ตอนที่แล้ว  ตอนที่26 ราชามาเฟียตื่นขึ้นมา – รู้สึกโกรธ(1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 ราชามาเฟียตื่นขึ้นมา – รู้สึกโกรธ (3)

ตอนที่27 ราชามาเฟียตื่นขึ้นมา –รู้สึกโกรธ (2)


เหมิงหยาถูกบังคับให้รอด้านนอกออฟฟิตของเหว่ย เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้เธอรู้เรื่องความลับด้านมืดของพวกเขา ซึ่งมันอันตรายสำหรับเธอและส่งผลไปถึงหลีหัวด้วย

ภายในสำนักงานฟูเหรินชูพร้อมแล้วสำหรับการรายงานผลการสืบหาความจริง

“พวกมันคือแก๊งเงาอินทรีครับเจ้านาย”

เหว่ยสงบนิ่งอย่างน่ากลัว เขาให้ความสนใจกับรายงานของฟูเหรินชู แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถสลัดความคิดถึงหลีหัวออกไปจากจิตใจได้

“เจ้าหนี้เงินกู้ชื่อฉาง ฟังครับ”

โดยปกติแล้วราชามาเฟียผู้มีตำแหน่งสูงสุด เขาไม่เคยให้ความใส่ใจที่จะจดจำรายละเอียดของบรรดาแก๊งทั้งหลายที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขา แต่เขาก็จำได้และรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับอาณาจักรอาชญากรรมของพวกเขา

ฟูเหรินชูพยักหน้า “เจ้านายครับผู้ชายคนนั้นชื่อเหลียง มิน เขาเป็นนักธุรกิจที่ยืมเงินจากแก๊งเงาอินทรี เพื่อรักษาธุรกิจที่ซบเซาของเขา เขาอ้างว่าเขาไม่สามารถคืนเงินได้ทันเวลา แต่เหลียง มินไม่ได้ยากจนอย่างที่คิดนะครับ ดังนั้นฉาง ฟังจึงสั่งให้ตามเจาะสว่าน...”

“หลีหัว”

เหลียง มินขับรถเร็วไม่ระมัดระวัง เขาเกือบจะชนเด็กชาย ซงหลีหัวไปช่วยเด็กไว้ทันและเธอก็ไปเผชิญหน้ากับเขา พวกผู้ชายกลุ่มนั้นเข้าใจผิดคิดว่าเธออยู่กับเหลียง มิน

“นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัว”

ฟูเหรินชูตัวแข็งทื่อ น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเขานั้น เหมือนหนามที่แหลมคมในต้นกระบองเพชรที่พร้อมจะทิ่มแทงได้ตลอดเวลา และตัวเขานั้นก็รู้สึกดีใจที่ไม่ได้ตกเป็นเป้าของความโกรธนั้น แต่พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้เขารู้สึกตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเหว่ยโกรธมาก โดยส่วนตัวเขาแล้ว เขาคิดว่านี่เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับราชามาเฟีย ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยมีผลกระทบอะไรมากนัก แต่หลังจากที่เหว่ยได้พบกับหลีหัว เขาก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นกับเหว่ย เขาทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง เขาตัดสินใจครั้งใหญ่ที่จะย้ายไปอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ของหลีหัว ซึ่งเป็นหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงนั้น

เหว่ยกำกระดาษที่ยับยู่ยี่ ที่เป็นรายงานเกี่ยวกับเหลียง มินไว้แน่น ซึ่งเพิ่มความโกรธให้กับเขามากยิ่งขึ้น เขาหายใจเร็วแรงและกระสับกระส่าย เขาไม่ต้องการให้หลีหัวอยู่ที่นั่นอีกต่อไป แววตาที่แข็งกร้าวนั้นบ่งบอกถึงอันตราย...

“ไปกันเถอะ”

ฟูเหรินชูมองเขาอย่างเงียบๆและค่อยๆเปิดปากของเขาออกมา “เจ้านายขอประทานโทษที่ก้าวล่วงนะครับ”

เหว่ยหยุดและมองมาที่เขา

“ทำไมเจ้านายถึงทำเพื่อเธอ...เจ้านายรู้ไหมว่าเธอเป็นน้องสาวของซงเจียและ...”

ผู้ที่เขาฆ่าด้วยมือของเขาเอง ความทรงจำเล็กๆได้ย้อนกลับเข้ามาภายในใจของเขา ลูกน้องเขาลากซงเจียเข้ามาและทำให้เธอคุกเข่าต่อหน้าเหว่ย ซึ่งนั่งอย่างสง่างามอยู่บนบัลลังก์ของเขา

ฟูเหรินชูพูดว่า “เธอเป็นสายลับครับเจ้านาย”

“รู้แล้ว”เขามองเธอด้วยสายที่ว่างเปล่า

ซงเจียจ้องมองไปที่เขา ลูกน้องยื่นแผ่นดิสก์ขนาดเล็กให้เขา “นี่ครับเจ้านายที่ซงเจียรวบรวมหลักฐานไว้เกี่ยวกับอาชญากรรม...”

เมื่อเหว่ยดูแล้วเขาก็เลิกคิ้วและมองไปที่เธอ “ไม่เลว” สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะชื่นชมใคร แสดงให้เห็นได้ว่าการสืบสวนสอบสวนของเธอได้มีการเก็บรายละเอียดไว้อย่างครบถ้วน แต่ครู่ต่อมาเขาได้หักแผ่นดิสก์นั้นออกเป็นสองส่วน

ซงเจียหรี่ตาลง “อย่าคิดว่าคุณจะชนะฉันเพราะสิ่งนี้นะราชามาเฟีย”

เขาไม่พูดอะไร

“ความลับที่น่าเกลียดของคุณจะไม่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ตลอดไปหรอกนะเจียง เหว่ย” เธอกัดฟัน

ฟูเหรินชูเยาะเย้ย “ผมมองเห็นความเกลียดชังที่ฝั่งลึก ทำไมล่ะ..? เธอคือลูกสาวของตระกูลซง ผมเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะเป็นเจ้าหน้าที่...เหมือนกับพ่อแม่ของเธอ”

เมื่อพูดถึงพ่อแม่ของเธอก็ได้พบบาดแผลที่ฝั่งลึกอยู่ภายในใจ เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเมื่อนึกถึงมัน...

“ใช่...เช่นเดียวกันกับพ่อแม่...” เธอเงยหน้าขึ้นและจ้องมองอย่างท้าทายกับสายตาที่เฉยเมยของเหว่ย ความโกรธแค้นพุ่งขึ้นมาของภายในใจของเธออีกครั้ง

“พ่อแม่ของฉันที่ถูกคุณฆ่าอย่างไร้ความปราณีเมื่อหลายปีก่อน”

ความเงียบ...

ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็มีกระสุนพุ่งไปที่หน้าอกของเธอ และเธอก็ล้มลงกับพื้นนอนจมกองเลือด ฟูเหรินชูมองนิ่งๆไปที่ร่างของซงเจีย เขาไม่คิดว่าเหว่ยจะต้องฆ่าครอบครัวซงทั้งหมดในวันเดียวกัน เมื่อหลายปีก่อนเป็นพ่อแม่ของซงเจีย และตอนนี้ก็เป็นซงเจีย

หนึ่งในลูกน้องของเขาได้นำข้าวของทั้งหมดของเธอมา “เจ้านายโทรศัพท์เครื่องนี้ถูกเก็บซ่อนไว้ในกระเป๋าของเธอครับ”

เหว่ยเปิดออกมาดูและเห็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในนั้น เขาเอียงศีรษะและจ้องไปที่ภาพนั้นเป็นเวลานาน

“เธอเป็นใคร?”

ฟูเหรินชูพูดว่า “ซงหลีหัวเป็นน้องสาวของซงเจียครับ”

เหว่ยเหลือบมองไปที่เขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และเขาก็กลับไปมองที่ภาพนั้นอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่เขาสังหรณ์ใจมาก รู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีใครบางคนเอาเชือกมามัดหัวใจของเขาไว้แล้วกระชากออกมา เขาต้องการพบเธอ แต่เขาก็ไม่มีคำตอบว่าเพราะอะไร ทำไมถึงอยากจะพบเธอ เหว่ยไม่สามารถเอานิ้วไปแตะที่ภาพนั้นได้อีก

“ฉันต้องการพบเธอ” เขาบอก

“เดี๋ยวนี้”

ฟูเหรินชูเม้มริมฝีปากของเขา

เหว่ยพูดว่า “ผมไม่สามารถที่จะบอกอะไรได้ แต่ผมต้องการรู้จักเธอมากกว่านี้ เธอเป็นคนแปลกและแตกต่างไปจากคนอื่น ผมอยากจะรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอและผมก็จะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ...”

“เจ้านายผมแค่...”เขาถอนหายใจเมื่อเขาคิดถึงเรื่องราวในอดีต ถ้าเป็นเช่นนี้ในอนาคตก็จะมีอะไรที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

สายตาที่ดูอบอุ่นของเหว่ยนั้นจางหายไป เขามีงานเดียวที่จะต้องทำตอนนี้คือพาหลีหัวออกมาจากที่นั่น

“เจ้านายผมจะโทรหาฉาง ฟัง”

“ไม่ต้องผมจะไปหาเขาเอง” เขาหรี่ตาลง “มีบางอย่างที่ผมจะต้องไปคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว” เขาใช้เวลาไม่นานในการเดินทางไปถึงสำนักของแก๊งเงาอินทรี ยิ่งเข้าไปใกล้ๆเขายิ่งรู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกกระวนกระวายใจ หลังจากที่หลีหัวถูกลักพาตัวไป เขาคิดว่าเธอน่าจะกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟายและขอร้องให้พวกมันปล่อยตัวเธอไป และเขาก็เริ่มมีอารมณ์โกรธอีกครั้ง เขาไม่กล้าคาดเดาสภาพของเธอที่ถูกพวกมันขังไว้นั้นจะเป็นอย่างไร

ยามที่เฝ้าอยู่ด้านนอกนั้นเบิกตากว้าง เมื่อเขาเห็นราชามาเฟียเดินทางมาที่นี่ เขานั่งอยู่ข้างบนสุดของโซ่ ทำไมเขามาที่นี่ด้วยตัวเอง? แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะถามหรือหยุดเขา เช่นเดียวกันกับพวกที่จงรักภักดี พวกเขาแค่โค้งคำนับที่เห็นราชามาเฟียเดินผ่านพวกเขาไปเท่านั้น

“เวร! นายฉางรู้หรือเปล่าว่าราชามาเฟียมาที่นี่!”

ขณะที่เหว่ยกำลังจะพังประตูเข้าไป เขาได้ยินเสียงของหลีหัว

“หลีหัว..” เขากระแทกประตูให้เปิดเข้าไป แต่ภาพที่เขาคาดเดาเอาไว้กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันชนะแล้ว! ฉันชนะอีกครั้งแล้ว” หลีหัวร้องและหัวเราะเสียงดัง “เอาเงินมา”

ฉาง ฟังโยนลูกเต๋าด้วยความหงุดหงิดและสาปแช่ง “บัดซบ! นี่เป็นครั้งที่สามแล้วนะที่คุณชนะลูกโด!”

เหว่ย “...” นั่นคือหลีหัวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับหัวหน้าแก๊งเงาอินทรี เขาทั้งชื่นชมและยินดีกับเธอที่ได้ชัยชนะเหนือเกมกระดานนี้ เธอทำราวกับว่าเธอไม่ได้ถูกลักพาตัวมาเลย...

         

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด