ตอนที่แล้ว864 ยาตัวใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป866 เข้าสู่หุบเขา

865 หนึ่งคืน ยาสองตัว


865 หนึ่งคืน ยาสองตัว

“ใช่ใช่ พวกเขาเป็นเพื่อนกัน” เจี๋ยจื้อจายพูด

อินทรีย์บินวนเป็นวงกลมอยู่บนท้องฟ้าสองสามรอบ และบินจากไป

บนเนินเขาตงชาน จงหลิวชวนฝึกอยู่กับเจี๋ยจื้อจาย ในขณะที่หูเหมยเดินเล่นไปรอบๆ เธอหยุดยืนอยู่ตรงจุดเชื่อมต่อระหว่างเนินเขาตงชานและเนินเขาหนานชาน และไม่ได้เดินหน้าต่อ เธอทำเพียงยืนนิ่งและมองไปรอบๆ

ต้นไม้บนเนินเขาหนานชานเขียวขจี ถึงแม้จะเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง แต่ใบบนต้นไม่ได้เปลี่ยนสีเลยแม้แต่น้อย มันดูแตกต่างไปจากสภาพแวดล้อมโดยรอบที่อยู่ในช่วงเวลาของฤดูใบไม้ร่วงไปแล้ว

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง

“วันนี้ พวกเราพอแค่นี้กันดีไหม?”

“ได้”

ทั้งสองจบการฝึกของพวกเขา เจี๋ยจื้อจายและหูเหมยเดินลงเขาไปก่อน จงหลิวชวนยังคงอยู่บนเนินเขาตงชานอีกสักพัก ก่อนที่เขาจะกลับลงไป

“นายเคยขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานมาก่อนรึเปล่า?” หูเหมยถาม

“ฉันไม่เคยไปที่นั่น” เจี๋ยจื้อจายพูด

“นายรู้สังเกตไหมว่า ความรู้สึกเวลาอยู่บนเนินเขาตงชานต่างจากเวลาที่อยู่ตรงตีนเขา?” หูเหมยถาม เธอรู้สึกได้ว่า เมื่อเธอขึ้นมาอยู่บนเขาแล้ว  การหายใจของเธอราบรื่นและสบายขึ้น เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

“รู้สึกสิ”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?”

“การไหลเวียนของอากาศบนเขาดีกว่า เมื่อมีต้นไม้มากกว่า อากาศก็จะสดชื่นมากขึ้น”

“ไม่ มันยังมีอย่างอื่นอีก”

“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?” เจี๋ยจื้อจายถาม

“ฉันไม่รู้ ศิษย์พี่ของนายเคยพูดถึงเรื่องพวกนี้บ้างไหม?”

“เขาไม่พูดอะไรกับฉัน แล้วฉันก็ไม่ได้ถามเขาด้วย”

“ฉันเดาว่า มันอาจจะเป็นเพราะค่ายกลที่ถูกวางเอาไว้ก็ได้” หูเหมยพูดด้วยรอยยิ้ม “นายไม่สังเกตเหรอ ว่าสภาพแวดล้อมบนเนินเขาหนานชานต่างจากพื้นที่อื่นที่อยู่รอบๆน่ะ?”

“ต้นไม้บนเนินเขาหนานชานดูเขียวชอุ่ม ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่พวกมันก็ยังคงเขียวและใบไม่ร่วงเลย สุดยอด!” แล้วเจี๋ยจื้อจายก็ค้นพบความประหลาดนี้

“ฉันคิดว่า เป็นฝีมือของเชียนเชิง ที่ทำให้เนินเขาหนานชานเหมือนอยู่ในฤดูใบไม้ผลิตตลอดทั้งปี”

“เธออยากขึ้นไปดูข้างบนเหรอ?”

“ไม่ ขนาดศิษย์พี่ของนายก็ยังไม่อยากขึ้นไปบนนั้น หรือแม้แต่จะขึ้นไปออกกำลังกายบนนั้นเขาก็ยังไม่ไปเลย”

“ฉันรู้สึกว่า มันเป็นเหมือนกับพื้นที่ต้องห้าม ที่ไม่มีใครสามารถขึ้นไปได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากเชียนเชิงก่อน”

“กลับบ้านกันเถอะ คืนนี้ นายอยากกินอะไร?”

“ฉันเพิ่งได้ความคิดใหม่ๆจากที่อ่านคัมภีร์มา ดังนั้น ขอเป็นของกินง่ายๆก็แล้วกัน” เจี๋ยจื้อจายพูด ที่เขาพูดเป็นความจริง เขาตั้งใจอ่านคัมภีร์เต๋ามาได้สองวันแล้ว และเริ่มทำความเข้าใจอะไรบางอย่างได้บ้างแล้ว ทั้งยังรู้สึกสงบลงด้วย

“ได้สิ” หูเหมยยิ้มและเข้าไปเตรียมอาหาร

ยามกลางคืนมาถึงในไม่ช้า ความมืดเข้าปกคลุม

บนเนินเขาหนานชาน มีแสงไฟเล็ดลอดออกมา

ภายในกระท่อม ฟืนกำลังเผาไหม้จนเกิดเสียงเปรี๊ยะๆ หวังเย้านั่งอยู่เงียบๆ และคอยเติมฟืนเป็นครั้งคราว

เขากลับขึ้นเขาเร็วกว่าปกติ เพื่อเก็บสมุนไพรสำหรับทำยา

สมุนไพรถูกใส่ลงไปในหม้อทีละต้น ตัวยาเริ่มเดือด กลิ่นของยาลอยไปทั่วทั้งกระท่อมและยังลอยออกไปถึงด้านนอก ด้านนอกกระท่อม ซานเซียนได้กลิ่นที่ลอยตามลมมา มันเงยหน้าแล้วหันไปทางกระท่อม ก่อนจะกลับไปนอนตามเดิม

ดูเหมือนว่ามันใกล้จะได้ที่แล้ว

หวังเย้ามองดูสีสันและกลิ่นของตัวยาที่เปลี่ยนไป เมื่อเวลาผ่านไป ตัวยาก็สอดประสานเข้าด้วยกัน

กุยหยวน

สมุนไพรชนิดนี้ช่วยประสานหยินหยางและประสิทธิภาพของตัวยาเข้าด้วยกัน ดังนั้น มันเป็นสมุนไพรที่จำเป็น

อืม ได้แล้ว

ตัวยาเสร็จแล้ว หลังจากปล่อยให้ตัวยาเย็นด้วยอุณหภูมิห้องแล้ว เขาก็เทยาใส่ลงไปในขวดกระเบื้อง

หลังจากทำยาตัวนี้เสร็จแล้ว หวังเย้าก็เตรียมทำยาอีกตัวหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันการแท้ง ตัวยาคล้ายกับยาที่เขาเคยทำให้เฟิงเจียเหอตอนอยู่ที่ปักกิ่ง ความเปลี่ยนแปลงเดียวที่มีคือจื้อเป่ยหลงหยา จึงทำให้ตัวยามีความพิเศษกว่ายาตัวเดิม มันเป็นยาบำรุงและป้องกันการแท้งได้ดีที่สุด

การทำยาให้เสร็จทั้งสองตัว ใช้เวลาไปจนถึงช่วงกลางดึก หลังจากจัดเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็ปิดไฟและเข้านอน

เช้าตรู่วันถัดมา เขาลุกขึ้นและฝึกมวยอยู่บนยอดเขาหนานชาน หลังจากนั้น เขาก็ไปที่เนินเขาตงชาน ที่จงหลิวชวนกับเจี๋ยจื้อจายใช้เป็นสถานที่ฝึกฝนในทุกเช้า ในตอนที่พวกเขาฝึกฝน เขามักจะคอยเฝ้าดูและให้คำแนะนำเป็นครั้งคราว จงหลิวชวนค่อยๆดีขึ้น มันเป็นเพราะสภาพจิตใจที่พัฒนาขึ้นของเขา จึงช่วยส่งเสริมจิตวิญญาณในการฝึกฝนของเขาให้ดีขึ้นด้วย เจี๋ยจื้อจายแย่กว่าเล็กน้อย โชคดีที่สองวันที่ผ่านมานี้ เขาดูเหมือนจะกระจ่างในบางเรื่อง ทำให้จิตใจของเขาสงบ ขั้นต่อไปก็คือต้องฝึกฝนให้มาก

เวลาประมาณ 8 โมง หวังเย้าลงจากเขาและกลับไปที่บ้าน หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว เขาก็ไปที่คลินิก

เขาโทรหาหลิวเจิ้งเฟิงและบอกให้อีกฝ่ายเข้ามารับยา ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง หลิวเจิ้งเฟิงที่เดินทางจากตัวเมืองเหลียนชานก็มาถึงที่หมู่บ้าน

“เชียนเชิง”

“นี่ยาครับ วิธีกินเหมือนกับยาที่ให้ไปครั้งก่อน หลังจากกินยาไปได้ 10 วันแล้ว ก็ให้พาเธอมาตรวจดูอาการด้วยนะครับ”

“ได้ครับ ขอบคุณครับ!” หลิวเจิ้งเฟิงรับยาและจ่ายเงินด้วยความยินดี

จากนั้น หวังเย้าก็บอกให้หวังเจ๋อเชิงพาพ่อของเขามา สภาพของชายชราดูแย่ลง แววตาไร้ชีวิตชีวา

“คุณลุง เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอครับ?”

“อืม ฉันฝันทั้งคืนเลย!” ชายชราไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงฝันหลายเรื่องขนาดนั้น บางครั้ง เขาก็ฝันว่าตัวเองกำลังต้อนแกะขึ้นไปบนเขา แล้วแกะก็วิ่งหนีไป เขาจึงไล่ตามพวกมันไป แล้วอยู่ๆหิมะก็ตกลงมาทำให้พืชผลแข็งตาย เขากังวลกับเรื่องนี้แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ แล้วเขาก็ฝันอีกเรื่องหนึ่ง เขาได้ตกลงไปในน้ำและไม่สามารถว่ายกลับเข้าฝั่งได้ เขารู้สึกกลัวมา แต่เมื่อเขาพยายามตะโกนมันกลับไม่มีเสียง ความฝันแต่ละอย่างของเขาไม่มีอันไหนเป็นเรื่องดีเลย

“มาครับ ดื่มยาถ้วยนี้ดู” หวังเย้าส่งยาให้ชายชรา ซึ่งเป็นยาที่ทำมาจากสมุนไพรวิเศษหลายชนิดเพื่อช่วยรักษาเนื้อร้ายในร่างกายของเขา

“ฮ้า” ชายชราจิบยาที่ยังอุ่นอยู่ทีละนิด

หลังจากผ่านไปได้ 30 นาที หวังเย้าก็จับดูชีพจรของชายชรา

“รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ?”

“เอ่อ ฉันรู้สึกอุ่นในท้อง มีสองจุดนี้ที่ร้อนเป็นพิเศษ” เขาชี้ไปที่หน้าท้อง

“ดีครับ ช่วยนอนลงแล้วแกะกระดุมเสื้อด้วยนะครับ”

หวังเย้าให้เขานอนลงและถอดเสื้อผ้าของเขาออก ก่อนจะทำการรักษาโดยการฝังเข็ม วิธีการฝังเข็มของเขาค่อนข้างพิเศษ บางครั้งเร็วบางครั้งช้า เขาไม่เคยแทงลงไปตรงๆในครั้งเดียวเลย เขาแทงเข็มลงไปตามจุดฝังเข็มไม่กี่จุด ก่อนจะย้ายไปส่วนอื่นต่อ เขากำลังใช้วิธีการฝังเข็มแบบใหม่ที่เพิ่งได้รับมาจากระบบ ดังนั้น ครั้งนี้จึงใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง

ภายในร่างกายของชายชรามีความรู้สึกแตกต่างกันไป บางส่วนอุ่นบางส่วนร้อน บางส่วนยังคงเจ็บปวด

“คุณลุงรู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ?”

“เอ่อ ก็ดี” ชายชราคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ

“คุณลุงต้องบอกความจริงกับผมนะครับ ผมจะได้รู้ว่าการรักษาได้ผลรึเปล่า” หวังเย้าหัวเราะ เขารู้ว่า ร่างกายแต่ละส่วนของชายชรามีความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป

ชายชราจึงบอกความรู้สึกของเขากับหวังเย้าอย่างละเอียด

“ดีครับ ผมเข้าใจแล้ว คุณลุงลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าได้เลยครับ”

อีก 30 นาทีต่อมา หวังเย้าก็จับชีพจรของชายชราอีกครั้ง

“วันนี้พอเท่านี้ก่อนครับ พรุ่งนี้เช้าให้กลับมาอีกครั้งนะครับ”

“ได้ ขอบคุณนะ” หวังเจ๋อเชิงพูด “ค่ารักษาเท่าไหร่เหรอ?”

“พาคุณลุงกลับบ้านก่อนเถอะครับ”

“ได้ได้ ไว้เดี๋ยวฉันจะกลับมานะ” หวังเจ๋อเชิงพูด

เขาช่วยพยุงชายชราออกไปจากคลินิก

“พ่อรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”

“อืม มันรู้สึกแปลกๆ มันไม่ใช้ความรู้สึกสบาย แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ พ่อรู้สึกไม่ดีนิดหน่อย แต่ดูเหมือนว่าจะแข็งแรงกว่าตอนที่ตื่นนอนเมื่อเช้า”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ถือว่าดีแล้ว”

“บ้านก็อยู่ใกล้แค่นี้ ไม่ต้องพาพ่อไปส่งหรอก” หวังยี่หลงพูด “พ่อกลับบ้านเองได้ กลับไปจัดการเรื่องค่ารักษาเถอะ เขาช่วยเราไว้มาก เราจะติดหนี้เขาไม่ได้”

“ผมจะพาพ่อกลับบ้านก่อน ไว้ค่อยกลับไปจ่ายเงินทีหลังก็ได้ อีกนิดเดียวก็จะถึงบ้านแล้ว” หลังหวังเจ๋อเชิงพาพ่อของเขากลับไปส่งที่บ้านแล้ว เขาก็กลับไปที่คลินิกอีกครั้ง

“ค่ารักษาเท่าไหร่เหรอ?” หวังเจ๋อเชิงถาม

“เท่าครั้งก่อนครับ” หวังเย้าพูด

ตัวยามีสมุนไพรวิเศษถึงหกชนิด ถึงปริมาณของสมุนไพรที่ใส่ลงไปจะไม่เท่ากัน บางตัวน้อยบางตัวมาก แต่ทั้งหมดล้วนล้ำค่า แต่ละต้นมีค่าราคาสูงกว่าหนึ่งแสนหยวน เขาไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อสมุนไพรแม้แต่ต้นเดียว

“อ่อ ได้ได้” หวังเจ๋อเชิงแอบโล่งใจ เขากังวลว่าค่ารักษาจะเพิ่มขึ้นจนเขาจ่ายไม่ไหว

“กลับบ้านไปแล้วก็คอยสังเกตดูอาการของคุณลุงด้วยนะครับ ถ้ามีคำถามอะไรก็มาหาผมได้”

“ขอบคุณนะ ฉันจะทำตามที่นายบอก”

“ดีครับ พี่กลับไปได้แล้ว”

หวังเจ๋อเชิงออกมาจากคลินิกและกลับบ้าน เขาเดินตรงไปที่ห้องพ่อของเขา ซึ่งชายชรากำลังดื่มน้ำอยู่

“ไปจ่ายเงินค่ายามาแล้วเหรอ?”

“ครับ”

“เท่าไหร่ล่ะ?”

“500” หวังเจ๋อเชิงพูดโกหกออกไป

“อ่อ ดีแล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด