ตอนที่แล้วตอนที่ 3 ผู้สังเกตการณ์นิรนาม (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 ข้อเสนอของราชาสิงโต (2) [อ่านฟรี]

ตอนที่ 4 ข้อเสนอของราชาสิงโต (1) [อ่านฟรี]


คิม ฮยอกจิน หลับตาและเพ่งความสนใจไปที่หน้าต่างโฮโลแกรมที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งถึงแม้เขาจะหลับตาก็ยังคงมองเห็นหน้าต่างสถานะนั่นได้อย่างชัดเจน เขามองดูมันอีกครั้งด้วยความตั้งใจ แต่หน้าต่างสถานะนั้นช่างเหลือเชื่อจริง ๆ

[ หน้าต่างสถานะ ]

___________________________________________________________________________

ชื่อ: คิม ฮยอกจินเพลย์เยอร์)

เลเวล: 1

สมญา: -

ความแข็งแกร่ง: 10

สติปัญญา: 12

ความคล่องตัว: 11

การรับรู้: 11

ร่างกาย: 10

อำนาจจิต: 13 (+30)

___________________________________________________________________________

นี่คือสเตตัสของฉันงั้นเหรอ?’ นี่มันสูงกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?’

ไม่มีทางเป็นไปได้ มันเป็นค่าเตตัสที่สูงเกินไป

ทำไมมันถึงสูงมากขนาดนี้ได้ล่ะ?’

ตัวเลขเหล่านั้นมันไม่สมเหตุสมผลเลย

ค่าสเตตัสของราชาหมัดโซ ยูฮยุน ในช่วงการฝึกสอนเฉลี่ยอยู่ที่ 9 โดยประมาณ

เพลย์เยอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกมีค่าเตตัสเริ่มต้นอยู่เฉลี่ยอยู่ที่ 9 โดยประมาณ แต่ค่าสเตตัสของเขาเฉลี่ยอยู่ที่ 11 โดยประมาณ นั่นหมายความว่าอย่างไรและแม้แต่ค่าสเตตัสที่ต่ำที่สุดอย่างความแข็งแกร่งและร่างกายก็ยังอยู่ที่ 10 แต้ม ซึ่งมันสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้รอดจากบทฝึกสอนอย่างราชาหมัดแล้ว

และอำนาจจิตของฉันคือ 43…?’

เมื่อพิจารณาถึง ‘(+30)’ ที่ถูกเติมอยู่ด้านท้าย เขาเดาว่านี่คงเป็นค่าที่ได้เพิ่มขึ้นชั่วคราวจาก ดวงตาของผู้สังเกตการณ์ที่สงบนิ่ง แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่จำนวนแต้มที่เพลย์เยอร์เลวล 1 ควรมี มันเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรแม้แต่จะมีโอกาสได้เห็นจำนวนแต้มขนาดนี้เลยในระหว่างบทฝึกสอนและถึงแม้จะไม่มีบัฟจาก ดวงตาของผู้สังเกตการณ์ที่สงบนิ่ง ค่าอำนาจจิตของเขาก็เริ่มต้นที่ 13 แต้ม นั่นก็นับว่าเป็นจำนวนแต้มที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ

ค่าสติปัญญาของฉันสูงขนาดนี้เหรอ?’

ยิ่งสเตตัสเริ่มต้นของคุณสูงเท่าไร ก็จะยิ่งใช้ประโยชน์จากระบบได้มากขึ้นเท่านั้น โดยพื้นฐานแล้ว นั่นคือข้อจำกัดของสติปัญญา การเพิ่มเลเวลที่ต้องใช้แรงกายและความพยายาม ซึ่งแต่ละเลเวลก็จะได้แต้มสเตตัสมาจำนวนหนึ่งเท่านั้น

ไม่เข้าใจจริง ๆ

เมื่อวานนี้เขาได้รับการประเมินว่า ไม่มีพรสวรรค์

[ ไม่มีพรสวรรค์ ]

มันถูกเขียนไว้อย่างชัดเจนบนแผ่นประเมินใบนั้น

หรือว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปเมื่อฉันย้อนกลับมาในอดีต?’

คิม ฮยอกจิน ไม่รู้จะพูดอะไร มันยังคงยากที่จะพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ในตอนนี้ แต่เขารู้ว่าสเตตัสเริ่มต้นของเขานั้นสูงกว่าราชาหมัด ซึ่งหมายความว่าโอกาสในการเอาชีวิตรอดของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เมื่อพิจารณาจากความจริงที่ว่าสเตตัสเริ่มต้นนั้นสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก... ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบจริง ๆ

แต่แล้ววว-

ตั้มมม! ตั้มมม!

ภายในรถบัสเริ่มสั่นสะเทือน

พวกมันมีไม้กระบอง

รถโดยสารประจำทางนั้นเป็นเขตเซฟโซนแบบมีเงื่อนไข ตราบใดที่พวกเขาไม่ไปปลุกยุยงพวกก๊อบลิน ภายในรถนี้ก็จะปลอดภัย แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น

คิม ฮยอกจิน ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่ง

ตะ-ตัวเชี้ยไรเนี่ย…!”

ที่นี่กลายเป็นนรกไปแล้วเหรอ?

จะมีสักกี่คนจากในแปดคนนี้ที่อยู่ในรถบัสจะสามารถเอาชีวิตรอดออกไปได้? เขาลืมตาขึ้นและแอบมองสิ่งต่าง ๆ

หนึ่งคน?’ หรืออาจจะสักสองคน? ‘อาจจะ...ไม่มีรอดก็ได้สินะ

มองผ่านหน้าต่างรถบัสออกไป เขาเห็นมอนสเตอร์ตัวสีเขียวกำลังกระโดด พวกก็อบลินสูงแค่ประมาณหนึ่งเมตร แต่พวกมันสามารถกระโดดลอยขึ้นไปในอากาศได้สูงกว่าสองเมตร พวกมันกำลังทุบกระจกหน้าต่างรถด้วยกระบองจนในตอนนี้กระจกก็เริ่มแตก

ตั้งสติเข้าไว้

คงต้องขอบคุณ ดวงตาของผู้สังเกตการณ์ที่สงบนิ่ง ที่ทำให้เขาสามารถตั้งสติเอาไว้ได้และตรวจสอบสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ได้อย่างใจเย็น

เพ็งงง!

ในที่สุดกระจกหน้าต่างรถก็แตก จากนั้นพวกก็อบลินก็จะหลั่งไหลเข้ามา เขาเหลือบมองไปที่นาฬิกาอย่างเงียบ ๆ

รถบัสนี่น่าจะถ่วงเวลาได้สักห้านาที

นี้คือเหตุผลที่เขาบอกให้คนขับรถบัสรีบปิดประตู แต่ก็แค่ห้านาที เขาคิดว่ามันคงจะดีถ้าเขาได้มีเวลาเพิ่มอีกสักห้านาที

อะ-ออกไป ไอ้สัตว์ประหลาด!

อั๊กกก!

คิม ฮยอกจิน หลับตาลงอีกครั้ง

ก็นะการอยู่นิ่ง ๆ คงไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนเหล่านั้นจะสามารถทำได้เพียงเพราะฉันแค่บอกให้พวกเขาทำ

มันคงเป็นเรื่องง่ายขึ้นถ้าคุณจินตนาการว่าพวกมันเปรียบเสมือนแมลงสาบยาวหนึ่งเมตรและกำลังเดินอยู่ตรงหน้าของคุณ พวกก๊อบลินพวกนั้นสูงประมาณหนึ่งเมตรและมีอาวุธด้วยและมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบการเข่นฆ่าเป็นชีวิตจิตใจ ใครก็ตามที่ได้ยินคำบอกที่ว่าให้อยู่นิ่ง ๆ แล้วทำได้ก็คงจะเรียกว่าผิดปกติซะมากกว่า จากนั้นเขาหลับตาลงอีกครั้งและกัดริมฝีปากไว้แน่น

มันคงจะดีกว่าที่จะไม่มอง

สเตตัสเริ่มต้นของเขาอาจจะสูง แต่เขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับฝูงก็อบลินได้ด้วยตัวคนเดียว เขาสามารถนึกภาพของเหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องเห็นภาพพวกนั้นด้วยตาของเขา พวกเขานั้นคงต้องตายด้วยมือของพวกก็อบลินและเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะต้องถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่แล้วกลิ่นที่น่าขยะแขยงก็ลอยเข้ามาที่จมูกของเขา มันคือกลิ่นสาบของก็อบลิน

เขาได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงของมอนสเตอร์

คิคิก! คิคิคิคิก! คิคิก!

เขายังคงได้ยินเสียงกรีดร้องต่อไปคราวนี้เป็นเสียงร้องของผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่ด้านหลังสุด ช่างเป็นเสียงร้องที่บาดหูซะเหลือเกิน

ชะ-ช่วยด้วย! ช่วย! อ๊ายยยย!

มีอะไรบางอย่างสาดกระเซ็นมาที่เขา อะไรบางอย่างที่อุ่น ๆ ไหลอาบแก้มของเขา เขารู้สึกได้เลยว่าสิ่งนั้นต้องเป็นของเหลวเป็นสีแดง

นี่คือ... เลือด

ดูเหมือนว่าก๊อบลินตัวหนึ่งจะใช้ดาบเป็นอาวุธ ซึ่งเขานั้นรู้ได้จากเสียงของคมมีดที่หันเนื้อออกเป็นชิ้น ๆ เสียงที่เปียกชุ่มและเต็มไปด้วยเลือดนั้นน่าขยะแขยงมาก จนเขาไม่อยากที่จะได้ยินมันอีกเลย

แม้ว่าจะได้ผลจากดวงตาของผู้สังเกตการณ์ที่สงบนิ่ง แต่มันก็ยังแย่อยู่ดีที่เขาต้องรับมือกับเรื่องแบบนี้

แขนขาของเขากำลังสั่น แต่เขาก็ต้องสงบสติอารมณ์ไว้ให้มากที่สุด ถ้าเขาล้มตัวลงหรือตื่นตระหนกที่นี่ตอนนี้ เขาก็จะตายในทันทีเหมือนกับคนอื่น ๆ เขานึกถึงภาพแม่ของเขาอยู่ตลอดเวลา คนที่เคยพูดปลอบเขาตลอดว่าไม่ต้องกังวล เขาจะต้องทำได้ดีและเขาจะทำได้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำตั้งแต่เมื่อคืน

ฉันต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

คิ๊ก?

เสียงดังมาจากข้างหูของเขา

ก็อบลินเข้ามาใกล้กับ คิม ฮยอกจิน ผู้เหลือรอดชีวิตเพียงคนเดียวบนรถบัส บางสิ่งที่เย็นยะเยือกสัมผัสไปที่ไหล่ของเขา

มือเหรออ?…’

มันให้ความรู้สึกเหมือนกับฝ่ามือเล็ก ๆ ของเด็กแต่มันเป็นฝ่ามือของมอนสเตอร์ที่มีผิวสีเขียวกำลังสัมผัสที่ไหล่ของเขา มันก้อมเข้ามาใกล้จนจมูกของมันสัมผัสกับแก้มของเขาแล้วดม ลมหายใจของก็อบลินที่แผ่ซ่านไปบนหน้าของเขาช่างน่าขยะแขยงจริง ๆ จนเขารู้สึกคลื่นไส้

บัดซบ

ในตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องของใครเลยแม้แต่คนเดียว นั่นแสดงว่าทุกคนที่นี่คงตายไปหมดแล้ว เขาไม่มีพลังมากพอที่จะปกป้องพวกเขาได้และพวกเขาเองก็ไม่มีพลังที่จะใช้เพื่อปกป้องตัวเอง

นี่มันแย่มาก

พวกมันเริ่มลูบคลำไปตามร่างกายของเขา ตัวหนึ่งเลียที่หน้าแข้งของเขาด้วยลิ้นที่ยาวของพวกมัน เขารู้สึกว่าได้กางเกงของเขาถูกกัดกร่อนเพราะน้ำลายของพวกมันเป็นกรด บางตัวถึงกับเขี่ยแก้มเขาด้วยกรงเล็บที่แสนจะสกปรกราวกับพวกมันกำลังเล่นกับของเล่น

ฉันต้องอดทนต่อไปอีกแค่ห้านาทีเท่านั้น

รวมเป็นสิบนาที เขาต้องยืนนิ่ง ๆ โดยไม่ส่งเสียงเป็นเวลาสิบนาที หลังจากนั้นเขาจะผ่านคลื่นลูกนี้ไปได้ นั่นเป็นเรื่องที่ได้รับการบันทึกไว้อย่างดีจากความทรงจำของราชาหมัด โซ ยุฮยุน และกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่เขาเคยเห็นจากในยูทูปหลายครั้ง

แต่ละวินาทีที่ผ่านไปมันช่างยาวนานเหลือเกิน ก๊อบลินที่มองเขาเหมือนกับของเล่นให้ความรู้สึกเหมือนแมลงสาบยักษ์กำลังคลานไปทั่วบนร่างกายของเขา

หลังจากที่รู้สึกเขาต้องอดทนอยู่นานจนเหมือนจะชั่วนิรันดร์ แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

[ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญเริ่มสนใจคุณแล้ว ]

[ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญปรารถนาที่จะให้โอกาสคุณ ]

ผู้พิทักษ์อีกคนหนึ่งเริ่มสนใจในตัวของ คิม ฮยอกจิน ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้เขาได้ตกเป็นที่น่าสนใจของผู้พิทักษ์ถึงสองคน คนหนึ่งคือ ผู้สังเกตการณ์นิรนาม และอีกคนหนึ่งคือ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญ เป็นผู้พิทักษ์ที่เขานั้นรู้จักดีอยู่แล้ว

[ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญปรารถนาที่จะมอบความได้เปรียบของเริ่มต้นให้กับคุณ ]

[ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญมอบ น้ำยาอีลิกเซอร์ความแข็งแกร่งขั้นสูงให้คุณ ]

[ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญเฝ้ารอดู ความกล้าหาญของคุณ ]

เขาไม่ได้รู้สึกดีใจที่ได้ยินอะไรอย่างนี้เลย

ราชาสิงโตผู้กล้าหาญ

ข่าวอื้อฉาวของผู้พิทักษ์คนนี้นั้นมีเยอะมากเป็นพิเศษ แม้แต่ในหมู่ผู้พิทักษ์ด้วยกัน ราชาสิงโตผู้กล้าหาญ มีชื่อเสียงมากในฐานะผู้พิทักษ์ที่ชอบแสวงหาความท้าทายและการดิ้นร้นที่ไร้ความหมายของเพลย์เยอร์ ไม่ว่าเพลย์เยอร์คนนั้นจะต้องตายหรือไม่ก็ตาม เขาเป็นผู้พิทักษ์ที่ชั่วร้าย ซึ่งไม่เคยสนใจถึงความเจ็บปวดของเหล่าเพลย์เยอร์ที่ต้องอยู่ในสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต

สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับเขาคือเพลย์เยอร์ที่มี ความกล้าหาญ และ ความท้าทาย ทั้งสองอย่างนี้ ซึ่งไม่มีอะไรจะสำคัญสำหรับเขาเลยแม้ความท้าทายนั้นอาจจะส่งผลกระทบให้เพลย์เยอร์ต้องเสียชีวิต—เขาเป็นเหมือนคนนอกรีตและชอบการกระทำเช่นนี้ไม่เคยเปลี่ยน

ถ้าฉันกล้าทำอะไรที่กล้าหาญที่นี่...

เขาก็จะถูกขย้ำทั้งเป็นจากฝูงก็อบลินที่อยู่รอบตัวเขา เพื่อความอยู่รอดเขาต้องคิดให้รอบคอบว่าเมื่อใดควรกล้า เมื่อใดไม่ควรและจากสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างหลังอยู่แล้วแน่นอน มันไม่ใช่เวลาที่จะมาแสดงความกล้าอะไรเลย

ไอ้พวกก็อบลินโสโครก

เขาตั้งสมาธิของเขาให้มั่นคง ในขณะที่ก็อบลินเหล่านี้ลูบไร้ไปทั่วร่างกายของเขา มันทั้งใช้ลิ้นโสโครกนั้นเลียและใช้นิ้วสกปรก ๆ นั่นแหย่เขาไปทั่ว เขาต้องจดจ่อกับอย่างอื่น ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องกลายเป็นบ้าแน่ ๆ

ต้องตั้งสมาธิ

คิคิ๊ก! คิคิ๊ก! คิ๊กกก?

ก็อบลินตัวหนึ่งเลียหูเขา ในขณะนั้นเองนั่นก็ทำให้สมาธิของเขาแตก เขารู้สึกได้เลยว่าขนทุกเส้นบนร่างกายของเขากำลังตั้งอยู่ หูของเขาเจ็บจี๊ดอย่างรุนแรงจากกรดในน้ำลายของพวกมัน จนรู้สึกเหมือนหูของเขาจะละลาย

อั๊ก...!

[ ของขวัญ น้ำยาอีลิกเซอร์ความแข็งแกร่งขั้นสูงมาถึงแล้ว ]

[ ในช่วงระยะเวลาของการฝึกสอน ไอเทมที่ได้รับเป็นของขวัญจะถูกส่งไปยังช่องเก็บของของคุณโดยอัตโนมัติ ]

[ คุณต้องการเข้าถึงช่องเก็บของของคุณหรือไม่? ]

เขากัดริมฝีปากล่างอย่างแรงเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงร้องออกไป เพราะทุกการเคลื่อนไหวหรือการส่งเสียงใด ๆ อาจหมายถึงชีวิตของเขาได้เลยในขณะนี้และทันทีที่เขาขยับหรือส่งเสียงจุดเซฟโซนแบบมีเงื่อนไขนี้ก็จะพังทลายลงทันทีและเขาก็จะต้องพบกับชะตากรรมแบบเดียวกันกับคนอื่น ๆ อีกแปดคนบนรถบัสคันนี้

คิม ฮยอกจิน รู้วิธีเปิดช่องเก็บของของเขา

ช่องเก็บของ

คุณเพียงแค่พูดในใจ ต่อให้จะหลีบตา แต่ภาพโฮโลแกรมช่องเก็บของก็จะยังปรากฏต่อหน้าให้เห็นได้อย่างชัดเจน มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะมองเห็นมันด้วยตา แต่มันเป็นการรับรู้ที่ถูกป้อนเข้าไปในสมองเพื่อให้ดูเหมือนว่าคุณกำลังมองด้วยตาของคุณ

[ น้ำยาอีลิกเซอร์ความแข็งแกร่งขั้นสูง ]

ของขวัญจากราชาสิงโตผู้กล้าหาญ โบนัสเริ่มต้นนี้เมื่อดื่มเข้าไปจะมีผลเป็นเวลาสิบนาที

เพิ่มค่าความแข็งแกร่งชั่วคราว 6 แต้ม

เพิ่มขึ้น 6 แต้มเหรอ?’

โดยปกติแล้วคุณจะได้รับโบนัสสเตตัส 2 แต้ม ต่อเลเวลที่เพิ่มขึ้น เขาเองก็เคยได้ยินมาว่าบางครั้งก็จะสามารถได้รับโบนัสสเตตัสมากขึ้นได้โดยทำตามเงื่อนไขพิเศษอะไรบางอย่าง แต่ไม่ว่าจะยังไงจำนวนโบนัสแต้มที่ต้องได้ตามมาตรฐานที่ต้องได้รับคือสองแต้ม

ถ้าฉันใช้ยานี้ ...เขาทำการคำนวณในใจ นี่มันเปรียบเสมือนกับการได้เพิ่มเลเวลขึ้นสามเลเวลเลย

เลเวลปัจจุบันของเขาคือ 1 หากความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมา 6 แต้ม มันก็จะเหมือนกับว่าเขาได้เปลี่ยนเป็นเลเวล 4 หลังจากใช้แต้มโบนัสสเตตัสเพิ่มสเตตัสความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดที่ได้มา 6 แต้ม จากการเลเวลอัพ

สเตตัสเริ่มต้นของฉันตอนนี้นั้นสูงกว่าเพลย์เยอร์ปกติมาก

เพลย์เยอร์ที่มีเลเวลสูงสุดมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9 แต้ม โดยประมาณในช่วงเริ่มต้นบทฝึกสอนและเขาในตอนนี้มีค่าเฉลี่ยที่สูงขึ้นไปอีก แล้วถ้าดื่มยานี้ไปอีก เขาคิดว่าเขาจะเป็นเหมือนเพลย์เยอร์เลเวล 5 หรือ 6 ได้เลย

ปกติแล้วการที่จะต่อสู้กับก็อบลินได้นั้นต้องมีเลเวลประมาณเลเวล 6

ราชาสิงโตผู้กล้าหาญ เลือกที่จะมอบ น้ำยาอีลิกเซอร์ความแข็งแกร่งขั้นสูง ให้กับเขาเมื่อพิจารณาเรื่องนี้ให้ดี นี่อาจเป็นเพราะเขาต้องการเห็นเพลย์เยอร์เลเวล 1 ที่น่าสมเพช ดิ้นรนต่อสู้เป็นเวลานานถึงสิบนาที

แกนี่มันโรคจิตของแท้เลย

คิม ฮยอกจิน ไม่ชอบราชาสิงโตผู้กล้าหาญเลยจริง ๆ แต่อย่างไรก็ตามยังมีของอีกอย่างหนึ่งในช่องเก็บของของเขา หนึ่งในไอเท็มที่ถูกแจกจ่ายให้กับเพลย์เยอร์ทุกคนแบบสุ่ม หรือที่เรียกกันว่าไอเท็มเริ่มต้น

___________________________________________________________________________

[ ดาบเหล็กขึ้นสนิม ]

ดาบเหล็กที่เต็มไปด้วยสนิม คุณไม่ควรคาดหวังพลังจากมันมากนะ

พลังโจมตี: 2~5

___________________________________________________________________________

มันเป็นอาวุธที่โทรมมาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย ถ้าหากเขาใช้น้ำยาอีลิกเซอร์ความแข็งแกร่งขั้นสูงร่วมกับดาบเหล็กขึ้นสนิม บางทีเขาอาจจะสามารถล่าก็อบลินได้ก็เป็นไปได้ แต่อย่างที่เขาได้คิดย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่ไม่ใช่เวลาที่จะต่อสู้ เขาไม่สามารถล่าฝูงก็อบลินด้วยตัวเองเพียงงลำพังได้

ถ้าฉันอดทนรออีกสักหน่อย การโจมตีของก็อบลินก็จะหยุดลงชั่วขณะ

คิม ฮยอกจิน ไม่รู้เวลาที่แน่ชัดว่าจะนานแค่ไหน แต่อาจนานประมาณสองหรือสามนาที หลังจากนั้นก็อบลินจะหายไป ถ้าบันทึกของราชาหมัด โซ ยูฮยุน ถูกต้องล่ะนะ

ราวกับผู้พิทักษ์ต้องการที่จะยั่วยวนเขาต่อไป เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

[ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญเฝ้ารอคอยความกล้าหาญของคุณ ]

เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเพิกเฉยต่อการแจ้งเตือนนั่น แต่มันเป็นความจริงที่การดึงดูดสายตาของผู้พิทักษ์นั้นจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเพลย์เยอร์ แต่คุณคงจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ตลอดไปหากคุณทำตามความต้องการของผู้พิทักษ์ทุกครั้ง นั่นเป็นความจริงที่เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ การรับในสิ่งที่ควรรับและการปฏิเสธในสิ่งที่ควรปฏิเสธคือนี่สิคือสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเขายังคงนิ่งเฉยต่อไปและตาของเขาก็ยังคงปิดอยู่ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นในหูของเขา

[ ราชาสิงโตผู้กล้าหาญเสนอขอแลกเปลี่ยนกับผู้ดูแลระดับกลาง ]

นั่นคือช่วงเวลาที่สิ่งต่าง ๆ เริ่มผิดไปจากการควบคุมของเขา

ความคิดต่าง ๆ วนเวียนมากมายภายในหัวของเขา ทั้งลักษณะนิสัยของราชาสิงโตผู้กล้า ลักษณะของสนามฝึกสอน การแลกเปลี่ยนที่เป็นไปได้ที่ผู้พิทักษ์จะสามารถได้จากผู้ดูแลระดับกลาง เหมือนกับเอาจิ๊กซอว์ที่มีทั้งหมดมารวมกัน ชิ้นส่วนทั้งหมดล้วนเชื่อมต่อกันภายในหัวของเขาทีละตัว ทีละตัว

เมื่อรวบรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน…’

เขารู้อยู่แล้วว่าภาพแบบไหนที่ราชาสิงโตผู้กล้าหาญอยากจะเห็น