ตอนที่แล้วบทที่ 38 ค่ายชั่วคราว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป(ฟรี) บทที่ 40 จุดประสงค์ของหลัวจี๋

(ฟรี) บทที่ 39 โจมตีอีกครั้ง


ค่ำคืนผ่านไปโดยไม่เกิดอะไรขึ้น วันถัดมา หลัวจี๋ที่ได้พักผ่อนมาทั้งคืนก็ออกจากค่ายและส่งคนกลับไปยังเผ่าหมิงจิ่ง ในยุคโบราณเช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถสื่อสารทางไกลใดๆได้ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวจึงมีเพียงการวิ่งไปมาด้วยสองเท้าเพื่อส่งข้อความ

สมาชิกหน่วยสำรวจที่คุ้นชินกับพื้นที่และระยะทางจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สมาชิกทั้งสามคนต้องวนเวียนกันกลับไปที่เผ่าหมิงจิ่งในตอนเช้าและกลับมายังค่ายในตอนบ่ายพร้อมกับอาหารและน้ำ

และด้วยวิธีนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเผ่าหมิงจิ่งหรือค่ายน้ีต้องการการสนับสนุน พวกเขาสามารถส่งคนออกไปเพื่อส่งข่าวได้เสมอ

และจากสถานการณ์ในตอนนี้ ค่ายชั่วคราวนี้สำคัญเป็นอย่างมาก หลังอาหารเช้า มีนักรบสามคนที่รับหน้าที่คุ้มกันค่ายนี้ ส่วนหลัวจี๋และนักรบหมาป่าเจ็ดคนที่เหลือหยิบหน้ากากขึ้นมาใส่และมุ่งหน้าไปยังเผ่าศัตรูอีกครั้ง

หากจุดประสงค์ของเขาคือการเอาชนะหรือทำลายเผ่าศัตรูทิ้ง เขาคงไม่เลือกเวลานี้เพื่อจะลงมืออย่างแน่นอน เขาจะรอจนกว่านักรบศัตรูออกไปล่าสัตว์และพานักรบหมาป่าบุกเข้าโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว แต่จุดประสงค์ของหลัวจี๋ไม่ใช่สิ่งนั้น…

ดวงอาทิตย์พึ่งขึ้นสู่ฟ้า คนในเผ่าที่ยังไม่ตื่นดีก็ต้องพบเจอกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญอีกครั้ง!

“ศัตรูมา! ศัตรูมา!”

“สัตว์ประหลาดมาอีกแล้ว!”

“ผู้หญิงกับเด็กกลับไปซ่อน อย่าออกมา!”

“เวรเอ้ย! พวกมันต้องการอะไร!?”

นักรบหมาป่าที่มาบุกที่นี่ครั้งหนึ่งเมื่อวานก็เรียกได้ว่าเริ่มจะคุ้นชินแล้ว ระหว่างที่ศัตรูกำลังร้อนรนอยู่นั้นเอง พวกเขาก็บุกเข้าไปจนสุดทาง

ในตอนนั้นเอง หลัวหย่งที่ถือขวานคู่ในมือก็ส่งเสียงท้าทาย “เฮ้ย! ไอ้หนูเมื่อวานออกมาสู้กับข้าอีกซะดีๆ!!”

เมื่อเผชิญหน้ากับคำท้าทายของหลัวหย่ง ชายหนุ่มเผ่าศัตรูก็คิ้วกระตุกในทันใด หัวใจร้อนรุ่มไปด้วยความโกรธ ไอ้สัตว์ประหลาดพวกนี้คิดว่าข้าอ่อนแอเหรอ!? เมื่อคิดได้เช่นนั้น ชายหนุ่มก็เดินออกมา อาวุธในมือแทงไปที่หลัวหย่งที่ท้าทายเมื่อครู่!

เมื่อวานนี้พวกเขาสู้กันมาแล้ว และหลัวหย่งรู้ดีว่าศัตรูนั้นแข็งแกร่ง จะประมาทไม่ได้ และในทันทีที่เขาแทงเข้ามาใส่ หลัวหย่งก็รับรู้ได้ในทันทีและวาดขวานขึ้นมาโจมตีสวน

ในการเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ชายหนุ่มที่ถูกยั่วยุจนโกรธเกรี้ยวมีความคล่องตัวน้อยลงกว่าเมื่อวาน แต่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมอาวุธในมือทั้งคู่ปะทะกันก่อให้เกิดเสียงดัง

“เรียนรู้ได้เร็วดีนี่ ไอ้หนู!” หลัวหย่งหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นอาวุธในมือของชายหนุ่ม เขาพบกับหินแบนยาวถูกผูกติดเอาไว้กับแท่งไม้ ซึ่งดูคล้ายกับหอกหินของเผ่าเขาประมาณ 7-8 ส่วน เหมือนว่าอาวุธหินของเผ่าเขาจะถูกเด็กหนุ่มคนนี้เรียนรู้ไป

แต่นั่นก็ไม่ทำให้เขาหวั่นใจแม้แต่น้อย เขาใช้ชีวิตอยู่มากว่า 20 และต่อสู้เพื่อความแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่พบกับศัตรูที่สมน้ำสมเนื้อ! เขาใส่แรงลงไปและผลักหอกหินของศัตรูกลับไปก่อนจะฟาดขวานตามต่อไปติดๆ!

ในขณะเดียวกัน ความเปลี่ยนแปลงของอาวุธในมือคนเหล่านี้ไม่อาจหลุดรอดสายตาของหลัวจี๋ไปได้อย่างแน่นอน ภายใต้หน้ากากหมาป่าสีหน้าของหลัวจี๋ยังคงนิ่งสงบ เพราะไม่ว่าอย่างไรมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาอยู่แล้วที่อาวุธหินจะแพร่กระจายออกไป ซึ่งเขาก็เตรียมใจไว้อยู่แล้ว นอกจากนี้ แแม้ว่าการทำขวานหินและหอกหินจะง่าย แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่จะทำให้สมบูรณ์ได้ง่ายๆ

การทำอาวุธเหล่านี้มีส่วนที่ยากอยู่สองอย่าง หนึ่งคือวิธีการมัด และสองคือการลับอาวุธ ในเวลาสั้นๆนี้ ไม่มีทางที่เผ่าอื่นจะตามเผ่าหมิงจิ่งได้ทัน

หอกหินในมือของชายหนุ่มนั้น หลังจากที่สู้กับหลัวหย่งมาได้สักพัก หัวของหอกหินก็เริ่มเบนไปเยอะ การจะมัดหินเข้ากับไม้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับหลัวจี๋ที่เป็นคนยุคปัจจุบันความรู้เยอะ เรื่องนี้จึงไม่ใช่ปัญหา หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็หาทางออกของปัญหานี้่ได้ แต่สำหรับคนเถื่อนเหล่านี้แล้ว การจะลอกเลียนแบบให้ได้สมบูรณ์นั้นไม่ใช่อะไรง่ายๆ

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อพบว่าหอกหินในมือของตนนั้นเริ่มจะเบี้ยวแล้ว ชายหนุ่มก็ได้แต่กัดฟัน คิดไม่ตกว่าทำไมหอกหินของสัตว์ประหลาดพวกนี้จึงแข็งแกร่งนัก

อย่างไรก็ตาม การจะปะทะกับสัตว์ประหลาดตรงหน้าตรงๆนั้นก็เป็นไปไม่ได้ หลังจากคิดหนักอยู่พักหนึ่ง ชายหนุ่มก็กลับไปใช้ท่วงท่าที่เน้นการหลบหลีกเช่นเดิม

แต่หลัวหย่งไม่คิดจะปล่อยไปเฉยๆ ขวานหินในมือแรงขึ้นเรื่อยๆ จิตวิญญาณในการต่อสู้ก็พุ่งทะยาน “เข้ามาสิ เข้ามา!! ไอ้หนู อย่าบอกนะว่าแกกลัวหัวหดไปแล้ว!?”

นี่คือการกดดัน! เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีไม่หยุดหย่อนของหลัวหย่ง ชายหนุ่มรู้สึกราวกับถูกบดขยี้จนหาายใจไม่ได้

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมอยู่ๆเจ้านี่ถึงรุกได้แรงขึ้นขนาดนั้น!?” มีประกายความเหลือเชื่อปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่ม และเรื่องนี้มีเพียงหลัวจี๋เท่านั้นที่รู้ มันคือทักษะของหลัวหย่ง “ยิ่งสู้ยิ่งกล้าหาญ” ในตอนนั้นเอง ความกล้าหาญของหลัวหย่งพุ่งทะยานไปถึงสี่ดาว!

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ เพียงแค่ปะทะกันครั้งเดียวชายหนุ่มก็ตกเป็นผู้เสียเปรียบ ความต่างของความแข็งแกร่งถูกเผยออกมาในทันใด แม้ว่าเขาจะยังมีแรงเหลืออีกเยอะและยังหลบหลีกได้ แต่ทุกครั้งที่เขาหลบเขาก็ต้องใจหาย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ เขาเองก็ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางใจอันมหาศาลด้วยเช่นกัน

“ปัง!” เสียงของหินที่กระทบกัน ขวานหินในมือขวาของหลัวหย่งกระแทกเข้าใส่หัวหอกเข้าไปตรงๆ หัวหอกที่เบี้ยวอยู่แล้วไม่สามารถทนแรงของหลัวหย่งได้และหลุดไปในทันที ทำให้สีหน้าของชายหนุ่มต้องซีดเผือด

“ฮ่าๆๆ! เหมือนว่าของปลอมของแกจะทำมาไม่ค่อยดีนะ!”

หลัวหย่งที่เป็นผู้ได้เปรียบก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่สีหน้าของชายหนุ่มก็ดูย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เพราะเขาไม่สามารถโต้เถียงใดๆได้ เพราะถึงอย่างนั้นมันก็เป็นความจริง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลัวหย่งที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้เลยแม้แต่น้อย หัวหอกที่หลุดไปนั้นเป็นแค่จุดเริ่มต้น หลังจากนั้นเพียงไม่นานก็มีเสียงดัง “แกร๊ก” และไม้ยาวในมือของเขาหักลง นั่นทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ย่ำแย่จนถึงที่สุด

เมื่อนักรบคนอื่นเห็นว่าชายหนุ่มตกอยู่ในอันตราย สีหน้าของพวกเขาก็ทั้งตกใจและโกรธเกรี้ยว พวกเขาคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น “ปกป้องหัวหน้า! ปกป้องหัวหน้า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด