ตอนที่แล้วบทที่ 23: ปัญหาใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25: ความลับของศิษย์พี่หญิง

บทที่ 24: การเตรียมการ


บทที่ 24: การเตรียมการ

พวกเขารีบกลับไปที่นิกายอสูรสวรรค์โดยเร็วที่สุด

จากระยะไกล พวกเขาก็เห็นชายชราผู้สง่างามที่มีผมและเคราสีขาวกำลังหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ

“พ่อ! แม่! ข้ามันเป็นข้อผิดพลาดที่ไร้ประโยชน์! ข้าฝึกตนมามากกว่า 500 ปีแล้ว แต่ข้าก็ยังอยู่แค่ขอบเขตสูญสลายขั้นที่สาม ข้าทำให้ท่านทั้งสองคนอับอาย แม้แต่หยางเหรินเจี๋ยจากนิกายข้างๆ ก็ยังอยู่ที่ขอบเขตสูญสลายขั้นห้า…”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ทุกคนก็รู้สึกเย็นยะเยือกตามสันหลัง

“นั่นใช่ผู้อาวุโสสูงสุดหรือเปล่า?”

“ผู้อาวุโสหยางเหรินเจี๋ยเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายพันธมิตร มันมีเพียงผู้อาวุโสสูงสุดเท่านั้นที่จะกล้าอ้างถึงผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักพันธมิตรด้วยชื่อจริงของเขา”

“ช่างเป็นค่ายกลที่โหดเหี้ยมอะไรเช่นนี้ แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตสูญสลายอย่างผู้อาสวุโสสูงสุดก็ยังติดอยู่ข้างใน ข้าไม่อยากจะจินตนาการเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับเราถ้าเราติดอยู่ข้างในแทน”

ลู่เสี่ยวหรันตบหน้าผากของเขา

“หยุดพูดได้แล้ว ข้าจะไปยกเลิกค่ายกลเดี๋ยวนี้แหละ”

ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและปลดค่ายกลอย่างรวดเร็ว

ผู้อาวุโสสูงสุดตกลงสู่พื้น เขาคุกเข่าลงบนพื้นและโคลงเคลงไปมา เขาหยุดคร่ำครวญทันทีและหันมามองทุกคน

ในขณะนี้ บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบงัน

ครู่ต่อมา เขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นและตบฝุ่นบนเข่าออกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

จากนั้นเขาก็พูดว่า “พวกเจ้า... พวกเจ้าได้ยินที่ข้าพูดรึเปล่า?”

ทุกคนส่ายหัว

“เปล่า พวกเราเพิ่งมาถึง”

ผู้อาวุโสสูงสุดสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“เจ้าหลอกข้า ข้าไม่ได้โง่นะ!”

ทุกคนต่างมองหน้ากัน

จากนั้นผู้อาวุโสสูงสุดก็กล่าวต่อ “ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะได้ยินหรือไม่ ถ้าพวกเจ้าหลุดพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ออกไป ข้ารับรองเลยว่าวันถัดมาพวกเจ้าทั้งหมดจะได้นอนกองเป็นศพอยู่แทบเท้าของข้า”

ทุกคนรู้สึกว่าคอของพวกเขาเย็นลงทันที

พวกเขาลุกขึ้นและตะโกนพร้อมกันทันที “ไม่ต้องกังวล ผู้อาวุโสสูงสุด เราจะไม่บอกใครแน่นอน”

“ดี”

ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้อาวุโสสูงสุดก็ไขว้มือไว้ด้านหลังและกระทืบเท้า จากนั้นเขาก็หายตัวไปในทันที

เมื่อเห็นดังนี้ ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขาใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อเย็นที่หน้าผาก

ลู่เสี่ยวหรันไม่กล้าที่จะชะลอและรีบเร่งไปยังค่ายกลชั้นต่อไป

ค่ายกลชั้นที่สองเป็นค่ายกลโจมตี ผู้ที่นั่งอยู่ข้างในคือผู้นำนิกายอสูรสวรรค์ เขาได้เปิดค่ายกลป้องกันพลังวิญญาณเพื่อต้านทานการโจมตีของค่ายกลโจมตีแล้ว

เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่งในหลายๆ จุด และมันก็มีรอยฟกช้ำในบางแห่ง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากเช่นกัน

ลู่เสี่ยวหรันรีบปลดค่ายกลทันที

ทันใดนั้น ผู้นำนิกายที่พยายามป้องกันการโจมตีอยู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีและลืมตาขึ้น

“ในที่สุดเจ้าก็กลับมา”

ลู่เสี่ยวหรันป้องมือของเขาและกล่าวว่า “ท่านผู้นำนิกาย นี่เป็นความผิดของข้า”

“เราจะหารือเรื่องนี้กันในภายหลัง ข้าจะกลับไปที่ห้องโถงเพื่อเปลี่ยนชุดก่อน หลังจากที่เจ้าช่วยผู้อาวุโสหนึ่งแล้ว ให้รีบไปที่ห้องโถงนิกายกับหลี่เต๋าหรันในทันที”

“รับทราบ”

ขณะที่เขาพูด ผู้นำนิกายก็กลับไปที่นิกายอย่างรวดเร็ว ลู่เสี่ยวหรันมาถึงค่ายกลชั้นสุดท้ายอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสหนึ่ง ผู้อาวุโสฮวงและศิษย์คนอื่นๆ ถูกขังอยู่ที่นี่

ลู่เสี่ยวหรันผสานมือและปลดพลังของค่ายกลอย่างรวดเร็ว ในที่สุด ทุกคนก็สามารถหายใจและได้รับอิสรภาพกลับคืนมาอีกครั้ง

“โอ้เต๋าสวรรค์ ในที่สุดข้าก็หลุดพ้นสักที”

ผู้อาวุโสหนึ่งเหยียดร่างกายของเขาและลู่เสี่ยวหรันก็เดินไปข้างหน้าเพื่อขอโทษ

“ผู้อาวุโสหนึ่ง ผู้อาวุโสฮวง ข้าต้องขอโทษด้วยที่ข้าประมาทไป”

“  เจ้าสารเลวน้อย เจ้าเป็นคนตั้งค่ายกล และเจ้าก็ทำลายการนัดดูตัวของข้า ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายเดี๋ยวนี้แหละ!”

ผู้อาวุโสฮวงโกรธมากจนยกกำปั้นขึ้นและกำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อต่อยลู่เสี่ยวหรัน แต่เขาก็ถูกผู้อาวุโสหนึ่งหยุดเอาไว้

“หยุดนะ เรื่องนี้ต้องได้รับการตัดสินจากผู้นำนิกายก่อน เจ้าไม่สามารถลงโทษเขาเป็นการส่วนตัวได้!”

ผู้อาวุโสฮวงโกรธมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เขายังต้องฟังผู้อาวุโสหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงทำได้เพียงถอนหมัดและจ้องไปที่ลู่เสี่ยวหรันอย่างโกรธเคือง

“ถือว่าเจ้าโชคดีมาก ฮึ่ม! ข้าจะไปหาผู้นำนิกายก่อนและขอให้เขาลงโทษเจ้า เจ้าจะต้องเจอดีแน่!”

ผู้อาวุโสฮวงหันหลังกลับและจากไป

ผู้อาวุโสหนึ่งมองไปที่ลู่เสี่ยวหรันอย่างมีนัยยะและกล่าวว่า “เจ้าและหลี่เต๋าหรันไปที่ห้องโถงกับข้า”

“รับทราบ แต่ข้าเพิ่งจะรับศิษย์ใหม่มาและต้องส่งเขากลับไปที่ยอดเขาจื่อฉุ่ยก่อนจึงจะมุ่งหน้าไปที่ห้องโถงได้”

“งั้นก็รีบกลับไป”

“ขอบคุณผู้อาวุโสหนึ่ง”

ลู่เสี่ยวหรันยกมือขอบคุณและพูดกับฟางเทียนหยวนว่า “เทียนหยวน รีบตามข้าไปที่ยอดเขาจื่อฉุ่ยเร็ว”

“เข้าใจแล้ว”

อาจารย์และศิษย์รีบกลับไปที่ยอดเขาจื่อฉุ่ยในทันที

ในขณะนี้ หยุนหลี่เกอก็กำลังฝึกตนและจื่ออู๋เซียก็กำลังบันทึกข้อความบางส่วน

“ทำความเคารพท่านอาจารย์”

เมื่อเห็นลู่เสี่ยวหรันมาถึง จื่ออู๋เซียก็เดินไปข้างหน้าและโค้งคำนับด้วยความเคารพ

ลู่เสี่ยวหรันยกมือขึ้นเล็กน้อย

“ดีที่เจ้าอยู่ที่นี่ เทียนหยวน นี่คือศิษย์พี่คนที่สองของเจ้า จื่ออู๋เซีย อู๋เซีย นี่คือศิษย์ที่ข้าเพิ่งรับเข้ามา ชื่อของเขาคือฟางเทียนหยวน และเขาก็ถือได้ว่าเป็นศิษย์น้องของเจ้า”

“งั้นก็เป็นศิษย์น้องเทียนหยวนสินะ”

“ศิษย์น้องทำความเคารพศิษย์พี่อู๋เซีย”

ทั้งสองคนทักทายกันและลู่เซียวหรันก็กล่าวต่อว่า “เพื่อตัดปัญหาที่ยื้อเยื้อ คราวนี้ข้าอาจได้รับโทษมากมาย เป็นไปได้มากว่าข้าจะถูกคุมขังในพื้นที่ต้องห้ามที่ด้านหลังภูเขาเพื่อไตร่ตรองการกระทำของข้า แต่ไม่นานข้าก็จะกลับมา หากพวกเจ้าต้องการพบข้า พวกเจ้าก็สามารถไปที่ภูเขาด้านหลังนิกายเพื่อตามหาข้าได้ นอกจากนี้ พวกเจ้าก็ต้องปฏิบัติตามคำสอนของข้าอย่างเคร่งครัด และอย่าออกไปจากยอดเขาจื่อฉุ่ยโดยไม่จำเป็น”

ทั้งสองคนอดไม่ได้ที่จะตกใจ

“อาจารย์ มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรอ?”

ลู่เสี่ยวหรันยิ้มอย่างขมขื่น

“หลังจากทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ข้าก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะปล่อยข้าไปง่ายๆ ข้าเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบในการซ่อมแซมค่ายกล หลังจากซ่อมแซมมันเสร็จแล้ว ข้าก็ไม่ได้รายงานโดยตรงและกลับเพิกเฉยต่อมัน ข้ายังได้ออกไปที่กลุ่มอาคาเซียและทำให้พวกผู้อาวุโสระดับสูงของนิกายเสียหน้า ไม่ว่าจะมองยังไง ข้าก็จะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน”

แน่นอนว่าในแง่ของการฝึกตน เขาก็ไม่ได้กลัวผู้นำนิกายหรือแม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุด อันที่จริงแล้ว แม้ว่าทั้งสองคนจะโจมตีเขาพร้อมๆ กัน เขาก็ยังไม่กลัวเลย

อย่างไรก็ตาม ลู่เสี่ยวหรันก็ไม่ต้องการจะเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาโดยไม่จำเป็น หากข่าวว่าเขากลายเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตสูญสลายภายในระยะเวลา 10 ปีแพร่กระจายออกไป ใครจะไปรู้ว่ามันจะมีสักกี่คนที่อยากจะได้เขา?

ตามคำกล่าวที่ว่า นักล่าจะยิงนกที่โผล่ออกมา

ด้วยเหตุนี้เอง เพื่อที่จะดำเนินชีวิตต่อไปในนิกายอสูรสวรรค์อย่างสงบสุข เขาจึงตัดสินใจที่จะปิดบังความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาเอาไว้ก่อนในตอนนี้

ขณะที่เขาพูด ลู่เสี่ยวหรันก็ยกมือขึ้นและแตะช่องว่างระหว่างคิ้วของฟางเทียนหยวนและส่งกายาทองไร้เทียมทานให้เขา

“เทียนหยวน ข้าเกรงว่าหากข้าเข้าสู่สันโดษ ข้าก็จะไม่สามารถให้เคล็ดวิชาการฝึกตนแก่เจ้าได้ทันเวลาและทำให้การฝึกตนของเจ้าล่าช้าไป ดังนั้น ข้าจะส่งมอบเคล็ดวิชาการฝึกตนให้เจ้าก่อน เจ้าจะต้องฝึกฝนมันอย่างขยันขันแข็งและไม่หย่อนยาน”

“ข้าเข้าใจแล้ว”

ฟางเทียนหยวนตอบอย่างสบายๆ เขายังไม่ได้ตรวจดูข้อมูลของเคล็ดวิชาการฝึกตนแต่อย่างใด

ในฐานะทายาทของเผ่าวานรโบราณ เขาก็เคยได้ฝึกเคล็ดวิชาการฝึกตนที่ดีที่สุดของเผ่าวานรโบราณแล้ว มันเป็นเคล็ดวิชาการฝึกตนที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งอยู่เหนือขอบเขตสวรรค์ชั้นยอดและเกือบจะเป็นขอบเขตนักบุญ มันหายากมาก ด้วยเหตุนี้เอง เคล็ดวิชาการฝึกตนที่ลู่เสี่ยวหรันมอบให้นั้นจะสู้เขาได่อย่างไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด