ตอนที่แล้วบทที่ 59 สักวันหนึ่ง เธอจะต้องออกจากโรงเรียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 61 บรรพบุรุษน้อยจากปักกิ่ง

บทที่ 60 ไม่มีทางที่คุณหนูเฉียวจะมีเห็ดหลินจือ


วงแหวนรอบนอกถือว่าเป็นเมืองชั้นสอง แต่ธุรกิจของโรงพยาบาลในเมืองนั้นถือว่าดีมาก

เฉียวเนี่ยนนั่งรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลในเมือง ซึ่งตอนนี้เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว และดวงอาทิตย์ด้านนอกกำลังเริ่มเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก แต่แสงของมันก็ยังร้อนเกินไปอยู่ดี

เธอหิ้วถุงพลาสติกที่เพิ่งนํากลับมาจากเว่ยโหลว ซึ่งถุงพลาสติกสีขาวยังมีชื่อของร้านผลไม้ที่ถูกพิมพ์ไว้อยู่ แต่ภายในถุงกลับมีบางสิ่งที่ดูเหมือนเชื้อราและดูเหมือนเนื้อของอะไรบางอย่างอยู่ด้านใน

## ???????

กู๋ซานเดินตามเย่วั่งชวนไปพบแพทย์ของเย่ฉีเฉินที่บริเวณชั้นล่าง ทันใดนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวที่กำลังเดินไปยังพื้นที่คนป่วย พร้อมกับถุงผลไม้ที่อยู่ในมือ

“นั่นใช่คุณหนูเฉียวหรือเปล่า?”

เดิมทีเย่วั่งชวนสอดมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋า ในปากกำลังเคี้ยวไม้เลิกบุหรี่อยู่ ส่วนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอดทน และความโกรธที่กระหายเลือด แต่พอได้ยินคำพูดนั้น เขาก็ลืมตาขึ้นแล้วมองไปยังทิศทางนั้นทันที

และแน่นอน เขาเห็นร่างเพรียวบางนั่นตรงทางเข้าลิฟต์

กู๋ซานถามด้วยความสงสัย “คุณหนูเฉียว มีคนรู้จักที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลนี้ด้วยเหรอ?”

ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ

เย่วั่งชวนจําหมาล่าทั่งข้างถนนที่เธอพาไปกินเมื่อตอนนั้นได้ดี และเขาก็ยังรู้อีกว่าคนๆ นั้นเป็นใคร เขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “น่าจะเป็นผู้อาวุโสที่เธอรู้จัก”

กู๋ซานมองไปที่เย่วั่งชวนด้วยความประหลาดใจ

คุณชายวั่งรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?!

น่าเสียดายที่เย่วั่งชวนไม่ได้มองสีหน้าของกู๋ซานเลย เพราะตั้งแต่ที่เฉียวเนี่ยนปรากฏตัวขึ้น ดวงตาของเขาก็จ้องมองแต่หญิงสาวคนนั้นแทบตลอดเวลา

เฉียวเนี่ยนกำลังยืนรอลิฟต์อยู่ เธอสวมเสื้อฮู้ดที่เย่วั่งชวนเป็นคนซื้อให้ ซึ่งเสื้อฮู้ดสีน้ำเงินตัวนั้นยาวมาถึงต้นขา และเธอคงจะสวมกางเกงขาสั้นอยู่ด้านใน จึงทำให้เห็นขายาวเรียวที่สวยงามของเธอ ส่วนสีผิวก็ขาวราวกับว่ามันจะเปล่งประกายออกมาได้เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน แค่รูปร่างด้านหลังก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างง่ายดาย…

เฮ้อ…

เย่วั่งชวนหรี่ตาลง และระงับร่องรอยความรู้สึกไม่สบายในดวงตาของตัวเองทันที

เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ เย่วั่งชวนก็พูดกับกู๋ซานว่า “กลับไปเตรียมกางเกงยีนส์ของผู้หญิง แล้วส่งไปที่คฤหาสน์”

“ฮะ?” ทําไมผู้ชายที่หยิ่งทะนงคนนี้ถึงพูดเรื่องกางเกงยีนส์?

กู๋ซานแม้จะมีความสงสัยอยู่เต็มอก แต่เขาก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ได้ครับ”

เขามองไปที่ด้านข้างของเฉียวเนี่ยน และทันใดนั้น ราวกับว่าเขาสังเกตเห็นอะไรบางที่อยู่ในมือของหญิงสาว กู๋ซานเลยชี้ไปที่ถุงพลาสติกที่เฉียวเนี่ยนถืออยู่ในมือด้วยสีหน้าประหลาดใจ “คุณชายวั่ง คุณคิดว่าสิ่งที่อยู่ในมือของคุณหนูเฉียวดูเหมือนเห็ดหลินจือไหมครับ?”

เขาก็ไปร่วมประมูลในวันนั้นด้วยเหมือนกัน

และได้เห็นเห็ดหลินจือในตํานานด้วยตาของตัวเอง

ซึ่งมันดูคล้ายกับสิ่งที่อยู่ในถุงพลาสติกของเฉียวเนี่ยน

แต่ระยะห่างไกลเกินไปหน่อย เขาจึงไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน

กู๋ซานพึมพําออกมา “ไม่มีทางที่คุณหนูเฉียวจะมีเห็ดหลินจือได้ ตอนนั้นเป็นเฉิงเฟิงกรุ๊ปที่แย่งชิงมันไปไม่ใช่เหรอ? แต่มันคล้ายจริงๆ”

แต่ถ้ามันเป็นเห็ดหลินจือจริงๆ นั่นก็เท่ากับว่ามีมูลค่าร้อยล้านหยวน แล้วคุณหนูเฉียวเพียงแค่ใช้ถุงพลาสติกธรรมดา ที่ไม่รู้ว่าเธอหยิบมันมาจากไหนแล้วใส่มันมาอย่างนั้นเหรอ?

ในขณะที่กู๋ซานกำลังพูด เย่วั่งชวนก็เฝ้าดูอยู่เช่นกัน ดวงตาของเขาก็จ้องมองไปที่ถุงพลาสติกที่เฉียวเนี่ยนกำลังถืออยู่ และรูปร่างของสิ่งที่อยู่ภายในนั้นก็ดูคล้ายกับเห็ดหลินจือมากจริงๆ

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่กู๋ซานกำลังคิดอยู่ เขารู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เฉียวเนี่ยนจะได้รับเห็ดหลินจือนั้นมา

แต่เย่วั่งชวนมีความคิดที่รอบคอบมากกว่านั้น เขาจึงพูดกับกู๋ซานว่า “ไปสืบมา เมื่อเร็วๆ มีการประมูลเห็ดหลินจือในตลาดมืดกี่ดอก”

กู๋ซานพยักหน้ากลับทันที

ในเวลาต่อมา ลิฟต์ก็มาแล้ว

พวกเขามองดูเฉียวเนี่ยนถือถุงพลาสติกของร้านขายผลไม้ แล้วเดินตามฝูงชนเข้าไปในลิฟต์ ซึ่งมันสายเกินไปแล้วที่พวกเขาจะเข้าไปทักทาย แต่ที่สำคัญกว่านั้น พวกเขาอยากรู้ว่าสิ่งที่เธอถืออยู่มันคืออะไรกันแน่…

ความรู้สึกเสียใจและเสียดายปรากฎขึ้นอยู่บนใบหน้าของกู๋ซาน ถึงแม้ว่าเขาจะคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เฉียวเนี่ยนจะมีเห็ดหลินจือที่มีค่าไว้ในครอบครอง แต่เขาก็ยังอยากจะตามไปดูให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ต้องตัดใจ แล้วเงยหน้าขึ้นพูดกับชายหนุ่มรูปงามข้างๆ ว่า “คุณชายวั่ง หลังจากที่ไปพบหมอแล้ว เราจะไปหานายน้อยทันทีเลยไหมครับ?”

นายน้อยเป็นเด็กที่น่าสงสารมาก เขาเสียแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อย แถมผู้เป็นพ่อก็มีแนวโน้มที่จะเป็นคนประจบประแจงผู้คนที่มีอำนาจไปแล้ว* ถ้าไม่ใช่เพราะนายท่านผู้เฒ่าและคุณชายวั่งไปรับตัวกลับมาเลี้ยงดู และบังคับให้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลฝ่ายแม่ กู๋ซานไม่อย่างจะคิดเลย ว่าตอนนี้นายน้อยจะต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหนที่ต้องอยู่กับพ่อแบบนั้น

*(趋炎附势 สำนวนจีน หมายถึง การประจบประแจงผู้คนที่มีอำนาจ)

แต่คนพวกนั้นยังคงต้องการใช้นายน้อยเพื่อปืนขึ้นไปหาตระกูลเย่

เมื่อนึกถึงคนที่อยู่ในวอร์ด เย่วั่งชวนก็หมดความอดทน เขาตอบกลับโดยไม่ได้มองหน้าคนถามแม้แต่น้อย “รอจนกว่าพวกเขาจะจากไป!”

“แล้วไปตรวจสอบดู ว่าเฉียวเนี่ยนไปชั้นที่เท่าไร?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด