STY-ตอนที่ 6 ศิษย์น้องเล็กเป็นนักปรุงยาอัจฉริยะ

หัวใจของ เย่เฉิน รู้สึกสั่นเมื่อได้ยินเรื่องนี้

การมีรากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ สามารถพิสูจน์ตำแหน่งของเขาในฐานะจักรพรรดิ และ การครอบครองการศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นการพิสูจน์ตำแหน่งของเขาในฐานะจักรพรรดิได้เช่นเดียวกัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขามีลักษณะของจักรพรรดิ?

ทันใดนั้น แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นบนร่างของ เย่เฉิน และ รัศมีพลังที่รุนแรงก็พวยพุ่งออกมา

พลังงานจิตวิญญาณที่พุ่งพล่านได้เริ่มไหลเข้าสู่ร่างกายของ เย่เฉินอย่างต่อเนื่อง และ เย่เฉิน ก็เริ่มนั่งไขว่ห้าง พร้อมกับเริ่มฝึกฝนในทันที

พลังงานของ เย่เฉิน ได้จมลงในเส้นลมปราณของเขา และ เขายังคงดูดซับพลังงานจิตวิญญาณต่อไป พร้อมกับเริ่มฝึกฝนเทคนิคการหายใจที่แม่ของเขาสอนเมื่อวานนี้

ผู้อาวุโสของสวนร้อยสมุนไพร ที่กำลังงีบหลับ เมื่อแสงสีทองปรากฏขึ้นในสวน มันก็ได้ส่องประกายและพุ่งตรงไปยังเมฆเบื้องบนทันที

“นี่คืออะไร?”

ในสวนร้อยสมุนไพร…

ในเวลานี้ พลังงานทางจิตวิญญาณภายในสวนได้พลุ่งพล่านเป็นอย่างมาก

“เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีผู้เชี่ยวชาญของนิกายกำลังฝึกฝนอยู่ที่นี่?แต่เขามาดูดซับพลังปราณจิตวิญญาณที่นี่ได้อย่างไร?”

“ดูเหมือนว่าข้าคงต้องไปตรวจสอบแล้ว!”ผู้อาวุโสได้กล่าวออกมาจากนั้นเขาก็พุ่งตรงไปที่สวนทันที

หลิงซือ ที่เพิ่งจากไป จู่ ๆ นางก็สัมผัสได้ถึงรัศมีอันทรงพลังที่พุ่งออกมาจากสวน

นางรีบกลับมา ในขณะนี้ นางเห็นกระแสออร่าที่ทรงพลังกำลังปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของ เย่เฉิน ซึ่ง มันได้ดึงดูดพลังปราณทางจิตวิญญาณจำนวนมากเข้าสู่ร่างกายของเขา

ทันใดนั้น กลิ่นอายพลังในร่างกายของ เย่เฉิน ก็ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จากนั้น เย่เฉิน ก็ถอนหายใจออกมา

เขาได้เปิดเปลือกตาขึ้น

ในขณะนี้ หลิงซือ กำลังมองมาที่ เย่เฉิน ด้วยความประหลาดใจและกล่าวพูดว่า “ศิษย์น้องเล็ก…เจ้า…ทะลวงสู่อาณาจักรก่อตั้งรากฐานแล้ว?”

หลิงซือ จำได้อย่างชัดเจนว่า เย่เฉิน เพิ่งเริ่มจะฝึกฝนเมื่อวานนี้ แต่เขากลับใช้เวลาเพียง 2 วันในการมาถึงอาณาจักรก่อตั้งรากฐาน

“นี่…พรสวรรค์มันจะท้าทายสวรรค์เกินไปหรือไม่!”

หลิงซือ รู้สึกตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ ปากเล็ก ๆ ของนางได้อ้าออกเป็นรูปตัว ‘o’ ราวกับว่าสามารถใส่ไข่ไก่เข้าไปได้เลย

แต่ทันใดนั้น หลิงซือ ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งที่กำลังเข้ามาใกล้

นางรีบกล่าวเตือนทันที “ศิษย์น้องเล็ก รีบยับยั้งกลิ่นอายพลังของเจ้าเร็วเข้า มีคนกำลังมา!”

เย่เฉิน ที่เพิ่งเรียนรู้เทคนิคการปกปิดกลิ่นอายตัวเองเมื่อวานนี้ และ ในตอนนี้มันก็เป็นโอกาสที่เขาจะได้ใช้มัน ดังนั้นเขาจึงได้ซ่อนรัศมีพลังของเขา

ในขณะนี้ ผู้อาวุโสของสวนร้อยสมุนไพรก็ได้มาถึงเช่นกัน

เขาได้มองไปที่ เยว่หลิงซือ และ เย่เฉิน

เยว่หลิงซือ เป็นผู้บ่มเพาะพลังอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ และ รัศมีพลังของนางก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยตั้งแต่ที่นางเข้ามา ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝน ไม่ควรจะเป็น เยว่หลิงซือ

ถ้าไม่ใช่ เยว่หลิงซือ บางทีอาจจะเป็น…

เขามองไปที่ เย่เฉิน อีกครั้ง แต่มาจนถึงตอนนี้ เขาก็พบว่า เย่เฉิน ไม่ได้แสดงกลิ่นอายพลังของผู้ฝึกตนออกมาเลย

ดังนั้นเขาจึงได้สั่นศีรษะและกล่าวพูดในใจ ‘นี่ข้ากำลังคิดอะไรอยู่? เด็กคนนี้มีรากวิญญาณที่ว่างเปล่า และ เขาไม่สามารถแม้แต่จะฝึกฝนได้ มันจะเป็นเขาไปได้อย่างไร? บางทีก่อนหน้านี้ข้าควรรู้สึกไปเอง’

“เห็นทีว่าข้าคงจะแก่แล้ว!”ผู้อาวุโสของสวนร้อยสมุนไพรได้สั่นศีรษะก่อนที่จะจากไป

เยว่หลิงซือ ได้พา เย่เฉิน ออกจากสวนร้อยสมุนไพร เกี่ยวกับความจริงที่ว่าเขาสามารถฝึกฝนได้ ยังไม่ได้รับการเปิดเผย แน่นอนว่า หากเมื่อวาน เขาไม่ได้ฝึกฝนเทคนิคปกปิดกลิ่นอายได้สำเร็จ ความลับของเขาก็ควรจะถูกเปิดเผยออกมาแล้วเช่นกัน

เยว่หลิงซือ ได้พา เย่เฉิน กลับไปที่ถ้ำของนาง และ เย่เฉิน ก็มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขาพร้อมกับกล่าวถาม “ศิษย์พี่หญิงสี่ ข้าจะเริ่มต้นเรียนรู้การปรุงยาได้เลยหรือไม่?”

เยว่หลิงซือ ได้ยิ้มและตอบกลับ “ศิษย์น้องเล็ก ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร เจ้าจะต้องทำมันทีละขั้นตอน การเร่งรีบมีแต่จะทำให้เกิดผลเสียไปเปล่า ๆ อีกอย่าง เจ้าเพิ่งจะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรก่อตั้งรากฐาน และ ตอนนี้ เจ้ายังต้องการจะเรียนรู้การปรุงยาอีก นี่มันจะไม่ฝืนตัวเองเกินไปหน่อยเหรอ?”

“ศิษย์พี่ ท่านเคยได้ยินคำพูดเหล่านี้หรือไม่?”

“30% ล้วนเป็นเรื่องที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วอีก 70% ที่เหลือ ล้วนขึ้นอยู่กับความพยายาม ดังนั้น หากมีใจที่รักที่จะทำ ไม่ว่าจะสิ่งใดก็สามารถเอาชนะได้!”เย่เฉิน ได้มองไปที่ เยว่หลิงซือ และ ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ในเวลานี้ เยว่หลิงซือ มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยความตกใจ เด็กคนนี้ เพิ่งจะอายุ 8 ปี เท่านั้น แต่คำพูดของเขามัน…

“เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นเจ้าสามารถศึกษาจากการเฝ้ามองข้าได้ ทว่า เจ้าไม่ต้องพยายามที่จะเรียนรู้มัน แค่ดูไปก่อน และ หลังจากนี้ข้าจะสอนเจ้าอย่างช้า ๆ ในอนาคต!”หลิงซือ ได้ตอบกลับ

เย่เฉิน ได้พยักหน้า

ในขณะนี้ เยว่หลิงซือ ก็เริ่มแสดงออกอย่างจริงจัง

บางที เยว่หลิงซือ ก็มักจะประมาทเล็กน้อย แต่นางก็กลายเป้นจริงจังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เมื่อพูดถึงการปรุงยา

นางได้โบกมือที่เรียวยาวของนาง และ ทันใดนั้น ส่วนผสมทางตัวยาทุกชนิด ก็ได้บินออกมาและตกลงมาในมือของนาง

จากนั้นนางก็โบกมือเบา ๆ และ ทันใดนั้น ส่วนผสมสมุนไพรนับไม่ถ้วน ก็ถูกโยนลงไปในเตาหลอม

จากนั้นนางก็ค่อย ๆ ชี้นิ้วของนาง ทำให้ ลูกบอลไฟ ปรากฏขึ้น และ แผดเผาอยู่โดยรอบเตาหลอมยา

หลิงซือ ได้ควบคุมความร้อนของเปลวไฟอย่างระวังและเริ่มกลั่นน้ำทิพย์

เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่สี่ของเขาอย่างจริงจัง นางที่สวมใส่ชุดที่สวยงามและมีใบหน้าเล็ก ๆ โดยความงามเหล่านี้สามารถล่มประเทศได้ในการโจมตีครั้งเดียว ยังมีผมสีดำหลายพันเส้นที่พันอยู่รอบแผ่นหลังของนาง และ เผยให้เห็นผิวหนังที่งดงามดุจหยกอีก

และยังมี ท่าทีที่จริงจังในปัจจุบัน ทำให้นางดูน่าหลงใหลเป็นอย่างมากเวลานี้

สำหรับ เย่เฉิน หลิงซือ ในปัจจุบัน ค่อนข้างน่าดึงดูดใจอย่างแท้จริง

นั่นก็เพราะ จิตวิญญาณของ เย่เฉิน เป็นของชายหนุ่ม อายุ 20 ปี ในขณะที่ร่างกายของเขามีอายุเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ศิษย์พี่สี่ ที่งดงาม เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหลงใหลเล็กน้อย

เย่เฉิน รีบสงบสติอารมณ์และกล่าวพูดกับตัวเองในใจ ‘เย่เฉิน นี่แกกำลังทำบ้าอะไรอยู่? ตอนนี้เจ้ามาที่นี่เพื่อเรียนรู้การปรุงยา!’

แม้ว่า เย่เฉิน จะแอบมอง หลิงซือ แต่ในความเป็นจริง เขาจดจำกระบวนการกลั่นยาได้หมดแล้ว

ในขณะนี้ หลิงซือ ได้โบกมือของนาง

ทันใดนั้น โอสถเม็ด ก็ลอยขึ้นมาและตกลงมาบนมือของนาง

“นี่คือ โอสถฟื้นฟูพลังปราณ ที่ทำได้ง่ายมากที่สุด เมื่อเจ้าบริโภคพลังปราณที่แท้จริงมากเกินไป ก็จะสามารถเติมเต็มพลังปราณที่แท้จริงผ่านสิ่งนี้ได้! โดยตัวโอสถนั้นแบ่งออกเป็น 9 ระดับ เรียงลำดับจาก ระดับ 1-9 และ นี่เป็นโอสถเม็ดที่ง่ายที่สุดที่อยู่ระดับ 1”หลิงซือ ที่ถือ โอสถฟื้นฟูพลังปราณ นางได้กล่าวพูดกับ เย่เฉิน ด้วยรอยยิ้ม

เย่เฉิน ได้จดจำกระบวนการทั้งหมดได้แล้ว และ เขาต้องการลองดูด้วยตัวเอง

เขาได้มองไปที่ ดวงตาที่คมชัดของ หลิงซือ และ กล่าวถาม “ศิษย์พี่หญิงสี่ ข้าขอลองดูได้หรือไม่?”

นางได้พยักหน้า

เย่เฉิน ได้เลียนแบบการกระทำของ หลิงซือ และ เริ่มปรับแต่งโอสถ

“ศิษย์น้องเล็ก อย่างที่ข้าได้พูดไปก่อนหน้านี้ การเร่งรีบ มีแต่จะทำให้เกิดผลเสีย และ มันคงไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จทันทีที่ลองครั้งแรก ดังนั้นหากเจ้าล้มเหลว ก็อย่าเพิ่งท้อแท้ไปล่ะ!”หลิงซือ ได้กล่าวพูดจากด้านข้าง

เย่เฉิน ได้พยักหน้า แล้ว เลียนแบบ หลิงซือ โดยมุ่งเน้นไปที่การปรุงยา

เขาไม่ได้มีพลังปราณที่แท้จริงแข็งแกร่งเท่ากับ หลิงซือ ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียง ชั่งน้ำหนักสมุนไพรอย่างต่อเนื่อง และ ควบคุมเปลวไฟอย่างระวัง

แต่ ทักษะการปรุงยาของ เย่เฉิน ก็ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน

เขากำลังชั่งน้ำหนักสมุนไพร ควบคุมไฟ และ กลั่นตัวยา ทั้งหมดในครั้งเดียว

ทันใดนั้น โอสถเม็ดทรงกลม ก็บินออกมาจากเตาหลอมยาและตกลงมาบนมือของ เย่เฉิน

“ศิษย์พี่ ท่านลองดูโอสถเม็ดอันนี้?ข้าทำสำเร็จหรือไม่?”เย่เฉิน ได้วางโอสถเม็ดไว้ข้างหน้าของหลิงซือ

หลิงซือ ที่กำลังคิดเล็กคิดน้อยและไม่ได้สนใจอะไร

ทันทีที่ เย่เฉิน ปรุงยาเสร็จ นางก็ตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้

ใบหน้าของนางได้กลายเป็นดูตกใจในขณะที่นางเปิดปากเล็ก ๆ ของนางเพื่อจ้องมอง เย่เฉิน นางไม่อยากจะเชื่อ จนได้ร้องอุทานออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ “เฉินน้อย…เจ้าคงไม่ใช่นักปรุงยาอัจฉริยะหรอกใช่มั้ย?”