ตอนที่แล้วบทที่ 9: การเดิมพัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11: ขอบเขตราชันยุทธ์

บทที่ 10: เก้าฟีนิกส์เปลี่ยนรูป


บทที่ 10: เก้าฟีนิกส์เปลี่ยนรูป

ในอาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่และแม้แต่ทั่วทั้งทวีป เมื่อศิษย์คนหนึ่งฝากตัวกับอาจารย์ พวกเขาก็จะเป็นศิษย์และอาจารย์กันไปตลอดชีวิต

นอกเสียจากว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นปีศาจหรือเป็นบ้า มิฉะนั้นมันก็จะไม่มีศิษย์คนใดที่สามารถยุติความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ศิษย์ก็ไม่สามารถมีอาจารย์จำนวนมากได้ หากศิษย์ต้องการอาจารย์คนที่สอง พวกเขาก็จะต้องได้รับการอนุมัติจากอาจารย์คนแรกก่อน

หากมีใครยกเลิกความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์อย่างรุนแรง เขาก็จะถูกทุกคนเยาะเย้ย

ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ สถานะของอาจารย์นั้นก็ไม่ธรรมดา

หากจื่ออู๋เซียตอบตกลง แต่ลู่เสี่ยวหรันไม่สามารถให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้ เธอก็จะเป็นฝ่าจยเสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี ถ้าจื่ออู๋เซียปฎิเสธ เธอก็อาจจะต้องกลับไปที่พระราชวังจักรพรรดิสันติราชาอย่างมืดมน

อย่างไรก็ตาม ความน่าอัศจรรย์ของลู่เสี่ยวหรันก็ทำให้ยากที่จะปฎิเสธ

หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ในที่สุดจื่ออู๋เซียก็ตัดสินใจได้

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยสายตาจริงจัง “ข้ายินดี… จะรับท่านเป็นอาจารย์ของข้า”

ความแข็งแกร่งของลู่เสี่ยวหรันนั้นอยู่เหนือขอบเขตสรรค์สร้างอย่างแน่นอน แม้แต่ในพระราชวังจักรพรรดิสันติราชา ความแข็งแกร่งของเขาก็ยังถือว่าโดดเด่น

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเขาที่สามารถจัดตั้งค่ายกลที่มีพลังมหาศาลเช่นนี้ได้ เขาก็จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เขารู้ข้อมูลของเธอเหมือนกับหลังมือของเขา

จื่ออู๋เซียยินดีที่จะเดิมพันด้วยเหตุนี้

[ ติ้ง… ยินดีด้วยที่ได้รับศิษย์ระดับ SS ]

[ รางวัล : เคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตราชันยุทธ์ชั้นยอด – เก้าฟีนิกซ์เปลี่ยนรูป, อาวุธจักรพรรดิชั้นยอด, ร่มผนึกฟีนิกซ์ ]

ลู่เสี่ยวหรันลูบคางของเขา

เขาเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ดี แต่น่าเสียดาย เก้าฟีนิกซ์เปลี่ยนรูปนั้นฝึกได้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงปล่อยให้จื่ออู๋เซียฝึกมัน

ถ้าเขาฝึกมันด้วยตัวเอง ความเร็วในการฝึกตนของเขาก็จะเร็วกว่าจื่ออู๋เซียอย่างแน่นอน

ท้ายที่สุดแล้ว ในแง่ของพรสวรรค์ มันก็ไม่มีใครเทียบเขาได้

เขาตัดสินใจว่าจะนั่งเฉยๆ และปล่อยให้คนอื่นทำงานแทนเขา

“เอาล่ะ ในเมื่อเจ้ายินดีรับข้าเป็นอาจารย์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะเป็นศิษย์คนที่สองของข้า”

จื่ออู๋เซียตกตะลึง

“ท่านมีลูกศิษย์แค่คนเดียวเองหรอ?”

ลู่เสี่ยวหรันพยักหน้า

“ถูกต้อง เจ้ามีศิษย์พี่ชื่อหยุนหลี่เกอ”

จื่ออู๋เซียไม่ได้พูดอะไร แต่การแสดงออกของเธอก็ค่อนข้างผิดปกติ

ในฐานะยอดฝีมือระดับสูงของนิกายอสูรสวรรค์ เขากลับมีศิษย์เพียงสองคนเท่านั้น ด้วยบารมีที่ต่ำต้อยเช่นนี้ เขาจะสอนศิษย์ให้ได้ดีได้หรอ?

ทันใดนั้นเธอก็เริ่มเสียใจกับความหุนหันพลันแล่นของเธอ

เมื่อมองดูการแสดงออกของจื่ออู๋เซีย ลู่เสี่ยวหรันก็ยิ้ม

“มันไม่เกี่ยวกับจำนวนศิษย์ แต่เกี่ยวกับแก่นแท้ ลูกศิษย์ของข้าทุกคนล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์หนึ่งในล้าน หากปราศจากศักยภาพที่จะไปถึงขอบเขตของราชันยุทธ์ ข้าก็จะไม่ยอมรับพวกเขาเด็ดขาด”

มุมปากของจื่ออู๋เซียกระตุก อีกแล้วหรอ?

ลู่เสี่ยวหรันสามารถบอกได้จากการแสดงออกของเธอว่าเธอไม่เชื่อเขา

เขาขี้เกียจที่จะอธิบายมากเกินไป มันไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายต่อไป เขาชี้นิ้วตรงไปทางเธอและส่งเคล็ดวิชาเก้าฟีนิกซ์เปลี่ยนรูปเข้าไปในช่องว่างระหว่างคิ้วของจื่ออู๋เซีย

“นี่คือเคล็ดวิชาการฝึกตนที่ข้าเลือกให้เจ้า”

เคล็ดวิชาการฝึกตนผุดขึ้นในใจของเธอ จื่ออู๋เซียกวาดสายตามองดูคร่าวๆ และพึมพำในใจ นี่เป็นเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตสวรรค์หรอ?

เธอเองก็กำลังฝึกฝนเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตสวรรค์อยู่

เธอมีเคล็ดวิชาการฝึกตนระดับนี้หลายอย่าง

ในฐานะองค์หญิงแห่งพระราชวังจักรพรรดิสันติราชา เธอก็ไม่ได้ขาดแคลนสิ่งดังกล่าวเลย

อย่างไรก็ตาม!

เมื่อเธอเห็นมองดูเคล็ดวิชาเก้าฟีนิกซ์เปลี่ยนรูปอย่างละเอียด ดวงตาคู่งามของเธอก็เบิกกว้างทันทีราวกับว่าเธอได้เห็นผี

“ขะ… ขอบเขตราชันยุทธ์ชั้นยอด? โอ้เต๋าสวรรค์ ข้าฝันไปหรือเปล่า”

ในฐานะที่เป็นเคล็ดวิชาระดับสูงสุดในทวีป เคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตราชันยุทธ์ชั้นยอดก็อาจกล่าวได้ว่าหายากพอๆ กับขนนกฟีนิกซ์และเขากิเลน

ทุกเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเชตราชันยุทธ์ล้วนสามารถทำให้เกิดพายุเลือดขึ้นทั่วทั้งทวีปได้

ในตลอดชีวิตของเธอ เธอก็ไม่เคยหวังว่าเธอจะได้รับเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตราชันยุทธ์ อย่างมากที่สุด เธอก็กล้าคิดเพียงเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตเซียนขั้นกลางที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นในพระราชวังจักรพรรดิสันติราชา

อย่างไรก็ตาม ลู่เสี่ยวหรันก็ได้มอบเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขชตราชันยุทธ์ชั้นยอดให้กับเธอ สิ่งนี้ทำให้โลกทัศน์ของเธอแตกสลาย มันทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับมัน

ลู่เสี่ยวหรันยืนอยู่ข้างๆ และมองดูการแสดงออกของศิษย์ของเขา เขารู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ

ตอนนี้เขารู้สึกพอใจที่เขาได้พิสูจน์แล้วว่าความสงสัยของเธอนั้นผิด

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จื่ออู๋เซียจะมีโอกาสได้ขอบคุณ จู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังมาจากข้างนอก

“เจ้าบ้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”

“อาจารย์! ช่วยข้าด้วย!”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ลู่เสี่ยวหรันก็ขมวดคิ้วและหายตัวไปจากจุดที่เขาอยู่ในทันที เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็อยู่ข้างนอกแล้ว

ในขณะนี้ ย่าหลี่กำลังโจมตีอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า ออร่าของเธอเต็มไปด้วยความอาฆาตและดุดัน เธอเป็นเหมือนกับยักษ์ที่โกรธจัดขณะที่เธอพุ่งเข้าหาหยุนหลี่เกอ

เธอเป็นยอดฝีมือขอบเขตสรรค์สร้างและหยุนหลี่เกอก็อยู่เพียงขอบเขตผู้เชี่ยวชาญ

ความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นมีมากเกินไป เธอสามารถฆ่าหยุนหลี่เกอได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว

ลู่เสี่ยวหรันหรี่ตาลงและเข้ามาขาวงกั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองในทันที

เขาจะปล่อยให้เธอฆ่าหยุนหลี่เกอได้อย่างไร? นี่คือลูกศิษย์อันล้ำค่าของเขา!

“หยุด!”

ลู่เสี่ยวหรันตะโกนขณะที่เขาหมุนเวียนพลังจักรพรรดิโกลาหลบรรพกาลและปลดปล่อยออร่าออกมา

ย่าหลี่ซึ่งอ่อนแอกว่าลู่เสี่ยวหรันถูกกดลงบนพื้นโดยตรงด้วยออร่าที่อยู่ยงคงกระพัน

อ้าก!

ย่าหลี่ถ่มน้ำลายออกมาเต็มปากและคุกเข่าลงกับพื้น อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเธอก็ยังคงเป็นสีแดงเดือด

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เจ้าบ้า ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งสองคน! เจ้าพวกวิปริต!”

“พวกวิปริต? พวกวิปริตอะไร?”

ลู่เสี่ยวหรันงงงวยและมองไปที่หยุนหลี่เกอ

หยุนหลี่เกอพูดอย่างไม่พอใจว่า “อาจารย์ ท่านไม่ได้สั่งให้ข้าทำเรื่องอย่างว่ากับนางหรอ? ข้าถึงกับต้องอาเจียนเอาอาหารทั้งหมดที่ข้ากินเมื่อคืนก่นอออกมาก่อนที่ข้าจะตัดสินใจลงมือ แล้วตอนนั้นนางก็ตื่นขึ้นมาโดยไม่คาดคิดในขณะที่ฉันปลดกระดุมเม็ดแรกของนาง”

ลู่เสี่ยวหรัน: “…”

“ข้าบอกให้เจ้าจับตาดูนาง ข้าไม่ได้สั่งให้เจ้าทำอะไรกับนาง”

“เอ่อ?”

หยุนหลี่เกอทำสีหน้าไร้เดียงสา แต่แล้วใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

เขาตีความความหมายของอาจารย์ผิดไปจริงๆ เวรแล้ว! คราวนี้เขาเสียหน้ามาก

เจตนาฆ่าของย่าหลี่ที่โกรธจัดได้แพร่กระจายไปถึงขีดจำกัดแล้ว

เธอเริ่มเผาการฝึกตนอย่างแรงเพื่อต่อต้านออร่าของลู่เสี่ยวหรัน

“เจ้าวิปริต! แม้ว่าข้าจะต้องตาย ข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ได้!”

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เสียงของจื่ออู๋เซียก็ดังขึ้น

“ย่าหลี่ ไม่!”

ร่างกายของย่าหลี่สั่นเมื่อเธอหันไปมองจื่ออู๋เสียด้วยท่าทางเป็นกังวล

“องค์หญิง ท่านสบายดีไหม?”

จื่ออู๋เซียส่ายหัวของเธอ

“ข้าสบายดี เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ตอนนี้ข้าเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ลู่แล้ว”

“อะไรนะ?!”

นัยน์ตาของย่าหลี่หดตัวลงขณะที่เธอมองไปที่จื่ออู๋เซียด้วยความไม่เชื่อ

“องค์หญิง ท่านล้อข้าเล่นหรือเปล่า?”

จื่ออู๋เซียส่ายหัวและพูดอย่างเคร่งขรึม “ข้าไม่ได้ล้อเล่น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเป็นศิษย์ของอาจารย์ลู่จนกว่าทะเลจะแห้งเหือดและหินก็เน่าเปื่อย”

ย่าหลี่ตกอยู่ในความงุนงงอย่างสมบูรณ์ ลู่เสี่ยวหรันถอนพลังของคัมภีร์จักรพรรดิโกลาหลบรรพกาลขณะที่ย่าหลี่ลุกนั่งอยู่บนพื้น

“องค์หญิง ทำไม...”

จื่ออู๋เซียมองไปที่ลู่เสี่ยวหรัน

“ขออภัยด้วย นี่เป็นความลับระหว่างข้ากับอาจารย์ ข้าไม่สามารถเปิดเผยได้”

“องค์หญิง ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรอ?”

“ข้าไม่ได้บ้า ย่าหลี่ ท่านดูแลข้ามาโดยตลอด โปรดเชื่อข้าและเชื่อในสิ่งที่ข้าเลือก..”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด