ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 57 เริ่มจัดการบริษัท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 59 เพลงนี้กำลังโด่งดังแล้ว

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 58 กลยุทธ์การโฆษณา


ตอนที่ 58 กลยุทธ์การโฆษณา

วันนี้เอวาบอกฮาร์ดี้ว่าเพลงที่เขาแต่งนั้นได้รับการอัดเสียงเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ฮาร์ดี้กับเอวาจึงไปที่ห้องบันทึกเสียงของบริษัทภาพยนตร์ ซึ่งตอนนี้ผู้กำกับโนแลนก็อยู่ที่นี่ด้วย

เครื่องเล่นแผ่นเสียงหมุนพร้อมกับส่งเสียงเพลงอันไพเราะออกมา

“คุณจะไปงานสการ์โบโรห์ไหม?

ผักชีฝรั่ง เสจ โรสแมรี่ และโหระพา

คิดถึงฉันกับคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น

เธอที่เคยเป็นรักแท้ของฉัน”

เสียงเพลงดังขึ้นในห้องบันทึกเสียง และทุกคนก็เคลิบเคลิ้มไปกับเพลงนี้

เอวาจับแขนของฮาร์ดี้แน่น เธอไม่แน่ใจว่าฮาร์ดี้จะชอบเวอร์ชั่นนี้หรือเปล่า

เสียงเพลงจบลง

ทุกคนในห้องต่างปรบมือเสียงดัง

“สุดยอดเลยเอวา เพลงนี่เป็นเพลงที่เพราะที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาเลย! ฉันเชื่อว่าเพลงนี้จะโด่งดังไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาหรือแม้แต่ในยุโรปเลยด้วยซ้ำ!” ฮาร์ดียิ้มและชื่นชม

เสียงของเอวาไม่ได้อ่อนหวานและลึกเท่าซาราห์ ไบรท์แมนแต่ฮาร์ดี้รู้สึกว่าเพลงสการ์โบโรแฟร์ในเวอร์ชั่นของเอวาก็ทำให้ผู้ฟังประทับใจไม่แพ้กัน

เอวาดีใจในทันที

ในที่สุดการเรียนร้องเพลงที่ผ่านมาของเธอก็เห็นผล

ผู้อำนวยการเจสันกล่าว “เพลงนี้มันยอดเยี่ยมมาก ผมฟังเท่าไรก็ไม่เบื่อ หลังจากบันทึกเสียงเพลงนี้เสร็จ เมื่อวานนี้ ผมก็ฟังวนซ้ำไปซ้ำมาอย่างมีความสุข และสุดท้ายผมก็ผล็อยหลับไปกับเสียงเพลงนี้ ผมรู้สึกมีฝันที่แสนหวานในคืนนั้น”

คนอื่นๆ ต่างก็ชื่นชมเพลงนี้ไม่แพ้กัน

“ผมรู้สึกทึ่งกับท่วงทำนองของเพลงนี้เสมอ มันทำให้ผมลืมเนื้อเพลงเลยด้วยซ้ำ”

“ฉันแน่ใจว่าเพลงนี้จะกลายเป็นเพลงคลาสสิกไปอีกยาวนานแน่นอน”

โนแลนก็ชอบเพลงนี้มากเช่นกัน

เขารู้ว่าเอวาร้องเพลงได้ดีมาก แต่เขามีความรู้สึกว่าเพลงนี้ไม่เข้ากับโทนภาพยนตร์เรื่อง ‘นักฆ่าเพชรตัดเพชร’ ที่เขาต้องกำกับ เพราะภาพนักฆ่าเพชรตัดเพชรในใจของเขาคือ พื้นที่ตะวันตกที่มีแต่ลมที่ร้อน ทรายหยาบกร้าน และความรกร้างไร้ผู้คน ซึ่งเพลงนี้จะไพเราะมากก็จริง แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกนี้เลย

โนแลนเล่าความคิดนี้ให้ฮาร์ดี้ฟัง

ฮาร์ดี้ยิ้มแล้วพูดว่า “อันที่จริงตอนที่ผมเขียนเพลงนี้ ผมตั้งใจใช้เพลงนี้เพื่อการโฆษณา”

“เงินทุนของเรามีจำกัดผมเลยคิดไอเดียนี้ขึ้นมา ให้เอวาร้องเพลงและเผยแพร่ทางวิทยุเพื่อโฆษณาว่าเพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ เมื่อคนชอบเพลงนี้พวกเขาจะสงสัยอย่างแน่นอนว่าเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องอะไร เมื่อภาพยนตร์ของเราเข้าฉาย มันจะดึงดูดกลุ่มผู้ชมให้เข้ามาดูได้เป็นอย่างดี” ฮาร์ดี้กล่าว

ผู้กำกับโนแลนได้ยินเรื่องนี้ เขาตระหนักในทันทีว่านี่เป็นวิธีที่ดี

การใช้เพลงและความอยากรู้อยากเห็นเพื่อดึงดูดผู้ชม วิธีการโฆษณาชวนเชื่อของฮาร์ดี้นั้นยอดเยี่ยมมาก

ฮาร์ดี้พูดต่อ “ผมรู้อยู่แล้วว่าเพลงนี้ไม่เข้ากับสไตล์โดยรวมของภาพยนตร์เลย แต่ผมว่าในฉากที่เมริซาถูกยิง ให้เราถ่ายหน้าเธอใกล้ๆ แล้วให้เธอร้องเพลงนี้ด้วยเสียงเศร้าๆ”

“จากนั้นตัดภาพให้เห็นว่าเอวากำลังเดินอยู่ในพื้นที่รกร้าง โดยที่เธอเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ พร้อมกับเพลงนี้เป็นแบล็คกราว และสุดท้ายภาพยนตร์ก็จบลง ผมว่าฉากนี้มันต้องออกมาสวยงามมากแน่ๆ”

โนแลนคิดในใจว่าฉากนี้น่าสนใจ

“ผมคิดว่าเราน่าจะลองถ่ายฉากนี้ได้ แต่มันยังเหลือเพลงประกอบเพลงอื่นๆ อีกนะ เจสันแล้วเพลงอื่นล่ะเป็นยังไงบ้าง?” โนแลนถามเจสันที่เป็นคนดูแลเพลง

เจสันตอบกลับ “เราอยากจะบอกเรื่องนี้กับคุณมาสักพักแล้ว ซึ่งเพลงดีๆ ไม่ได้สร้างง่ายขนาดนั้น ผมต้องการเวลามากกว่านี้ อย่างไรก็ตามภาพยนตร์ก็ยังไม่เริ่มถ่ายทำใช่ไหม? คุณคงให้เวลาผมได้อยู่แหละ…”

“งั้นคุณทำเพลงให้เสร็จก่อนผมถ่ายเสร็จได้ไหม?” โนแลนขมวดคิ้ว

“หือ?”

เจสันไม่สามารถรับประกันได้

ฮาร์ดี้มองดูสองคนนี้ต่อรองเรื่องเพลงกัน สักพักเขาก็นึกเพลงประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ มันเพลงประกอบที่เขาชอบที่สุดคือเพลงวิสเซิล (whistle) ทุกครั้งที่เขาได้ยินเพลงนี้ ความรู้สึกแบบตะวันตกจะปรากฏขึ้นมาทันที

ซึ่งฮาร์ดี้ก็เรียนรู้วิธีผิวปากเพลงนี้มาก่อน แต่เรียนรู้มาแค่ท่อนแรกเท่านั้น

แน่นอนเพราะท่อนแรกเป็นส่วนที่คลาสสิกที่สุดของทั้งเพลง

“เจสันผมมีความคิดบางอย่าง คุณว่าเพลงนี้จะเหมาะสมไหม?” ฮาร์ดี้กล่าว

“ผู้ช่วยฮาร์ดี้ คุณแต่งเพลงใหม่อีกแล้วเหรอ?” เจสันถามอย่างไม่เชื่อ

“เป็นแค่ท่อนสั้นๆ น่ะ ลองฟังดูนะ”

จากนั้นฮาร์ดี้ก็ผิวปาก

“วู้…วู…”

ทั้งเพลงใช้เวลาประมาณสามนาที แต่ฮาร์ดี้ผิวปากเพียงนาทีเดียวแล้วก็หยุด เพราะเขาผิวปากท่อนต่อไปไม่ได้แล้ว จึงจะให้เจสันไปเพิ่มส่วนที่เหลือเอาเอง

“คุณว่าโอเคไหม?”

ฮาร์ดี้ถามเจสัน

“เพลงนี้ของคุณไพเราะมาก! มันให้ความรู้สึกที่ห่างไกลและอ้างว้างมากเลยๆ ล่ะ!” เจสันพูดด้วยความประหลาดใจ

“ถ้าใส่เสียงกีตาร์เข้าไปจะดีขึ้นไหม”

“ผมคิดว่าถ้าเป็นกีตาร์ไฟฟ้าน่าจะดีกว่า”

หลายคนในแผนกดนตรีต่างออกความคิดเห็นอย่างไม่ขาดสาย

โนแลนมองฮาร์ดี้ด้วยความชื่นชม “ผู้ช่วยฮาร์ดี้ผมต้องบอกเลยว่าคุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีที่ยอดเยี่ยมมาก การประยุกต์วิธีผิวปากให้กลายเป็นเพลงนี้มันช่างน่าทึ่งจริงๆ”

“ผู้กำกับโนแลน แล้วเรื่องการเตรียมทีมถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง?” ฮาร์ดี้ถาม

“เรียบร้อยแล้วทีมงานและอุปกรณ์พร้อมทุกอย่าง มีตัวเอกชายแล้วตัวเอกหญิงก็มีแล้ว พร้อมกับที่ทางเราเซ็นสัญญาเช่าสถานที่ถ่ายทำเรียบร้อย ซึ่งเป็นที่ถ่ายทำของเอมจีเอมในนิวเม็กซิโก และผมวางแผนจะออกเดินทางในสัปดาห์หน้าด้วย” โนแลนตอบ

“คิดว่าจะใช้เวลาถ่ายทำนานแค่ไหน” ฮาร์ดี้ถาม

โนแลนคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น จะใช้เวลาประมาณสามเดือนในการถ่ายทำ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการตัดต่อที่จะใช้เวลาประมาณสองเดือน และทุกอย่างน่าจะเสร็จเรียบร้อยไม่เกินครึ่งปี”

ต้องเน้นย้ำว่าหากไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำ

เจสันและคนอื่นๆ ยังคงคุยกันเรื่องเพลงวิสเซิลของฮาร์ดี้ จนในที่สุดโนแลนก็เข้าร่วมด้วย ซึ่งโนแลนเป็นผู้กำกับที่เก่งกาจ และเขาพอจะมีความรู้ด้านดนตรีอยู่บ้างจึงต้องการแสดงความคิดเห็นด้วย

ฮาร์ดี้ไม่รู้จะอยู่ที่นี่ต่อไปทำไมจึงออกมาพร้อมเอวา

ก่อนออกมาฮาร์ดี้ขอแผ่นเสียงไวนิลสักสองสามแผ่น ซึ่งเขาจะส่งมันไปยังสถานีวิทยุให้เผยแพร่เพลงนี้ เพราะที่งานเลี้ยงของซีเกลก่อนหน้านี้

ซีเกลได้แนะนำให้เขารู้จักกับดาราใหญ่ในวงการบันเทิงฮอลลีวูดหลายคน นอกจากประธานของเอมจีเอมและวอร์เนอร์แล้ว เขายังได้ทำความรู้จักกับหัวหน้าของสถานีวิทยุโคลัมเบียลอสแองเจลิสอีกด้วย

มันคงจะง่ายกว่าที่จะไปหาเขา

ฮาร์ดี้กับเอวากลับบ้านไปด้วยกัน

พร้อมกับที่เอวาไปอาบน้ำ

ฮาร์ดี้วางแผ่นไวนิลลงในเครื่องเล่นแผ่นเสียง และเสียงร้องเพลงของเอวาก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ไม่ว่าใครที่ฟังก็ต้องยอมรับว่าเพลงนี้เพราะมาก

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เพลงนี้จะกลายเป็นเพลงที่โด่งดังไปทั่วโลก และยังเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในเพลงคลาสสิกที่สวยงามที่สุดในโลกอีกด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด