ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 2 Fall out

EP 1 Game Leveling Reality Invincible  


Game Leveling Reality Invincible  

EP 1  (โลกหลัก)

แปลโดย วังวน

ในช่วงยามค่ำคืนบริเวณบันไดซอกบันไดแคบๆแห่งหนึ่ง หน่านเซียวค่อยๆเดินขึ้นมาบันไดมาอย่างละขั้นด้วยความเหนื่อยล้า

  ตอนนี้เขามาหยุดที่ชั้น 16 ในเวลานั้นเขาเองรู้สึกเหมือนกับว่าขาของเขาหลุดออกจากตัวด้วยความเมื่อยล้า

  โชคร้ายมากสำหรับวันนี้ ลิฟต์ที่เขาใช้ขึ้นมาเป็นประจำเกิดพังอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาเองจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินขึ้นบันไดมาแทน อีกทั้งระหว่างไฟกริ่งที่ติดอยู่บริเวณบันไดก็เกิดเสียขึ้นมาอีกจนแทบจะมองไม่เห็นทาง

  เมื่อมาถึงหน้าห้องเขาพักประตูอย่างสุดแรง และพึงคิดได้ว่าเขาเองยังไม่ได้ทานข้าวในเวลานั้นท้องของเขาก็ร้องขึ้นมาในทันที

  เมื่อเปิดดูข้าวสารในห้องก็พบว่าเหลือข้าวสารอยู่ก้นหม้อซึ่งมันไม่มากพอที่จะเอามาหุ้งด้วยซ้ำ และดูเหมือนในตู้เย็นเองก็ไม่เหลืออะไรที่พอจะนำมาปรุงอาหารได้เลย

  ในเวลานั้นมีแมวดำซึ่งเป็นแมวที่เพื่อนบ้านเลี้ยงไว้ มันมาตะกุยมุ่งลวดบริเวณระเบียงห้องเพื่อมาขอเศษปลาแห้งที่เหลืออยู่ในห้องของหน่านเซียว

  หน่านเสี่ยวเหลือบมองมันอย่างไรอารมณ์ แลหยิบเศษอาหารที่เหลือมอบให้มัน

  ตอนที่ฉันเปิดกล่องจดหมายที่ชั้นล่างภายในนั้นมันเต็มไปด้วยบิลต่างๆมากมาย ทั้งค่าไฟ ค่าน้ำ ใบแจ้งหนี้ต่างๆ และก็ร่วมถึงใบแจ้งหนี้สำหรับบริจาคเงินกิจกรรมสาธารณกุศลด้วย และดูเหมือนหนี้ก่อนใหญ่ที่สุดก็น่าจะเป็นค่าเทอมที่ มันระบุจำนวนเงินไว้ 380,000 หยวนนี้คือค่าเทอมที่ทางโรงเรียนได้ลดให้แล้วเป็นกรณีพิเศษ อีกทั้งทางโรงเรียนแจ้งว่าหากชำระเงินไม่เสร็จภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม สถานะการเป็นนักเรียนของฉันจะถูกยกเลิกอีก

 ปวดหัวจริงๆเลยการไม่มีเงินเนี่ย

แต่เรื่องเงินก็ยังไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายที่สุดของหน่านเซียว สิ่งที่ลำบากที่สุดคือใบประกาศสอบภาษาอังกฤษ เขาจำได้ว่า: ทางโรงเรียนได้มีประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าทุกคนที่ต้องการสอบเข้าวิทยาลัยต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษระดับโทอิคก่อน

โดยที่ทางกระทรวงการศึกษาษเพิ่งจะปรับปรุงหลักสูตรการสอบเข้า โดยกำหนดให้คะแนนโทอิคเป็นหนึ่งในมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับการสอบเข้า หากคะแนนไม่เพียงพอจะไม่รับรู้คุณสมบัติสำหรับการสอบคัดเลือกร่วม

  ตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม การเรียนที่หน้าปวดหัวที่สุดของหน่านเซียวก็คือภาษาอังกฤษ ซึ่งเขาเองเป็นพวกหัวสมองขี้เลื่อยเลยก็ว่าได้กับด้านภาษา

  ถ้าไม่ใช่เพราะภาษาอังกฤษเป็นอุปสรรค การสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ถือว่าไม่ยากมากสำหรับเขา แต่เมื่อมีการสอบภาษาอังกฤษเข้ามาทุกอย่างที่หน่านเซียววางแผนไว้ก็จบลงทันที

  เมื่อหน่านเซียวมาไตรตร่องดูดีๆแล้ว ก็พบว่า อันที่จริงในรายวิชาอื่นๆฉันเองก็ไม่ได้ทำได้ดีสักเท่าไรหรอกนะ ฉันนี้มันเป็นโง่จริงๆเลย

  ทำไมฉันไม่มีหัวสมองอัจฉริยะ ทำให้สามารถเรียนภาษาอังกฤษได้เข้าใจอย่างท่องแท้ในเวลาสั้นๆบ้างล่ะ? ถ้าเป็นไปถ้าฉันทำได้จริงๆฉันเองก็อยากเก่งเท่ากับเจ้าของภาษาเลย!

  ติ้ง เสียงจากที่ไหนก็ไม่รู้บอกว่าระบบเกมของจักรวาลคู่ขนานทำการซิงค์โคไนส์เป็นที่เรียบร้อย และตั้งแต่วันนี้ คุณสามารถสำรวจโลกของเกมได้ตามความปรารณนาของคุณ

  เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? เสียงนั้นมันดังมาจากไหนกัน?

  หน่านเซียวคิดว่าเขาคงจะหูแววไปเพราะเขาคงจะหิวมาก เลยเกิดอาการประสาทหลอนได้ยินเสียงบางอย่าง

  อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่อาการหูแววอย่างแน่นอน หลังจากนั้นไม่นานหน่านเซียวก็สะอึกความรู้ตอนนี้เหมือนมีอะไรเข้ามากระทบกับสมองของเขาและมีข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามา ปรากฎว่าในจักรวาลคู่ขนาน โลกที่เกมปรากฎขึ้นมาจริง ระบบนี้สามารถช่วยให้เขาเดินทางไปยังโลกของเกมต่าง ๆ ตามที่เขาปรารณนาได้ตามต้องการ

  ติง เสียงพูดดังอีกครั้ง ความปรารถนาของโฮสต์ดำเนินการตรวจสอบ และความเป็นไปได้ของตรรกะกำลังถูกคำนวณ...

  หลังจากการผลการคำนวณเสร็จสิ้น ความเป็นไปได้ระบบกำลังดำเนินการออกแบบ... ระบบกำลังดำเนินการสร้าง

  นี้มันไม่ใช่ภาพหลอน?

  เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จู่ๆ ก็มีม่านแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นตรงหน้าของหน่านเซียว ดูเหมือนหน่านเซียวเองเขาก็จะรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่น้อย

  เขาเดินผ่านจุดโกลด์ เขาไปยังห้องนิรภัย 101  นี่มันอะไรกันเนี่ย?

  ดูเหมือนจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรเลย...

  ทันใดนั้น มีแสงสีขาววาบปรากฎขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง และทุกอย่างมันก็สว่างไปหมด – อะไรกัน แสงพวกนี้มันคืออะไร?

  หน่านเซียวค่อย ๆ กลับมามองเห็นตรงหน้าอีกครั้ง

  อากาศมีกลิ่นเหม็นอับจะพุ่งเข้าจมูก ตรงหน้าของเขาคือเพดานโลหะทึบ ดูเหมือนเขากำลังนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง เขาก็ลุกขึ้นนั่งทันทีและพบว่าตัวเองอยู่ในห้องเล็กๆ

  มันเป็นเพียงห้องโทรมๆที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สมัยโบราณ สไตล์ของมันเหมือนหนังไซไฟช่วงยุดทศวรรษ 1960 ของสหรัฐอเมริกา เตียงนั้นเป็นเตียงเหล็ก ตู้เสื้อผ้าเองก็ยังเป็นตู้เหล็ก ทุกอย่างดูดิบไปหมด

  นี่ไม่ใช่โลกของเกมไซไฟยุคคลาสสิก "ฟอลเอาท์" ใช่ไหม เลย์เอาต์ของห้องตรงหน้นั้นเป็นสไตล์การตกแต่งของที่พักใต้ดินอย่างชัดเจน ในฐานะคนที่เล่นเกมมาอย่างยาวนานนี้น่าจะเป็นหลุมหลบภัย สถานี B  หน่านเซียวได้เข้ามาสู่ในวิดีโอเกมส์ที่เกี่ยวกับวันมหาตภัยล้างโลกจากรังสีนิวเคลียร์ แน่นอนตัวเขาเองคุ้นเคยกับบรรายกาศรอบข้างตอนนี้เอามากๆ

  เขารู้ดีว่าโลกแห่งนี้อันตรายแค่ไหน

  ระบบ? ระบบยังอยู่ไหม?

  ม่านแสงสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้นทันที มันทำให้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย

  มีตัวอักษาบางอย่างปรากฎขึ้นมาบนม่านแสงซึ่งดูเหมือนแผงแสดงข้อมูลทั่วไปส่วนบุคคล ในฐานะผู้เชียวชาญเรื่องเกม หน่านเซียวใช้เวลาเพียงไม่นานก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

  แน่นอนว่าเขาเองรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อมองดูคุณสมบัติหรือทักษะต่างๆของตัวเขาเองมันอยู่ในระดับที่ธรรมดามาก บางคุณสมบัติก็เรียกได้ว่าแย่สุดๆไปเลยก็ว่าได้

  ความแข็งแกร่ง: 9 (ก็ยังดีอย่างน้อยก็ไม่ได้แย่ที่สุด ถึงแม้จะแย่กว่าคนส่วนใหญ่เล็กน้อยก็ตาม)

  ความว่องไว : 10 (เทียบเท่ากับคนทั่วไปหรือมนุษย์ปกติ)

  ร่างกาย: 9 (ฉันแนะนำให้คุณให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพ ขยับร่างกายบาง ช่วยตัวเองน้อยลง และชีวิตของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด)

  สติปัญญา: 13 (ใช่ บางครั้งคุณสามารถฉลาดกว่าคนอื่นเล็กน้อยและอาจสามรถแก้ปัญหาที่คนอื่นไม่สามารถแก้ได้)

  การรับรู้ : 11 (คุณมีค่าคะแนนมากกว่าคนปกติอยู่เล็กน้อย แม้ว่ามันจะใกล้เคียงกับคนธรรมดาและอาจรับรู้ได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไปในบางครั้ง  แต่ในบางช่วงเวลา คุณอาจมีเซนบางอย่างและรับรู้บางสิ่งที่ยากสำหรับคนธรรมดา ที่จะรับรู้)

  ความสามารถพิเศษ : 9 (แม้ว่าคำแนะนำของคุณจะถูกต้อง คุณก็จะเจอปัญหาต่างๆ นานา คุณเป็นคนประเภทที่บางครั้งไม่ชอบทำงานเป็นทีม)

  อย่างน้อยค่าโดยรวมก็พอดูได้ ยกเว้นความฉลาดที่พอประมาณได้เล็กน้อย คะแนนการประเมินอื่นๆ นั้นไม่สูงมากนัก

  ต่อไปมาดูทักษะกัน มีอยู่หลายอย่างเลย เรียกว่าเขาเป็นคนมีทักษะต่ำมาก ตั้งแต่ทักษะการจับกบไปจนถึงการใช้หนังสติ๊ก น่าเสียดายที่พวกมันทั้งหมดเป็นทักษะสีเทา

  ตามคำแนะนำบนแผงควบคุม ทักษะสีเทา เป็นระดับต่ำสุด ใครก็ตามที่มีสติปัญญาตั้งแต่ 9 ขึ้นไปสามารถอัพเกรดทักษะสีเทาจาก 0: ที่หมายถึงว่า “ไม่เข้าใจ” เป็น 300 ที่หมายถึงระดับมาสเตอร์ภายในห้าปี

  ช่วงสิบปีมานี้ฉันไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยอย่างงั้นหรอเนี่ย? หน่านเซียวรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะทักษะของเขาแทบจะทุกอย่างเป็นสีเทาทั้งหมด ตัวเลขนี้แทบจะไร้ประโยชน์

  อย่างไรก็ตาม มันคือทักษะในชีวิตจริงและมันมีได้เพียงบัญชีเดียวเท่านั้น หากจะลบบัญชีแล้วเริ่มต้นใหม่มันก็ยังเป็นเช่นเคย

  อย่างน้อยฉันก็ยังพอมีระบบเอาไว้ช่วยเหลือ!

  เมื่อคิดถึงสิ่งนั้น อารมณ์ของหน่านเซียวก็ดีขึ้นมากในทันใด

  ที่ด้านล่างเป็นพรอมต์แสดงรายการคุณสมบัติและทักษะ

  ก็แสดงถึงภารกิจที่จะเข้าทดสอบโดยสมาชิกที่เข้าหลบภัยและใช้ที่แห่งนี้พักผิง ทุกคนต้องเข้าร่วมเมื่ออายุครบ 16 ปี เนื้อหาการทดสอบประกอบด้วยเทคโนโลยี การรักษาพยาบาล ความเชื่อ ประวัติศาสตร์...ทุกด้าน เป้าหมายคือการระบุความเชี่ยวชาญของแต่ละคนและพัฒนาให้เป็นผู้สืบทอดของ วอลด์ทอล์ก ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

  เป้าหมายของภารกิจ: โปรดเลือกสาขา "ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา" และรับเกรดที่ผ่าน

  เมื่อดูข้อความบนหน้าจอที่สว่าง หน่านเสี่ยวก็พูดไม่ออกเล็กน้อย งานนี้ค่อนข้างยุ่งยาก ฉันแค่อยากจะเก่งภาษาอังกฤษในเวลาอันสั้น เลยต้องโยนฉันเข้ามาในพื้นที่ที่มีสงครามนิ้วเคลียร์เลยอย่างงั้นหรอ?

  โชคดีที่ตามการตั้งค่าของเกมเขต วอลด์ 101 ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างปลอดภัย จะมีแต่เพียงจุดในสนามรบเท่านั้นที่ค่อนข้างอันตราย ดังนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่จึงเงียบสงบ

  การอยู่ในที่หลุมหลบภัยและผ่านการทดสอบนั้นน่าจะทำให้ภารกิจสำเร็จ

  เมื่อดูรายละเอียดคำอธิบายมีคำว่า "หลุมหลบภัย 101" พิมพ์อยู่บนร่างกายของเขา หน่านเซียวรู้สึกว่าเขาอาจมีตัวตนและได้รับยืนยันว่าเป็นคนของที่นี่ ก็ดีจะได้ไม่ต้องมีใครสงสัย

  หลังจากเดินไปรอบ ๆ ก็พบว่าที่นี้ไม่มีอะไรเลยดีเลย มีเพียงเครื่องแบบสีน้ำเงินจากห้องนิรภัย 101 เท่านั้น พิมพ์ชื่อที่หน้าอกด้านซ้าย ซึ่งออกเสียงว่า "หน่านเซียว" เป็นภาษาอังกฤษ

  พร้อมกับเครื่องแบบเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่สามารถสวมแขนซ้ายได้ นั่นเหมือนกับตัวละครหลักของโลกฟอลด์เอาท์, อาจเรียกมันว่า พิสบอยมันใช้ควบคุมการทำงานต่างๆ มันถูกผลิตออกมาเพื่อใช้ในโลกของฟอล์ดเอาท์ มันมีหน้าจอสีเขียวที่เรียบง่าย, ความรู้สึกหมือนคอมพิวเตรอ์รุ่นแรกที่เกิดขึ้นมาในปี 1960

  เขาเองควรแต่งตัวให้เหมือนคนอื่นๆและการที่จะหลบอยู่ในห้องอย่างเดียวคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกไปทักทายทุกคนกันดีกว่า

  ด้วยประสบการณ์การเล่นเกมที่เชียวชาญ หน่านเซียวจึงรู้วิธีเปิดประตูของฟอล์ดเอาท์เหมือนกับเขาเคยใช้งานมันมาก่อน มีสวิตช์อยู่ข้างๆ เพียงแค่แตะ

  เมื่อสะบัดสวิตช์ขึ้น ประตูเหล็กก็เลื่อนขึ้นเผยให้เห็นทางเดิน

  อย่างไรก็ตาม……

  เมื่อเห็นสถานการณ์ภายนอก หน่านเซียวอดไม่ได้ที่จะต้องสูญลมหายใจเข้าลึกๆ

4 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด