ตอนที่แล้วบทที่ 8: ดินแดนของข้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10: เก้าฟีนิกส์เปลี่ยนรูป

บทที่ 9: การเดิมพัน


บทที่ 9: การเดิมพัน

ลู่เสี่ยวหรันรีบพาพวกเธอทั้งสองขึ้นไปบนยอดเขาอย่างรวดเร็ว

หยุนหลี่เกอเพิ่งจะฝึกตนเสร็จเมื่อเขาเดินออกจากห้องและเห็นอาจารย์ของเขา อาจารย์ของเขากำลังอุ้มสาวงามไว้ในมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งเป็นหญิงแก่

สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป

อาจารย์ของเขามีงานอดิเรกแบบนี้จริงหรือ?

นี่มันไร้มนุษยธรรมเกินไปหรือเปล่า? มันไม่ใช่สิ่งที่สุภาพบุรุษสมควรจะทำไม่ใช่หรอ?

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นอาจารย์ของเขาและได้ช่วยเหลือเขาไว้อย่างมาก มันไม่สมควรที่เขาจะพูดอะไร

“ทำความเคารพท่านอาจารย์”

หยุนหลี่เกอโค้งคำนับและลู่เสี่ยวหรันก็พยักหน้า

“มาก็ดีแล้ว ข้าจะฝากหญิงแก่นี่ไว้กับเจ้าก็แล้วกันนะ”

“เอ่อ? ท่านอาจารย์ ข้าทำไม่ได้หรอก”

“ไม่ต้องคิดมากไป อาจารย์เชื่อใจเจ้า!”

ทันทีที่เขาพูดจบ ลู่เสี่ยวหรันก็โยนย่าหลี่ลงต่อหน้าหยุนหลี่เกอและเดินเข้าไปในห้องของเขาพร้อมกับจื่ออู๋เซีย

หยุนหลี่เกอมองไปที่หญิงชราที่อยู่ข้างหน้าเขา ใบหน้าของเขามืดมน

เขารู้สึกละอายใจที่อาจารย์ของเขาทำเรื่องอนาจารกับผู้หญิงคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ตัดสินใจที่จะมองข้ามสิ่งนั้นไป แต่ก็อีกครั้งหนึ่ง ในตอนนี้ อาจารย์ของเขาก็ได้มอบหญิงชรามาให้กับเขา

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยริ้วรอย แค่มองดูใบหน้าของเธอ เขาก็รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาแล้ว เขาจะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอได้อย่างไร?

โอ้สวรรค์ ข้าคงต้องฝันร้ายไปตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม หยุนหลี่เกอก็ตบหัวตัวเอง

“หยุนหลี่เกอ เจ้าจะคิดแบบนี้ได้ยังไง? อาจารย์เป็นผู้มีพระคุณของเจ้า เขามอบเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตราชันยุทธ์ให้แก่เจ้าเพื่อให้เจ้าสามารถก้าวเข้าสู่เส้นทางการฝึกตนได้อีกครั้ง ตอนนี้เขาแค่ขอให้เจ้าจัดการกับหญิงชราก็เท่านั้น เจ้าจะปฏิเสธได้อย่างไร เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า? หากเจ้าปฎิเสธ เจ้าจะยังคู่ควรกับการเลี้ยงดูอย่างอุตสาหะของอาจารย์หรือไม่?”

“ยิ่งไปกว่านั้น นางก็ไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย? ตราบใดที่ข้าปิดหน้าเธอและปิดไฟ...”

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาย่าหลี่และมองดูใบหน้าชราของเธอ

“เวรเอ้ย! ยังไงข้าก็รับมันไม่ได้!!!”

ในความเป็นจริง ลู่เสี่ยวหรันก็ไม่ได้ต้องการให้เขาทำอะไรกับเธอเลย เขาแค่ต้องการให้หยุนหลี่เกอดูแลยาหลี่ก็เท่านั้น

ในเวลานี้ เขาก็มาที่ห้องของเขาและให้ยารักษาจื่ออู๋เซีย สิ่งนี้ทำให้เธอตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว

จื่ออู๋เซียเริ่มขยับตัวและลืมตาขึ้น เมื่อเธอเห็นใบหน้าของลู่เสี่ยวหรันใกล้ๆ เธอ หัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

มันมีผู้ชายหน้าตาดีหลายพันคน แต่มันมีเพียงไม่กี่คนที่ดูดีเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม จื่ออู๋เซียก็ตกตะลึงเพียงไม่ถึงวินาทีก่อนที่เธอจะตอบสนองในทันที

ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ดูดีเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่อันตรายอย่างยิ่งอีกด้วย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จื่ออู๋เซียก็รีบลุกขึ้นและคุกเข่าลง

“ผู้อาวุโสโปรดใจเย็น ยกโทษให้ข้าด้วยที่บุกรุกเข้ามาในดินแดนของท่าน”

ลู่เสี่ยวหรันเหลือบมองไปที่เธอและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ดีที่เจ้ายังพอมีสมองอยู่บ้าง เจ้าไม่ได้ใช้สถานะของเจ้าเพื่อข่มขู่ใส่ข้า”

ใบหน้าของจื่ออู๋เซียค่อนข้างแดง

“ข้าเพียงต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของข้า แต่ข้าก็ไม่มีทางทำได้ ด้วยเหตุนี้เอง ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาที่ยอดเขาจื่อฉุ่ย ตอนนี้ข้าได้รบกวนท่านผู้อาวุโสแล้ว ข้าอยู่ในความเมตตาของท่านแล้ว”

“งั้นก็ฆ่าตัวตายซะ”

“ห้ะ!”

จื่ออู๋เซียเบิกตากว้างในทันที เธอไม่คิดว่าลู่เสี่ยวหรันจะกล่าวเช่นนั้น

“อะไรกัน? เจ้าไม่กล้าที่จะฆ่าตัวตายหรอ? แล้วคิดว่าเราควรทำอย่างไรถึงจะถูก?”

ร่างกายที่บอบบางของจื่ออู๋เซียสั่นเทา อีกฝ่ายรู้ตัวตนของเธอดีและยังกล้าที่จะร้องขอเช่นนั้น เขาอาจจะไม่กลัวพระราชวังจักรพรรดิสันติราชาก็ได้!

ดูเหมือนว่าคราวนี้เธอจะเจอปัญหาใหญ่แล้วจริงๆ

จื่ออู๋เซียรู้สึกเสียใจมาก แต่เธอก็ไม่ได้ตำหนิลู่เสี่ยวหรัน นั่นก็เพราะเธอผิดเองที่เป็นคนบุกรุกเข้ามาในดินแดนของเขา

อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป เธอก็จะไม่สามารถทำงานหนักเพื่อไล่ตามเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่เธอต้องการได้อีกต่อไป

“ผู้อาวุโส ท่านพอจะมีวิธี… มันไม่มีทางที่ข้าจะแก้ไขปัญหานี้ได้จริงๆ หรอ?”

ลู่เสี่ยวหรันไม่ตอบและมองดูเธออย่างเย็นชา ก่อนหน้านี้ ในค่ายกล เขาก็ได้ทดสอบความแข็งแกร่งของเธอแล้ว

ในตอนนี้ เขาก็ต้องการจะดูว่าสาวน้อยคนนี้มีความกล้าหาญมากน้อยแค่ไหน

เมื่อเห็นว่าเขาเงียบ จื่ออู๋เซียก็รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

เธอไม่สามารถต่อต้านได้เนื่องจากอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป

เธอกำหมัดของเธอเล็กน้อย ดวงตาของจื่ออู๋เซียแสดงให้เห็นถึงความกดดัน และในที่สุด เธอก็หยิบมีดสั้นออกมาจากถุงเก็บของของเธอ

เธอไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าเธอต้องตายไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่างน้อยที่สุด เธอก็ต้องช่วยย่าหลี่ให้รอดให้ได้

ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เป็นคนที่ลากย่าหลี่เข้ามาในกองไฟ

“ผู้อาวุโส เพราะข้าต้องการจะไล่ตามเต๋าอันยิ่งใหญ่ ข้าจึงได้ประมาทไปครู่หนึ่ง ข้าได้บุกรุกเข้าไปในดินแดนของท่านและสมควรถูกลงโทษ อย่างไรก็ตาม ย่าหลี่มาเพื่อคุ้มกันข้า นางไม่ควรถูกลงโทษด้วย ท่านผู้อาวุโส หากท่านต้องการให้ข้าตายเพื่อให้ท่านสงบลง ข้าก็เต็มใจที่จะฆ่าตัวตาย ข้าแค่หวังว่าผู้อาวุโสจะยอมปล่อยย่าหลี่ออกไป”

จื่ออู๋เซียกัดฟันของเธอและจับด้ามมีดสั้นแน่นด้วยมือทั้งสองข้างก่อนที่จะสอดเข้าไปในจุดตันเถียนของเธอ

อย่างไรก็ตาม ใบมีดก็เจาะทะลุช่องท้องของเธอได้เพียงครึ่งเซนติเมตรเท่านั้นเมื่อเสียงของลู่เสี่ยวหรันดังขึ้นอีกครั้ง

“เจ้าผ่านแล้ว”

จื่ออู๋เซียตกตะลึงและมองไปที่ลู่เสี่ยวหรัน เธอตกอยู่ในความสับสนและไม่เข้าใจสิ่งที่เขากำลังพูดถึง

ลู่เสี่ยวหรันกล่าวต่อว่า “ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้ากำลังขอโทษจริงๆ หรือแค่แกล้งทำมัน”

“เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อแสวงหาโอกาสหรอ? โอกาสของเจ้าอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว นั่นคือการยอมรับข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า”

“ห้ะ?”

จื่ออู๋เซียยิ่งตะลึงและสับสน

ทำไมเธอต้องยอมรับเขาเป็นอาจารย์ของเธอด้วย?

เมื่อเห็นเธอแสดงท่าทางสับสนอย่างน่ารักเช่นนั้น ลู่เสี่ยวหรันก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“เจ้าไม่ได้มาที่นิกายอสูรสวรรค์เพื่อค้นหาโอกาสที่จะปรับปรุงตัวเองและปะมือกับอดีตคู่หมั้นของเจ้าเพื่อล้างความอับอายครั้งก่อนของเจ้าหรอ? การเป็นศิษย์ของข้าเท่านั้นที่จะทำให้เจ้ามีโอกาสกำจัดเขาได้ มิฉะนั้น แม้ว่าเจ้าจะได้รับมรดกขอบเขตราชันยุทธ์มา แต่เจ้าก็จะไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เจ้าเชื่อข้าไหม?”

หัวใจของจื่ออู๋เซียเริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่ง

มีคนไม่มากนักที่รู้ว่าเธอต้องการล้างแค้นความอัปยศอดสูของเธอ แน่นอนว่าพวกเขาบางคนก็สามารถเดาได้

อย่างไรก็ตาม ลู่เสี่ยวหรันรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ได้มาจากพระราชวัง

นอกจากนี้ คำพูดของลู่เสี่ยวหรันก็ไม่ได้พูดเกินจริงไปหน่อยหรอ? เขากล้าพูดถึงมรดกขอบเขตราชันยุทธ์ และเขายังบอกด้วยว่าแม้ว่าเธอจะได้รับมรดกขอบเขคราชันยุทธ์ แต่เธอก็จะยังไม่สามารถล้างความอับอายของเธอได้?

เป็นที่ทราบกันดีว่าหลังจากได้รับมรดกขอบเขตราชันยุทธ์มา แม้ว่าในอนาคตจะไม่มีใครเป็นยอดฝีมือขอบเขตราชันยุทธ์ได้ก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็จะเข้าใกล้มันมากกว่าใครๆ!

ลู่เสี่ยวหรันโบกมือเพื่อระบุว่าเธอไม่ต้องตกใจและพูดต่อ “ไม่ว่าจะในกรณีใด ข้าก็บอกเจ้าไปแล้ว เจ้ามีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น”

“ทางเลือกแรกคือทำตัวเองให้ยุ่งไปตลอดชีวิต จากนั้น เจ้าจะได้มองดูอดีตคู่หมั้นของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และในท้ายที่สุด เจ้าก็จะรู้สึกหดหู่และเสียใจที่เลิกหมั้นหมายกับเขา”

“ทางเลือกที่สองของเจ้าคือยอมรับข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า นี่จะทำให้เจ้ามีโอกาสฆ่าเขา”

“ข้าไม่ชอบรอ ข้าจะให้เวลาเจ้าเลือกสิบลมหายใจ การนับเริ่มต้นขึ้นแล้ว”

จื่ออู๋เซียค่อนข้างพูดไม่ออก

ดูเหมือนว่าเขาจะแน่ใจว่าชายผู้นั้นจะมีอำนาจมากในอนาคต มันถึงขั้นที่เธอจะหมดแรงทั้งร่างกายและจิตใจและทำอะไรไม่ถูก

แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าลู่เสี่ยวหรันมั่นใจมากแค่ไหนในการพูดแบบนี้

แต่เธอก็ยังรู้ดีว่าเธอไม่ได้รับการต้อนรับมากที่สุดในพระราชวัง ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะสัมผัสกับเคล็ดวิชาการฝึกตนที่ดีที่สุดของพระราชวัง

เคล็ดวิชาการฝึกตนที่ดีที่สุดคือเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตเซียน มันเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอและยังเป็นความสิ้นหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธออีกด้วย

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องการมาที่นิกายอสูรสวรรค์เพื่อค้นหาโอกาส

และในขณะนี้ สัญญาณทั้งหมดก็บ่งชี้ว่าลู่เสี่ยวหรันที่อยู่ข้างหน้าเธอนั้นไม่ใช่คนธรรมดา

แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นก็ไร้สาระจริงๆ แต่เขาก็อาจจะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นได้จริงๆ

นี่คือการเดิมพัน!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด