ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 70 สั่งสอนมันหน่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 72 ขอโม้ให้สุด

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 71 วิธีล้มบริษัทจดทะเบียน


ตอนที่ 71 วิธีล้มบริษัทจดทะเบียน

“วันนี้เธอมีเวลาไปเที่ยวรอบๆ ที่นี่กับฉันไหม” ฮาร์ดี้พูดกับเอวา

เอวายิ้มออกมาเมื่อได้ยินที่ฮาร์ดี้ถาม เธอรู้ดีว่าชายคนนี้คิดอะไรอยู่

“แต่นักแสดงต้องขออนุญาตผู้กำกับก่อนเวลาออกไปข้างนอก ฉันไม่รู้ว่าผู้กำกับจะยอมให้ฉันไปหรือเปล่า?” เอวาแสร้งทำเป็นขมวดคิ้ว

“แล้วถ้าเราหนีออกไปกันล่ะ” ฮาร์ดี้กระซิบ

“หนี?” ดวงตาของเอวาเป็นประกาย

“ใช่! แอบหนีไปกันแค่เราสองคนแบบไม่ต้องบอกใคร”

ทั้งสองย่องออกจากห้อง มาที่รถอย่างระมัดระวังเปิดประตูและเข้าไปอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ขับรถออกไปอย่างช้าๆ

แมทธิวมองไปที่เฮนรี่ “บอสกับคุณเอวาขับรถออกไปแล้ว เราต้องตามไปด้วยไหม”

เฮนรี่ยิ้มแล้วนอนต่อ “บอสกำลังจะไปเดตกับคนรัก เราจะตามไปทำไม?”

“แล้วถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นมาล่ะ”

“ขนาดเราสองคนรุมหัวหน้ายังเอาไม่ลงเลย ฉันว่าต่อให้เกิดอะไรขึ้นหัวหน้าคงจัดการเองได้ และอีกอย่างที่นี่มีม้าที่ทีมถ่ายทำเอาไว้เข้าฉากด้วยนะ อีกสักพักเราไปขี่เล่นกันดีกว่า”

“ตกลง!”

ฮาร์ดี้กำลังขับรถไปบนถนน

หน้าต่างรถถูกเปิดขึ้น

เอวายื่นหน้าออกไปนอกตัวรถ ผมยาวของเธอปลิวไสวไปตามแรงลม

“จะพาฉันหนีไปไหนเหรอ” เอวาถามพลางหันมองฮาร์ดี้

“เธอก็รู้นี่”

ในเมืองที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร พวกเขาพบโรงแรมสไตล์เม็กซิกันแห่งหนึ่ง เป็นบ้านดินหนึ่งชั้นที่สะอาด มีอ่างแช่น้ำ และล้อมรอบด้วยดอกไม้ที่สวยงามรอบตัวบ้าน

พร้อมกับชายหญิงที่แยกจากกันหลายเดือนกำลังกระชับความสัมพันธ์อยู่ในห้องกันอย่างไม่รู้จบ

...

เดวิด วอลช์ที่ขับรถหนีออกมา ตอนนี้อารมณ์ของเขาค่อยๆ สงบลงหลังจากขับออกมาได้สักพัก

เมื่อนึกถึงความอัปยศที่เผชิญก่อนหน้านี้ และเดวิดยังสัมผัสได้ถึงความชื้นที่เป้ากางเกงในตอนนี้

เขากัดฟันและตบพวงมาลัยอย่างแรง

“แม่งเอ้ย! ฉันจะกลับไปแก้แค้นแน่ๆ คอยดูเถอะ”

ในอดีตเขาเคยเป็นหนุ่มเจ้าชู้ที่มีชื่อเสียง

ตอนนี้เขาสืบทอดกิจการของครอบครัว แม้ว่ากำไรของบริษัทจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังทำให้เขาเป็นเศรษฐีอยู่

‘แล้วไอ้ห่านั้นที่จับมือเอวาคือใครกันวะ?’

เขาได้ยินแค่บอกว่าเป็นผู้อำนวยการทีมถ่ายทำของที่นี่

แถมยังมีบอดี้การ์ดติดตามที่แข็งแกร่ง แสดงว่าไม่น่าจะใช่คนธรรมดา

ฉันต้องกลับไปตรวจสอบประวัติชายคนนั้นก่อน

ส่วนยัยตัวร้ายเอวา

ก็ว่าอยู่ทำไมเธอถึงทำตัวเฉยเมยกับฉันมาตลอดตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรก ที่แท้ก็เพราะเธอมีคนรักอยู่แล้วนี่เอง

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่แค่ดาราตัวน้อยที่ร้องเพลงเพราะเท่านั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะฉันอยากลิ้มลอง คิดเหรอว่าฉันจะรุกเธอขนาดนี้

จู่ๆ เขาก็นึกถึงรายงานในหนังสือพิมพ์ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเอวา ที่จนถึงตอนนี้นักข่าวก็ยังหาตัวเธอไม่พบ และไม่มีใครทราบว่าเธอหายไปไหน เดวิดเดาว่านี่น่าจะเป็นกลยุทธ์สร้างกระแสโฆษณาชวนเชื่อของเธอ

‘อยากจะซ่อนตัวเพื่อสร้างชื่อเสียงอย่างนั้นเหรอ’

‘ฮึ!’

‘ฉันจะทำลายแผนการของพวกแกให้หมด’

เดวิดคิดจะเปิดเผยข้อมูลที่อยู่ของเอวาตอนนี้ให้นักข่าวรู้

จากนั้นเขาเร่งความเร็วเพื่อขับเข้าไปในเมือง ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาก็เดินทางถึงอัลบูเคอร์คี และรีบกระโจนเข้าโรงแรมและอาบน้ำชำระล้างตัวเองในทันที

เขาโยนเสื้อผ้าทิ้งลงถังขยะ แล้วเดินไปที่โต๊ะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“สวัสดี ใช่ลอสแองเจลีสไทมส์หรือเปล่า ผมมีข่าวมาเสนอ หนังสือพิมพ์ของคุณบอกว่ามีคนมากมายที่กำลังตามหาเอวา การ์ดเนอร์ใช่ไหม? ผมรู้ว่าเธออยู่ไหน...”

ไม่นานมานี้เพลงสการ์โบโรแฟร์ได้รับความนิยมอย่างมาก และเนื่องจากเพลงนี้ขาดการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ความนิยมจึงค่อยๆ ลดลงตามกาลเวลา

แต่อย่างไรก็ตามผู้คนก็ยังคงสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของนักร้องเพลงนี้อย่างเอวา การ์ดเนอร์

ทันทีที่ลอสแองเจลีสไทมส์ได้ยินว่าอีกฝ่ายมีข้อมูลเกี่ยวกับเอวา เขาก็เริ่มสนใจในทันที “ถ้าคุณสามารถให้ข้อมูลแก่เราได้ ทางเราจะให้ค่าตอบแทนข้อมูลเป็นจำนวน 50 ดอลลาร์แก่คุณ”

เดิมทีเดวิดเพียงแค่ต้องการเปิดเผยที่อยู่ของเอวาโดยไม่บอกชื่อตัวเองเพื่อแก้แค้นเท่านั้น แต่เมื่อเขาได้ยินว่ามีค่าตอบแทนความโลภในใจเขาก็โผล่ออกมา

เงินฟรีแบบนี้ใครจะไม่อยากได้

เดวิดรีบบอกชื่อและที่อยู่ของตัวเองให้อีกฝ่ายสำหรับส่งค่าตอบแทนมา

ตามด้วยข้อมูลทั้งหมดของเอวา

...

วันถัดมา

ฮาร์ดี้และเอวากลับมาถึงสถานที่ถ่ายทำ

วันนี้เอวามีฉากที่ต้องถ่าย ฮาร์ดี้ก็เลยนั่งข้างผู้กำกับโนแลนและชมการถ่ายทำด้วย

ทันใดนั้นมีนักข่าวสองคนเดินเข้าไปในสถานที่ถ่ายทำ

เมื่อพวกเขาเห็นเอวานักข่าวคนหนึ่งก็ยกกล้องขึ้นและถ่ายรูป ในขณะที่อีกคนรีบวิ่งเข้าไปและถามคำถามพร้อมด้วยสมุดบันทึกในมือ

“คุณคือเอวา การ์ดเนอร์ใช่ไหม เราเป็นนักข่าวจากสถานีลอสแองเจลีสไทมส์ในนิวเม็กซิโก ในที่สุดเราก็พบคุณ ตอนนี้นับตั้งแต่คุณปล่อยเพลงสการ์โบโรแฟร์ มันก็ดึงดูดผู้คนมากมายให้อยากรู้ตัวตนของคุณ แต่ไม่มีใครตามหาคุณพบเลย!”

“คุณเอวา ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม...”

เอวาที่กำลังถูกซักถามมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกนักข่าวสัมภาษณ์

ผู้กำกับโนแลนที่เห็นสถานการณ์นี้ได้ตะโกนให้นักข่าวทั้งสองคนหยุดทันที “เรากำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ ได้โปรดอย่าเข้ามารบกวนนักแสดง อีกอย่างคุณรู้ได้ยังไงว่าคุณเอวาอยู่ที่นี่?”

ฮาร์ดี้เคยพูดกับผู้กำกับโนแลนก่อนหน้านี้ว่าเพลงของเอวาเป็นกลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์

เขาวางแผนที่จะประกาศตัวตนของเอวาก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกฉายเพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างกระแสให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทว่าตอนนี้เธอถูกนักข่าวค้นพบตัวแล้ว

ไม่มีใครคาดคิดว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้น

นักข่าวคนหนึ่งพูดทันที “เรารู้ว่าคุณเอวาอยู่ที่นี่หลังจากได้รับข้อมูลจากผู้แจ้งเบาะแส”

ฮาร์ดี้ที่เงียบอยู่ข้างๆ ได้ยินสิ่งที่นักข่าวพูดเขาจึงถามออกมา “พวกคุณได้รับข้อมูลมาเมื่อวานนี้หรือเปล่า?”

“ใช่! เราได้ข้อมูลมาเมื่อวานนี้ เราจึงมาที่นี่ในวันนี้ และทางเราหวังว่าคุณเอวาจะยอมรับการสัมภาษณ์พิเศษจากทางเรา”

“บอกได้ไหมว่าใครเป็นคนให้ข้อมูล” ฮาร์ดี้กล่าว

“ขอโทษด้วย ทางเราต้องเก็บข้อมูลของผู้ให้ข้อมูลเป็นความลับ” นักข่าวกล่าว

อันที่จริงไม่ต้องพูดฮาร์ดี้ก็พอเดาได้แล้วว่าเป็นใคร ที่อยู่ของเอวาถูกเก็บเป็นความลับมาตั้งนาน แต่กลับถูกเปิดเผยเมื่อวานนี้ แสดงว่าต้องเป็นฝีมือของไอ้เจ้าชู้นั่นแน่ๆ

ทุกคนมองไปที่ฮาร์ดี้ เขาเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของที่นี่ที่ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อ

ฮาร์ดี้เปลี่ยนแผนการใหม่ เขาปิดบังตัวตนของเอวาเพื่อเก็บไว้สร้างกระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้

แต่เนื่องจากนักข่าวพบตัวเธอแล้ว การปิดบังตัวเธอมันไม่มีประโยชน์อีกต่อไป

“หยุดถ่ายทำสักครู่ ให้เอวารับการสัมภาษณ์ก่อน”

ทีมถ่ายทำทั้งหมดต่างหยุดงานในมือและออกไปพักกัน

ฮาร์ดี้พาเอวาออกไปด้านข้างเพื่ออธิบายว่าคำถามแบบไหนที่เธอสามารถตอบได้ และคำถามไหนที่เธอควรหลีกเลี่ยง ส่วนเรื่องนักแต่งเพลงเขาให้เธอตอบอีกฝ่ายไปเลยว่าเรื่องนี้เป็นความลับ

เมื่อนักข่าวสัมภาษณ์เอวา เธอต้องเผชิญกับคำถามมากมายจนสุดท้ายนักข่าวก็ถามเรื่องนักแต่งเพลงอย่างที่คาดการณ์เอาไว้

เอวายิ้มและบอกอีกฝ่ายว่าเรื่องนี้เป็นความลับ

เมื่อสัมภาษณ์เสร็จก็ต่อด้วยการโฆษณาภาพยนตร์เรื่องใหม่

ในที่สุดนักข่าวก็รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชร’

นักข่าวที่รับผิดชอบการถ่ายภาพได้ถ่ายภาพเอวาไม่หยุด การสัมภาษณ์ผ่านไปอย่างราบรื่นและนักข่าวทั้งสองก็จากไปอย่างมีความสุข

ฮาร์ดี้มองไปที่นักข่าวที่กำลังจะจากไปและบอกบางอย่างกับเฮนรี่ “นายเข้าไปในเมือง ติดต่อแลนสเตอร์ ขอให้เขาตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของชายที่ชื่อเดวิด วอลช์”

“รับทราบบอส”

แม้ว่าพฤติกรรมของอีกฝ่ายจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อฮาร์ดี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ดี

ใครจะรู้ว่าในอนาคตเดวิดคนนี้จะสร้างปัญหาอะไรอีก

วันถัดมา

เฮนรี่กลับมาจากเมือง

“บอส! ได้ข้อมูลของเดวิด วอลช์มาแล้ว พ่อของเดวิด วอลช์เป็นเจ้าของบริษัทเหมืองชื่อบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ โดยมีทรัพย์สินรวมๆ แล้วประมาณ 3 ล้านดอลลาร์”

“เมื่อสองสามปีก่อนพ่อของเดวิด วอลช์เสียชีวิตและบริษัทก็ตกอยู่ในการดูแลของเขา อันที่จริงตอนที่วอลช์คนพ่อดูแลธุรกิจอยู่ บริษัทนี้ก็ประสบปัญหามากมายและได้ขายหุ้นจำนวนมาก จนตอนนี้เดวิด วอลช์เป็นเจ้าของหุ้นจำนวน 34% ของหุ้นทั้งหมด”

“บริษัทเหมืองแร่ภายใต้การดูแลของเดวิดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีสภาพแย่ลงเรื่อยๆ ทำให้ตอนนี้ราคาหุ้นต่อตัวตกลงมาอยู่ที่ 32 เซนต์ ซึ่งถือว่าอยู่ในประเภทหุ้นขยะ ในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด ผู้ถือหุ้นหลายรายได้พยายามให้เดวิดสละตำแหน่งประธาน แต่ตัวเดวิดเองก็ยังไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ โดยเขาได้ขอโอกาสครั้งสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งนี้ต่ออีกสองปีเพื่อแสดงให้ผู้ถือหุ้นเห็นว่าเขาเองก็มีศักยภาพพอที่จะสามารถดูแลบริษัทนี้ได้”

“ต่อมาเดวิด วอลช์ได้เข้าพบนักวิชาการที่ศึกษาด้านเหมืองแร่ นักวิชาการได้บอกเขาว่าที่รัฐแอริโซนามีเหมืองทองแดงมากที่สุด ซึ่งเส้นทางเหมืองแร่เหล่านี้ได้มีพื้นที่คาบเกี่ยวไปยังรัฐนิวเม็กซิโกที่อยู่ใกล้เคียง จากการศึกษาน่าจะอยู่แถบภูเขาซานแอนเดรส”

“ปีที่แล้วเดวิด วอลช์ได้กู้ยืมเงินจำนวน 200,000 ดอลลาร์ในนามบริษัทเพื่อกว้านซื้อที่ดิน 8,000 เอเคอร์ในบริเวณภูเขาซานแอนเดรส เขาพาทีมสำรวจไปที่นั่นเพื่อค้นหาเหมืองทองแดงที่ควรจะมีอยู่ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีข่าวดี”

หลังจากได้ยินข้อมูล

ฮาร์ดี้ก็ยิ้ม

จากที่เฮนรี่พูดมา เดวิด วอลช์เป็นแค่คนโง่จอมขี้อวดที่ไม่เข้าใจหลักการบริหาร

“บอส ชายคนนั้นทำให้คุณอารมณ์เสีย ให้ฉันไปฆ่าเขาเลยไหม?” แมทธิวมองไปที่ฮาร์ดี้แล้วพูดออกมา

ฮาร์ดี้ส่ายหัว

“แมทธิวพวกเราเป็นนักธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย จะใช้การฆ่าซี้ซั้วได้ยังไง ฉันมีวิธีที่ดีกว่าในการจัดการกับคนแบบนี้!”

“วิธีไหน?” เฮนรี่ถามด้วยความสงสัย

“พวกนายรู้วิธีล้มบริษัทจดทะเบียนหรือเปล่า?” ฮาร์ดี้ถามทั้งสองคน

ทั้งสองส่ายหัวพร้อมกัน

แต่ฮาร์ดี้รู้

มีหลากหลายวิธีในการล้มบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้

แม้แต่ในศตวรรษที่ 21 ที่มีกฎระเบียบที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ก็ยังมีหลายวิธีที่จะล้มบริษัทจดทะเบียน

และไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้อยู่ในยุค 40 ที่ระบบตลาดหลักทรัพย์ล้วนมีช่องโหว่มากมาย

...

ถึงเวลาที่ฮาร์ดี้ต้องกลับลอสแองเจลิส แต่เอวายังไม่อยากลาจากเขาไป ทั้งสองจึงแอบไปที่โรงแรมด้วยกันอีกครั้ง

จากนั้นฮาร์ดี้ก็ขับรถกลับไปที่ลอสแองเจลิส

“การตรวจสอบสถานการณ์หุ้นบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์เป็นยังไงบ้าง” ฮาร์ดี้ถามเมื่อเขากลับมาหาแลนสเตอร์

เขาโทรหาแลนสเตอร์ให้รวบรวมข้อมูลนี้ก่อนที่จะกลับมาที่นี่

“ได้ข้อมูลมาแล้ว” แลนสเตอร์ส่งรายงานให้กับฮาร์ดี้

ปัจจุบันบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์มีหุ้นในตลาดทั้งหมด 1.83 ล้านหุ้น มี 34% ที่อยู่ในมือเดวิด วอลช์ ส่วนราคาหุ้นอยู่ที่ 31 เซนต์ ซึ่งต่ำกว่าเมื่อสองวันก่อนหนึ่งจุด

“แลนสเตอร์ ฉันจำได้ว่าเรามีรูปลับของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์การเงินลอสแองเจลิสใช่ไหม?” ฮาร์ดี้ถาม

“ใช่! เรามีรูปของเขา”

“ถึงเวลาที่ใช้งานมันแล้ว” ฮาร์ดี้ยิ้มออกมา

ฮาร์ดี้ใช้เวลาสองวันในการซื้อบริษัทขุดแร่เปล่า จากนั้นจดทะเบียนเป็นบริษัทของเขาเอง และตั้งชื่อว่า ‘บริษัทขุดเหมืองแร่ฮาร์ดี้’

ขอบเขตธุรกิจของบริษัทนี้มีทั้งการขุดเหมืองแร่ การแปรรูป และการขาย ซึ่งมีผลิตภัณฑ์แร่ทั้งทองคำ เหล็ก ถ่านหิน ทองแดง อลูมิเนียม นิกเกิล แมกนีเซียม...

ในเวลาเดียวกัน

ภายในบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ก็มีการเปิดบัญชีมากกว่า 40 บัญชีภายใต้ฝีมือของคนๆ เดียว แถมแต่ละบัญชีมีเงินตั้งแต่ 4,000 ถึง 6,000 ดอลลาร์ บัญชีเหล่านี้ถูกเตรียมไว้เพื่อซื้อหุ้นบริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์

ทุกอย่างพร้อมแล้ว

เช้าตรู่นี้

หนังสือพิมพ์การเงินลอสแองเจลิส ได้ตีพิมพ์บทความวิเคราะห์ในหน้าที่สอง

“ทฤษฎีการขยายเหมืองทองแดงของศาสตราจารย์ธรณีวิทยา ไมเคิล เดอ กุซมันกำลังจะทำลายอนาคตของบริษัทขุดเหมืองแร่ทั้งหลาย”

“กลางปี ​​1945 ศาสตราจารย์ด้านธรณีวิทยาที่มีชื่อเสียงอย่างไมเคิล เดอ กุซมัน ได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง ‘ทฤษฎีการขยายเหมืองทองแดง’ ศาสตราจารย์เดอ กุซมัน ได้กล่าวว่ารัฐแอริโซนาได้มีการค้นพบเหมืองทองแดงเป็นจำนวนมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ทำให้รัฐนิวเม็กซิโกที่อยู่บริเวณใกล้เคียงควรมีแร่ทองแดงและแร่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นปริมาณมากในบริเวณเดียวกัน”

“ด้วยทฤษฎีนี้ บริษัทขุดเหมืองแร่หลายแห่งจึงแห่ซื้อที่ดินในรัฐนิวเม็กซิโกเพื่อค้นหาเส้นทางเหมืองแร่ แต่ก็ไม่มีบริษัทไหนเลยที่ค้นพบสิ่งใดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แม้แต่เหมืองแร่ทองแดงทั่วไปก็ตาม”

“อันที่จริง ทฤษฎีของศาสตราจารย์เดอ กุซมัน นี้มีพื้นฐานมาจากสมมติฐานและการคาดเดา ข้อสนับสนุนคือการที่บริษัทขุดเหมืองแร่วอลช์ในซานฟรานซิสโกได้ทำการซื้อที่ดิน 8,000 เอเคอร์ในรัฐนิวเม็กซิโก ได้ลงทุนกำลังคนและทรัพยากรจำนวนมากเพื่อหาเหมืองแร่ให้พบ แต่จนถึงตอนนี้แม้แต่ทองแดงคุณภาพสูงหนึ่งก้อนก็ยังหาไม่เจอ ซึ่งทุกอย่างเป็นผลจากการที่พวกเขาเชื่อมั่นในทฤษฎีของศาสตราจารย์เดอ กุซมันอย่างมากในตอนแรก และในตอนนี้เกรงว่าความเชื่อมั่นเหล่านั้นจะทำให้พวกเขาต้องสูญเสียทุกอย่างในอนาคต”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด