ตอนที่แล้วCD บทที่ 209 ระเบิดเยลลี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 211 หนึ่งเดียว

CD บทที่ 210 ความโกรธของคุณอยู่ตรงไหน?


เพื่อให้การแสดงของเขาดูไร้ที่ติ จ้าวหยู่นำเยลลี่และใส่กลับเข้าไปในกระเป๋าของเขาโดยอ้างว่าจะใช้เป็นหลักฐาน

ในตอนแรก เขาต้องการใช้เวลาพูดคุยกับฮ่าวเจียจุนและถามว่าเขารู้ความสัมพันธ์ของพ่อกับฮานเหวินจวินและเกาหยางหรือไม่? เนื่องจากฮ่าวเจียจุนเป็นลูกชายของฮ่าวเกิง ถ้าทั้งสามคนสนิทกันจริง ๆ ฮ่าวเจียจุนน่าจะรู้อะไรบ้าง

แต่จ้าวหยู่คิดไปคิดมา เขาก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป เนื่องจากเรื่องรูปถ่ายก่อนหน้านี้ เขาได้เปิดเผยตัวเองมากเกินไป ถ้าเขาถามคำถามที่ละเอียดอ่อนกว่านั้น มันอาจดึงดูดความสนใจของฮ่าวเกิง ถ้าเขาให้ความสนใจเขาตั้งแต่เนิ่น ๆ และรู้ตัวในตอนสุดท้าย มันจะทำให้การสืบสวนของเขาได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

จ้าวหยู่เพียงแค่จดเบอร์โทรศัพท์ของฮ่าวเจียจุนและบอกว่าตำรวจอาจโทรหาเขาในภายหลังเพื่อซักถาม จากนั้นเขาก็ออกจากบริษัทเทียนหลงพร้อมกระเป๋าเยลลี่ของเขา

ระหว่างทางกลับไปที่สถานีตำรวจ จ้าวหยู่ขับรถในขณะที่เขากินเยลลี่และซูหยางโทรหาเขาอย่างรวดเร็ว

หัวหน้าซูบอกเขาว่าภารกิจประสบความสำเร็จและพวกเขาพบข้อมูลที่น่าสงสัยและขั้นตอนต่อไปคือการนำข้อมูลไปตรวจสอบ

ซูหยางกล่าวว่างานของจ้าวหยู่ยอมเยี่ยมไร้ที่ติ สิ่งที่เขาทำไม่เพียงแต่นำความยุติธรรมกลับคืนมาเท่านั้นแต่ยังขจัดความชั่วร้ายออกไปอีกด้วย ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร จ้าวหยู่จะได้รับรางวัลมากมายแน่นอน!

หลังจากวางสาย จ้าวหยู่ที่ร่าเริงรีบโทรหาชายผมทอง โจวหยางและคนอื่น ๆ ทันที จากนั้นให้คำชมที่เขาได้ยินจากซูหยางเพื่อกระตุ้นพวกเขา เขายกย่องพวกเขาสำหรับความเฉลียวฉลาดของพวกเขา โดยแสร้งทำเป็นว่าเยลลี่เป็นระเบิด จ้าวหยู่พอใจอย่างมาก พวกชายผมทองก็มีความสุขเช่นกัน พวกเขาบอกอีกด้วยว่าถ้ามีงานพิเศษแบบนี้อีก ลูกพี่สามารถเรียกพวกเขาได้ตลอดเวลา

ในตอนที่จ้าวหยู่กลับมาถึงสถานีตำรวจ พวกเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานโดยไม่หยุด เนื่องจากแผนกสืบสวนถูกแยกระหว่างทีม A และ B ทำให้เหมี่ยวอิงได้นำจางเหยาฮุ่ยและคนอื่น ๆ กลับไปที่ห้องทำงานทีม B แล้ว

เมื่อเขากลับมาที่ห้องทำงานของทีม A จ้าวหยู่รู้สึกเหมือนกับว่าคนอื่น ๆ มองเขาแปลก ๆ พวกเขาทั้งหมดต่างหลบสายตาของเขา ราวกับกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากเขา!

โดยเฉพาะหัวหน้าทีมเหมาเหว่ย เมื่อจ้าวหยู่ทักทายเขา เหมาเหว่ยก็เปิดปากของเขาราวกับว่าต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ดูเหมือนจะเกิดลังเลในตอนสุดท้าย

จ้าวหยู่เคยชินกับวิธีที่เพื่อนร่วมทีมของเขามองมาที่เขาและตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อมัน!

ดวงตาของเขากวาดไปทั่วห้องแต่ไม่พบจางจิงเฟิงหรือเหลียงฮวนเลย ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่โต๊ะของหลี่เบ่ยหนีทันทีแต่หลี่เบ่ยหนีก็เหมือนกับคนอื่น ๆ เมื่อเห็นจ้าวหยู่ เธอก็ดูราวกับว่าเธอต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับเขาแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ

จ้าวหยู่ไม่ได้พูดอะไรและเพียงแค่เปิดโทรศัพท์ของเขา เขาแสดงรูปแม่ของฮ่าวเจียจุนให้หลี่เบ่ยหนี

“เป่ยหนี ดูรูปนี้สิ มันดูเหมือนเหลียงซือซือบ้างมั้ย?”

“หืม?” หลี่เบ่ยหนีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและมองดูรูปภาพอย่างระมัดระวังในทันที เธอกัดริมฝีปากของเธอ “ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้น หน้าตา ไฝ ทั้งคู่ดูคล้ายกันมากแต่ถ้าดูดี ๆ ก็จะเห็นความต่างกัน อย่างตรงนี้” ขณะที่เธอพูดหลี่เบ่ยหนีดึงภาพของเหลียงซือซือขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากก่อนหน้านี้และชี้ให้เห็น “เห็นไหมคะ ตำแหน่งและรูปร่างของไฝไม่ถูกต้อง ในรูปนี้มันใหญ่กว่าอีกรูป โครงหน้าและดวงตาก็ต่างกัน ดังนั้น เธอจึงไม่ใช่เหลียงซือซือค่ะ!”

“หืม ถ้าหาก… เธอทำศัลยกรรมล่ะ?” จ้าวหยู่ถามอย่างตะกุกตะกัก

“รุ่นพี่คะ?” หลี่เป่ยหนีจริงจังมากขณะถาม “รุ่นพี่ไปเอาภาพนี้มาจากไหน แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”

“เธอเป็นแม่ของฮ่าวเจียจุน!” จ้าวหยู่ได้ตอบกลับ

"หา?" หลี่เบ่ยหนีตกใจมาก “แม่ของฮ่าวเจียจุน? ภรรยาของฮ่าวเกิง? เธอตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”

"ก็ใช่" จู่  ๆ จ้าวหยู่ก็นึกถึงอะไรบางอย่าง “แม่ของฮ่าวเจียจุนตายไปได้ยังไง? จากอาการป่วยเหรอ?”

"ใช่ค่ะ!" หลี่เบ่ยหนีเงยหน้าขึ้นมองและตอบอย่างมีความรู้ว่า "โรคเลือดที่หายากมาก! จากมุมมองทางการแพทย์ ใครที่เป็นโรคนี้ต้องรอความตายสถานเดียว ไม่เพียงแต่จะรักษาไม่หายแต่ยังสามารถส่งต่อทางพันธุกรรมได้

ดังนั้น ฮ่าวเกิงจึงให้ฮ่าวเจียจุน การตรวจร่างกายอย่างดีที่สุดทุกปี เขากลัวว่าลูกชายของเขาจะได้รับอาการป่วยจากแม่ของเขา"

"เข้าใจแล้ว" จ้าวหยู่พยักหน้า

แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าภาพต้องมีอะไรบางอย่างแต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าทำไม เขารู้สึกได้ว่ามันมีความเชื่อมโยงบางอย่างที่เขายังไม่รู้

เขาทำได้เพียงขอให้หลี่เบ่ยหนีตรวจสอบเพื่อดูว่าแม่ของฮ่าวเจียจุนและครอบครัวของเหลียงซือซือมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่

"ได้ค่ะ!" หลี่เบ่ยหนีพยักหน้าและเริ่มพิมพ์ไปที่แป้นพิมพ์อีกครั้ง

“จริงสิ” จ้าวหยู่ถามทันที “ขณะที่ฉันไม่อยู่ มีความคืบหน้าอะไรไหม ฉันสังเกตเห็นว่ามีคนมองมาที่ฉันแปลก ๆ มีสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นรึเปล่า?”

จ้าวหยู่อยากรู้ว่าเหมี่ยวอิงกับหลิวชางฮูมีความขัดแย้งหรือไม่?

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่เบ่ยหนีก็เงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าเหมาเหว่ยออกไปแล้วและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ยังคงยุ่งอยู่ เธอจึงลดเสียงลงและพูดกับจ้าวหยู่ว่า

“รุ่นพี่ค่ะ มีเรื่องเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมในช่วงเช้าค่ะ” ใบหน้าของหลี่เบ่ยหนีแสดงความโกรธอย่างชัดเจน

“หมายความว่ายังไง?” จ้าวหยู่รู้สึกสับสน

"ในการประชุม หัวหน้าทีมคนใหม่..." หลี่เบ่ยหนีขมวดคิ้ว “ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างป่าเถื่อนมากค่ะ!”

"ฮิฮิฮิ" จ้าวหยู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและคิดกับตัวเองว่า ‘ดูเหมือนว่าความปรารถนาของฉันจะเป็นจริง เหมี่ยวอิงมีเรื่องขัดแย้งกับหลิวชางฮูและคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน!"

"เมื่อเช้านี้ ตอนที่เริ่มการประชุม" หลี่เบ่ยหนีกัดฟันของเธอขณะที่เธออธิบาย "เมื่อหลิวชางฮูต้องการทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ เขาก็ต้องตกใจเนื่องจากมีหลายเรื่องที่เขาไม่รู้ ในท้ายที่สุด หัวหน้าทีมเหมี่ยวก็ยืนขึ้นทันทีและบอกหัวหน้าหลิวถึงเหตุผลที่เธอไม่แจ้งเรื่องพวกนี้ เธอบอกว่าทั้งหมดเป็นเพราะรุ่นพี่ ทุกคนต้องการรายงานเรื่องนี้แต่รุ่นพี่หยุดพวกเราไว้และยังบอกว่าว่าถ้าใครกล้ารายงาน รุ่นพี่จะทุบตีพวกเรา”

ทันใดนั้น สีหน้าของจ้าวหยู่ก็หยุดนิ่งราวกับมีบางอย่างเผาผลาญหัวใจของเขา

‘เหมี่ยวอิง… เหมี่ยวเหรินเฟิง… นี่เธอ...’

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนแบบนี้อยู่ด้วย” หลี่เบ่ยหนีก็โกรธมากเช่นกัน “เธอได้ทอดทิ้งคนที่คอยช่วยเธอ คนที่เสียสละทำงานอย่างหนัก เมื่อใช้งานเรียบร้อยแล้วเธอก็กลับหักหลังคุณทันทีเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ มันเป็นไปได้ยังไง!?”

“แม้ว่าฉันและจางเหยาฮุ่ยและคนอื่น ๆ พยายามปกป้องคุณอย่างเต็มที่แต่คุณรู้จักหัวหน้าหลิวดี แม้ว่าคุณจะอยู่ที่นั่น เขายินดีที่จะเชื่อคำพูดของเหมี่ยวอิงแทน ตอนนี้เขาอาจจะรายงานเรื่องนี้ให้รองหัวหน้าหลันไปแล้วด้วยซ้ำ ดูเหมือนไม่มีอะไรที่พวกเราจะทำได้เลย!”

ตามความเข้าใจของหลี่เบ่ยหนีที่มีต่อจ้าวหยู่ ทันทีที่จ้าวหยู่ได้ยินข่าวนี้ เขาจะกระโดดขึ้นด้วยความโกรธหรืออาจจะปาข้าวของใส่เหมี่ยวอิง ก่อนหน้านี้ แค่หลิวชางฮูขอกาแฟเพียงแก้วเดียวจากเขา จ้าวหยู่ก็ขว้างมันใส่เขา ตอนนี้เหมี่ยวอิงได้แทงข้างหลังเขา เขาน่าจะเดือดดาลทันที!

อย่างไรก็ตาม หลี่เบ่ยหนีต้องประหลาดใจเพาะสิ่งที่เธอคิดไม่ตรงกับความเป็นจริง

หลังจากผ่านไป 10 นาทีแห่งความตกใจและมึนงง จ้าวหยู่ก็เผยรอยยิ้มลึกลับขึ้นมา

"ฮึฮึฮึ เหมี่ยวอิง เธอเนี่ยยอดเยี่ยมจริง ๆ!“จ้าวหยู่ยิ้มอย่างผิดธรรมชาติ”ฉันล่ะชอบเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ!”

“ฮะ? รุ่นพี่จะบ้าเหรอ?” หลี่เบ่ยหนีตกตะลึง “รุ่นพี่ไม่โกรธหรือคะ รุ่นพี่ทนเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน?”

“ฮิฮิฮิ ฉันชินแล้ว ฉันชินกับมันแล้ว!” จ้าวหยู่พูดและยังคงยิ้มต่อไปในขณะที่เขายืดหลัง "หาว! ฉันไม่ได้นอนทั้งคืน ฉันของีบสักหน่อยนะ เธอแค่ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ฉันก่อน ถ้ามีข่าวอะไรบอกฉันด้วยนะ… บายล่ะ…"

จ้าวหยู่กลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเองและนอนเหยียดอยู่บนโต๊ะอย่างเกียจคร้าน

‘ไม่มีทาง?’ หลี่เบ่ยหนีตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ นับตั้งแต่ที่เธอรู้จักจ้าวหยู่มา เธอไม่เคยเห็นจ้าวหยู่ยอมรับความพ่ายแพ้เช่นนี้มาก่อน เธอไม่เข้าใจจริง ๆ เหมี่ยวหยิงเป็นพระเจ้าหรืออย่างไร?

ถึงแม้ภายนอกจ้าวหยู่จะดูปกติแต่ภายในไม่เป็นเช่นนั้น

จ้าวหยู่จะไม่โกรธได้อย่างไร? เขาโดนเหมี่ยวอิงเล่นงานเข้าให้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอตั้งใจจะทำอย่างนี้ เมื่อรู้แบนี้เขาจะฝืนกลืนความโกรธนี้ลงไปได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม จ้าวหยู่ค่อนข้างมีประสบการณ์ในชีวิตนี้แล้ว เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาอยู่ในตำแหน่งแบบไหน เขาเคยทำให้หลิวชางฮูขุ่นเคืองไปแล้วแต่เขาไม่สามารถรุกรานเหมี่ยวอิงโดยไม่ระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากภูมิหลังของเหมี่ยวอิงนั้นน่ากลัวมาก ไม่ว่าเหมียวอิงจะทรมานเขาอย่างไร เขาก็ต้องอยู่ข้างเธอต่อไป

อันที่จริง ด้วยการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเหมี่ยวอิง ทำให้ความสัมพันธ์ในแผนกสืบสวนที่อ่อนไหวอยู่แล้ว ยิ่งอ่อนไหวมากขึ้นไปอีก

ด้านหนึ่งหลิวชางฮูและเหมาเว่ยไม่ต้องการให้เหมี่ยวอิงส่งผลต่อตำแหน่งของตนเองและในอีกด้านหนึ่ง พวกเขายังไม่ต้องการให้เหมี่ยวอิงมายืนอยู่ฝั่งเดียวกับจ้าวหยู่ทันที

ดังนั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างเหมี่ยวอิงกับจ้าวหยู่

เหมี่ยวอิงเองก็ค่อนข้างฉลาด เธอรู้ดีว่าตั้งแต่เธอเพิ่งมาใหม่ เธอไม่สามารถรุกรานหลิวชางฮูและเหมาเว่ยได้ ถ้าเธอปกป้องจ้าวหยู่ เธอจะเพิ่มความขัดแย้งและได้รับชื่อเสียงที่ไม่ดีกับเบื้องบนแต่ถ้าเธอใช้จ้าวหยู่เป็นแพะรับบาป ความขัดแย้งก็คลี่คลายลงได้ง่าย แม้ว่าเธออาจทำให้จ้าวหยู่ขุ่นเคืองแต่เธอก็เลือกที่จะไม่รุกรานคนที่ตำแหน่งสูงกว่า!

แล้วเหมี่ยวอิงยังต้องการยั่วยุจ้าวหยู่อีกด้วย ถ้าจ้าวหยู่และเหมี่ยวอิงต่อสู้กัน เหมี่ยวอิงก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะกำจัดจ้าวหยู่ออกไป  แค่คำเดียวจากแม่ของเธอและจ้าวหยู่ก็จะถูกส่งออกไปยังที่ไกลแสนไกล

จ้าวหยู่รู้ว่าเขาสามารถรุกรานใครก็ได้แต่ไม่ใช่เหมี่ยวอิง ถ้าเขาทำให้เธอขุ่นเคือง เขาก็จะไม่มีโอกาสเหลือแล้ว!

‘ก็ได้ ถ้าแกต้องการให้ฉันโกรธ ฉันจะไม่โกรธ ฉันจะทำดีกับแก ดูสิว่าแกจะชอบไหม!? ฉันจะทำให้แกอึดอัดใจจนตายไปเลย!’ จ้าวหยู่คิด

โชคดีที่จ้าวหยู่เพิ่งทำผลงานได้ดีให้ซูหยาง การมีเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดอยู่ข้างเขา เขาไม่กังวลว่าหลิวชางฮูจะทำอะไรกับเขา แต่ว่า…

จ้าวหยู่นอนเหยียดยาวอยู่บนโต๊ะขณะหลับตาขณะที่คิดกับตัวเอง

‘เหมี่ยวเหรินเฟิง จำเอาไว้เลยนะ ฉัน จ้าวหยู่ เป็นผู้ชายที่จะชดใช้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบุญคุณหรือความแค้น! ไม่ใช่ว่าฉันแก้แค้นไม่ได้แต่แค่ยังไม่ถึงเวลา วันนี้แกกล้าเล่นงานฉัน ได้ ฉันจะจำไว้ ในวันหนึ่ง ถ้าฉันมีโอกาสเมื่อไหร่ ฉันจะตอบแทนแกเป็นสิบเท่าแน่นอน!!!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด