ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0046
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0048

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0047


บทที่ 18 นักสำรวจ, และผู้สนับสนุน (3)

* * *

“…ลูกโป่ง?”

ชาโซฮี ซอจีอา จองจีฮุน และลิลี่

ฉันแหงนหน้ามองในทิศทางที่ตัวเองชี้นิ้ว ทันใดนั้น ซอจีอาขยับตัวจนศีรษะของเธอบดบังการมองเห็น

“ไม่เห็นมีอะไรเลย นายกำลังพูดถึงอะไร”

“ไหนลูกโป่ง?”

เมื่อมองไปยังจุดเดิมอีกครั้ง ลูกโป่งหายไปแล้ว

ลูกโป่งที่เคยอยู่ตรงนั้นแน่ๆ กลับอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ต่อให้เคยอยู่ตรงนั้นจริงๆ แล้วลูกโป่งมันทำไม?”

ซอจีอาพยายามถ่างตามอง ส่วนจองจีฮุนพยักหน้าเห็นด้วย

“ลูกโป่งฮีเลียมคือวัตถุต้องห้าม… แต่เพราะมันต้องห้าม ก็เลยมีขี้เมาบางคนแอบพกมาใช้แกล้งคนในโรงแรมเสมอ คุณก็คงเคยเห็น”

ในการดิ้นรนเอาชีวิตรอด การเห็นภาพหลอนหมายถึงความตาย

ฉันคือผู้อยู่รอด ย่อมไม่เคยเห็นภาพหลอนหรือเข้าใจผิด

มั่นใจมากว่า ตัวเองมองเห็นสายเชือกใต้ลูกโป่ง

ซอจีอามิได้แยแส

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เจ้าต้องระวังตัวให้มาก ป่าที่ปกป้องโดยดารากรมักอันตรายอย่างยิ่ง”

ฟังดูน่าขันที่บอกว่า ป่าซึ่งถูกปกป้องจะเต็มไปด้วยอันตราย แต่นั่นคือสามัญสำนึกของต่างโลก แม้แต่ลิลี่ก็ยังพยักหน้ารับจากด้านหลัง

แต่ถ้าลิลี่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ความช่วยเหลือจากซอจีอาก็ไม่จำเป็น

พรจากดารากรคืออะไรกันแน่…

ไม่สิ ไม่ใช่เวลามัวกังวลเรื่องนี้

ฉันก้มมองสมุนไพรในมือ

ลิลี่เดินเข้ามาใกล้และกระซิบ

“ช่วงนี้เจ้าคงเหนื่อยมาก พักยาวๆ ก่อนไปลุยครั้งถัดไปดีไหม”

ไม่… ไม่เอาเด็ดขาด…

หลังจากนั้น ซอจีอาพยายามโน้มน้าวฉันอีกสักพัก แต่เมื่อรู้ตัวว่าไม่ได้ผลก็ยอมกลับไป

ขณะกลับ ฉันสังเกตเห็นสายตาที่เธอแอบชำเลืองลิลี่

* * *

ฉันนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ พลางพูดกับชาโซฮี

“…มีคำถาม”

“คำถามอะไร”

“ถ้าเกิดว่าลูกโป่งที่เธอสร้าง… ลูกโป่งที่เธอสร้างขึ้นมาเป็นเพื่อน…”

“นายหมายถึงวิลสัน?”

“ใช่… จะทำยังไงถ้าเกิดว่ามันเริ่มติดตามเธอ? เริ่มเห็นมันในทุกที่ที่ไป หรือไม่ก็เห็นลอยอยู่บนฟ้า…”

“หนังสยองขวัญเกรดบีรึไง”

นั่นสินะ

ฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง

พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ดวงดาวเริ่มพราวพราย คืนนี้เป็นคืนที่มีพระจันทร์สองดวง

ดวงหนึ่งเหมือนกับบนโลก แต่อีกดวงมีขนาดใหญ่กว่าและเคลื่อนที่เร็วจนสังเกตได้ด้วยตาเปล่า มันลอยลับเส้นขอบฟ้าไปก่อนที่ยามวิกาลจะหมดลง

ด้วยเหตุนี้ ท้องฟ้าในต่างโลกจึงมีชีวิตชีวาและฉูดฉาดกว่าบนโลก เป็นภาพที่น่าดูชมไม่น้อย

ชาโซฮีกล่าวจากบนเปลญวนที่กำลังแกว่ง

“…ว่าแต่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นเอลฟ์หรือ นายบอกว่าเธอเป็นเอลฟ์ที่อาศัยอยู่บนโลกมนุษย์”

หงึก

สองคนนั้นบอกว่าเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ไม่ใช่ความลับของฉันสักหน่อย ไม่มีหน้าที่ต้องปกปิด

และชาโซฮีก็ไม่ใช่พวกชอบสร้างเรื่อง เรียกได้ว่าอยู่เป็นในระดับหนึ่ง

“OWIC เป็นบริษัทที่น่าหงุดหงิดจริงๆ มีความลับเต็มไปหมด”

“นั่นสินะ”

เรื่องที่ซอจีอาเป็นเอลฟ์ ได้ยินว่าไม่ใช่ข้อมูลที่ OWIC รับรู้

จองจีฮุนกับจินซอยอนเน้นย้ำว่า พวกเขารู้กันแค่สองคน…

แต่ OWIC จะไม่รู้จริงหรือ ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ถูกหลอกอีกแล้วหรือไง

“จากเท่าที่ดู ตำแหน่งในบริษัทของจินซอยอนกับจองจีฮุนก็ไม่ได้ต่ำ”

เบื้องบนของ OWIC คิดยังไงกับสองคนนี้?

ยิ่งขุดคุ้ย ฉันก็เริ่มพบความน่าสนุก

แต่ตอนนี้มีบางสิ่งต้องรีบจัดการ ฉันจึงยืนขึ้นและมองแผนที่

ถึงยังไงก็ต้องขอบคุณเธอ ซอจีอาช่วยให้ฉันรู้ว่า ป่าปริศนาที่รายล้อมโบราณสถานไม่ใช่ป่าธรรมดา

“ป่าที่ปกป้องโดยดารากรสินะ”

ฉันไม่มีข้อมูลในเรื่องทำนองนี้เลย ไม่ว่าจะดารากรหรือเก้าเทพ

เนื่องจากอาศัยอยู่แต่ในป่า จึงแทบไม่เข้าใจในประเด็นเชิงศาสนาของต่างโลก

“…เมื่อครู่เธอพูดว่า ป่าที่ปกป้องโดยดารากร?”

“เอลซิน พอเรียลี่”

ลิลี่พูดขณะยืนข้างๆ

“แปลว่าอะไร”

“เป็นภาษาถิ่นของเอลฟ์ ถ้าเป็นแปลภาษาทางการจะหมายถึงป่าศักดิ์สิทธิ์โบราณ โดยนัยแล้วคือป่าที่มีดารากรปกป้อง”

“ดารากรคืออะไรกันแน่”

เป็นคำถามที่คาใจฉันมานาน ตอนนี้ได้จังหวะเคลียร์ข้อกังขาเสียที

“ดารากรใช่เทพไหม?”

“แตกต่างจากเทพ จะมองว่าเป็นครึ่งเทพก็ได้”

“เทพคืออะไร แตกต่างจากดารากรยังไง”

ลิลี่ที่นั่งลงผิงไฟเพื่อทำให้ตัวอุ่น เล่าด้วยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย

“สองจันทรา สามสุริยัน และเหยี่ยวที่มาจากความมืดอันเป็นนิรันดร์ในอีกฟากหนึ่งทุกๆ พันปี… สองดาวหางที่เปรียบดังคำพยากรณ์หายนะและความหวัง ผืนทวีปที่เกิดจากพระศพของเทพผู้ร่วงหล่น นี่คือเทวราชาทั้งเก้า ผู้ดำรงอยู่มาตั้งแต่ก่อนกาล”

ฟังดูคล้ายบางตำนานของโลกอยู่เหมือนกัน

ในหลายตำนาน ผืนทวีป พระจันทร์ พระอาทิตย์ และโลกมักถูกนับถือเยี่ยงเทพ

นี่คือสามัญสำนึกร่วมกันของทุกสิ่งมีชีวิต?

“ส่วนดารากรจะอยู่ที่นั่น”

ลิลี่ชี้ขึ้นไปบนฟ้า ฉันแหงนหน้ามองตาม

ดวงดาวนับพัน หรือบางทีอาจถึงหลักหมื่น กำลังส่องแสงพร่างพราวด้วยหลากสีสัน

“ทุกชีวิตที่มิได้เกิดมาพร้อมกับกายาของเทพ หากสามารถขึ้นสู่สรวงสวรรค์ จะได้กลายเป็นดวงดาวที่คอยจ้องมองลงมา”

“…นั่นคือเหตุผลที่ได้ชื่อว่าดารากรสินะ”

ชาวต่างโลกคอยมานั่งแต่งตำนานให้ดาวแต่ละดวงด้วยหรือ

มีตำนานใดของโลกมนุษย์ที่มอบนิยามให้ดาวทุกดวงบ้างไหม?

บางทีอาจจะมี แต่ฉันไม่เคยอ่าน

ดูเหมือนว่าชาวต่างโลกจะจินตนาการบรรเจิดกว่าที่คิด

ไม่สิ

ฉันฉุกคิดบางสิ่งได้อย่างรวดเร็ว

“…แล้ววิลสันล่ะ”

เพราะไม่ได้เกิดในกายาของเทพ จึงกลายเป็นดารากรหลังจากขึ้นสวรรค์?

ไม่สิ ทำไมวิลสันถึงกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น?

ฉันพยายามมองเป็นแค่ข่าวลือหรือเรื่องเหลวไหลมาตลอด แต่เพราะต่างโลกคือสถานที่ที่จะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ จึงไม่อยากรีบด่วนสรุป

จนกระทั่งได้พบกับชาวบ้านจากทางใต้ ฉันจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อว่านั่นเป็นเรื่องจริง

“…”

แม้สมองจะยอมรับ แต่หัวใจกลับเชื่อไม่ลง

“ประเด็นสำคัญก็คือ เหมือนกับที่เอลฟ์ตนนั้นพูด ไม่เคยมีดารากรปกป้องมนุษย์มาก่อน มนุษย์คือเผ่าพันธุ์ที่ถูกเทพทอดทิ้ง”

หรือกล่าวได้ว่า วิลสันกลายเป็นดารากรที่ต่อต้านเทวราชาเพื่อคอยคุ้มครองฉัน?

เรื่องราวเป็นแบบนั้น?

ข้อสรุปของฉันก็คือ

“ดารากรที่บ้าบิ่นนั่น… จำไปจากฉันหรือไง”

“…เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่”

ฉันยิ้มขื่นขมพลางส่ายหน้า

เรื่องอื่นไม่สำคัญอีกแล้ว แค่ฉันสามารถผ่านเข้าไปในป่าศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร้ปัญหาก็พอ

“ลิลี่ น้ำยาเป็นยังไงบ้าง”

“ทั้งหมดน่าจะเสร็จพรุ่งนี้เช้า”

“ถ้าอย่างนั้น เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า”

ชาโซฮีลืมตาและกล่าว

“ไม่พักผ่อนกันหรือไง ทำไมถึงรีบร้อนนัก”

“ทำไมต้องพักผ่อน? ฉันแค่ออกไปเล่นสนุก”

“ให้ตายสิ… อุตส่าห์ซื้อเหล้ามา เห็นว่าไม่ได้ดื่มนานแล้ว”

“ฉันนั่งดูเธอดื่มก็ได้”

ขณะชาโซฮีบ่นกระปอดกระแปด แสงสว่างจากดวงดาวส่องลงมาที่พวกเรา

ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน เมื่อตื่นขึ้นมาอีกที บนตัวก็มีผ้าบางๆ ห่มอยู่

ได้ยินเสียงดังๆ ของบางสิ่ง ฉันลืมตาขึ้นและพบกับเส้นขอบฟ้าสีม่วงเข้ม

พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นในอีกไม่ช้า เมื่อฉันหันหลังกลับ ดูเหมือนว่าชาโซฮีจะออกไปทำงานแล้ว

“เผลอนอนข้างนอกจนได้”

ลูบจมูกที่เย็นเยียบ ฉันเดินเข้าไปในกระท่อมที่มีเสียงเอะอะ

ไม่ใช่เสียงโครมคราม แต่เป็นเสียงหวูดคล้ายกับกาต้มน้ำเดือด หากแต่ดังกว่าหลายสิบเท่า

เหตุผลที่ฉันไม่แตกตื่น เพราะรู้ว่ามันคือเสียงอะไร

“ตื่นแล้วหรือ”

“เธอกำลังทำอะไร”

ลิลี่กำลังใช้งานเครื่องมือสมัยใหม่จากประวัติศาสตร์กรุงโซลอย่างชำนาญ

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เครื่องไม้เครื่องมือยุคนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานอยู่แล้ว

“…เจ้าต้องภาวนาให้จักรวรรดิไม่เตะตาหมู่บ้านนี้”

“ทำไมล่ะ”

“หากจักรวรรดิพบหมู่บ้านที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย พวกเขาไม่ปล่อยไว้แน่”

ก็ไม่รู้สินะ

จักรวรรดิอาจแข็งแกร่ง แต่หมู่บ้านที่เธอกำลังพูดถึง มีเทคโนโลยีทางการทหารเกินกว่าระดับขีปนาวุธข้ามทวีปไปไกลแล้ว บางทีอาจกำลังวิจัยอาวุธจากดาวเทียมอยู่

“ช่างเถอะ น้ำยาเสร็จหมดแล้ว เหลือแค่กรอกใส่ขวด เจ้าพร้อมหรือยัง”

“เทใส่นี่”

ฉันเดินเข้าไปรื้อคลังอุปกรณ์ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยวัสดุแปลกใหม่

“นี่คือ?”

“ขวดยาไซซ์มินิจากไดโซะ”

“…ไดโซะ? แต่ถ้าไม่ใช้ขวดแก้ว น้ำยาจะเสื่อมสภาพ”

“แก้วมันแตกง่าย การพกแก้วออกผจญภัยถือเป็นเรื่องที่บ้าบิ่นมาก ใช้เจ้านี่แหละดีแล้ว”

“…”

ลิลี่ใช้มือจับขวดยาใบเล็ก ทันใดนั้นก็ต้องทึ่งกับความอ่อนนุ่มของมัน

“พวกเขาผลิตวัสดุแบบนี้จำนวนมากได้ยังไง ข้าไม่เคยเห็นโรงงานในหมู่บ้าน”

“อาจจะมีนักแปรธาตุเก่งๆ อยู่ก็ได้”

“หืม…”

โดยไม่ถามซักไซ้ ลิลี่บรรจงกรอกใส่ขวดอย่างระมัดระวัง

เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ราวกับสมาธิของเธอถูกงานดึงดูดเข้าไป

ขวดยาพลาสติกใบเล็กสามสิบขวดถูกบรรจุเสร็จในเวลาไม่นาน แต่เนื่องจากต้องทำสารประกอบที่ติดไฟจำนวนสามขวด จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้ขวดโซจู

เมื่อนำไปใส่กระเป๋า ฉันรู้สึกได้ถึงน้ำหนัก

“…รอบนี้คงเมื่อยไหล่นิดหน่อย”

การเตรียมกระเป๋าเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว เพราะส่วนอื่นถูกเตรียมรอไว้ก่อนแล้ว

ขณะจัดการทั้งหมดเสร็จ และฉันพยายามจัดระเบียบเป้บนหลัง ใครบางคนเคาะประตูกระท่อมจากด้านนอก

“คังซอนฮู”

เป็นซอจีอา เสียงของเธอสงบนิ่งแตกต่างจากเมื่อวาน

เมื่อออกไปเปิดประตู ฉันพบว่าเธอไม่ได้พันผ้าพันแผล แต่งกายด้วยเสื้อสีดำและกางเกงขายาวสีขาวเหมือนทุกที

“หายเจ็บแล้ว?”

“ข้าหายนานแล้ว เมื่อวานแค่แกล้งเจ็บ”

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

อันที่จริง ฉันพอจะเดาได้ตั้งแต่เมื่อวาน

ซอจีอาไม่ใช่มนุษย์ คงมีสภาพร่างกายที่มิอาจใช้สามัญสำนึกมนุษย์ตัดสิน ฉันจึงไม่ได้ใส่ใจ

“ข้ารีบมาเพราะได้ยินว่าเจ้าจะออกเดินทางแล้ว… เอ้านี่”

แป้งต๊อกในซองสีใส

ฉันก้มจ้อง

“นี่อะไร”

“โนวา โดเรียน”

แล้วมันคืออะไรล่ะ

หลังจากครุ่นคิดสักพัก ลิลี่ช่วยอธิบายจากด้านหลัง

“มันคือเสบียง เสบียงที่มีเพียงเอลฟ์ทำได้”

ซอจีอาพยักหน้า

ในซองเล็กๆ มีแป้งต๊อกสีขาวเพียงห้าชิ้น

“ขนมปังเลมบัส*หรือไง”

(Lembas — ขนมปังของเอลฟ์ในภาพยนตร์/นิยาย The Lord of the Rings)

“อะไรล่ะนั่น”

“ไม่มีอะไร… เธอทำเองหรือ”

ซอจีอาพยักหน้าด้วยความมั่นใจ

“หลบทำอยู่ในครัวตั้งนาน”

“เบี้ยวเป็นหมุดยึดรางรถไฟขนาดนี้… เธออย่าไปทำงานพาร์ตไทม์ในร้านต๊อกเชียวนะ”

“…ช่วยไม่ได้ ข้าเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก แต่รูปทรงไม่สำคัญสักหน่อย”

“รสชาติก็ดูไม่น่าอร่อยเหมือนกัน”

ซอจีอาหลับตาสนิท ก่อนจะลืมขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าฝืนผ่อนใจเย็น

“วัตถุดิบที่เอลฟ์สัมผัสในช่วงเช้าตรู่ แค่กินเข้าไปนิดเดียวก็จะช่วยให้ท้องอิ่มได้นาน นั่นต่างหากที่สำคัญ”

ลิลี่พยักหน้า

“นั่นคือเหตุผลที่ธุรกิจร้านอาหารในบางเมืองถูกยึดครองโดยพวกเอลฟ์ บางเมืองถึงขั้นออกกฎห้ามเอลฟ์ประกอบธุรกิจอาหาร ไม่อย่างนั้นเศรษฐกิจจะพัง”

“…”

ดูเหมือนจะเป็นความรู้พื้นฐานของชาวต่างโลก

“ในหนึ่งวัน ข้าทำพวกมันได้ไม่มาก”

“แล้วเอามาให้ฉันทำไม”

“เจ้าจะเดินทางไกลไม่ใช่หรือ”

ฉันชำเลืองซอจีอาสักพักก่อนจะรับซองใสไว้

“ลงทุนถ่อมาที่นี่เพื่อเอามาให้?”

แทนที่จะตอบ ซอจีอาจ้องหน้าลิลี่

ลิลี่ที่ถูกจ้อง แม้จะกระอักกระอ่วน แต่ก็ยังจ้องกลับโดยไม่ยอมแพ้

จริงสิ

ซอจีอาเคยมีประวัติลักพาตัวลิลี่

ยังไม่หายคาใจการลักพาตัวแวมไพร์อีกหรือ

ตอนแรกฉันคิดแบบนั้น แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่

“เจ้าคือทายาทของตระกูลซินก้าสินะ โฉมผู้นำทาง”

“…?”

ซอจีอารู้เรื่องนี้ได้ยังไง

“ฉันพลิกแผ่นดินตามหาเธอแทบตาย แต่สุดท้ายก็เป็นจริงได้เพราะเขา”

“…เดี๋ยวนะ”

ฉันคิดว่าควรเคลียร์ประเด็นคาใจให้จบ

“ไม่ใช่ว่าเธอลักพาตัวเพราะเงินหรอกหรือ? หัวหน้าแก๊งค้ามนุษย์ที่สั่งให้ลูกน้องจับชาวต่างโลกมาขาย”

“นั่นคือสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจ… ถ้าไม่ใช่เงินเป็นข้ออ้าง พวกอันธพาลก็จะไม่ยอมเคลื่อนไหว… แล้วใครเป็นแก๊งค้ามนุษย์? ฉันไม่เคยลักพาตัวใครนอกจากแวมไพร์เด็กนี่”

ก็จริงแฮะ

ฉันเคยได้ยินเรื่องแย่ๆ ของซอจีอามาบ้าง แต่เกือบทั้งหมดเป็นความขัดแย้งระหว่างฮาวนด์ด้วยกัน ไม่ใช่ภายนอก

ไม่เคยมีข่าวลือเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ต่างโลกคนอื่นนอกจากลิลี่

ซอจีอาคล้ายกับรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนจะหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง

“ข้าขอโทษที่ต้องใช้วิธีรุนแรง แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ในสถานการณ์ที่ถูกจับตามองตลอดเวลา ถ้าเล่าเรื่องของแวมไพร์ชนชั้นสูงที่มีโฉมผู้ปกครองให้ใครฟังก็คง…”

“เธอกลัวว่า OWIC จะชิงตัดหน้า?”

“ใช่ แล้วถ้าข้าใจเย็นเกินไป แวมไพร์เด็กนี่ก็จะหนีไปที่อื่น”

“สรุปก็คือ เธอลักพาตัวเพราะคิดหาวิธีอื่นไม่ออก”

“ไม่ปฏิเสธ”

ซอจีอาเลียริมฝีปากแห้ง

“ซอจีอา นังฮาวนด์บ้าบิ่นที่หิวเงิน… นั่นอาจไม่ผิดซะทีเดียว แต่ข้าเสแสร้งให้ดูสมจริงมากขึ้น… ใน OWIC มีแต่พวกบ้าเต็มไปหมด”

หลังจากคำนึงว่า OWIC เป็นพวกตามตื๊อจนน่ารำคาญแค่ไหน ซอจีอาขมวดคิ้ว

“และถ้าฉันลงมือด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งพาลูกน้อง พวกเขาคงเอะใจทันทีว่ามีบางสิ่งผิดปรกติ ถ้าเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น เด็กคนนี้จบไม่สวยแน่”

“…ใครเป็นเด็ก?”

สถานการณ์ที่ลิลี่อยู่นอกเหนือสายตาของ OWIC

นี่คือครั้งแรกที่ซอจีอาได้สนทนากับลิลี่แบบไม่ถูกสอดแนม

ซอจีอานำบางสิ่งออกจากด้านในเสื้อ

เป็นกุญแจ

กุญแจทองเหลืองเก่าแก่

“ดอยน่า·ซินก้าขอให้ข้ามอบสิ่งนี้ให้เจ้า”

“ท่านแม่…?”

ลิลี่ยังไม่รับไว้

เอลฟ์ตรงหน้า

เอลฟ์ที่ระหกระเหินมาแถวนี้จนถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ ดูเหมือนว่าความจริงแล้วเธอจะได้รับคำสั่งจากมารดาของลิลี่

กล่าวคือ ซอจีอาผ่านอุปสรรคมากมายเพื่อตามหาตัวลิลี่ตั้งแต่ต้น

“หากเจ้าเลือกผู้ปกครองและเติมเต็มหน้าที่ของผู้นำทางได้แล้ว จงแวะไปยังห้องใต้ดินปราสาทพร้อมกับคนผู้นั้น”

“…”

“นั่นคือข้อความจากดอยน่า”

ลิลี่รับกุญแจไว้

“ทำไมกัน… ท่านแม่รู้อยู่แล้วว่าอาณาจักรจะถูกรุกรานไม่ใช่หรือ… ทำไมท่านถึงยังอยู่ที่นั่น”

“ข้าก็ไม่ทราบ”

เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นดวงตาลิลี่สั่นเทาขนาดนี้ ไม่แม้แต่ในยามที่ถูกขังไว้ในห้องใต้ดิน

ซอจีอาเผยสีหน้าโล่งใจ

“เป็นเพราะโชคชะตาห่วยๆ ข้าจึงต้องพบเจออุปสรรคแสนสาหัส แต่สุดท้ายกลับทำสำเร็จได้ง่ายๆ”

“เธอติดหนี้คนที่ชื่อดอยน่าใช่ไหม”

ซอจีอาพยักหน้า

ฉันยังไม่ลืมเรื่องที่ สำหรับเอลฟ์ หนี้คือสิ่งที่ต้องชดใช้จนกว่าชีวิตจะหาไม่

เมื่อหวนนึกถึงช่วงที่ซอจีอามีสภาพใกล้ตายในอพาร์ตเมนต์เก่า ฉันเริ่มเข้าใจคำว่า ‘โชคชะตาห่วย’ ของเธอ

“ฉันมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะบอก แต่วันนี้คงต้องพอแค่นี้ก่อน”

ซอจีอาพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น

ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอต้องทำแบบนั้น

จองจีฮุนกำลังเดินเข้ามาใกล้

“มาอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย… คุณช่วยอยู่นิ่งๆ สักพักได้ไหมครับ”

“ฉันแค่อยากจะพูดบางเรื่องโดยไม่ถูกสอดแนม”

ซอจีอาตอบหน้าทะเล้น

“เรื่องแบบไหน?”

“แผนการล้มล้าง OWIC”

“ก็สมกับเป็นคุณจีอาดี”

จองจีฮุนยิ้มประหนึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่

ลิลี่รีบซ่อนกุญแจไว้ใต้แขน

“คุณคังซอนฮู ผมดีใจที่คุณยังไม่ออกเดินทาง”

“มีธุระอะไรอีกหรือ”

จองจีฮุนหยิบบัตรใบหนึ่งออกมา

“พกไปด้วยสิครับ”

“นี่คือ?”

“ด้านหลังป่าเบอร์มิวด้าเป็นเขตหวงห้าม บุคคลภายนอกไม่มีสิทธิ์ผ่าน บัตรใบนี้มีไว้เพื่อรับรองการเดินทาง หากคุณแสดงบัตรผ่านต่อหน้าเจ้าหน้าที่ จะไม่มีใครห้ามคุณได้ครับ”

“…ของแบบนี้ให้กันได้ด้วยหรือ”

“ในบางสถานการณ์ พวกเราจำเป็นต้องยืดหยุ่น”

พูดจบ จองจีฮุนยิ้ม

เมื่อลองนึกดูให้ดี ฉันเพิ่งเคยเห็นชายคนนี้ยิ้มเป็นครั้งแรก

รับไว้ก็ไม่เสียหาย ฉันนำบัตรใส่ไว้ในกระเป๋าหลังของกางเกง

ทันใดนั้น ฉันได้ยินเสียงเรียกจากใครบางคน

“คุณซอนฮู!”

เป็นจินซอยอน

“รอก่อน! หยุด! วู้ว! แฮ่ก… แฮ่ก… ยังทันเวลา ขอบคุณสวรรค์! รับนี่ไปสิคะ”

“นี่คือ?”

“รายงานเชิงนิเวศน์ของเทือกเขาฝั่งตะวันออก อาจไม่จำเป็นสำหรับคุณซอนฮู แต่ก็อาจจะมีประโยชน์ในบางสถานการณ์… ถ้าคุณซอนฮูรู้สิบเรื่อง พวกเราอาจจะรู้สักเรื่องใช่ไหมล่ะ”

“นี่สินะ การสนับสนุนที่พวกคุณพูดถึง”

จากด้านหลัง ซอจีอายืนมองในท่ากอดอก ส่วนลิลี่หลบหลังฉันพลางชำเลืองเจ้าหน้าที่ OWIC ด้วยท่าทีหวาดระแวง

ฉันรับเอกสารของซอจีอามาเก็บไว้ในกระเป๋า ผูกเชือกรองเท้าจนแน่นและยืนขึ้น

ลิลี่และฉันต่างมองไปทางทิศตะวันออก

หากเริ่มเดินทางเมื่อไร หมายความว่าต้องบอกลาเตียงนุ่มๆ ทันที

“ว่าแต่… คุณซอนฮู”

จินซอยอนเรียก

“คุณเดินทางได้โดยไม่ต้องพึ่งเข็มทิศจริงหรือคะ? ฉันรู้ว่าคุณไม่มีปัญหากับป่าเบอร์มิวด้า แต่สำหรับเทือกเขาด้านหลัง ถ้าเดินผิดแค่นิดเดียวอาจหลงทางไปไกล…”

ฉันเงยหน้ามองไปทางทิศตะวันออกสักพัก จากนั้นก็ยกมือขึ้น

คงไม่มีเหตุผลให้ต้องปิดบังอีกแล้ว

“มาร์คามาmarlkaama”

เสียงหายใจเฮือกใหญ่ดังมาจากด้านหลัง ดูเหมือนจะเป็นจินซอยอน

“ทูซาลี-วอนด์ เดอโมห์สto sali-wond de mohs”

ก่อตัวเป็นไฟและไล่ตามสุสานดวงดาว

ลูกไฟสว่างขึ้นจากหว่างนิ้วและเรียงตัวกันไปทางทิศใต้

นี่คือเข็มทิศของฉัน

“…จะทำเป็นไม่เห็นก็แล้วกันครับ”

“ได้ยังไง… คุณซอนฮูเป็นมนุษย์โลกจริงหรือ…”

ก็นั่นน่ะสิ

ทั้งเรื่องที่มีสิทธิ์นั่งบัลลังก์ราชา เรื่องที่เป็นผู้หยั่งรู้ และเรื่องที่เป็นมนุษย์คนเดียวที่พูดภาษารูนได้

ฉันเริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันว่า ตัวเองเป็นมนุษย์โลกจริงหรือ

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บมาคิด

ฉันหันหน้ามองตรงอีกครั้ง

สูดลมหายใจยาวและก้าวขา

นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางเล็กๆ

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (4/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด