ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 159 เตาหลอมเม็ดยาตระกูลซื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 161 เทคนิคอัดเม็ดยาของหลินจิน

MDB ตอนที่ 160 เตากะโหลกอสูร


หลินจินได้ตระหนักบางอย่างขึ้นมาได้และกล่าวว่า

“ท่านซื่อ เนื่องจากเตาหลอมหลายชิ้นถูกใช้โดยบรรพบุรุษของตระกูลซื่อ พวกมันต้องมีคุณค่าอย่างมากต่อตระกูล ถ้าข้าเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ นั่นคงจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสำหรับตระกูลท่าน”

ซื่อเหวินจวินส่ายหน้าเบา ๆ “กฎข้อเดียวที่ใช้ปกครองตระกูลซื่อก็คือเราไม่สามารถถ่ายทอดความรู้เรื่องการอัดเม็ดยาให้ผู้ที่ไม่มีนามสกุลของเรา ถ้าผู้ประเมินหลินขอหนังสือหรือเทคนิคเกี่ยวกับการอัดเม็ดยา ข้าคงไม่อาจทำตามคำขอของท่านได้

สำหรับการแบ่งปันเตาหลอม ข้าสามารถทำได้แต่ต้องไม่มากเกินไป ยิ่งกว่านั้น บรรพบุรุษของเรายังกล่าวอีกว่าเตาหลอมเป็นเพียงอุปกรณ์และอุปกรณ์เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ เราสามารถให้พวกเขาได้หากโชคชะตาเป็นใจ

ถ้าผู้ประเมินลินบังเอิญเลือกเตาหลอมที่บรรพบุรุษของเราใช้ มันคงเป็นโชคชะตา ดังที่บรรพบุรุษของเราได้ว่าไว้ มันไม่ใช่เราที่เป็นคนเลือกเตาหลอมแต่เป็นเตาหลอมต่างหากที่เลือกเรา”

‘ฟังดูลึกลับมาก!’

แต่เนื่องจากตระกูลของพวกเขาไม่ได้ห้ามการแบ่งปันเตาหลอมอย่างชัดเจน หลินจินจึงสามารถเลือกเตาหลอมอันไหนก็ได้

เขาไม่รู้ว่าการเข้าไปในห้องโถงของตระกูลซื่อเพื่อเลือกเตาหลอมเป็นสิทธิพิเศษ แม้แต่กับลูกหลานของตระกูลก็ยังยากที่จะได้รับโอกาสนี้

สาเหตุที่ซื่อเหวินจวินอนุญาตให้หลินจินเข้ามาไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นผู้ประเมินระดับสองที่มีอนาคตกว้างไกล แต่เป็นเพราะเขาได้ช่วยชีวิตตั๋วเอ๋อร์เอาไว้ เธอต้องการตอบแทนบุญคุณของเขา

หลินจินมองไปรอบ ๆ ในขณะที่เขาครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

สำหรับการใช้งานของเขา เขาไม่สามารถเลือกเตาหลอมที่มีคุณสมบัติบางอย่างได้ แม้ว่าเตาหลอมที่มีคุณสมบัติบางอย่างสามารถปรับปรุงในภายหลังได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ดีอย่างที่เขาต้องการ

ดังนั้น หลินจินจึงต้องเลือกเตาหลอมที่รองรับธาตุทั้งห้า

หลินจินมีความรู้เรื่องการประเมินสัตว์วิเศษอย่างทั่วถึง แต่หลินจินไม่รู้เรื่องเตาหลอมเลย เขาพยายามสัมผัสเตาหลอมแต่พิพิธภัณฑ์สัตว์วิเศษก็ไม่ตอบสนอง

เขาจะเลือกจะเตาหลอมที่เหมาะสมได้อย่างไร?

ซื่อเหวินจวินแค่นอบน้อมถ่อมตนเมื่อเธอบอกว่ามีเตาหลอมมากกว่าร้อยเตาที่นี่ จากการประมาณคร่าว ๆ ของหลินจิน มันมีอย่างน้อยสามร้อยเตา ทุกขนาดแตกต่างกันในห้องโถงนี้ เตาหลอมที่เล็กที่สุดบางเตามีขนาดเท่าฝ่ามือ ในขณะที่เตาหลอมที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดเท่าสามคนโอบ

อย่างไรก็ตาม มันจะไม่สะดวกที่จะพกพาเตาขนาดใหญ่ไปรอบ ๆ ดังนั้นเขาจึงตัดเตาขนาดใหญ่ออกไปจากตัวเลือก

อันที่เล็กเกินไปก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน เนื่องจากพวกมันถูกใช้เพื่ออัดเม็ดยาที่มีลักษณะเฉพาะบางอย่าง

ดังนั้น หลินจินจึงเริ่มเลือกจากขนาดกลาง ๆ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป

หลังจากเดินไปรอบ ๆ เขายังไม่สามารถบอกได้ว่าเตาหลอมนั้นดีอย่างไรหรือดีแค่ไหน ในขณะที่เขากำลังจะขอคำแนะนำจากซื่อเหวินจวิน หนึ่งในเตาหลอมที่เขาสัมผัสได้กระตุ้นพิพิธภัณฑ์สัตว์วิเศษ

‘เอ๊ะ?’

‘เกิดอะไรขึ้น?’

หลินจินหยุดทันที ขณะนี้กำลังงุนงง ภายในพิพิธภัณฑ์ได้ส่องแสงลงมา จากนั้น หลินจินก็เห็นข้อมูล 'สัตว์วิเศษ' ที่แปลกประหลาดมาก

ตัวอย่างสัตว์วิเศษที่แสดงในพิพิธภัณฑ์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของสิ่งมีชีวิตนี้และนี่เป็นหนึ่งในสัตว์วิเศษที่มีคุณสมบัติที่ดีที่สุดของพิพิธภัณฑ์

จากการประเมินสัตว์จำนวนมากจนถึงตอนนี้ มันเป็นครั้งแรกของหลินจินที่ได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดเช่นนี้

สัตว์วิเศษตัวนี้ดูเหมือนแพะแต่มีหางยาวเก้าหาง หูสี่ข้างและมีเขาแพะ เขาของมันเป็นเกลียวเหมือนวงก้นหอยที่มีเส้นหนา ด้านหลังมีดวงตาสีมรกตคู่หนึ่งในขณะที่หัวของมันไม่มีดวงตา

ใคร ๆ ก็นึกภาพออกว่าสัตว์วิเศษตัวนี้หน้าตาประหลาดขนาดไหน

สัตว์วิเศษ ระดับ 4: โบยี่ สายพันธุ์หายาก

คุณสมบัติ: ธาตุไฟ, น้ำ, ดินและไม้

ประเมินศักยภาพ: 2 สิ่งมีชีวิตตายแล้ว แต่กระดูกและวิญญาณยังคงอยู่

ไม่มีวิธีการรักษา ไม่มีวิธีวิวัฒนาการ

 

เส้นผมของหลินจินตั้งตรง ในขณะที่เขาศึกษาข้อมูลในพิพิธภัณฑ์ ลักษณะของสัตว์วิเศษตัวนี้ผิดปกติเกินไปและชื่อของมันก็แปลกไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม มันมีคุณสมบัติสี่ธาตุและนี่เป็นสัตว์วิเศษที่หายากมาก

ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่ามันเคยเป็นสัตว์วิเศษระดับสี่

น่าเสียดายที่สิ่งมีชีวิตนั้นตายไปแล้ว

หลังจากเก็บบันทึกแล้ว หลินจินก็ลืมตาขึ้นและรู้สึกถึงเตาหลอมนี้

เตานี้มีรูปร่างแปลกประหลาด เมื่อหลินจินมองไปที่มัน เตาหลอมชิ้นนี้คล้ายกับหัวของสิ่งมีชีวิตที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ด้วยเขาเกลียวสองอันนั้น นั่นเป็นเขาของมันจริง ๆ มันต้องผ่านการแปรรูปด้วยโลหะในภายหลัง ดังนั้นผู้ที่ไม่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจะไม่มีทางบอกได้ว่าฐานของเตาหลอมนั้นเป็นกะโหลกของสัตว์วิเศษ

และเนื่องจากเป็นกะโหลกศีรษะของสัตว์วิเศษ วิญญาณของสิ่งมีชีวิตนั้นจึงยังคงอยู่ มันจึงกระตุ้นพิพิธภัณฑ์สัตว์วิเศษทันที

นี่ถือเป็นโชคชะตาหรือไม่?

หลินจินไม่รู้ว่าจะประเมินเตาหลอมอย่างไรแต่มันทำมาจากกะโหลกศีรษะของสัตว์วิเศษระดับสี่ มันจึงต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เมื่อตัดสินใจแล้ว หลินจินก็เอื้อมมือออกไปหยิบเตาหลอม

“ท่านซื่อ ข้าต้องการเตาหลอมอันนี้ได้หรือไม่?” หลินจินถามอย่างไม่เป็นทางการ

ด้วยความกลัวว่าเตาหลอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเช่นนี้อาจเป็นมรดกตกทอดของตระกูลซื่อ หลินจินคิดว่ามันจะดีกว่าที่เขาจะถามก่อน หากบรรพบุรุษของเธอในความสำคัญ มันคงจะยากที่เขาจะได้รับมันมา

ซื่อเหวินจวินตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อหลินจินหยิบมันขึ้นมา จากนั้นเธอก็ถามว่า “ผู้ประเมินหลิน ท่านเลือกอันอื่นแทนได้หรือไม่?”

‘มันเป็นมรดกตกทอดงั้นหรือ?’

หลินจินรู้สึกท้อแท้

อย่างไรก็ตาม คำอธิบายต่อไปนี้ของซื่อเหวินจวินทำให้หลินจินรู้ว่าเขาเข้าใจผิด

“ผู้ประเมินหลิน บรรพบุรุษของเราแลกเปลี่ยนเตาหลอมนี้จากนักบวชในระหว่างการเดินทางโดยคิดว่ามันเป็นของชั้นสูง แต่เมื่อเขากลับมาและทดลองใช้งาน มันไม่สามารถผลิตยาได้แม้แต่เม็ดเดียว ทำให้สิ้นเปลืองส่วนผสมที่หายากไปจำนวนหนึ่ง ท่านพ่อของข้าเคยลองใช้ในภายหลังเช่นกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อใดก็ตามที่เม็ดยากำลังจะประสบความสำเร็จภายในเตาหลอมนี้ เม็ดยาจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ อย่างลึกลับ ตั้งแต่นั้นมาท่านพ่อของข้าก็ทิ้งมันไว้ที่นี่และไม่มีใครแตะต้องมันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”

หลินจินไม่ได้คาดคิดว่านี่จะเป็นเหตุผลที่เธอขอให้เขาพิจารณาเตาหลอมอันใหม่ เห็นได้ชัดว่าซื่อเหวินจวินเอาใจใส่เขามาก

อย่างไรก็ตาม เตาหลอมนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ

เขาจะรับหรือไม่รับดี?

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลินจินก็ตัดสินใจว่าเขาจะรับมันไว้

ถ้าเขาปฏิบัติตามคำแนะนำในการอัดเม็ดยาอย่างละเอียดในพิพิธภัณฑ์ สิ่งต่าง ๆ จะคืบหน้าไปอย่างราบรื่น บางทีบรรพบุรุษของตระกูลซื่ออาจไม่รู้ว่าจะใช้มันอย่างไร

แม้หลินจินรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกไม่มั่นใจ

แต่มนุษย์ชอบเสี่ยงดวงและหลินจินก็ไม่มีข้อยกเว้น

เมื่อเห็นว่าหลินจินตัดสินใจแล้ว ซื่อเหวินจวินก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะเสนอว่า “ถ้าอย่างนั้น เรามาลองใช้งานมันดูมั้ย ผู้ประเมินหลิน หากสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ท่านสามารถแลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้”

"ตกลง!" หลินจินรู้สึกผ่อนคลายลง

ตอนนี้เขามีเตาหลอมแล้ว ต่อไปคือเครื่องรางไฟ ตามคำอธิบายในพิพิธภัณฑ์ ไฟทั้งภายในและภายนอกสามารถใช้อัดเม็ดยาวิญญาณอสูรเงาได้

เมื่อเทียบกับการใช้ไฟภายในนั้นดีกว่ามาก ดังนั้นหลินจินจึงตัดสินใจยืมเครื่องรางไฟจากซื่อเหวินจวิน

ในฐานะนักปรุงยา ซื่อเหวินจวินพกเครื่องรางไฟติดตัวอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงสามารถมอบหลินจินได้ในทันที

“ผู้ประเมินหลิน ท่านต้องใช้คาถาเพื่อใช้งานเครื่องรางไฟนี้หรือไม่?”

ซื่อเหวินจวินระมัดระวังคำพูดของเธอ ผู้หญิงคนนี้มีความฉลาดทางอารมณ์ที่ยอดเยี่ยม แทนที่จะถามว่าเขารู้วิธีปลุกเครื่องรางไฟหรือไม่ เธอถามว่าเขาต้องการใช้วิธีการไหนในการใช้งานเครื่องรางไฟแทน

แม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องของการเลือกคำพูดที่ถูกต้อง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเธอคำนึงถึงศักดิ์ศรีของผู้อื่น แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจะใช้งานเครื่องรางนี้อย่างไร แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าถูกทำให้ขายหน้า

โชคดีที่ตราบใดที่พิพิธภัณฑ์จัดหาข้อมูลให้ หลินจินก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

ทุกอย่างมีตั้งแต่คำแนะนำในการอัดเม็ดยาไปจนถึงการเรียกใช้เครื่องรางไฟ ดังนั้น หลินจินจึงโบกมือและขอบคุณซื่อเหวินจวิสำหรับข้อเสนอของเธอ

“เรามีห้องปรุงยาที่นี่ หากท่านต้องการดำเนินการอัดเม็ดยาในตอนนี้ อย่าลังเลที่จะใช้มัน มีการเผาไหม้เครื่องหอมอยู่ในห้องเพื่อทำให้จิตใจสงบ ดังนั้นจึงเหมาะมากสำหรับนักปรุงยาอย่างพวกเรา!” เนื่องจากซื่อเหวินจวินพูดแบบนั้น หลินจินจึงตัดสินใจตามเธอไป

ด้านนอกห้องเล่นปรุงยา พวกเขาพบชายชราสองสามคน

คนเหล่านี้เข้ามาใกล้และแสดงความเคารพต่อซื่อเหวินจวิน หลังจากสอบถามเบื้องต้น หลินจินก็พบว่าคนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นคนของตระกูลซื่อและปัจจุบันเป็นนักเล่นปรุงยาที่เก่งที่สุดในตระกูล

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด