ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 18 ทำลายอนุสรณ์หินด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 20 ศิษย์น้องไม่อยากจะฝึกฝนเทคนิคองค์ประกอบลึกลับงั้นหรือ?

STY-ตอนที่ 19 ทำกลายเกมกระดานและกลายเป็นอาจารย์อาของประมุขนิกาย


เยี่ยเจิ้งชุน ผู้อาวุโส และ เหล่าศิษย์ของ ยอดเขาเฉินติง ได้มองไปที่ เศษซากของอนุสรณ์ที่พังทลายลงมาอยู่ตรงหน้าของพวกเขา

อีกอย่างจะต้องรู้ว่า อนุสรณ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แห่งนี้เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง มันได้ถูกทิ้งไว้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์มานานหลายปี เพื่อให้เหล่าศิษย์ใช้มันทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเขา แน่นอนว่าสภาพของมันยังคงสมบูรณ์พร้อมมาโดยตลอด จนกระทั่งตอนนี้ มันได้พังทลายลงมาและกลายเป็นเศษซากก้อนหินที่แตกหักจำนวนมาก

“ใครกันที่เป็นคนทำลายอนุสรณ์แห่งโชคชะตานิรันดร์อันนี้?”ผู้อาวุโสคนนึงได้อุทานออกมา

ในขณะนี้ ปรมาจารย์ของยอดเขาเฉินติง ได้สั่นศีรษะและตอบกลับ “ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างไม่ต้องสงสัย!”

ทุกคนดูตกใจมาก

ความแข็งแกร่งที่มากกว่า 20 ล้านจิน เป็นสิ่งที่มีแต่ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่ทำได้เพราะพวกเขาเหล่านี้ มีพละกำลังที่สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาและแยกน้ำทะเลได้

“ดูเหมือนว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญหลบซ่อนตัวอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของพวกเรา!”

หลังจากเกิดเรื่อง เย่เฉิน ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

ในวันต่อมา เขาได้ไปที่สถานที่ต่าง ๆ บนยอดเขาเฉินติง เพื่อลงชื่อเข้าใช้

แน่นอนว่าเขาได้กระทำเรื่องพวกนี้อย่างลับ ๆ และ ได้ปลดปล่อยสัมผัสทางจิตวิญญาณของเขาเพื่อดูว่ามีใครอยู่ใกล้สถานที่เหล่านี้หรือไม่ก่อนที่เขาจะมาถึง

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่สระโบราณบนยอดเขาเฉินติง ได้รับเทคนิคอมตะนิรันดร์!]

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่ด้านบนสุดของยอดเขาเฉินติง ได้รับแกนทองคำที่ระลึก!]

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่รูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ของยอดเขาเฉินติง ได้รับเทคนิคร่างแปลงปีศาจ!]

เย่เฉิน ได้ลงชื่อเข้าใช้วันละครั้ง และ เขาก็ได้รับรางวัลที่แตกต่างกันในทุกวัน

เย่เฉิน ค้นพบว่า แม้ว่าเขาจะลงชื่อเข้าใช้สถานที่เดิมได้หลายครั้ง แต่รางวัลในการลงชื่อเข้าใช้สถานที่นั้นครั้งแรกมักจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด และ รางวัลจากการลงชื่อเข้าใช้ในภายหลังก็จะเป็นของรองลงมา

ยกตัวอย่างเช่น ในพระราชวังหยกอมตะ ที่เขาลงชื่อเข้าใช้นับครั้งไม่ถ้วน ถ้าเขาไปลงชื่อเข้าใช้ในตอนนี้ เขาจะได้รับเพียงแค่โอสถทิพย์หรือเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่ไม่เป็นประโยชน์บางอย่าง

ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสถานที่ใหม่และลงชื่อเข้าใช้พวกมัน

ในปัจจุบัน เย่เฉิน ที่กลายร่างเป็นเด็กหนุ่มอายุ 17-18 ปี เขาได้มาที่ลานบนยอดเขาเฉินติง

เย่เฉิน ไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้

เขามองเห็นต้นไม้ที่สูงตระหง่านเติบโตในลานบ้าน โดยต้นไม้เหล่านี้ได้โค้งงอราวกับว่ามีประวัติยาวนานกว่าพันปี

และใต้ต้นไม้ก็มีกระดานหมากรุก

หลังจากตรวจสอบว่าไม่มีใครอยู่ในพื้นที่โดยรอบ

เย่เฉิน ก็ค่อย ๆ มาถึงที่ด้านหน้ากระดานหมากรุก

เย่เฉิน สัมผัสได้ถึงรัศมีเต๋าที่ยิ่งใหญ่ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงได้วางแผนลงชื่อเข้าใช้ในสถานที่แห่งนี้

แต่ทว่าในตอนนี้ เขาตระหนักได้ว่ากระดานหมากรุกอันนี้ค่อนข้างลึกลับมาก

เย่เฉิน ที่ติดตามศิษย์พี่หญิงห้าของเขา เขาได้เรียนรู้ พิณ หมากรุก การประดิษฐ์อักษร และ การวาดภาพ และ ครั้งนึงเขาเคยลงชื่อเข้าใช้และได้รับคู่มือการเล่นหมากรุกที่มีชื่อว่า ‘สูตรอี้ชิง’ มา มันเกี่ยวข้องกับเกมหมากรุกในตำนานที่ผู้ทรงอำนาจใช้จักรวาลเป็นกระดานและใช้ดวงดาวเป็นตัวหมากรุก

ดังนั้น เย่เฉิน ที่ได้ศึกษาหนังสือหมากรุก ทักษะการเล่นหมากรุกของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทักษะการเล่นของ เย่เฉิน เหนือกว่า ศิษย์พี่หญิงห้า หลี่จื่อหยาน ที่รู้จักกันในฐานะผู้เล่นหมากรุกอันดับ 1 ของดินแดนแห่งโชคชะตานิรันดร์ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ทำให้ศิษย์พี่หญิงห้าของเขาต้องอับอาย เย่เฉิน มักจะจงใจแกล้งแพ้เกมทุกครั้งที่เขาประลองหมากกับศิษย์พี่ของเขา

ทันทีที่ เย่เฉิน มาถึงใต้ต้นไม้

เกมหมากรุกนี้ก็ได้ดึงดูดเขาในทันที

เย่เฉิน สังเกตุเห็นว่า เกมหมากรุกนี้ดูลึกลับมาก โดย หมากสีดำ และ หมากสีขาวได้จับคู่กันอย่างเท่าเทียม

แต่หมากสีดำ ได้กินหมากสีขาวและก้าวล้ำนำหน้าไป 1 ก้าว

พูดตามหลักและเหตุผลแล้ว หมากสีขาวไม่มีทางรอด ดังนั้น มันจึงเป็นฝ่ายแพ้เกม

อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของ เย่เฉิน หมากสีขาวยังไม่ได้แพ้ มันยังคงมีที่ว่างสำหรับการแก้เกมอยู่

ตราบใดที่ หมากสีขาววางอยู่ในตำแหน่ง 4/13 มันจะสร้างทางรอดให้กับหมากสีขาว และ เปลี่ยนจากความพ่ายแพ้กลายเป็นชัยชนะในทันที โดยหมากสีขาวจะเอาชนะหมากสีดำ 1 ใน 4 ของตัวหมากทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ใครเล่าจะสามารถคิดกลยุทธ์แบบนี้ได้?

เย่เฉิน ได้สั่นศีรษะและยิ้ม จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ นั่งลงพร้อมกับยกหมากสีขาวขึ้นและวางมันไปที่ตำแหน่ง 4/13 ทันที

ในเวลานี้ กระดานหมากรุกก็ได้ส่องแสงสว่างเจิดจ้า และ รัศมีพลังหลากสีสันก็ได้ปลดปล่อยออกมาจากกระดานหมากรุก

ทันใดนั้น ชายชราที่ดูเหมือนกับภูติผีก็ได้ลอยออกมาจากกระดาน

โดยเขาได้จับจ้องไปที่กระดานหมากด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นในดวงตาของเขา

“ผ่านไป 1,000 ปีแล้ว!”

“ในที่สุด ก็มีคนแก้เกมกระดานหมากรุกนี้ได้สักที!”

ชายชราได้คร่ำครวญและพึมพัมออกมา

ซึ่ง เย่เฉิน ในปัจจุบัน ได้มองไปที่ ชายชรา ด้วยสีหน้าที่งงงวย

ชายชราได้เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ชายหนุ่มที่เป็นคนแก้เกมกระดานหมากรุกอันนี้ได้ ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกประหลาดใจและแทบจะไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง

“เจ้า…มี อายุเพียงแค่ 11 ปีเองงั้นหรือไม่?”ชายชราได้มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถาม

เย่เฉิน รู้สึกตกใจมาก อนึ่งคือจะต้องรู้ว่าเขากำลังปลอมตัวเป็นชายหนุ่มอายุ 18-19 ปี แต่ชายชราคนนี้กลับสามารถบอกอายุที่แท้จริงของเขาได้อย่างรวดเร็ว

สิ่งนี้ทำให้ เย่เฉิน พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

ในขณะนี้ชายชราก็หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ฮ่าฮ่าฮ่า…เกมหมากรุกที่ข้าแก้ไม่ได้มาทั้งชีวิตกลับกลายเป็นว่ามีเด็กอายุเพียงแค่ 11 ปีสามารถแก้มันได้! นี่มันคือโชคชะตา มันเป็นพรหมลิขิตอย่างแท้จริง!”

ชายชราได้หัวเราะอย่างขมขื่น เขามองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวต่อ “เด็กน้อย เจ้าไม่จำเป็นจะต้องกลัว ข้าคือประมุขนิกายรุ่นที่ 3 ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์และหมกมุ่นอยู่กับกระดานหมากรุกมาทั้งชีวิต อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปในตอนนั้น ข้าได้แพ้ราชาหมากรุกอมตะซิวจื่อ ครึ่งก้าว ต่อมา ข้าได้อุทิศทั้งชีวิตที่เหลือในการแก้ปัญหาในเกมนี้ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถทำได้”

“โดยข้าได้ทิ้งเกมหมากนี้ไว้ข้างหลังโดยหวังว่าคนรุ่นต่อไปจะสามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ แต่ข้าไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะไม่มีใครสามารถแก้เกมนี้ได้ตลอดในช่วงพันปีที่ผ่านมา จนกระทั่งมาพบเจ้า…ในที่สุดความปราถนาของข้าก็สำเร็จเสียที”

ในขณะนี้ หยกอุ่น ๆ ก้อนหนึ่งได้ควบแน่นขึ้นมาจากกระดานหมากและค่อย ๆ ลอยลงมาตกอยู่ในมือของ เย่เฉิน

“ครั้งนึงข้าเคยพูดเอาไว้ว่าถ้าใครสามารถทำลายเกมกระดานนี้ได้ ข้าจะให้เขากลายเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เขาจะนับเป็นคนรุ่นเดียวกับข้า และ ข้อจำกัดทั้งหมดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์จะไม่ผูกมัดเขา”

“จี้หยกนี้ก็คือสัญลักษณ์แทนตัวตน ดังนั้นนับแต่นี้เป็นต้นไป แม้แต่ประมุขนิกายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ก็ยังต้องฟังคำสั่งของเจ้าหลังจากเห็นจี้หยกชิ้นนี้!”

เย่เฉิน รู้สึกตกใจเมื่อได้ยิน

ชายชราคนนี้อ้างตัวว่าเป็นประมุขนิกายรุ่นที่ 3 ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ โดย ประมุขนิกายคนปัจจุบันของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ก็คือ อวี๋เซียว เขาเป็น ประมุขนิกายรุ่นที่ 4 ถ้าเกิดว่าเขาถูกนับเป็นคนรุ่นเดียวกับประมุขนิกายรุ่นที่ 3 เช่นนั้น ถ้าเกิดเขาแสดงจี้หยกอันนี้ และ ถ้า อวี๋เซียว เห็นเขา อีกฝ่ายยังต้องเรียกเขาว่าอาจารย์อา?

เย่เฉิน ไม่กล้าที่จะจินตนาการ

เย่เฉิน ได้โค้งคำนับผู้อาวุโสผี โดย ผู้อาวุโสผีได้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและหัวเราะขึ้นในทันที “ความปราถนาของข้าบรรลุผลแล้ว ในที่สุดข้าก็จะได้จากไปอย่างสงบเสียที!”

หลังจากที่ชายชราพูดจบ ร่างของเขาก็ค่อย ๆ หายไปต่อหน้าของ เย่เฉิน

เย่เฉิน ได้เก็บจี้หยกกลับไปและเริ่มลงชื่อเข้าใช้

“ลงชื่อเข้าใช้!”

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่ลานของประมุขนิกายรุ่นที่ 3 บนยอดเขาเฉินติง คุณได้รับรางวัลเป็นเป็นพลังเหนือธรรมชาติ หัตถ์สวรรค์!]

[เมื่อคุณบ่มเพาะพลังจนถึงอาณาจักรมหายาน หัตถ์สวรรค์ของคุณสามารถบดขยี้และทำลายปฐพีได้!]

เย่เฉิน รู้สึกตกใจกับพลังเหนือธรรมชาตินี้

หลังจากที่ย่อยพลังเหนือธรรมชาติและจดจำวิธีการฝึกฝน เขาก็ออกจากสถานที่แห่งนี้ในทันที

ยอดเขาอวี๋เซียว

ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้ลืมตาตื่นขึ้น และ เขาได้ผละออกจากการทำสมาธิ

เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก “มีคนทำลายเกมกระดานนั่นได้แล้ว?”

ในเวลานี้ เขาได้มองดูป้ายวิญญาณของอาจารย์ของเขาและกล่าวออกมา “ท่านอาจารย์ ในที่สุดความปราถนาของท่านก็สำเร็จสักที!”

จากนั้น เขาก็ลุกขึ้นและเดินไปยังพื้นที่โดยรอบ

“เมื่อ 3 ปีก่อน มีปรากฏการณ์ความคิดเดียวสยบสัตว์ร้ายทั้งหมดเกิดขึ้นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์!”

“การฝึกฝนในหอคัมภีร์ก็ได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์สวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัว!”

“3 ปีต่อมา อนุสรณ์โบราณก็มาพังทลายลง และ ยังมี เกมกระดานที่ไม่มีใครเคยทำลายได้มาก่อนอีก ถ้าทั้งหมดนี้ ถูกกระทำโดยคน ๆ เดียว มันจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของเราจะมีผู้เชี่ยวชาญที่หลบซ่อนตัวตนอยู่?”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด