคา 35 ดอลลาร์ ต่อชิ้น และทั้งหมดมี 36 ชิ้น รวมๆ แล้วเขาจะได้เงิน 1,260 ดอลลาร์เลยทีเดียว

ฮาร์ดี้ขอให้เจ้าของร้านช่วยหาบริษัทขนส่งให้ด้วย และพนักงานขนส่งก็เข้ามา บรรจุของลงกล่อง

ฮาร์ดี้ก็ให้ที่อยู่ของบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ไป

อันที่จริงบริษัทขนส่งก็มีมานานแล้ว ยกตัวอย่างก็บริษัทที่ฮาร์ดี้ใช้บริการอยู่เอสพีโลจิสติกส์ ซึ่งในปี 1907 เป็นบริษัทขนส่งที่มีสาขาอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกา

หลังจากแพ็คของเสร็จ ฮาร์ดี้ก็จำได้ว่าเขาลืมอะไรไป

บ้าจริง

เขาน่าจะเหลือไว้สักชิ้นเพื่อเป็นของขวัญให้เจ้าพ่อมาเฟีย

ช่างมันก่อนละกัน

เขาหยิบจานเงินสไตล์วิกตอเรียอันงดงามจากโต๊ะ “เจ้าของร้าน ช่วยห่อของชิ้นนี้ให้หน่อย เอาสวยๆ ล่ะฉันจะเอาไปให้เป็นของขวัญ”

“ไม่มีปัญหา” เจ้าของร้านตอบรับอย่างยินดี

เขาจะอารมณ์เสียได้ยังไง เพราะคนคนนี้ซื้อของมากมายจากเขา

เมื่อนำของขวัญออกจากร้านขายของเก่าฮาร์ดี้ก็คิดในใจ ‘เขาไม่รู้ว่าในโลกนี้จะมีวัตถุโบราณของจีนเหลืออยู่กี่ชิ้น แต่ลืมมันไปก่อนเถอะ เขากลัวว่าถ้าต้องการซื้อพวกมันทั้งหมดอาจจะต้องใช้เงินหลายสิบล้านและมันอาจจะไม่พอด้วยซ้ำ’

ในอนาคตเขายังมีเวลาและหาซื้อวัตถุโบราณของจีนเพิ่มได้

เพราะตอนนี้ของเก่าจากจีนยังไม่ได้การยอมรับจากยุโรปและราคาก็ไม่สูงนัก

มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเริ่มลงทุนกับของพวกนี้

เมื่อมองย้อนกลับไป เล่าจื๊อนั้นถือวัตถุโบราณไว้หลายหมื่น หลายแสนชิ้น มันเป็นความมั่งคั่งที่ไม่อาจจินตนาการได้ บางทีมันอาจจะมีค่ามากกว่าการถือธนบัตรอีก

แน่นอน

ยังมีศิลปะโบราณของฝั่งยุโรปอีก

ครอบครัวใหญ่ที่ร่ำรวยเกือบทั้งหมดจะเก็บของโบราณไว้ เพราะพวกเขาคิดว่านี่คือการลงทุนอย่างหนึ่ง

แต่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก

เขารู้แค่ว่าวงการวัตถุโบราณนั้นลึกซึ้งเกินไป

เขาอาจจะต้องหาคนที่มีความรู้และเชื่อถือได้มาดูแลเรื่องพวกนี้แทน

วันต่อมา

ซีเกลมารับฮาร์ดี้ตรงเวลา และคนขับรถก็พาทั้งสองไปที่บ้านของคอร์เลโอเน

เมื่อทั้งสองมาถึงถนนด้านนอกของคฤหาสน์คอร์เลโอเน ในตอนนี้มันก็เต็มไปด้วยรถที่จอดอยู่รอบๆ แล้ว

ทั้งสองลงจากรถและเดินเข้าไปข้างใน

ฮาร์ดี้พบว่าฉากนี้มันเหมือนบ้านของคอร์เลโอเนในภาพยนตร์ เขาเลยรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าแปลกใจ

ความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาด และไม่สามารถอธิบายออกมาได้

มันรู้สึกคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย

มันทำให้เขานึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตก่อนหน้านี้

เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในสนามหญ้า บรรยากาศรอบๆ ดูมีชีวิตชีวามาก

เขาคิดว่าคนที่อยู่ที่นี่น่าจะประมาณร้อยกว่าคน

ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กๆ

และเมื่อมีคนเห็นซีเกล พวกเขาก็เข้ามาทักทายทีละคน

ซีเกลตอบรับและพูดคุยอย่างกระตือรือร้น

สำหรับฮาร์ดี้นั้น

เขายังเด็กและไม่ได้คุ้นเคยกับพวกเขา ทุกคนเลยมองว่าเขาเป็นผู้ติดตามของซีเกล เป็นแค่คนตัวเล็กๆ ที่ไม่น่าสนใจ

ซีเกลพาฮาร์ดี้ไปที่ห้องนั่งเล่น

ผู้ชายหลายคนกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและสูบบุหรี่

หลังจากซีเกลเข้ามา พวกเขาก็หันมามอง มีบางคนที่แสดงให้เห็นความเป็นอริอย่างเห็นได้ชัด

ฮาร์ดี้เดินตามหลังและก็เห็นสถานการณ์ในห้องนั้น สุดท้ายเขาก็มองไปรอบๆ และคิดว่านี่คือบรรยากาศของครอบครัวมาเฟียจริงๆ

เขาเห็นคนคนหนึ่งที่สไตล์คล้ายกับมาร์ลอน แบรนโดในภาพยนตร์ก็อดฟาเธอร์

การแสดงออกของเขา สงบ และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยสติปัญญา

ฮาร์ดี้รู้ได้ในทันทีว่าเขาคือวีโต้ คอร์เลโอเน หัวหน้าของครอบครัวคอร์เลโอเนซึ่งเป็นห้าครอบครัวหลักในนิวยอร์ก

เมื่อเห็นว่าบรรยากาศแย่ลงวีโต้ คอร์เลโอเนก็ยืนขึ้นและพูดว่า “เอาล่ะ! พวกคุณไปที่สนามข้างนอกและหาอะไรกินกันก่อน ส่วนซีเกลพวกเราเข้าไปคุยกันในห้องเถอะ”

ทุกคนออกไปข้างนอก ส่วนวีโต้ คอร์เลโอเนและซีเกลเข้าไปในห้องและนั่งคุยกัน

ส่วนฮาร์ดี้ก็ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น

ภายในห้อง

วีโต้ คอร์เลโอเนนั่งบนเก้าอี้ของเขาและมองไปที่ซีเกลที่นั่งอยู่ข้างๆ

เขาพูดด้วยเสียงที่แหบเล็กน้อย “คุณเห็นทอมมี่กับโคโลบอบไหม? พวกเขาเข้ามาคุยกับฉัน บอกว่าคุณกับเขากำลังลงทุนกับคาสิโนด้วยกัน และยังใช้เงินไปเป็นจำนวนมากอีกใช่ไหม?”

“เจมี่คุณก็เห็นว่ามันมีธุรกิจเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย และฉันก็ไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งอะไรกัน แต่คุณก็เห็น ในตอนนี้ภายในครอบครัวของมาเฟียนั้นมันไม่มั่นคงเลย พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเองและมีความต้องการ”

ซีเกลยักไหล่

“ฉันก็ไม่ได้โกหกพวกเขา แต่ฉันต้องการสร้างแหล่งท่องเที่ยวตามอุดมคติของฉัน และพวกเขาก็ใจร้อนเกินไปและคาดหวังที่จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าทำตามความคิดของฉัน ฉันบอกได้เลยว่าที่นั่นจะได้รับการพัฒนาอย่างแน่นอน”

“แน่นอนว่ามันจะไม่ใช่แค่ในคาสิโน แต่จะเป็นทั้งเมือง! ลาสเวกัสจะกลายเป็นสถานที่เดียวที่มีการพนันในสหรัฐอเมริกา นี่เป็นข้อได้เปรียบของฉัน!”

วีโต้รู้ดีว่าซีเกลเป็นคนดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็กๆ

“เอาล่ะ! ฉันเข้าใจความคิดของนายแล้ว ฉันก็หวังว่านายจะแก้ปัญหานี้ออกมาได้ออกมาน่าพอใจ อย่าให้มันกลายเป็นเรื่องยุ่งยากล่ะ และฉันจะบอกพวกเขาให้ว่า ให้อดใจรออีกสักนิด” วีโต้กล่าว

อันที่จริงนอกเหนือจากการอวยพรวันเกิดให้วีโต้ คอร์เลโอเนในครั้งนี้แล้ว

เขาก็รู้ดีว่าไม่สามารถขจัดความขัดแย้งนี้ได้

เขารู้ความคิดของซีเกลดีจากสติปัญญาของวีโต้

ซีเกลยิ้มและกล่าวว่า “แล้วก็…ฉันพาเด็กในสังกัดของฉัน มาทำความรู้จักกับนาย”

“โอ้ ใช่เด็กหนุ่มที่มากับนายไหม? นายพาเขามาที่งานวันเกิดฉันขนาดนี้แสดงว่านายคาดหวังกับเขามากใช่ไหม?” วีโต้กล่าว

“ใช่! เขาเป็นคนเก่งมาก นายได้ยินข่าวเกี่ยวกับการปล้นลอสแอนเจลิสเมื่อไม่นานมานี้ไหม?” ซีเกลถาม

“ฉันได้อ่านหนังสือพิมพ์และไปดูสารคดีมาแล้ว” เจ้าพ่อมาเฟียกล่าว

“บริษัทรักษาความปลอดภัยเป็นของเด็กคนนี้นี่แหละ เมื่อเขารู้ว่าธนาคารแห่งลอสแองเจลิสถูกกลุ่มโจรปล้น เขาเลยเริ่มวางแผนและเข้าไปคุยกับธนาคารแห่งอเมริกาพร้อมกับได้ค่าเหนื่อยได้ถึง 200,000 ดอลลาร์เลยล่ะ แถมยังได้รับความร่วมมืออีก และยังมีกรมตำรวจลอสแอนเจลิสที่เข้าร่วมความสัมพันธ์ในครั้งนี้ด้วย”

“ตอนนี้บริษัทรักษาความปลอดภัยของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในสหรัฐอเมริกา และสารคดีที่ฉายในอเมริกาเขาก็ยังสร้างกำไรจากมันได้ เขาทำให้บริษัทรักษาความปลอดภัยมีคนรู้จักมากขึ้น ด้วยชื่อเสียงตอนนี้เขาจะไม่มีวันขาดความร่วมมือในอนาคต”

“ซึ่งเพื่อนๆ ของเขาก็มีเจ้าหน้าที่รัฐบาลของลอสแอนเจลิส ผู้บัญชาการตำรวจ ประธานของธนาคารแห่งอเมริกา”

วีโต้คิดได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขาเป็นคนฉลาด รวดเร็ว มีเหตุผลที่ดี และไม่เคยปล่อยให้คนของเขาไปแตะต้องยาเสพติด แถมยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับวงการตำรวจและรัฐบาล

เขาเก่งมากในการเข้าถึงจิตใจผู้คน

และเขาก็ชอบคนที่มีสมอง

หลังจากที่ได้ยินซีเกลแนะนำฮาร์ดี้เขาก็เริ่มสนใจในตัวเด็กคนนี้ “ซีเกล เรียกเขาเข้ามาหน่อยสิ”

ซีเกลเปิดประตูและเรียกฮาร์ดี้

ฮาร์ดี้ก็เดินมาอย่างรวดเร็ว

เขาเดินเข้าไป

ฮาร์ดี้รู้สึกว่ามันมีกลิ่นอายของภาพยนตร์อยู่นิดหน่อย

“สวัสดีคุณคอร์เลโอเน ผมทอม ฮาร์ดี้นี่ของขวัญสำหรับคุณ และขออวยพรวันเกิดให้กับคุณครับ” ฮาร์ดี้สุภาพกับวีโต้มากและก็ยื่นของขวัญให้กับเขา

“ขอบคุณสำหรับของขวัญนะ เจ้าหนุ่ม”

วีโต้เห็นว่าเด็กคนนี้ไม่รู้สึกประหม่าเมื่อเจอเขา เพราะแม้แต่หัวหน้ามาเฟียหลายๆ คนหรือหัวหน้าหน่วยทหาร เมื่อเห็นเขาก็จะทำตัวเคร่งขรึมและประหม่าอยู่เสมอ

สิ่งนี่ทำให้เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าของเขาค่อนข้างน่าสนใจ

“เจมี่ บอกกับฉันว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยเป็นของคุณ และยังมีบริษัทภาพยนตร์ที่ทำกำไรอยู่ด้วยใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ผมชอบทำธุรกิจถูกกฎหมายมากกว่า” ฮาร์ดี้กล่าว

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เจ้าพ่อมาเฟียก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะสมาชิกมาเฟียส่วนมาก จะชอบทำธุรกิจใต้ดินมากกว่า

ทำไม?

เพราะมันได้เงินมาง่าย

การทำเงินกับธุรกิจถูกกฎหมายนั้นเป็นเรื่องยากอย่างมาก มันถูกครอบครองด้วยคนชั้นสูงเกือบหมด คนระดับล่างๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จ

แต่เจ้าหนุ่มข้างหน้าของเขา ซึ่งเติบโตในโลกใต้ดินกลับชอบทำธุรกิจถูกกฎหมาย

มันเป็นทางเลือกที่แปลก

ปาร์ตี้วันเกิดได้เริ่มขึ้น

เพื่อนๆ และญาติของเขาเริ่มอวยพรวันเกิด

สนามหน้าบ้านเริ่มมีชีวิตชีวามากขึ้น

แก๊งมาเฟียนั้นให้ความสำคัญกับครอบครัวอย่างมาก และตอนนี้ทุกๆ คนก็กำลังร้องเพลง เต้นรำ กินบาร์บีคิว กันอย่างสนุกสนาน

ซึ่งซีเกลได้พบเพื่อนเก่าของเขาสองสามคนและกำลังนั่งคุยกัน

ในสนามหญ้า

มีคนคนหนึ่งที่แยกตัวออกมาในสายตาของคนเหล่านี้

ฮาร์ดี้ เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่พวกเขาไม่คุ้นหน้าคุ้นตา เป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ ที่ไม่น่าสนใจ

ไม่มีใครเข้าไปคุยกับเขา

ฮาร์ดี้ได้เห็นใบหน้าของคนคุ้นหน้าคุ้นตาสองสามคนเช่น ลูกชายคนโตของเจ้าพ่อมาเฟีย ซันนี่ ลูกชายคนรอง เฟรดดี้ หัวสมองของเจ้าพ่อมาเฟียลุค บลาสซี และเจ้าอ้วนคลิมันชากับเทสซิโอ

และในที่สุด

ที่มุมมุมหนึ่งของลานสนามหญ้า

เขาก็เห็นร่างที่กำยำดูอ้างว้างเล็กน้อย

ฮาร์ดี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นใคร

ไมค์ คอร์เลโอเน

เขาดูไม่สนุกกับงานนี้เท่าไหร่นัก จากการสังเกตใบหน้าของเขา

เขายืนอยู่ตรงชั้นวางแก้วไวน์ และดูไม่มั่นใจอะไรเล็กน้อย

ฮาร์ดี้ครุ่นคิดอยู่สักครู่ และเดินไปหาพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ

“สวัสดี ฉันชื่อทอม ฮาร์ดี้” ฮาร์ดี้แนะนำตัวเอง

“หือ? ฉันชื่อไมค์…”

“คุณเป็นทหารหรือเปล่า?” ฮาร์ดี้ถาม

ไมค์รู้สึกแปลกใจ “คุณรู้ได้ยังไง?”

“บรรยากาศ ฉันเห็นบรรยากาศของทหารรอบๆ ตัวคุณ” ฮาร์ดี้กล่าว

คำพูดของฮาร์ดี้นั้นไม่จริงเลยสักนิด

เขานั้นเคยดูภาพยนตร์และรู้จักไมค์เป็นอย่างดี เขาแค่หาหัวข้อมาคุยกับไมค์เท่านั้นเอง

“คุณก็เคยเป็นทหารด้วยหรือเปล่า?” ไมค์ถาม

“ใช่! ผมอยู่ที่ค่ายนาวิกโยธิน และไปร่วมต่อสู้ที่ญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว แต่มันมีเหตุการณ์อะไรบางอย่าง เลยทำให้ผมได้รับบาดเจ็บและต้องเกษียณก่อนอายุน่ะ แล้วคุณล่ะ? คุณอยู่ที่ค่ายไหน?”

หลังจากที่ไมค์ได้ยินฮาร์ดี้บอกว่าเพิ่งเกษียณ เขาก็เริ่มสนใจและพูดว่า “ผมอยู่ค่ายกองทหารราบที่ 4 และได้ไปบุกที่นอร์ม็องดี และภายหลังก็เข้าร่วมสงครามเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ได้ออกมาเพราะอาการบาดเจ็บเหมือนกัน”

สถานการณ์ของทั้งสองคนคล้ายกันมาก

ทั้งคู่เคยเป็นทหารมาก่อน เลยทำให้พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว

..............................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด