ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 25 ฆ่าคนด้วยกระบี่เดียว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 27 ปรับแต่งหุ่นเชิด!

STY-ตอนที่ 26 ก้าวสู่อาณาจักรมหายาน!


พายุลูกนี้ค่อย ๆ สงบลง

แม้ว่า ศิษย์ที่มีพลังอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณหลายคนและผู้อาวุโสที่มีพลังขั้นปลายของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่าจะเสียชีวิตลงที่ด้านนอกนิกายอินทรีหิมะ ถึงพวกเขาทั้งหมดจะสามารถคาเดาได้ว่าเป็นการกระทำของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ แต่ เย่เฉิน ก็ได้จำกัดหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างหมดจน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของนิกายอินทรีหิมะก็ใกล้เคียงกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ หากพวกเขาต้องการเริ่มต้นสงครามกับ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ทั้งสองฝ่ายต่างก็จะประสบความสูญเสียอย่างหนักแน่นอน

ดังนั้น นิกายอินทรีหิมะ จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนความรู้สึกเกลียดชังเหล่านี้เอาไว้เท่านั้น

และภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ศิษย์เกือบทั้งหมด ได้พูดคุยเกี่ยวกับปรมาจารย์ยุทธ์ไร้ทัดเทียมในช่วง 2 วันที่ผ่านมา

ปรมาจารย์ยุทธ์ไร้ทัดเทียม เป็นอาจารย์ลุงของท่านประมุขนิกาย และ เกือบจะเป็นไอดอลของเหล่าศิษย์ทั้งหมดของ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากศิษย์พี่หญิงรองและศิษย์พี่หญิงสามแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว ปรมาจารย์ยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานก็คือ เย่เฉิน ที่มีอายุแค่ 11 ปี

ส่วน เย่เฉิน เขายังคงลงชื่อเข้าใช้อย่างเงียบ ๆ ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์…

เขาเกือบจะลงชื่อเข้าใช้ในสถานที่ส่วนใหญ่บนยอดเขาเฉินติงหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้มุ่งหน้าไปยังยอดเขาเทียนฉี

ปรมาจารย์ของยอดเขาเทียนฉีก็คือ จ้าวฉีหยาง

เขาเป็นผู้ฝึกฝนกระบี่และยังมีฐานพลังขั้นปลายของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

ดังนั้นศิษย์หลายคนบนยอดเขาเทียนฉีจึงเป็นผู้ฝึกฝนกระบี่

เย่เฉิน ได้หลบซ่อนตัวตนของเขาและแสร้งทำตัวเป็นศิษย์ของยอดเขาเทียนฉี โดยเขาได้แอบย่องเข้าไปในยอดเขาเทียนฉี

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่ศาลาเทศนากระบี่ของยอดเขาเทียนฉี คุณได้รับเทคนิคกระบี่ระดับสวรรค์ กระบี่ปราบปีศาจ!]

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่รูปแบบกระบี่เทียนฉีของยอดเขาเทียนฉี คุณได้รับ รูปแบบกระบี่พันเล่ม!]

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ห้องโถงเทียนฉีของยอดเขาเทียนฉี คุณได้รับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับพัน!]

เย่เฉิน ได้ลงชื่อเข้าใช้และได้รับเทคนิคบ่มเพาะพลังมามากมาย

เมื่อเขาลงชื่อเข้าใช้ เขาก็ได้รับเทคนิคบ่มเพาะพลังและเทคนิคต่อสู้ทุกประเภท

แต่ก็ใช่ว่า เย่เฉิน จะฝึกฝนพวกมันทั้งหมด เพราะว่าไม่ใช่ว่าเทคนิคที่เขาได้รับมาทั้งหมดจะเป็นเทคนิคระดับสวรรค์ขึ้นไป ส่วนใหญ่เขาลงชื่อเข้าใช้ ก็ได้รับ ระดับปฐพี หรือ มนุษย์ มาด้วย

ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้จมอยู่กับเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่เขาเลือกและพยายามเดินไปตามเส้นทางของเขาเอง

ยกตัวอย่างเช่น เทคนิค ‘กระบี่ปราบปีศาจ’

แม้ว่านี่จะเป็นเทคนิคระดับสวรรค์ แต่มันก็มีข้อกำหนดที่เข้มงวด

ถ้าใครอยากจะฝึกฝนเทคนิคนี้ จะต้องเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองก่อน

นอกจากนี้ เย่เฉิน ยังคงรอให้ศิษย์พี่หญิงสามของเขามาสอนเทคนิคองค์ประกอบลึกลับให้ หลังจากนี้ เขาก็จะได้เติมเต็มสัญญาเสียที

และแน่นอนว่าก่อนที่เขาจะเข้าใจเทคนิคเหล่านี้ เขาจะต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเขาและสร้างเต๋าของเขาขึ้นมา

แน่นอนว่ายังมีเทคนิคและการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังมากมายที่เขาต้องติดตามเพื่อฝึกฝน

และเนื่องจากพวกมันทั้งหมดเป็นระดับสวรรค์ มันจึงมีค่ามากพอให้ติดตาม

เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะมีเทคนิคระดับสวรรค์ด้อยไปกว่าผู้เชี่ยวชาญคนอื่น

ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้ฝึกฝนอยู่ที่มุมหลบซ่อนบนยอดเขาเทียนฉี

ในเวลานี้ ศิษย์ 2-3 คน ได้เดินผ่านไป

“นี่ พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของเรา?”ศิษย์คนนึงได้กล่าวถามออกมา

“อะไร หรือว่าเจ้ารู้?”ศิษย์อีกคนรีบกล่าวถาม

“ข้าเองก็ไม่รู้ แต่ข้าได้ยินมาว่าในคืนนึง มีศิษย์บางคนเห็นปรมาจารย์ยุทธ์ผู้นี้ ว่ากันว่ารูปลักษณ์ของปรมาจารย์ผู้นี้เป็น ปรมาจารย์ลัทธิเต๋าที่มีผมขาวและท่าทางใจดี อีกทั้งยังได้ยินว่าเขามีอายุมากกว่าพันปีแล้ว”

“นี่เรื่องจริง?”

“แน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องจริง ลองคิดดู ในตอนว่ากันว่าแม้แต่ผู้อมตะก็ไม่สามารถช่วยเทพธิดาของยอดเขาหยกอมตะได้ แต่หลังจากที่ปรมาจาร์ยุทธ์ท่านนี้เคลื่อนไหว เทพธิดาคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาในวันที่ 2 ถ้าไม่ใช่เพราะว่าท่านปรมาจารย์มีอายุมากกว่าพันปี เขาจะมีความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังเช่นนี้หรือไม่?”ศิษย์อีกคนได้กล่าวตอบกลับอย่างมั่นใจ

“ดังนั้นจะบอกว่า ท่านปรมาจารย์ยุทธ์ น่าจะเป็นผู้อมตะ?”

เย่เฉิน ที่ฟังจากด้านข้าง เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

เขาอายุเพียง 11 ปี แม้ว่าจะรวมช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาก็มีอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น ดังนั้น เขาจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าอายุพันปีได้อย่างไร?

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เย่เฉิน ก็ได้ยินบทสนทนาอีกครั้ง

บางคนบอกว่าเขาเป็นผู้อมตะที่มีชีวิตอยู่มาเป็นพันปี

บางคนบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่ใช้ชีวิตมาไม่ถึงร้อยปี

ที่น่าขำยิ่งกว่าก็คือ มีคนบอกว่าเขาเป็นตัวตนที่มาจากยุคเดียวกับประมุขนิกายคนแรก

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เย่เฉิน ก็สั่นศีรษะ

จากนั้นเขาก็ฝึกฝนต่อไปอย่างไร้กังวล

ลงชื่อเข้าใช้ ฝึกฝน ลงชื่อเข้าใช้ ฝึกฝน…

จากนั้นเขาก็กลับไปจีบเหล่าศิษย์พี่หญิงทุกวัน ซึ่งวันเวลาของเขาไม่เคยที่น่าจะเบื่อเลย

ฐานการบ่มเพาะพลังของ เย่เฉิน ก็ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ขั้นกลางของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า ขั้นปลายของอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า…

1 ปีต่อมา เย่เฉิน ประสบความสำเร็จในการทะลวงด่านอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่าและมาถึงอาณาจักรมหายาน

ในเวลานี้ เย่เฉิน ได้แซงหน้าแม่ของเขาไปแล้ว

แน่นอนว่าในขณะเดียวกัน จ้าวฉีหยาง ปรมาจารย์ยอดเขาเทียนฉี ก็ได้ทะลวงจากอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่าและเข้าสู่อาณาจักรมหายาน จนกลายเป็น ปรมาจารย์คนที่ 3 ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

ส่วน ประมุขนิกายอวี๋เซียว แห่ง ยอดเขาอวี๋เซียว เขาก็มาถึงขั้นกลางของอาณาจักรมหายานแล้ว

ด้วยความเร็วในการฝึกฝนของ เย่เฉิน เขาอาจจะแซงหน้าประมุขนิกายอวี๋เซียวได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

แน่นอนว่า ศิษย์พี่หญิงของเขาก็ได้ทะลวงด่านการบ่มเพาะพลังเช่นเดียวกัน

ในที่สุด มู่หรงชิงเสวี่ย ก็มาถึงอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่าจากช่วงปลายของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ ทุกคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ต่างตกใจที่ มู่หรงชิงเสวี่ย ได้บุกทะลวงไปยังอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า โดยพวกเขาคาดว่า มู่หรงชิงเสวี่ย น่าจะเป็น ผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่าที่ชาญฉลาดและมีอายุน้อยที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

เพราะแม้แต่ศิษย์หลักของอีก 3 ยอดเขา ก็ยังอยู่ในอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณเท่านั้น ซึ่ง มู่หรงชิงเสวี่ย ได้นำหน้าพวกเขาไปมากแล้ว

ศิษย์พี่หญิงสามของเขาก็ได้ไปถึงขั้นกลางของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณแล้ว

ศิษย์พี่หญิงสี่ ศิษย์พี่หญิงห้า ศิษย์พี่หญิงหก และ ศิษย์พี่หญิงเจ็ด ก็ได้มาถึงอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ

แม้ว่า ศิษย์พี่หญิงเจ็ด จะยังเด็ก แต่พรสวรรค์ของนางก็ไม่ได้แย่ นางในปีนี้มีอายุเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น แต่นางก็ไล่ตามศิษย์พี่หญิงของนางทันแล้ว และ ในเวลาต่อมานางจะต้องแซงหน้าศิษย์พี่ของนางอย่างแน่นอน

ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของ เย่เฉิน ด้วยพรสวรรค์ของศิษย์พี่หญิงเจ็ด เกรงว่านางคงจะกลายเป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ของ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

นางถือว่าตนเองเป็นหมายเลข 1 แค่พื้นผิวเท่านั้น เพราะนางชัดเจนในใจว่ายังมี เย่เฉิน ที่มีพรสวรรค์แข็งแกร่งกว่านางมาก

เย่เฉิน ในปัจจุบัน ได้มาถึงอาณาจักรมหายานแล้ว แต่เขาไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งให้ศิษย์พี่ของเขาเห็น เพราะถ้าพวกนางรู้ว่าเขาทะลวงด่านพลังเร็วเกินไป พวกนางจะสูญเสียความมั่นใจ

ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้ถือว่าตนเองเป็นผู้บ่มเพาะพลังขั้นปลายของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณมาโดยตลอด แม้แต่ แม่ของเขา เซียนหยกอมตะ ก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับอาณาจักรพลังที่แท้จริงของ เย่เฉิน

มันไม่ใช่แค่ฐานการบ่มเพาะพลังของเขาเท่านั้น

ศิษย์พี่หญิงของเขาก็มีพัฒนาการในด้านอื่น ๆ ด้วย

สำหรับ ศิษย์พี่หญิงเจ็ด นางไม่ได้เปลี่ยนไปเลย นางยังคงดูเยาว์วัยเหมือนเดิม

เพราะไม่ว่าอย่างไร ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเย่เฉินก็แก่กว่าเย่เฉินเพียงแค่ 2 ปี และ ในตอนนี้นางมีอายุเพียงแค่ 14 ปี ดังนั้นยังมีที่ว่างสำหรับนางที่จะพัฒนาในอนาคต ไม่เช่นนั้นนางก็คงดูเหมือนองค์หญิงในไข่ไปตลอดชีวิต

เย่เฉิน ได้ลงชื่อเข้าใช้เพื่อฝึกฝนทุกวันที่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ และ ช่วงชีวิตของเขาก็สบายเป็นอย่างมาก

“เย่เฉินมาประลองกับข้า ครั้งนี้ข้าจะเอาชนะเจ้าให้ได้!”ศิษย์พี่หญิงเหยาเหยา ได้มาหา เย่เฉิน และ ชี้นิ้วมาที่เขา

ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาตอนนี้ได้อยู่ในขั้นกลางของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณแล้ว แต่ เนื่องจาก เย่เฉิน มักจะคิดว่าตัวเองอยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณเท่านั้น ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาจึงมักจะท้าทาย เย่เฉิน

นับตั้งแต่ชัยชนะครั้งแรกของ เย่เฉิน ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาก็ไม่เคยเอาชนะเขาได้แม้แต่ครั้งเดียว แต่คราวนี้ นางต้องการเอาชนะ เย่เฉิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ทว่า สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือ ตอนนี้ เย่เฉิน มีฐานพลังในอาณาจักรเดียวกับประมุขนิกายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แล้ว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด