ตอนที่แล้วตอนที่ 042 เดินทางสู่เซียงเจียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 044 มาเฟีย

ตอนที่ 043 คนจนอยู่แต่อยู่ในตึกสูง


หลังจากนั่งเรือมา ทั้งหมดก็มาถึงยังเซียงเจียง

สูเจิ้งเหมาได้เรียกให้คนขับรถมารอพวกเขาแล้วที่ท่าเรือ

รถยนตร์ของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ผลิตกันในยุโรป

"ซูแคน เชิญขึ้นรถก่อนครับ"

สูเจิ้งเหมาชี้ไปที่รถของเขา

ซูแคนพยักหน้า

ลู่กั๋วเฉียง และ หวงเสี่ยวเว่ย มานั่งรถมาด้วยกับซูแคน หลังจากนั้นไม่นาน รถก็ขับออกไปช้าๆ รถคันนี้มุ่งผ่านความเจริญของเซียงเจียง...

ระหว่างทางมีอาคารหลายสิบชั้นตั้งอยู่เต็มสองข้างทาง

"ว้าว!!"

หวงเสี่ยวเว่ยมองดูและอ้าปากค้าง

ตาของลู่กั๋วเฉียงเบิกกว้างและเขารู้สึกประหลาดใจที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ครั้งแรก

"ทำไมตึกมันสูงอย่างนี้ แถมยังตั้งหลายตึกอีก"

"ฮ่าฮ่า!!"

สูเจิ้งเหมาอดหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินเรื่องนี้และพูดต่อว่า

"นี่คือที่อยู่อาศัยของพวกคนจนในเซียงเจียงนะ"

"ว่าไงนะ !!"

หวงเสี่ยวเว่ยเบิกตากว้างกว่าเดิมและอ้าปากค้าง

ลู่กั๋วเฉียงได้ยินก็ตกใจเช่นกันและพูดว่า

"เป็นไปได้ยังไงกัน ตึกออกจะใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมถึงมีแต่พวกคนจนเท่านั้นที่อยู่"

"พี่เหลาสูอำผมแน่ๆเลย"

ซูแคนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า

"เรื่องจริง…คนรวยไม่ได้อาศัยอยู่ใจกลางเมืองหรอก พวกเขาย้ายไปอยู่รอบนอกกันหมด"

"ห๊าาา!!"

ลู่กั๋วเฉียงได้ยินก็อ้าปากค้าง

สูเจิ้งเหมามองไปที่ซูแคนด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าซูแคนจะรู้เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของคนในเซียงเจียงด้วย

ซูแคนพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า

"ครอบครัวที่ร่ำรวยจะอาศัยบนภูเขาด้วยซ้ำ ยิ่งรวยยิ่งอยู่สูง"

"ใช่แล้ว ซูแคนพูดถูกทั้งหมด"

สูเจิ้งเหมาหัวเราะเล็กน้อยและพูดเสริม

"ในเซียงเจียง คนรวยจะสร้างบ้านบนภูเขาเลยนะ ที่นั่นมีวิวที่สวยงามมองเห็นได้รอบทิศ บ้านของพวกเขาบนภูเขามีพื้นที่เป็นพันๆตารางเมตรเลย"

"โห แสดงว่าคนพวกนั้นมีเงินมหาศาลเลยใช่ไหมครับ?"

ลู่กั๋วเฉียงถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

"ใช่!!"

ซูแคนพยักหน้า

อีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ความเหลี่ยมล้ำในที่นี่จะสูงขึ้นกว่านี้อีก คนที่จนก็มีแต่จะจนลงเรื่อยๆ ส่วนคนที่รวยก็จะรวยเพิ่มขึ้นอีก

ด้วยการปฏิรูปประเทศและการเปิดประเทศ ทำให้หลายบริษัทในเซียงเจียงหรือในฮ่องกง ได้กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ มีเงินทุนหมุนเวียนไม่ขาดสาย แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่ไม่สามารถกลายเป็นยักษ์ใหญ่ได้ ความเหลี่ยมล้ำจะเริ่มเห็นได้ชัดจากตอนนี้

แต่ตอนนี้ก็เริ่มเห็นได้ชัดแล้ว…

ตึกที่สูงระฟ้าข้างทางรอบๆนั้น ผู้คนอาจคิดว่าเป็นที่พักที่หรู แต่ห้องภายในนั้นเล็กยิ่งกว่ารูหนูซะอีก ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ก็รวมกันอยู่ในห้องๆเดียว เพดานห้องก็ไม่ได้สูง จะเรียกว่าคุกก็ไม่มีใครว่า

"เฮ้อ!!"

ซูแคนถอนหายใจยาวหลังจากที่คิดจบ

รถค่อยๆขับเข้าในตัวเมืองเรื่อยๆ จนหยุดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

ซูแคนและคนอื่นๆลงจากรถ

"ซูแคน ผมจองห้องพักในโรงแรมไว้ให้แล้ว"

สูเจิ้งเหมาลงจากรถและอธิบาย

"ขอบคุณมาก"

ซูแคนพยักหน้า เขามองไปที่ลู่กั๋วเฉียงและพูดว่า

"กั๋วเฉียง คำนวนค่าที่พัก ค่าเดินทางทั้งหมดด้วยนะ เดี่ยวเราต้องเอาให้กับเหลาสู"

"ไม่ต้องหรอกซูแคน"

สูเจิ้งเหมาโบกมือปฏิเสธที่จะรับเงินจากซูแคน

ซูแคนเห็นแบบนั้นเลยพูดอย่างรวดเร็วว่า

"เหลาสู คุณไม่จำเป็นต้องออกเงินให้ผมหรอก"

"เดี๋ยวมันจะเสียชื่อตระกูลซูของผมหมด"

สูเจิ้งเหมาพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

หลังจากนั้นทั้งหมดก็เดินเข้าไปในโรงแรมที่แผนกต้อนรับ ซูแคนสังเกตเห็นราคาของห้องพักที่นี่อยู่ที่ประมาณ 500 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อคืน

เกือบ 700 หยวนต่อหนึ่งคืน

พูดง่ายๆก็คือ เงินเดือนทั้งปีของพนักงานที่หนานจิง ไม่สามารถจ่ายค่าที่พักที่นี่ได้เลย

มันห่างชั้นกันเกินไป

ซูแคนถอนหายใจเล็กน้อย

จากนั้นไม่นานทั้งหมดก็ขึ้นไปยังชั้นบน ห้องที่จองอยู่ชั้นที่ 12

โชคดีโรงแรมแห่งนี้มีลิฟต์ไม่อย่างงั้นต้องขึ้นบรรไดกันขาแทบแตก

โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง แม้ว่าจะไม่ได้หรูที่สุดในเซียงเจียง แต่ก็ไม่ได้แย่เหมือนที่เผิงเฉิง

ซูแคนมองดูภายในห้อง

ห้องมีขนาดใหญ่มาก ในห้องมีวิวที่สามารถมองเห็นแลนด์มาร์คของเซียงเจียงได้ด้วย ห้องถูกทำความสะอาดและจัดไว้อย่างดี

เปรียบเทียบกับที่เผิงเฉิงแล้วราวกับฟ้ากับเหวเลย ไม่สิราวฟ้ากับใต้ดินเลยแหละ

ราคาก็เช่นกัน

ราคาสูงกว่าเป็นร้อยๆเท่า

นี่สินะเซียงเจียง...

"ซูแคน"

สูเจิ้งเหมามองซูแคนอย่างพอใจกับห้อง เขาโล่งใจและพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"เดี๋ยวผมต้องไปก่อนนะ ถ้านายมีไรให้ช่วยอีกก็บอกผมได้เลยนะ"

"ใช่สิ..เกือบลืม!!"

ซูแคนหันหลังแล้วเดินไปหยิบหยกสองชิ้นออกจากถุงที่กระเป๋าของเขา

หยกอยู่ในมือซูแคนเปล่งแสงสีเขียวออกมาเล็กน้อย

"นี่มัน…"

สูเจิ้งเหมาสูดหายใจเข้าเมื่อเห็นมัน

"ผมฝากประมูลหรือขายหยกนี้ให้หน่อย เงินที่ได้จากหยกสองอันนี้โอนเข้าบัญชีผมได้เลย แต่ผมยังไม่มีบัญชีเลย รบกวนคุณเหลาสูเปิดบัญชีธนาคาร HSBC ให้ด้วยละกัน"

"อึก!!"

สูเจิ้งเหมากลืนน้ำลายอึกใหญ่ เบิกตากว้างออกและพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ

"นี่มัน..."

"หยกจักรพรรดิ์..."

สูเจิ้งเหมาตกตะลึง เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าหยกจักรพรรดิ์จะอยู่ต่อหน้าเขาถึงสองชิ้น มันจะให้วงการเครื่องประดับของเซียงเจียงจะต้องฮือฮาแน่นอน

แม้แต่ในตระกูลที่ชอบเก็บสะสมพวกเพชรพลอยได้เห็นก็จะต้องช็อคเหมือนเขาแน่นอน นี่คือหยกจักรพรรดิ์อันเลื่องชื่อ!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด