ตอนที่แล้ว(ฟรี)ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 99 สองปะทะหนึ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 101 ความสามารถในการต่อสู้ของธีอา

(ฟรี)ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 100 ความเงียบสงบก่อนพายุ


ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 100 ความเงียบสงบก่อนพายุ (ฟรี)

มีกลุ่มคนมากกว่าห้ากลุ่มกำลังวิ่งไปที่ร้านค้า และทั้งหมดมียอดฝีมือขอบเขตที่ 7  ระดับจักรพรรดิเป็นผู้นำของตน กลุ่มผู้ฝึกตนดังกล่าวย่อมทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่แม้แต่ในจักรวรรดิซิลเวอร์วิง

ยอดฝีมือระดับสูงของตระกูลขุนนางรู้สึกได้ถึงความผันผวนอย่างรุนแรงที่อยู่ภายในร้านของจิ่วเซิน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปแทรกแซง แน่นอนว่ายอดฝีมือเหล่านั้นเป็นคนที่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่มากมาย ทำได้เพียงมองอย่างกังวลเท่านั้น

ในพื้นที่ของตระกูลเสวี่ย

ผู้อาวุโสยืนอยู่บนยอดตึกที่สูงที่สุดในอาณาเขตของตระกูลเสวี่ย เขาสวมเสื้อคลุมสีดำพร้อมตราสัญลักษณ์ของตระกูลเสวี่ยที่ปักอยู่ด้านหลัง ผู้อาวุโสดูเหมือนจะอยู่ในห้วงความคิดอันลึกซึ้ง แต่หลังจากนั้น เขาก็ยิ้มเยาะออกมาขณะมองไปยังทิศทางที่มาของความวุ่นวายที่กำลังเกิดขั้น นี่คือผู้อาวุโสหมิง ผู้อาวุโสของตระกูลเสวี่ยที่ฝึกฝนนักฆ่าดาบทั้งห้าคน!

“หลังจากเหตุการณ์นี้ จักรวรรดิซิลเวอร์วิงทั้งหมดจะต้องรู้ความจริงของข่าวลือที่อยู่รอบตัวเจ้าอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้เจ้าจะโชคดีพอที่จะรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ ข้าก็จะไปหาเจ้าและปลิดชีพเจ้าเอง! นั่นคือตอนที่ชายชราผู้นี้จะทำให้โลกตะลึงด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว คิคิคิ!” ร่างของผู้อาวุโสหมิงกลายเป็นควันดำและหายไปในอากาศ

...

ภายในห้องบัลลังก์ พระราชวังของจักรวรรดิปีกสีเงิน

“ฝ่าบาท ข้าแนะนำให้เราส่งกำลังเสริมไปช่วยเหลือปรมาจารย์ไวน์จิ่ว แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา แต่เราอาจได้รับความโปรดปรานจากเขาหากเราให้ความช่วยเหลือแก่เขาในยามยากลำบากเช่นนี้” ผู้พิทักษ์ต้วนมู่แนะนำขณะที่คุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดิ

จักรพรรดิเอลิกนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ดูเหมือนว่าจักรพรรดิองค์นี้จะต้องเคลื่อนไหวเองในครั้งนี้” จักรพรรดิเอลิกคือยอดฝีมือระดับสูง เป็นเวลานานแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เขาได้แสดงความแข็งแกร่งให้โลกได้เห็น ดังนั้นเขาจึงรู้สึกค่อนข้างตื่นเต้นกับความคิดที่จะต่อสู้กับผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ในระดับเดียวกันกับเขา

ปากของผู้พิทักษ์ต้วนมู่อ้าออกเมื่อเขาได้ยินคำพูดของจักรพรรดิและอดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง “ฝ่าบาท...”

จักรพรรดิโบกมือตัดบทคำพูดของผู้พิทักษ์ต้วนมู่ “ถึงเวลาที่ข้าจะแสดงความแข็งแกร่งอีกครั้งเพื่อปราบหัวใจอันละโมบของผู้ที่ต้องการครอบครองบัลลังก์แล้ว! ต้วนมู่ เตรียมชุดเกราะและดาบสีเงินของข้า! เราจะไปช่วยปรมาจารย์ไวน์จิ่ว!” จักรพรรดิเอลิกลุกขึ้นจากบัลลังก์และสั่งด้วยเจตนาต่อสู้ที่ลุกโชน

ผู้พิทักษ์ต้วนมูรู้สึกได้ถึงเลือดที่กำลังเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้นเมื่อเขาได้ยินคำพูดของจักรพรรดิ นี่คือชายผู้ที่เคยนำความหวาดกลัวมาสู่จักรวรรดิใกล้เคียง ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว!

ผู้พิทักษ์ต้วนมู่รีบยืนขึ้นและคำนับจักรพรรดิด้วยท่าทางอารมณ์ดี “น้อบรับบัญชา ฝ่าบาท!”

...

ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งหลายสิบคนได้มาที่นี่ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา...

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของจิ่วเซินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาถูกเคยห้อมล้อมไปเซียนที่แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วยในชีวิตที่ผ่านมา แต่เขายังสามารถหลบหนีได้ภายใต้จมูกของพวกเขา มีเพียงจักรพรรดิแห่งสวรรค์เหล่าโกวเท่านั้นที่ได้จับจิ่วเซินโดยการใช้หอคอยผนึกเทพและผนึกให้จิ่วเซินไม่สามรถขยับได้เท่านั้น

‘ข้าอาจสามารถฝึกฝนคนของข้าโดยใช้แมลงวันที่น่ารำคาญเหล่านี้ก็ได้’ เขาพึมพำกับตัวเอง

“ท่านหญิงลู่ พวกเรามาช่วยท่านในการต่อสู้!” เสียงที่ดุร้ายดังก้องไปทั่วบริเวณ ทำให้ทุกคนหันไปมองผู้กล่าว ซึ่งจะเป็นใครไปได้นอกจากหูเซียนเต๋า?

ข้างหลังเขาคือยอดฝีมือขอบเขตที่ 6 ระดับราชา และคนเถื่อนสองคนที่เขาพามาด้วย ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่ 4 ระดับอัศวินครูเซเดอร์ หูเซียนเต๋าไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าร่วมการต่อสู้ แม้ว่าเขาจะเป็นดุร้าย แต่เขาก็ไม่ใช่คนงี่เง่าที่จะส่งคนของตัวเองไปตายอย่างโง่เขลา

หลังจากการมาถึงของกลุ่มของหูเซียนเต๋า ยอดฝีมือคนอื่น ๆ ก็หยุดนิ่งในขณะที่มองดูกันและกันอย่างระมัดระวัง พวกเขาทั้งหมดมาที่นี่เพื่อสิ่งเดียวกัน

ลู่ซูหลัน ขานเย่และผู้อาวุโสทั้งสามจากนิกายซากศพที่กำลังต่อสู้อยู่ก่อนหน้านี้ก็ตัดสินใจหยุดการต่อสู้ชั่วคราว

ทุกคนรู้ว่านี่คือคลื่นที่เงียบสงบก่อนการต่อสู้ครั้งใหญ่!

ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนมี่สวมชุดคลุมสีชาดที่ดูธรรมดาก็ก้าวไปข้างหน้าและชำเลืองมองทุกคนด้วยท่าทางที่เป็นมิตร การเคลื่อนไหวของเขาไม่สามารถหลุดรอดไปจากสายตาของทุกคนได้ ทุกคนมองเขาด้วยความสงสัย “สหาย ข้ารู้ว่าพวกเราทุกคนมาที่นี่เพื่อต้นมังกรกำเนิดปฐพี” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ แต่คำพูดของเขาทำให้ยอดฝีมือทุกคนขมวดคิ้วทันที

หลังจากที่เห็นว่าเขาได้เรียกความสนใจของทุกคนแล้ว ชายคนนั้นก็ยิ้มและพูดต่อ “ข้าผู้นี้คือเส้าเฝินฮวาจากนิกายตะวัดสีชาด ข้ามีข้อเสนอแนะและข้าหวังว่าทุกท่านจะพิจารณาข้อเสนอนี้อย่างรอบคอบ” เสียงของเขานั่นเต็มไปด้วยความมั่นใจในขณะที่เขาพูด

ต้าไป๋เหลือบมองชายในชุดคลุมสีชาดอย่างระมัดระวังและพูดด้วยท่าทางสงสัย “พี่ชายท่านนี้ ข้าสงสัยว่าท่านมีความคิดอย่างไร”

ต้าไป๋เป็นยอดฝีมือขอบเขตที่ 7 ระดับจักรพรรดิขั้นสูงสุด แต่เขาไม่สามารถระบุระดับการบ่มเพาะของชายในชุดคลุมสีชาดได้

เส้าเฝินฮวายิ้มและตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เราทุกคนทราบดีว่าร้านนี้มียอดฝีมือระดับสูงคอยปกป้อง ดังนั้นข้าหวังว่าทุกท่านจะไม่แทงหลังกันและร่วมมือเป็นพันธมิตรกันเพื่อบุกเข้าไปในร้านชั่วคราว”

กลุ่มยอดฝีมือบ่นพึมพำ แต่ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาได้ยินว่าร้านแห่งนี้มียอดฝีมือที่แข็งแกร่งปกป้องอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจโดยไม่ลังเลอีกต่อไป พวกเขาเห็นด้วยกับคำแนะนำของเส้าเฝินฮวาในทันที

“ข้าเห็นด้วย แต่ใครจะเป็นคนนำต้นมังกรกำเนิดปฐพีไป” มีคนถามคำถามที่ค้างอยู่ในใจของทุกคน อันที่จริง หากทุกคนร่วมมือกัน แล้วใครมีสิทธิ์อ้างความเป็นเจ้าของต้นมังกรกำเนิดปฐพี?

เส้าเฝินฮวาหัวเราะและตอบ “แน่นอนว่ามันจะเป็นของใครก็ตามที่ได้รับมันก่อน” เขารู้ว่ามีต้นไม้มังกรกำเนิดปฐพีถึงสี่ต้นอยู่ในร้านของจิ่วเซิน แต่เขากำลังคิดจะปล้นชิงมาเป็นของตนเองทั้งหมด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด