STY-ตอนที่ 9 ศิษย์พี่หญิงหก-ลู่อวี๋ถิง

ศิษย์พี่หญิง 6 ของ เย่เฉิน มีชื่อว่า ลู่อวี๋ถิง นางเป็นหญิงสาวที่ร่าเริงและน่ารักมาก และ ยังเป็น ศิษย์พี่ที่ใจดีมากที่สุดกับ เย่เฉิน

อวี๋ถิง มีความสามารถในการสื่อสาร โดย นางสามารถสื่อสารกับสัตว์ทุกชนิดและสัตว์อสูรได้

แม้ว่า อวี๋ถิง จะไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากนัก แน่นางก็เลี้ยงสัตว์อสูรที่ดุร้ายไว้มากมาย ผู้บ่มเพาะพลัง เช่น อวี๋ถิง จะถูกเรียกว่า ผู้ฝึกสัตว์อสูร

วันรุ่งขึ้น เย่เฉิน ได้เดินตาม ศิษย์พี่หญิงหก ลู่อวี๋ถิง ไปที่ภูเขาด้านหลัง

“เฉินน้อย เร็วเข้า!”

ลู่อวี๋ถิง ที่ยืนอยู่ต่อหน้าของ เย่เฉิน ได้กระโดดไปมาราวกับเด็กน้อยที่สดใส

ลู่อวี๋ถิง มีอายุเพียงแค่ 15 ปี แม้ว่านางจะยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ แต่ นางก็เป็นหญิงสาวที่สง่างามมากอยู่แล้ว…นางได้สวมชุดสีขาวที่ดูเหมือนกับภูตดอกไม้และแสดงท่าทีที่ดูไร้กังวล ทำให้นางดูน่ารักมาก

ในปัจจุบัน ลู่อวี๋ถิง ได้เดินไปที่ด้านหน้าของ เย่เฉิน ผมที่ยาวสลวยของนางได้ปลิวไสวไปตามสายลม หน้าอกที่มีสัดส่วนได้เด้งไปมา แม้ว่า นางจะไม่ได้งดงามเท่ากับ เหมี่ยวหาน แต่เมื่อนางเติบโตขึ้น นางย่อมเป็นสาวงามที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต

เย่เฉิน ได้เดินตามหลัง ลู่อวี๋ถิง และ ไปที่ด้านหลังของภูเขา

ในเวลานี้ ลู่อวี๋ถิง ได้เห็นกระต่ายน้อยน่ารัก ซึ่งนางได้ย่อตัวลงมาและกล่าวพูดอย่างแผ่วเบา ซึ่งกระต่ายน้อยดูไม่ได้กลัวนางเลย มันได้กระโดดขึ้นไปบนอ้อมแขนของ ลู่อวี๋ถิง

จิ๊ด…จิ๊ด…

กระต่ายน้อย ดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างกับ ลู่อวี๋ถิง

ซึ่งดูเหมือนนางจะเข้าใจมันได้ในทันที จากนั้น นางก็ตบตัวกระตายน้อยเบา ๆ แล้วกระต่ายน้อยก็วิ่งเข้าไปในป่า

สำหรับ เย่เฉิน เขาไม่ได้ดูเรียบง่ายแบบนั้น สัตว์อย่างกระต่าย เป็นเพียงอาหารสำหรับเขา

“เฉินน้อย ทุกสิ่งอย่างล้วนมีจิตวิญญาณ หากเจ้าต้องการจะควบคุมสัตว์อสูรและคุ้นเคยกับมัน เจ้าจะต้องพยายามสื่อสารกับพวกมันด้วยหัวใจ”ลู่อวี๋ถิง ได้กล่าวพูดกับ เย่เฉิน ที่ยืนอยู่ข้างหลังของนางด้วยรอยยิ้ม

เย่เฉิน ได้พยักหน้า ราวกับว่าเขาไม่เข้าใจ

ซึ่งเขาได้เปลี่ยนไปมองดู ภูเขาด้านหลังของยอดเขาหยกอมตะแทน ในป่าภูเขาแห่งนี้ มีพลังวิญญาณมากมายมหาศาล และ เขาอาจจะสามารถลงชื่อเข้าใช้ที่นี่เพื่อรับสมบัติบางอย่างได้

ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะลงชื่อเข้าใช้ทันที

“ลงชื่อเข้าใช้!”

เย่เฉิน ได้กล่าวพูดเบา ๆ

ในขณะนี้ ในใจของ เย่เฉิน ก็ปรากฏเสียงดังขึ้น

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ภูเขาด้านหลังของยอดเขาหยกอมตะ ขอแสดงความยินดี คุณได้รับ ‘เทคนิคการสะกดข่มของเทพ’]

[การสะกดข่มของเทพ เป็นเทคนิคบ่มเพาะพลังระดับศักดิ์สิทธิ์ มีผลในการปราบปรามอย่างสมบูรณ์กับคนที่ไม่ใช่มนุษย์ เมื่อฝึกฝนจนประสบความสำเร็จ ตราบใดที่มีฐานการบ่มเพาะพลังที่สูงพอ จะสามารถปราบปรามเผ่าพันธุ์ใดก็ได้]

[เทคนิคการบ่มเพาะพลังนี้สามารถใช้สะกดข่ม สัตว์อสูร,ภูติผี,ปีศาจ,เทพปีศาจ…]

ทันใดนั้น ข้อมูลจำนวนมากก็ดังขึ้นในใจของ เย่เฉิน

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของ เย่เฉิน ก็ตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้

ในโลกที่มีการก่อตั้งของเผ่าพันธุ์นับหมื่น เทคนิคการสะกดข่มของเทพ นี้ทรงพลังเกินไป!

[เทคนิคได้ถูกแจกจ่ายแล้ว]

[คุณได้รับเทคนิค คุณต้องการจะฝึกฝนหรือไม่?]

‘ฝึกฝน’ เย่เฉิน ได้ตอบกลับโดยไม่ลังเล เทคนิคที่ทรงพลังเช่นนี้ ตราบใดที่ไม่ได้ป่วยทางจิต คงไม่มีใครคิดที่จะปฏิเสธมัน

ทันใดนั้น ข้อมูลจำนวนมากก็พุ่งเข้ามาในจิตใจของ เย่เฉิน มันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ เทคนิคการสะกดข่มของเทพ

[ฝึกฝนสำเร็จ ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณได้มาถึงระดับแรกของการฝึกฝนเทคนิคการสะกดข่มของเทพแล้ว]

“เฉินน้อย เจ้ากำลังฟังข้าอยู่หรือเปล่า?”ลู่อวี๋ถิง ที่เห็นว่า เย่เฉิน ตกอยู่ในความงุนงง นางที่ยืนอยู่บนก้อนหิน ได้กล่าวถาม

เย่เฉิน ได้เกาศีรษะและตอบกลับ “ฟัง ข้ากำลังฟังท่านอยู่!”

“ถ้าเจ้าต้องการทำให้สัตว์อสูรเชื่อฟัง อย่างแรกที่ต้องทำก็คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา”ลู่อวี๋ถิง ได้กล่าวพูด จากนั้นนางก็ส่งเสียงเรียกออกมาเบา ๆ “ชางเหว่ย”

โฮกก!

ทันใดนั้น เสียงคำรามก็ได้ดังขึ้น

ร่างสีขาวขนาดใหญ่ได้วิ่งออกมาจากป่าและปรากฏตัวที่ด้านหน้าของ ลู่อวี๋ถิง

มันเป็น เสือโคร่งขนาดใหญ่ ที่มีลายทางขาวดำ และ ดูดุร้ายมาก ในตอนที่ เสือตัวนี้ พุ่งเข้ามา แม้แต่ เย่เฉิน ก็ยังตกตะลึง

เสือที่ดุร้ายตัวนี้ ชื่อ ชางเหว่ย มันเป็น สัตว์อสูรวิญญาณที่ถูกเลี้ยงโดย ลู่อวี๋ถิง

‘แมวตัวใหญ่’ สีขาวตัวนี้ ได้เดินมาที่ด้านข้างของ ลู่อวี๋ถิง และ หมอบลงอย่างเชื่อฟัง

โดย ลู่อวี๋ถิง ได้วางมือลงบนหัวของ ชางเหว่ย เบา ๆ และลูบขนมัน

“มีสัตว์อสูรวิญญาณมากมาย พวกมันต่างก็ดุร้ายมาก แต่เมื่อเจ้าได้ทำพันธสัญญากับพวกเขา เจ้าจะพบว่าพวกเขาล้วนเชื่อฟังมาก เฉินน้อย ลองลูบเขาดูสิ!”

เย่เฉิน ได้มองดู เสือที่ดุร้ายตัวนี้และปรากฏความรู้สึกหนาวเย็นในใจ

อย่างไรก็ตาม เขาได้เอื้อมมือออกไปอย่างอ่อนโยน เพื่อที่จะลูบไล้ ‘แมวตัวใหญ่’ สีขาวตัวนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อ เย่เฉิน เคลื่อนไหว ชางเหว่ย ก็ดูเหมือนจะกวาดกลัว และ ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังของ ลู่อวี๋ถิง

ในขณะนี้ ลู่อวี๋ถิง มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยความประหลาดใจ

เพราะนางสัมผัสได้ว่า ชางเหว่ย กำลังกลัว เย่เฉิน

แม้แต่ เย่เฉิน ก็ยังประหลาดใจเล็กน้อย เขามองไปที่ แมวตัวใหญ่ ที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง ลู่อวี๋ถิง ที่กำลังสั่นกลัว นี่เขาน่ากลัวขนาดนั้นเชียว?

แต่ในขณะนี้ เย่เฉิน ก็นึกถึง ‘เทคนิคการสะกดข่มของเทพ’ ที่เขาเพิ่งได้รับ เทคนิคนี้สามารถใช้สะกดข่มเทพได้ แสดงว่า มันก็สามารถใช้สะกดข่มสัตว์อสูรได้

และมันเป็นไปได้หรือไม่ที่ ชางเหว่ย กลัวเขา เป็นเพราะเขาฝึกฝน ‘เทคนิคการสะกดข่มของเทพ’ ?

“ศิษย์น้องเล็ก มันไม่ใช่แบบนี้สิ ถ้าเจ้าต้องการที่จะทำให้สัตว์ร้ายสงบ เจ้าไม่สามารถทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวได้ เจ้าจะต้องพยายามสื่อสารกับพวกเขาอย่างเป็นมิตร เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจจากพวกเขา!”ลู่อวี๋ถิง ได้กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม

แต่ในขณะนี้ เย่เฉิน ไม่ได้สนใจอะไร เขากำลังยืนยันความคิดในใจของเขา

ทันใดนั้น เขาก็ร่ายมนตร์เทคนิคการสะกดข่มของเทพในใจอย่างเงียบ ๆ และ รัศมีพลังภายในร่างกายของเขาก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา

บูม—

เสียงดังได้ปะทุขึ้น

ทันใดนั้น ก็มีแสงสีทองส่องลงมาจากบนก้อนเมฆ

และตกลงบนร่างของ เย่เฉิน

จากนั้น แรงกดดันที่ทรงพลังก็ได้ปรากฏขึ้นบนร่างกายของ เย่เฉิน ในทันที

ในขณะนี้ ชางเหว่ย ที่อยู่ข้าง ๆ ลู่อวี๋ถิง ดูเหมือนว่ามันจะสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวครั้งใหญ่ สิ่งนี้ทำให้มันรีบคุกเข่าลงไปในทิศทางของ เย่เฉิน ราวกับว่า มันได้ยอมจำนนต่อ เย่เฉิน

ไม่เพียงแต่ ชางเหว่ย เท่านั้น แม้แต่ สัตว์วิญญาณต่าง ๆ รอบตัว ลู่อวี๋ถิง ต่างก็คุกเข่าลงในทันทีและหันหน้าไปทาง เย่เฉิน

ฟ่ออ!

เสียงขู่คำรามขนาดใหญ่ได้ดังขึ้น

ในป่า ทันใดนั้น สัตว์วิญญาณขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัว

มันเป็นอสรพิษขนาดใหญ่ที่หาตัวจับได้ยาก โดยลำตัวของมันมีความหนามากกว่าเมตรและมีความยาวที่ยาวมาก

มันค่อย ๆ เลื้อยไปทาง เย่เฉิน

ลู่อวี๋ถิง รู้สึกตกใจ เมื่อเห็น อสรพิษยักษ์ปรากฏตัว

นี่คือ สัตว์วิญญาณฉิงมั่ง ที่ซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังภูเขาของยอดเขาหยกอมตะ แม้แต่ ผู้ฝึกสัตว์ระดับสูงของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ก็ยังไม่สามารถปราบปรามมันได้ แต่ตอนนี้ มันกลับปรากฏตัวขึ้น นี่มันต้องการที่จะทำอะไร?

ลู่อวี๋ถิง รู้สึกตกใจมาก และ ในขณะเดียวกัน นางก็เตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู

ในขณะนี้ นางเห็น ฉินมั่ง ขนาดใหญ่ กำลังเลื้อยมาที่เท้าของ เย่เฉิน และ ก้มหมอบลงที่เท้าของเขา ราวกับว่ามันกำลังยอมจำนนต่อเขา

รอบ ๆ ลู่อวี๋ถิง สัตว์วิญญาณนับไม่ถ้วน ต่างก็คุกเข่าลงทั้งหมด ราวกับว่าสัตว์วิญญาณทั้งหมดที่อยู่ด้านหลังภูเขานี้ ได้ยอมจำนนต่อแรงกดดันนี้

ในขณะนี้ หัวใจของ ลู่อวี๋ถิง ได้ตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้

นางได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่ ศิษย์น้องของนาง ที่กำลังยืนอยู่บนยอดหิน

นางแทบจะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นเลย

ศิษย์น้องของนางสามารถทำให้สัตว์วิญญาณทั้งหมดบนภูเขาต่างยอมจำนน นี่…

มันเป็นไปได้ยังไง?

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ศิษย์น้องเล็กของนางเป็นผู้ฝึกสัตว์อัจฉริยะตั้งแต่เกิด?