ตอนที่แล้วEp.141 - การตอบโต้ของมนุษยชาติ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.143 - Prince of Yo-yo

Ep.142 - ราชามด


2/5

Ep.142 - ราชามด

มดทหารสีดำคือมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 4

พลังรบและพลังป้องกันอันทนทานของมันเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกสายตา

แต่หากให้ประเมินความเสียหายจากการโจมตีในครั้งนี้ อย่างน้อยก็น่าจะมาถึง 50 - 60 หน่วย

มดดำยักษ์ถูกกระสุนปืนไปมากถึง8 - 9 นัด แต่กลับได้รับดาเมจ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าตอนนี้ตัวมันกลับได้รับดาเมจมหาศาล ผลลัพธ์ต่อไปที่จะเกิดขึ้นคงสามารถจินตนาการได้

ลูกตุ้มโซ่หมูป่าขาวเมื่อใช้งานร่วมกับสกิลปะทะเดือด

มีโอกาสสูงที่จะสามารถสร้างอาการบาดเจ็บร้ายแรง

มดดำยักษ์ต่อให้ไม่ตาย แต่ตอนนี้คงกลายเป็นพิการ

เหลียงตงกับเหลียงชิวช่วยกันลากพรรคพวกที่บาดเจ็บกลับมา

ทั้งคู่เหลือบมองฮังอวี่ และยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้ากากที่เขาสวมใส่

ดูเหมือนว่าจะไม่ผิดตัวแล้ว เป็นเขาแน่นอน!

นึกไม่ถึงเลยว่าชายผู้นี้ หลังจากที่ได้เจอกันครั้งก่อนจะแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก!

มดดำยักษ์พยายามลุกขึ้น แม้จะยังไม่ตายทันที แต่มันเสียขา ไม่สามารถรักษาสมดุลร่างกายได้อีกต่อไป

ฮังอวี่ไม่ต้องการรังแกผู้พิการ ดังนั้นหันไปพูดกะชายหน้าบากที่อยู่ข้างๆเขาว่า “เหล่าเฟิง ไปจัดการให้เรียบร้อยซะ”

“รับทราบ!”

ชายหน้าบากก้าวออกมา รับฟังคำสั่งของฮังอวี่อย่างเชื่อฟัง

ชายผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือสมุนนักสู้อันดับ 1 ของกลุ่มมังกรฟ้า --เฟิงกัง!

ณ ขณะนี้ เฟิงกังรู้สึกราวกับว่าเลือดในกายเขากำลังพลุ่งพล่าน

เขารู้อยู่หรอกว่าฮังอวี่แข็งแกร่งมาก แต่ไม่เคยนึกเลยว่าจะโหด ดิบ เถื่อนขนาดนี้!

ยุคต่อไปคือยุคของผู้ทรงพลัง

และเห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้อยู่ในอันดับต้นๆอย่างไม่ต้องสงสัย

เฟิงกังรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับเขา!

ลูกพี่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แล้วจะให้สมุนนักสู้อันดับ 1 ของกลุ่มอย่างเขาทำให้อับอายได้อย่างไร?

เฟิงกังเปิดใช้งานสกิลพรสวรรค์ของเขาตั้งแต่แรกเริ่ม ตั้งแต่หัวจรดเท้าเริ่มหล่อหลอมกลายเป็นโลหะ ย่างสามขุมเข้าหามดดำยักษ์

สนับมือสีขาวเลเวล 3 เปล่งประกายด้วยแสงของสกิล

หมัดความไวเสียง!

มดดำยักษ์ถูกชกอย่างแรง เซวูบเกือบล้มลงกับพื้น

เฟิงกังไม่ปล่อยให้มดดำยักษ์มีโอกาสตอบโต้ ก่อนที่มันจะทันตั้งตัว อีกหนึ่งหมัดซัดออกไป

หมัดที่สาม

หมัดที่สี่

หมัดที่ห้า!

ความเร็วของกำปั้นราวกับพายุคลั่ง!

พละกำลังของทุกกำปั้นที่ชกออกราวกับพยัคฆ์ยามตะปบเหยื่อ!!

ทุกคนแทบมองตามความเร็วหมัดของเฟิงกังไม่ทัน สามารถมองเห็นได้แค่มดดำยักษ์ที่ซึ่งบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว ถูกสะกดอย่างสมบูรณ์ ไม่มีที่ว่างให้ตอบโต้กลับ

หมัดความไวเสียงของเฟิงกังพัฒนาขึ้นไปอีกก้าวอย่างเห็นได้ชัด เขาเร็วกว่า และดุดันยิ่งกว่าตอนสู้กับฮังอวี่

จู่โจมฉับไว!

นี่คือหนึ่งในสกิลมรดกของนักสู้ สามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีได้เป็นอย่างมากปราศจากคูลดาวน์

และเมื่อต้องการลงมือ สามารถระเบิดการโจมตีได้ในพริบตา รุกเหมือนพายุเฮอริเคน

ยิ่งเมื่อได้รับโบนัสพละกำลังจากกายาเหล็กของเฟิงกัง เจ้าสิ่งนี้ก็ยิ่งช่วยผลักดันพลังของหมัดความไวเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม

หากถูกเฟิงกังเข้าประชิด ต่อให้เป็นตัวตนระดับเลเวล 4 ก็ยากที่จะต้านทานการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้

พยุหะกำปั้นกระหน่ำลงบนตัวมดดำยักษ์

หมัดแล้วหมัดเล่าถูกชกออกไปจนเกิดภาพติดตา

เฟิงกังส่งเสียงคำรามดุร้ายเหมือนสัตว์ป่า

เขาไล่บี้จนมดดำยักษ์ถอยหลังติดกำแพง หลังจากนั้นก็ยังชกไม่หยุด กระดองแข็งที่เดิมกระสุนแทบยิงไม่เข้าเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ กระทั่งกำแพงเบื้องหลังมันก็เริ่มปริร้าว

หนึ่งหมัดสุดท้าย!

หมัดหนักของเฟิงกังโจมตีมดยักษ์

กำแพงแตกเป็นรูใหญ่ มดยักษ์หน้าหงายล้มตึงลงอีกฟากของโรงงาน

มดดำยักษ์ถูกกำจัด นี่คงช่วยให้หายใจหายคอได้สะดวกขึ้นเยอะ

แต่ว่าก็ว่าเถอะ เจ้าหมอนี่ร้ายกาจจริงๆ!

ซูหยุนปิง ลั่วหยวนเจิ้ง ต่างเผยสีหน้าเคร่งขรึม

ส่วนพวกหลินหลาน เฉารุ่ย เหลียงชิว และเหลียงตงต่างมีสีหน้าตกใจ

แค่พลังรบของฮังอวี่ก็แก่กล้ามากพอแล้ว แต่ไม่นึกเลย ว่ากระทั่งคนของเขาก็ยังทรงพลังขนาดนี้!

ผู้ชายคนนี้มีไพ่ตายซ่อนอยู่อีกกี่ใบกันแน่!?

ใบหน้าของโล้นซ่าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เขาได้เห็นพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงของฮังอวี่

ทั้งยังได้เห็นการโจมตีอันทรงพลังของเฟิงกัง

ตอนนี้เลือดในกายจึงเดือดพล่าน

แม้เรื่องไล่ตามลูกพี่ฮังจะเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาต้องแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเฟิงกังได้อย่างแน่นอน!

ประสิทธิภาพการต่อสู้และรูปแบบการต่อสู้ของเฟิงกัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งดุดันและโหดเหี้ยมมาก

ในโรงงานแห่งนี้เกรงว่าคงมีเพียงซูหยุนปิงและลั่วหยวนเจิ้ง เท่านั้นที่จะสามารถรับมือกับเขาได้

แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ทั้งสองก็ยังไม่กล้าต่อสู้ในระยะประชิดกับเฟิงกังอยู่ดี

ส่วนลูกน้องคนอื่นน่ะหรือ ตราบใดที่เขาตกอยู่ท่ามกลางพายุหมัด คงถูกชกตายภายในเวลาไม่เกิน 1 วินาที และลูกน้องที่ว่ารวมไปถึง หัวหน้าหน่วยอย่างหวงเหยียนเช่นกัน!

ซูหยุนปิงได้สติกลับมา เธอไม่ลืมที่จะเอ่ยถาม “หัวหน้าหน่วยหวง คุณเคยพูดว่าปรมาจารย์ที่ฉันนำมา ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเข้าตาสกายเน็ตถูกไหม? ได้ยินมาว่าปรมาจารย์ของสกายเน็ตมีมากมายดั่งเมฆบนท้องฟ้า หวังว่าคุณจะแสดงฝีมือได้ดีกว่าคนของพวกเรานะ”

สีหน้าของหวงเหยียนกลายเป็นเขียวคล้ำ

ให้ตายเถอะแม่สะใภ้!

เจ้าสองคนนี้มันสัตว์ประหลาดชัดๆ

ฮังอวี่โจมตีแค่เพียงครั้งเดียว ยังยากที่จะประเมินว่าแข็งแกร่งแค่ไหน

แต่สำหรับเจ้าเฟิงกังผู้นี้ แค่พลังรบของมันก็มากพอแล้วที่จะเอาชนะเขา!

เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ตนยังพูดว่าพวกกลุ่มสมาคมโลกวิญญาณไร้ประโยชน์อยู่เลย ตอนนี้จึงรู้สึกไม่ต่างจากเหมือนโดนตบหน้า

หากคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ยังเรียกว่าไร้ประโยชน์ เช่นนั้นหวงเหยียนไม่กลายเป็นขยะไปเลยหรือ?

สีน่าตกตะลึงของหวงเหยียน ทำให้ซูหยุนปิงพอใจมาก

ฮังอวี่ลองตรวจสอบดู พบว่าจนถึงตอนนี้เขาสามารถสะสมพลังงานวิญญาณได้ 14 แต้ม และไอวิญญาณในเครื่องรางอัญเชิญได้อีก 31 แต้ม

เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดกับเฟิงกังว่า “ทำได้ดีมาก”

เฟิงกังถอยกลับมาด้านหลังเขา จากเมื่อครู่ที่เปรียบดั่งสุนัขคลั่ง เวลานี้กลับกลายเป็นน้องเล็กที่ติดตามลูกพี่อย่างอ่อนน้อมถ้อมตน

เฟิงกังไม่พูดอะไรมากความ เขากลับมายืนนิ่งอย่างสงบ นั่นยิ่งช่วยให้บุคลิกของเขายิ่งดูแก่กล้าขึ้นมาก

ชายผู้นี้ควรค่าแก่การได้รับการฝึกฝนจริงๆ ฮังอวี่โยนโพชั่นฟื้นฟูพลังจิตให้แก่เขา อย่างไม่เสียดาย

แม้พลังโจมตีและความว่องไวของเหล่าเฟิงแทบจะเรียกได้ว่าอะไรเทียมทานในเลเวลเดียวกัน  แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีจุดอ่อน เพราะทุกครั้งที่เขาชกหมัดความไวเสียง มันต้องจ่ายด้วยค่าพลังจิต

ซึ่งภายใต้การโจมตีด้วยความถี่สูงเช่นนี้ มันสูบค่าพลังจิตไปไวมาก

เมื่อใช้เสร็จครั้งหนึ่ง ต้อใช้เวลาพักฟื้นหลายนาที

แม้เฟิงกังจะแข็งแกร่ง แต่เชื่อว่าคงมีหลายคนที่พอมีประสบการณ์ต่อสู้สามารถมองเห็นถึงจุดอ่อนข้อนี้ได้

กลุ่มมดยักษ์ที่บุกเข้ามาก็ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่อาการบาดเจ็บสามารถรักษาได้

โชคดีที่ไม่มีใครตาย

พลรบกระจายกำลังสำรวจบริเวณรอบๆโรงงาน และไม่นานพวกเขาก็พบโพรงบนพื้นดิน

เห็นได้ชัดว่าพวกมดยักษ์ออกมาทางโพรงใต้พื้นดิน

“นี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมพวกมดยักษ์ถึงปรากฏตัวที่นี่ ดูท่าเราจะประเมินความสามารถของพวกมันต่ำไป ” ซูหยุนปิงขมวดคิ้ว เอ่ยต่อว่า “ดูเหมือนพวกมดยักษ์จะมีความสามารถในการขุดอุโมงค์”

ฮังอวี่กล่าวต่อ “มดยักษ์กำลังเคลื่อนที่ไปมาตามอุโมงค์ที่ขุด จำนวนของพวกมันต้องมีมากกว่าที่ประเมินไว้ เพราะงั้นถ้าคิดอาศัยแค่กำลังพลของแนวรับเดียว คงไม่มีทางหยุดพวกมันได้”

หลังจากได้ยินแบบนั้น สีหน้าของหัวหน้ากองลั่วดูน่าเกลียดมาก

ก็ใครจะไปนึกกันว่ามดยักษ์จะขุดอุโมงค์ได้?

แบบนี้ก็ไม่มีทางควบคุมเส้นทางการรุกรานของพวกมันได้เลยน่ะสิ?

ต้องอยู่ภายใน้สถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะมีมดยักษ์โผล่มาจากทางไหนและมากันกี่ตัว แบบนี้มันจะเหนื่อยเกินไปไหม? แนวป้องกันทะเลสาบซิงโกวดูท่าว่าจะคนไม่พอจริงๆ!

ซูหยุนปิงกล่าว “ฉันคิดว่าฮังอวี่พูดถูก สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ไว้ เราต้องส่งคนมาเพิ่ม!” "

หัวหน้ากองลั่วส่ายหัว “กองทัพมอนสเตอร์บุกมาจากหลายทิศทาง พวกเราต้องปกป้องหลายจุด และทางสกายเน็ตได้ส่งพลรบเกือบทั้งหมดออกมาแล้ว ตอนนี้ไม่มีกำลังคนเหลืออีก”

ซูหยุนปิงกล่าว “งั้นก็ระดมกำลังตำรวจคอยรักษาการอยู่ในเมืองมาเสริมที่นี่ และเพิ่มกำลังอาสาสมัครจากพลเรือน เมืองเจียงเฉิงมีเป็น 10 ล้านคน ฉันเชื่อว่ายังมีทางออก”

“ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามชั่วโมงจากตัวเมืองถึงที่นี่ ยิ่งถ้าเป็นการเรียกระดมพล ต่อให้มีเวลาเป็นครึ่งวันก็ยังไม่พอ มันสายเกินไป”

กล่าวถึงจุดนี้ สีหน้าของหัวหน้ากองลั่วเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่น ดวงตาของเขาเปล่งประกายเจนจัดชัดเจน คล้ายตัดสินใจแน่วแน่ “พวกเราไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่ต้องปกป้องที่นี่จนตัวตาย ไม่ปล่อยให้มอนสเตอร์ฝ่าแนวป้องกันเข้าไป นี่คือภารกิจของเรา!”

ถ้าขอความช่วยเหลือได้ หัวหน้ากองลั่วคงขอความช่วยเหลือตั้งนานแล้ว

แต่กองทัพมอนสเตอร์บุกมากระทันหันเกินไป

นับแต่ทางสกายเน็ตตรวจเจอกองทัพมอนสเตอร์ จนถึงวันที่มันรุกรานนี้ พึ่งผ่านมาได้แค่ 3 วันเท่านั้น

ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาจะเปลี่ยนทั้งเมืองให้อยู่ในสภาพพร้อมสู้ได้อย่างไร?

ยังไงก็ตาม ในเมื่อเขามายืนอยู่ตรงนี้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องถอยกลับ

นิสัยของหัวหน้ากองลั่วก็เป็นเช่นนี้ สมาชิกสกายเน็ตคนอื่นๆก็ไม่ต่างกัน

“ถ้าหากำลังสนับสนุนไม่ได้ ฉันยังมีอีกวิธีหนึ่ง ถึงงั้นก็เถอะ มันค่อนข้างเสี่ยงอยู่บ้าง” ฮังอวี่เอ่ยแผน B ขึ้นมา “เหตุผลที่กองทัพมดแข็งแกร่ง ส่วนใหญ่เกิดจากเพราะมีราชามดคอยบัญชาการอยู่เบื้องหลัง และราชามดจะปรากฏตัวพร้อมฝูงมดในกองทัพอย่างแน่นอน”

สีหน้าท่าทีของ ซูหยุนปิงกระชับขึ้นเล็กน้อย “นายกำลังจะบอกว่า ... พวกเราต้องฆ่าราชามด?”