ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 157 ซื่อเหวินจวิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 159 เตาหลอมเม็ดยาตระกูลซื่อ

MDB ตอนที่ 158 หย่าร้าง


"ทำไม?" ซื่อเหวินจวินถามด้วยความโกรธอย่างเห็นได้ชัด เธอทั้งตกใจและสับสน

หวู่เฉินเว่ยหัวเราะเยือกเย็น "ทำไม? เจ้าไม่รู้เลยอย่างงั้นเหรอ? ซื่อเหวินจวิน ด้วยความมั่งคั่งมหาศาลของตระกูลเจ้าและอำนาจอันล้นเหลือ เจ้ากดดันให้พ่อแม่ของข้าบังคับให้ข้าแต่งงานเข้ามาในตระกูลของเจ้า ดังนั้นอย่ามาพูดว่าเจ้าไม่รู้ว่าทำไม!!!”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ด้วยความขับข้องใจทั้งหมดที่มีจึงทำให้หวู่เฉินเว่ยตะโกนอย่างเดือดดาลแบบนี้

“แต่พวกเราปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีไม่ใช่หรือ!?” ซื่อเหวินจวินดูเจ็บปวด “ในตอนนั้น แม้แต่พ่อแม่ของเจ้าก็ยังเห็นด้วย”

"หุบปาก!!"

ราวกับว่าหางของเขาถูกเหยียบ หวู่เฉินเว่ยคำรามขึ้นมาทันที “เจ้าไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพูดถึงพ่อแม่ของข้า! หลายปีมานี้ หลังจากที่เข้ามาอยู่ในตระกูลซื่อของเจ้า เจ้าเคยปฏิบัติกับข้าเหมือนคนอย่างมีศักดิ์ศรีบ้างไหม? เมื่อใดก็ตามที่ข้าต้องการกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ ข้าต้องขอความเห็นชอบจากเจ้า ด้วยเหตุนี้ พ่อแม่ของข้าจึงไม่สามารถอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีแถมยังถูกญาติพี่น้องของข้าเยาะเย้ยอย่างโจ่งแจ้ง ในฐานะลูกชายของพวกท่าน ข้าไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากความละอาย ในช่วงเวลาสุดท้ายของพวกท่าน ทุกคนต่างบอกว่าพวกท่านไม่มีลูกชายแต่พวกท่านมี! ข้าเป็นลูกชายของพวกท่าน!!”

หวู่เฉินเว่ยดูราวกับว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว เขาเบิกตากว้างเหมือนคนวิกลจริต

“เกี่ยวกับพ่อแม่ของเจ้า เราได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ในที่สุดมนุษย์ก็แก่เฒ่าและจากไป ความจริงข้อนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” ซื่อเหวินจวินถอนหายใจ

หวู่เฉินเว่ยสงบลงเล็กน้อยเช่นกัน แต่เขาก็ยังดูเดือดดาล

“ซื่อเหวินจวิน เมื่อไหร่ที่เจ้านึกถึงความรู้สึกของข้า? ทุกคนข้างนอกนั่นเรียกข้าว่าลูกเขยที่เกาะเจ้ากิน คนรับใช้บางคนในบ้านนี้ไม่เคารพข้าด้วยซ้ำ ข้าเป็นเหมือนสุนัขเลี้ยงที่สามารถอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้ด้วยความเมตตาของตระกูลเจ้า ข้าเห็นสิ่งนี้เขียนได้ชัดเจนในดวงตาของเจ้า ข้าจึงเกลียดเจ้า ข้าเกลียดตระกูลซื่อของเจ้า!!”

หวู่เฉินเว่ยยังคงระบายความคับข้องใจของเขาต่อไป “นอกจากนี้ ข้าเกลียดชังกวางตัวนี้มานานแล้ว เจ้าบังคับให้ข้าทำพันธสัญญาโลหิตกับมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าหาโอกาสนำมันเข้าไปในป่าเพื่อแทงมันด้วยมีดแล้วฟันมันด้วยขวาน

ในตอนนั้น ข้า หวู่เฉินเว่ย ก็ได้รู้สึกเหมือนเป็นผู้ชาย ผู้ชายที่ไม่ต้องเชื่อฟังทุกคำสั่งที่เจ้าสั่งข้าทั้งวัน นอกจากนี้ เมื่อทำเช่นนี้ ข้ารู้สึกเหมือนได้แก้แค้นเจ้าในที่สุด!!”

ซื่อเหวินจวินจ้องเขม็งไปที่หวู่เฉินเว่ย เธอเดินไปตบหน้าเขาอย่างแรง

*เพียะ!*

นั่นเป็นเสียงตบที่ทรงพลัง

หวู่เฉินเว่ยไม่แม้แต่จะหลบเลี่ยง

สีหน้าของเขากลับกลายเป็นดุร้ายและบิดเบี้ยวมากขึ้น

เมื่อเห็นสีหน้าของเขา แม้แต่หลินจินก็อยากจะตั้นหน้าเขาอยู่เหมือนกัน

ผู้ชายคนนั้นกำลังโกรธจัด

“ตอนนี้เจ้ากำลังตีข้า เอาสิ ทำไมเจ้าไม่ตีข้าจนตายล่ะ เจ้าไม่เคยเห็นข้าเป็นคนอยู่แล้ว ใช่แล้ว พ่อของเจ้าก็เป็นขยะเหมือนกัน ย้อนกลับไปในตอนนั้น ข้าถ่อมตัวลงและขอให้เขาสอนฉันเรื่องการอัดเม็ดยาแต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าไอ้แก่คนนั้นพูดอะไรกับข้า เขาบอกว่านามสกุลของข้าคือหวู่ไม่ใช่ซื่อ ดังนั้นข้าไม่คู่ควรที่จะเรียนรู้มัน

ในขณะนั้นเอง ข้าตระหนักว่าซื่อของเจ้าไม่เคยคิดว่าข้าเกี่ยวข้องพวกเจ้า พวกเจ้าคอยระวังข้าเสมอเหมือนข้าเป็นขโมย!”

"พอได้แล้ว!!"

ซื่อเหวินจวินกำหมัดแน่นอย่างเย็นชาว่า “หวู่เฉินเว่ย เจ้ากับข้าเป็นสามีภรรยากัน พ่อของข้าคิดว่าเจ้าเป็นเหมือนลูกชาย แต่มันเป็นกฎของบรรพบุรุษของเราที่จะไม่สอนวิธีการอัดยาให้ใครก็ตามที่อยู่นอกตระกูล ไม่เพียงแต่เจ้าเท่านั้น แม้แต่แม่และป้าของข้าก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้เช่นกัน

เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่า ข้า ซื่อเหวินจวินเคารพพ่อแม่ของเจ้ามากเพียงใด ข้าไม่เคยเพิกเฉยหรือพูดอะไรหยาบคายเลย แต่ตอนนี้ เจ้ากำลังดูถูกพ่อของข้า แม้ว่าข้าจะไม่กตัญญูในฐานะลูกสาว แต่ข้าก็ไม่สามารถทนต่อการกระทำของเจ้านี้ได้

ออกไปซะ ออกจากตระกูลของข้า ข้า ซื่อเหวินจวินกำลังจะหย่ากับเจ้าแล้ว ในเมื่อเจ้าไม่เต็มใจที่จะเป็นลูกเขยของตระกูลซื่อ ก็ไสหัวออกไป!”

หวู่เฉินเว่ยยิ้มและจากไปทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อไปที่ประตู ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างได้และหันกลับมามอง “ตระกูลซื่อของเจ้าได้ดูหมิ่นข้า อย่างไรก็ตาม ข้า หวู่เฉินเว่ยจะเป็นคนที่ส่งเจ้าไปที่หลุมฝังศพของเจ้าในที่สุด ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าก็คอยดูให้ดีอีกไม่นานเกินรอแน่นอน!”

เมื่อพูดจบ เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

เขาพยายามที่จะหลบหนี?

ฝันไปเถอะ!

หลินจินลูบเสี่ยวฮั่ว เจ้าตัวเล็กก็รีบพุ่งไปกดหวู่เฉินเว่ยลงบนพื้น ด้วยความขี้ขลาด หวู่เฉินเว่ยจึงกลัวเกินกว่าจะขยับกล้ามเนื้อเพียงตัวเดียว

ซื่อเหวินจวินจ่ายเงินให้เขาเพื่อที่จะไม่ต้องสนใจเขาอีกต่อไป

หลินจินอ้าปากค้างในขณะที่เขามองดูทั้งสองหย่าขาดกัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว คำสาบานของการแต่งงานของพวกเขามีไว้เพื่ออะไร? พวกเขาดูเหมือนศัตรูที่จองล้างจองผลาญกันมากกว่า

โดยเฉพาะหวู่เฉินเหว่ย เขาทำร้ายกวางเพียงเพื่อแก้แค้นซื่อเหวินจวินอย่างงั้นเหรอ?

ถ้าเป็นเช่นนั้น ความคิดของชายคนนั้นก็บิดเบี้ยวเกินไป

ถ้าเขาเกลียดการเป็นลูกเขยและพบว่าซื่อเหวินจวินครอบงำเขามากเกินไป เขาก็ควรจะขอหย่ากับเธอและจากไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม เขายังคงดื่มด่ำกับสิ่งที่ตระกูลซื่อสามารถมอบให้เขาได้ในขณะที่เป็นเจ้าบ้านที่อื่น

ซื่อเหวินจวินสงบสติอารมณ์ลง เห็นได้ชัดว่ามีน้ำตาในดวงตาของเธอ แต่เธอกลั้นไว้และหันไปทางหลินจิน

“ข้าต้องขออภัยที่ทำให้ท่านสิ่งที่เห็นสิ่งที่น่าละอาย ตอนนี้หวู่เฉินเว่ยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลซื่อของข้าอีกต่อไป ส่วนอาการบาดเจ็บของตั๋วเอ๋อร์ค่อนข้างหนัก ดังนั้นข้าจึงอยากจะรบกวนผู้ประเมินหลินดูแลมันต่อไป จริงสิ ท่านผู้ประเมินหลินได้โปรดรับสิ่งนี้ด้วย”

หลังจากพูดจบ ซื่อเหวินจวินก็ถอดจี้หยกออกจากรอบเอวของเธอแล้วยื่นให้หลินจิน

“ท่านเป็นผู้มีพระคุณของข้าและการรักษาตั๋วเอ๋อร์ต้องใช้ส่วนผสมทางยาเช่นกัน ท่านสามารถนำจี้นี้ไปที่ห้องโถงยาของตระกูลซื่อและหยิบยาหรือสมุนไพรที่ท่านต้องการโดยไม่ต้องจ่ายสักเหรียญเดียว”

นี่เป็นของรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาจะต้องใช้โดยไม่เสียเปล่า

หลินจินเอื้อมมือออกไปหยิบอย่างรวดเร็ว

ตามที่ซื่อเหวินจวินกล่าว เธอต้องการให้หลินจินดูแลตั๋วเอ๋อร์ หลังจากที่หลินจินรับกวางเข้ามา เขาไม่เคยคิดที่จะไล่มันออกไป ดังนั้นคำขอนี้จึงไม่มีปัญหา

สำหรับหวู่เฉินเว่ยที่ถูกเสี่ยวฮั่วจู่โจม เขาถูกหลินจินส่งไปให้ทางเจ้าหน้าที่

เนื่องจากเขาสูญเสียการสนับสนุนจากตระกูลซื่อ การตั้งข้อหาเขาในการสั่งการลอบวางเพลิงไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ

ผู้กระทำความผิดได้รับโทษและหลินจินได้รับผลประโยชน์ ทุกอย่างควรจะจบลงด้วยดี

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ไม่เหมือนกับที่หลินจินคาดไว้ ในตอนบ่าย พ่อบ้านเฒ่าของตระกูลซื่อปรากฏตัวที่สมาคมประเมินสัตว์วิเศษเพื่อไปเยี่ยมหลินจินในห้องโถงประเมินของเขา

“ผู้ประเมินหลิน!” พ่อบ้านเฒ่าโค้งคำนับ

หลินจินจำได้ว่าเขาเป็นผู้ดูแลหลักของคฤหาสน์ซื่อ ในขณะที่เขากำลังสงสัยเกี่ยวกับการมาถึงของชายชรา คนหลังก็แจ้งเขาให้ทราบโดยทันที

ตอนนี้หวู่เฉินเว่ยได้รับการปล่อยตัวแล้ว

หลินจินรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเขาส่งหวู่เฉินเว่ยไปยังหน่วยงานท้องถิ่นในเช้าวันนี้ อย่างน้อยชายคนนั้นควรถูกตั้งข้อหาลอบวางเพลิง เนื่องจากพวกอันธพาลสามารถให้การเป็นพยานได้

ในเมืองเมเปิ้ล โทษของการลอบวางเพลิงไม่ใช่โทษเบา ดังนั้นแล้วชายผู้นี้จะถูกปล่อยตัวในทันทีได้อย่างไร?

“ผู้ประเมินหลิน เหล่าอันธพาลได้เปลี่ยนคำให้การในคดีลอบวางเพลิง แต่เนื่องจากทางการมีหลักฐานการกระทำของพวกเขา พวกเขาจึงไม่สามารถโกหกได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดกล่าวว่าพวกเขาไม่รู้จักหวู่เฉินเว่ยเห็นได้ชัดว่ามีคนติดสินบนพวกเขาและพวกเขาก็ประกันตัวหวู่เฉินเว่ยออกไป หากไม่มีหลักฐานเพียงพอและมีคนเข้าไปแทรกแซงในที่มืด จึงทำให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวหวู่เฉินเหว่ยออกมา”

เมื่อเขาได้ยินข้อมูลของพ่อบ้านเฒ่า หลินจินก็พบว่ามันฟังดูไม่สมเหตุสมผล

ตอนนี้หวู่เฉินเว่ยหัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว หากปราศจากอิทธิพลของตระกูลซื่อ ใครจะโง่พอที่จะประกันตัวเขา?

“คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือตระกูลเฉิน!” พ่อบ้านเฒ่ากล่าว

ตระกูลเฉิน?

เมื่อได้รับความกระจ่างจากพ่อบ้านเฒ่า เขาก็พบว่าเป็นตระกูลเฉินจากห้องโถงยาเฉินซึ่งหมายถึงตระกูลของเฉินหยวนหยวน

นี่เป็นเรื่องบังเอิญครั้งใหญ่

ทำไมตระกูลเฉินถึงยื่นมือเข้ามาช่วยหวู่เฉินเว่ย?

พ่อบ้านเฒ่าไม่ได้บอกว่าทำไมและเขาก็คงไม่รู้เหมือนกัน เขามาเพื่อแจ้งหลินจินทราบเพราะซื่อเหวินจวินรู้ว่า แม้หวู่เฉินเว่ยจะขี้ขลาดแต่เขาก็ยังเป็นคนโหดเหี้ยม เมื่อเห็นว่าเขาทำร้ายกวางและพยายามเผาบ้านของหลินจินเพียงเพื่อให้แน่ใจว่ามันตาย ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่าชายผู้นี้พร้อมทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายสำเร็จ

เขาจะไม่เล่นงานหลินจินอย่างโจ่งแจ้งแต่จะลอบโจมตีในที่มืดแทน

ซื่อเหวินจวินกลัวว่าหวู่เฉินเว่ยมุ่งเป้าไปที่หลินจินและทำอะไรสกปรก ดังนั้นเธอจึงส่งพ่อบ้านเฒ่ามาที่นี่เพื่อแจ้งเขาด้วยความปรารถนาดีเพื่อที่หลินจินจะได้เตรียมพร้อมในกรณีที่หวู่ฉินเว่ยลอบโจมตีเขา

“ท่านผู้เฒ่า ข้าต้องขอบคุณความปรารถนาดีของท่านซื่อ จากนี้ไป ข้าจะระวังตัวให้ดี” หลินจินกล่าว

จากนั้น พ่อบ้านเฒ่าโค้งคำนับก่อนจะจากไป

เรื่องนี้ไม่มีอะไรแปลกสำหรับเขา สำหรับเขาทั้งตระกูลเฉินหรือหวู่เฉินเว่ย ทั้งสองฝ่ายก็น่ากลัวและน่ารังเกียจพอ ๆ กัน เห็นได้ชัดว่าหวู่เฉินเว่ยเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด ในขณะที่เฉินเหวินหลินของตระกูลเฉินก็เป็นคนหน้าซื่อใจคด เมื่อทั้งสองร่วมมือกันสิ่งที่ตามมา มันต้องไม่ง่ายต่อการรับมืออย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเขาต้องการที่จะเล่นงานหลินจิน เขายินดีที่จะรับมันด้วยอ้อมแขนที่เปิดกว้าง เขาจะทำให้อีกฝ่ายเสียใจที่บังอาจมาท้าทายเขา

ในเมื่อตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะทำตัวตามปกติอย่างที่เคยเป็นมา

อย่างไรก็ตาม เขายังคงต้องระมัดระวังตัวไว้บ้าง ตั้งแต่สมัยโบราณ มันง่ายเสมอที่จะหลบการโจมตีแบบตรงไปตรงมาแต่ยากที่จะป้องกันจากการโจมที่แอบซ่อนอยู่

เพื่อให้มีไพ่ในมือเพื่อมาขึ้น หลินจินวางแผนที่จะช่วยให้หมาป่าเงาวิวัฒนาการเมื่อเขากลับไป เขาจะใช้วิธีการวิวัฒนาการที่สมบูรณ์แบบด้วย

เพื่อให้หมาป่าเงาบรรลุวิวัฒนาการที่สมบูรณ์แบบ เห็นได้ชัดว่าหลินจินต้องการสมุนไพรและอัดเม็ดยาเป็น 'เม็ดยาวิญญาณอสูรเงา'

พิพิธภัณฑ์สัตว์วิเศษมีข้อมูลการอัดเม็ดยาทั้งหมดที่จำเป็น ในขณะเดียวกัน ส่วนผสมส่วนใหญ่ของเม็ดยาสามารถพบได้ในห้องโถงยา ดังนั้น หลินจินจึงวางแผนที่จะเดินทางไปที่ห้องโถงยาของตระกูลซื่อ

ตระกูลซื่อมีห้องโถงยามากมายทั่วเมืองเมเปิ้ล หลินจินเข้ามาในร้านที่ใหญ่ที่สุด เมื่อส่งจี้หยกที่ซื่อเหวินจวินมอบให้เขา เจ้าของร้านก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะปฏิบัติต่อหลินจินราวกับเป็นแขกคนสำคัญทันที

“ผู้ประเมินหลินขอรับ เจ้าของของเราแจ้งให้เราทราบว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณของเรา ทุกสิ่งที่ท่านต้องการ ท่านไม่ต้องเสียแม้แต่เหรียญเดียว” เจ้าของร้านอธิบายด้วยรอยยิ้มขณะนำชามา

หลินจินตอบอย่างสุภาพว่า “ท่านควรเรียกเก็บเงินจากข้า ข้ามาที่นี่เพราะว่าห้องโถงยาของตระกูลซื่อใหญ่กว่ามากและข้ากำลังมองหาส่วนผสมสองอย่างสำหรับการทำเม็ดยา ข้าสงสัยว่าท่านพอจะมีของที่ข้าต้องการหรือไม่?”

เจ้าของร้านให้หลินจินบอกสิ่งที่ของต้องการ หลินจินจึงกล่าวว่า

“ข้าต้องการดอกราตรีและวิญญาณอสูรระดับหนึ่ง”

ทั้งสองชิ้นนี้หาได้ยากจริง ๆ ภายใต้สถานการณ์ปกติ พวกมันไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินด้วยซ้ำ แม้แต่วิญญาณอสูรที่หลินจินใช้สำหรับวิวัฒนาการที่สมบูรณ์แบบของเสี่ยวฮั่ว เขาก็ได้มาจากการเอา 'ชนะ' หลู่เสี่ยวหยุน

หลู่หยุนเหอ พี่ชายของเธอมอบวิญญาณอสูรให้กับเธอและกล่าวกันว่าหายากมาที่จะได้รับมา

สำหรับดอกราตรี ไม่มีเจ้าหน้าที่ของห้องโถงยาคนใดเคยได้ยินชื่อของมันมาก่อน แต่เนื่องจากมันถูกเขียนในพิพิธภัณฑ์ ของชิ้นนี้มันต้องมีอยู่จริง

เจ้าของร้านครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งโดยไม่ได้ให้คำตอบในทันที จากนั้นเขาก็ให้หลินจินรอสักครู่

เนื่องจากหลินจินไม่ได้เร่งรีบ เขาจึงนั่งจิบชาอย่างเพลิดเพลิน

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาได้ยินเสียงฝีเท้าและผ้าม่านถูกผลักออกด้านข้างเมื่อมีคนเข้ามา ที่น่าแปลกใจก็คือ คนที่ปรากฏตัวไม่ใช่เจ้าของร้าน แต่เป็นซื่อเหวินจวิน

เธอได้ปรากฏตัวขึ้นเป็นการส่วนตัว

4.5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด