ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 76 ลีออง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 78 โชคชะตานำพา

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 77 ชายหนุ่มผู้มั่งคั่ง


ตอนที่ 77 ชายหนุ่มผู้มั่งคั่ง

เมื่อซาร่าห์เห็นเทย์เลอร์นั่งอยู่ เธอจึงเดินไปหาลูกสาวที่กำลังถือจานขนมในมือ “เอลิซาเบธ แม่จะพาลูกไปพบกับผู้โรนัลด์ เนียม ตอนนี้เขากำลังเตรียมสร้างภาพยนตร์แนวคาวบอยตะวันตก มีตัวละครในภาพยนตร์ที่อาจเหมาะกับลูก”

พูดเสร็จเธอก็จูงมือลูกสาวเดินไปที่ห้องโถงอย่างรวดเร็ว

วางจานขนมลงที่โต๊ะอาหาร พาเทย์เลอร์ไปที่กลุ่มคนจำนวนมาก ตรงกลางเป็นชายวัยสี่สิบซึ่งเป็นผู้กำกับโรนัลด์ เนียม

โรนัลด์ เนียม ไม่ใช่ผู้กำกับฮอลลีวูดอันดับต้นๆ ซึ่งความโด่งดังของเขาอยู่ในแถวสองของวงการ

เขากำลังเตรียมถ่ายทำภาพยนตร์วิถีชีวิตของคนในภูมิภาคตะวันตก ส่วนใหญ่เกี่ยวกับความยากลำบากที่ครอบครัวต้องเผชิญกับสภาพพื้นที่ที่รกร้างว่างเปล่าของภูมิภาคตะวันตก

ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมดหกคน ได้แก่ พ่อ แม่ ลูกชายคนโต ลูกสาวคนรอง ลูกชายคนที่สาม ลูกสาวคนเล็ก และสุนัขหนึ่งตัว

บทบาทลูกสาวคนรองมีอายุประมาณสิบห้าถึงสิบหกปี ซาร่าห์ได้ยินดังนั้นจึงแนะนำเทย์เลอร์ ลูกสาวของเธอให้กับโรนัลด์ เนียม

เทย์เลอร์เคยถ่ายภาพยนตร์มาแล้วแค่สองเรื่อง และถือว่าเป็นดาราเล็กๆ แต่โรนัลด์ เนียมก็เคยเห็นหน้าตาและลักษณะของเทย์เลอร์มาก่อน เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและต้องการปฏิเสธแบบอ้อมๆ

“บทบาทของลูกสาวรองนั้น เธอจะได้พบกับอีกครอบครัวหนึ่งที่มาทางทิศตะวันตกเพื่อหาพื้นที่ตั้งถิ่นฐาน และเริ่มมีความรู้สึกรักใคร่กับลูกชายคนรองของครอบครัวนั้น จนในที่สุดก็ทำให้ทั้งสองครอบครัวมีความผูกพันที่ดีต่อกัน ดังนั้นผมจึงคิดว่าเธอต้องมีลักษณะเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้และต้องสามารถแสดงความรู้สึกสะเทือนอารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี”

แต่ซาร่าห์ยังคงไม่ยอมแพ้ “เอลิซาเบธสามารถเล่นบทที่เป็นผู้ใหญ่กว่านี้ได้นะโรนัลด์ ตอนนี้เธออยู่ที่งานเลี้ยงนี้ด้วย คุณลองเจอเธอก่อนได้ไหม”

โรนัลด์ เนียมรู้สึกอายเล็กน้อยที่จะปฏิเสธไปมากกว่านี้ ท้ายที่สุดนี่ก็ไม่ใช่การคัดตัวนักแสดงอย่างเป็นทางการ หากเขาปฏิเสธไปมากกว่านี้ จะทำให้ดูไม่ดีทั้งสองฝ่าย

“ได้สิ คุณพาเทย์เลอร์มาก่อนก็ได้” โรนัลด์ เนียมกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

ซาร่าห์จึงรีบออกไปหาตัวลูกสาวของเธอ

โรนัลด์ เนียมมองไปที่เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ เขายอมรับว่าหน้าตาเธองดงามมาก แต่เธอเตี้ยเกินไป

ตอนนี้เธอน่าจะสูงแค่ 150 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้เธอยิ่งดูอ่อนกว่าวัยกว่าเดิม

ในอนาคตเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ก็ยังมีส่วนสูงไม่มากนัก ในวัยผู้ใหญ่เธอมีส่วนสูงเพียง 157 เซนติเมตร เรียกได้ว่าค่อนข้างเตี้ยกว่ามาตรฐานของชาวยุโรปและอเมริกันทั่วไป อย่างไรก็ตามเธอมีรูปร่างที่ดีมาก เธอเป็นคนประเภทที่ไม่อ้วนแม้ว่าจะกินมากแค่ไหนก็ตาม และเธอยังฝึกเต้นบัลเล่ต์ตั้งแต่เด็กทำให้ร่างกายของเธอสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้

ยังมีความงามอันวิจิตรจากดวงตาของเธอ

ซึ่งต่อมาเธอจะได้แสดงบทบาทคลีโอพัตรา (Cleopatra) ซึ่งการแสดงของเธอนั้นถือว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ความหยิ่งยโสที่ทั้งสูงส่งและสง่างามของเธอนั้นถึงขั้นถูกขนานนามว่าไม่มีใครที่แสดงบทบาทนี้เทียบเท่าเธอได้

ลูกสาวคนรองที่โรนัลด์ เนียมกำลังมองหานั้นต้องมีลักษณะที่งดงามก็จริง แต่ความงามที่เขาต้องการนั้นอยู่ในรูปแบบของสาวชนบทที่มีความเรียบง่ายเพื่อให้เข้ากับโครงเรื่อง

ซาร่าห์ให้เทย์เลอร์ลองแสดงบทสั้นๆ ในภาพยนตร์เจน แอร์หัวใจรักนิรันดร์ (Jane Eyre) หลังจากการแสดง เสร็จ เทย์เลอร์มองผู้กำกับด้วยตาโต

โรนัลด์ เนียมส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ขอโทษนะเทย์เลอร์ ผมคิดว่าบทบาทนี้ในภาพยนตร์ไม่เหมาะกับคุณ”

ถูกปฏิเสธอีกแล้ว

ซาร่าห์ผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เธอไม่ได้เซ้าซี้อีกฝ่ายต่อ มันดูแย่หากเธอได้รับการปฏิเสธโดยตรงแล้วแต่ยังไม่หยุด

เทย์เลอร์ก็รู้สึกผิดหวังเช่นเดียวกัน

เธอจำไม่ได้แล้วว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไรที่เธอถูกปฏิเสธในช่วงสองปีที่ผ่านมา

แต่ซาร่าห์ไม่ท้อถอย

เธอพาเทย์เลอร์ไปพูดคุยกับผู้กำกับและคนดังคนอื่นๆ ต่อไป ต่อให้มีโอกาสน้อยแค่ไหนเธอก็พร้อมที่จะคว้าเอาไว้

เทย์เลอร์เดินตามแม่ของเธออย่างเงียบๆ ทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม และลองแสดงบทบาทสั้นๆ ให้ผู้กำกับคนอื่นๆ ดู

...

ฮาร์ดี้กลับไปที่ห้องโถงอีกครั้ง

หยิบแชมเปญจากถาดที่บริกรถืออยู่

ฮาร์ดี้กวาดสายตาไปทั่วห้องโถง มีหนุ่มหล่อและสาวสวยอยู่ในทุกมุมห้อง และในฝูงชน เขาก็เห็นชายอ้วนที่อายุมากคนหนึ่ง

หัวล้านตามแบบฉบับคนสูงวัยสัญชาติอังกฤษ สันจมูกสูง คางใหญ่ รูปร่างเหมือนถังน้ำมัน

แต่ถังน้ำมันนี้มีผู้คนรายล้อมมากมาย

เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตที่แล้วของเขาก็นึกออกในทันที เขารู้ตัวตนของชายชราอ้วนผู้นี้

เขาคือผู้กำกับชื่อดัง อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก

ฮิตช์ค็อก คือผู้กำกับฮอลลีวูดชั้นเซียน เขาเป็นที่รู้จักในฐานะปรมาจารย์ด้านภาพยนตร์ระทึกขวัญ ในปี 1940 ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาในฮอลลีวูดเรื่อง ‘รีเบคกา (Rebecca)’ ได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

แต่กว่าเขาจะได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาภาพยนตร์ระทึกขวัญนั้นก็เป็นช่วงหลังจากทศวรรษ 1950 ภาพยนตร์ทรงอิทธิพลมากมายหลายเรื่องที่เขากำกับอย่าง ‘เหนือมฤตยู (North by Northwest)’ และ ‘พิศวาสหลอน (Vertigo)’ ทำให้เขาได้รับการขนานนามนี้

ฮาร์ดี้ยกแก้วขึ้นและเดินไปที่ยังฝูงชนที่ฮิตช์ค็อกอยู่

“สวัสดีครับคุณฮิตช์ค็อก ผมทอม ฮาร์ดี้เป็นผู้ช่วยประธานบริษัทภาพยนตร์โนอาห์ อาร์ค” ฮาร์ดี้แนะนำตัว

“สวัสดีคุณฮาร์ดี้”

ฮิตช์ค็อกพูดด้วยสำเนียงอังกฤษที่ชัดเจน

“คุณฮิทช์ค็อก บริษัทภาพยนตร์ของเรากำลังเตรียมสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ ผมสงสัยว่าคุณมีแผนการอะไรช่วงนี้ไหม” ฮาร์ดี้ถาม

ความสนใจของฮิตช์ค็อกถูกกระตุ้นโดยคำพูดของฮาร์ดี้ในทันที เขาเพิ่งถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จเมื่อปีที่แล้วและไม่มีแผนการอะไรในปีนี้ ช่วงนี้เขาจึงมีเพียงการมองหาเรื่องราวที่สร้างสรรค์

แม้ว่าเขาจะมีบทภาพยนตร์จำนวนมากอยู่ในมือ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหุนหันพลันแล่นมากพอที่จะถ่ายทำพวกมันในขณะนี้

จริงอยู่ที่ว่ามีเรื่องราวที่เขาค่อนข้างชอบและสนใจ เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีคำสั่งให้มาสอดแนมหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

เรื่องราวที่ส่งผลระดับชาติ สงครามสายลับ ความพัวพันทางอารมณ์ระหว่างชายหญิง และสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอันตรายที่ไม่มีใครสามารถเชื่อใจใครได้

เขาคิดว่ามันคงจะดีหากมีนางเอกเป็นอิงกริด เบิร์กแมน และพระเอกเป็นแครี แกรนต์ แต่แผนเหล่านี้ยังคงเป็นแค่ความคิดของเขา มันยังไม่มีการดำเนินการอะไรทั้งนั้นเพราะเขาคิดว่าบทเรื่องนี้ค่อนข้างล้าสมัย

มันยังต้องมีการปรับปรุงอีกมาก

“ภาพยนตร์เรื่องใหม่เกี่ยวกับอะไร?” ฮิตช์ค็อกถามอย่างสุภาพ

“นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักฆ่าและเด็กหญิงตัวเล็กๆ” ฮาร์ดี้เล่าให้ฮิตช์ค็อกฟังอีกครั้งเหมือนกับที่เขาเพิ่งเล่าให้เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ฟัง

ในตอนแรก ฮิตช์ค็อกไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะเรื่องราวของนักฆ่ากับหญิงสาวไม่ใช่แนวคิดใหม่ แต่เมื่อเขาได้ยินว่าเด็กสาวยืนอยู่ที่ประตูขอร้องให้นักฆ่าเปิดประตู ฮิตช์ค็อกก็ค่อยๆ เริ่มสนใจ

เมื่อเรื่องราวที่ฮาร์ดี้เล่าเริ่มเข้มข้นขึ้น ฮิตช์ค็อกแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังตั้งใจฟังเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกที่โง่เขลาของเด็กหญิงอายุ 14 ปีและลุงวัย 40 ปี มันทำให้เขาหลงใหลในความรู้สึกต้องห้าม

หลังเล่าจบ ฮิตช์ค็อกครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปที่ฮาร์ดี้ “มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ผมสนใจมากคุณมีบทเรื่องนี้ไหม”

“ตอนนี้ยัง” ฮาร์ดี้ยักไหล่

“ถ้างั้นก็เขียนบทให้เสร็จก่อน แล้วเราค่อยคุยกันอย่างเป็นทางการหลังจากที่ผมอ่านจบ” ฮิตช์ค็อกกล่าว

“ผมจะขอให้ผู้เขียนบทเขียนออกมาโดยเร็วที่สุด แล้วจะติดต่อคุณไป” ฮาร์ดี้ยิ้ม

ฮิตช์ค็อกหยิบนามบัตรออกมาแล้วยื่นให้ฮาร์ดี้ “นี่คือข้อมูลติดต่อของผม อย่าลืมมาหาผมเมื่อบทเสร็จแล้ว”

ฮาร์ดี้บอกลาฮิตช์ค็อก เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินไปหาประธานเอ็มจีเอ็มอย่างหลุยส์ เมเยอร์

“คุณเมเยอร์ ผมวางแผนที่จะลงทุนภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ผมเพิ่งคุยเรื่องนี้กับผู้กำกับฮิตช์ค็อก เขาสนใจบทนี้มาก ผมเลยอยากถามว่าเอ็มจีเอ็มสนใจจะลงทุนด้วยไหม”

เมื่อเมเยอร์ได้ยินว่าผู้กำกับชั้นเซียนอย่างฮิตช์ค็อกสนใจบทภาพยนตร์ของฮาร์ดี้ เขาก็สนใจด้วยทันที “ลงทุนเหรอ น่าสนใจนะ บอกผมทีว่าเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร”

ฮาร์ดี้เล่าเรื่องให้เมเยอร์ฟังอีกครั้ง หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เมเยอร์รู้สึกว่าเรื่องราวของนักฆ่ากับเด็กหญิงตัวน้อยไม่ได้แย่ และงบประมาณของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่น่าจะสูงมากนัก

ฮาร์ดี้ยังบอกด้วยว่าตอนนี้คนของโนอาห์ อาร์คกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องอื่นอยู่ เขาจึงวางแผนที่จะใช้ทีมถ่ายทำของเอ็มจีเอ็มสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้

สุดท้ายจบลงที่เมเยอร์พูดว่า “เมื่อคุณได้บทมาแล้ว บอกผมด้วยนะ”

...

ในขณะที่ฮาร์ดี้กำลังคุยกับเมเยอร์ ก็มีคนกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่

ซาร่าห์เป็นผู้หญิงที่ทะเยอทะยานและไม่ย่อท้อ ต่อให้โดนปฏิเสธไปแล้ว เธอก็ไม่ยอมแพ้และยังคงมองหาโอกาสอื่นต่อ เธอจึงให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของผู้กำกับและดาราคนอื่นๆ

ในห้องโถงนี้ เมเยอร์ ประธานเอ็มจีเอ็ม

ในฐานะประธานของหนึ่งในแปดบริษัทภาพยนตร์ฮอลลีวูดรายใหญ่ เขาควบคุมได้แม้กระทั่งชีวิตและความตายของผู้คนนับไม่ถ้วน ดาราดังและผู้กำกับเหล่านั้นก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

ฮาร์ดี้และเมเยอร์พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องใหม่กันอยู่นานจนซาร่าห์สังเกตเห็น

เธอพบว่าตัวเองไม่เคยเห็นชายหนุ่มที่กำลังคุยกับเมเยอร์มาก่อน

เขาไม่น่าเป็นดารา

และคุยกับเมเยอร์ได้นาน แสดงว่าต้องมีตำแหน่งพอสมควร

เธอจำได้ว่าเหมือนเคยเห็นเขาทักทายคนจากบริษัทภาพยนตร์โนอาห์ อาร์ค พวกเขาน่าจะรู้จักกัน

เธอจึงเดินไปหาริชาร์ด ผู้จัดการฝ่ายผลิตของโนอาห์ อาร์ค

“สวัสดี ริชาร์ด” ซาร่าห์ยิ้มและทักทาย

ซาร่าห์เป็นผู้หญิงที่สวยแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอจะให้กำเนิดลูกสาวแสนสวยอย่างเทย์เลอร์ได้อย่างไร

“สวัสดี ซาร่าห์” ริชาร์ดตอบด้วยรอยยิ้ม

“โนอาห์ อาร์คมีถ่ายภาพยนตร์เรื่องใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ใช่ไหม” ซาร่าห์ถาม

“ใช่ เรื่องหนึ่งกำลังร่วมมือกับวอร์เนอร์ และอีกเรื่องหนึ่งร่วมมือกับบริษัทเอชดีฟิล์มชื่อ ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชร’ ตอนนี้ทีมงานฝ่ายผลิตของบริษัททั้งหมดกำลังถ่ายทำอยู่ในนิวเม็กซิโก” ริชาร์ดกล่าว

ซาร่าห์เคยได้ยินชื่อ ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชร’ และเอวา การ์ดเนอร์ ที่เป็นกระแสเมื่อไม่นานมานี้ หนังสือพิมพ์รายงานว่าเพลงที่เธอร้องเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ และตัวเธอเองก็รับบทบาทแสดงอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

“เอชดีฟิล์ม ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เป็นบริษัทใหม่เหรอ?” ซาร่าห์ถาม

“ใช่ เป็นบริษัทที่คุณทอม ฮาร์ดี้ ผู้ช่วยประธานของบริษัทเราเป็นเจ้าของ เขาลงทุนในภาพยนตร์เรื่องนี้ โนอาห์ อาร์ครับผิดชอบด้านการถ่ายทำ และเอวา การ์ดเนอร์ก็เป็นนักแสดงในสังกัดบริษัทนายหน้าของเขาด้วย” ริชาร์ดกล่าว

เรื่องที่ริชาร์ดเล่านั้นทำเอาซาร่าห์รู้สึกประหลาดใจ

ปรากฏว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นผู้ช่วยประธานของโนอาห์ อาร์ค นอกจากนี้เขายังมีบริษัทภาพยนตร์และบริษัทนายหน้าเป็นของตัวเองอีกด้วย

ช่างเป็นชายหนุ่มที่มั่งคั่งเสียจริง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด